เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 337
จู้สือกรุ๊ป ซูย้าวกำลังคุยงานกับเลขาอยู่ในห้องทำงาน ผู้ช่วยด้านนอกเคาะประตูเข้ามา “ประธานซู มีคนมาพบคุณค่ะ”
ซูย้าวเหลือบตา พูดขึ้น “เชิญเขาเข้ามา”
เรื่องที่คุยกับเลขาก็มอบหมายอย่างชัดเจนแล้ว เธอดูเวลาเล็กน้อย “อีกสิบนาที เราจะไปดูสถานการณ์ที่ศูนย์การค้ากัน”
จู้สือเพิ่งได้เข้ามาตลาดภายในประเทศ สถานการณ์การขายสินค้าในศูนย์การค้ามากมาย ในฐานะที่เธอเป็นผู้รับผิดชอบ จึงต้องไปตรวจสอบด้วยตนเอง ยอดขายที่ดีในต่างประเทศ ไม่แน่ว่าจะเหมาะสมกับในประเทศเสมอไป อาจจะมีสถานการณ์พิเศษมากมายเกิดขึ้นก็ได้
เลขาที่เพิ่งออกไป พบกับผู้ชายที่เพิ่งเข้ามาพอดี เห็นอีกฝ่าย เลขาก็ชะงักเล็กน้อย แล้วรีบทักทายด้วยความนอบน้อม “ประธานเพ้ย”
สองคำเล็กน้อยนี้ แต่กลับดึงดูดความสนใจของซูย้าว
เพ้ยส้าวหลี่งั้นเหรอ?
เหมือนกับพักใหญ่แล้วที่ไม่ได้ยินชื่อนี้ เหมือนหลังจากกลับมาในประเทศ ก็เคยเจอเพียงครั้งเดียว
เดิมทีคิดว่าคงไม่ได้มาเจอกันอีก เพียงแต่สำหรับจุดประสงค์ที่เขามาที่นี่ กลับทำให้เธอสงสัยเล็กน้อย
เพ้ยส้าวหลี่ก้าวเข้ามาในห้องทำงาน มองไปรอบๆอย่างชื่นชม แล้วมองไปที่เธอด้วยสายตาอ่อนโยนยิ้มบางๆ “ตกแต่งได้ไม่เลว สไตล์สีเทาเข้มอย่างนี้ เข้ากับคุณมากเลย”
“แค่ตกแต่งไปเรื่อยเปื่อยเองค่ะ!” ซูย้าวลุกขึ้น เชื้อเชิญให้เขานั่งบนโซฟา “คิดว่าที่ประธานเพ้ยมาในวันนี้ ต้องมีธุระแน่ๆเลยใช่ไหมคะ?”
“ถ้าผมบอกว่าไม่มี คุณก็จะไม่สนใจผมอีกใช่ไหมครับ?” เพ้ยส้าวหลี่กำลังมองเธอ สายตาเงียบงันราวกับบ่อน้ำลึกที่ยากจะสัมผัสได้
เขามักจะเป็นอย่างนี้ ทุกครั้งที่ได้คุยกัน จะต้องทำให้รู้สึกถึงความลึกลับมีเลศนัย และดวงตาที่เป็นประกายคู่นั้น ราวกับสามารถมองเข้ามาในใจของเธอได้อย่างทะลุปรุโปร่ง แต่ความรู้สึกอย่างนี้ ซูย้าวไม่ชอบเลย
“ถ้าเช่นนั้น ครั้งนี้ประธานเพ้ย ก็ไม่มีธุระอะไรเหรอคะ?” เธอนิ่งเฉย รอยยิ้มบางๆทำให้โครงหน้ายิ่งโดดเด่นเป็นพิเศษ
เพ้ยส้าวหลี่พิงอยู่บนโซฟา ยิ้มเล็กน้อย “จะบอกว่าไม่มีธุระไม่ได้หรอกครับ ก่อนหน้านี้ผมไปทำงานที่ยุโรปตลอดเลย เพิ่งกลับมา ได้ยินว่าคุณรับผิดชอบเรื่องหาพันธมิตรทางธุรกิจของ จู้สือกรุ๊ป และคุณก็รู้ว่า กรุ๊ปเพ้ยซื่อของผม สนใจในผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์กับการแข่งขันเกม ดังนั้น จุดประสงค์ของผม คุณน่าจะกระจ่างแจ้งแล้วนะครับ?”
“ดูแล้ว ประธานเพ้ยมีความคิดอยากจะร่วมงานกับพวกฉันนะคะ!” เธอเปิดประเด็นจุดประสงค์ของเขา
เพ้ยส้าวหลี่พยักหน้า “ชื่อเสียงและจุดแข็งของจู้สือ ในตลาดต่างประเทศเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคน ได้ทำงานร่วมกับจู้สือ สำหรับกรุ๊ปเพ้ยซื่อของผม เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดเลยครับ!”
เธอยิ้มๆ “ดูแล้วความคิดของพวกเราจะเห็นพ้องต้องกันนะคะ แม้จู้สือจะมีจุดแข็งมีกำลัง แต่ในประเทศ ก็ยังเป็นแค่เด็กใหม่ที่อ่อนประสบการณ์เท่านั้นค่ะ หวังว่าต่อไปจะได้รับคำแนะนำมากมายจากประธานเพ้ยนะคะ!”
“ทำไมถ่อมตัวขนาดนี้ล่ะครับ?” ท่าทางที่สุภาพของเพ้ยส้าวหลี่ สายตาลึกล้ำยิ่งซับซ้อนยากจะอธิบาย “พูดอย่างนี้ เรื่องร่วมงานกัน ก็ตกลงแล้วใช่ไหมครับ?”
“โดยเฉพาะ ยังต้องการคำปรึกษาที่ละเอียดรอบคอบด้วย แต่ถ้าประธานเพ้ยไม่มีความเห็น ก็ถือว่าตกลงตามนี้ไปก่อนค่ะ” เธอให้คำตอบที่แน่ชัด
เพ้ยส้าวหลี่อมยิ้ม “คุณตรงไปตรงมาอย่างที่คิดเลย!”
ตั้งแต่ห้าปีก่อน เขาก็เลื่อมใสในตัวผู้หญิงคนนี้ เริ่มแรกก็ชื่นชมที่เธอมีหัวคิดฉลาดเฉียบแหลม ต่อมาด้วยนิสัยที่อ่อนโยนจิตใจดี ใส่ใจลึกซึ้ง และตอนนี้ ที่เขารู้สึกมากขึ้น ก็ยังชอบความกล้าหาญและสงบนิ่งของเธออีกด้วย
“ประธานเพ้ยชมเกินไปแล้วค่ะ!” ซูย้าวยิ้มอย่างถ่อมตัว ลุกขึ้นไปเทน้ำให้เขาแก้วหนึ่ง
แต่เพ้ยส้าวหลี่กลับมองเธอ ดวงตาที่เปล่งประกายทั้งคู่จ้องไปที่ร่างของเธอ แล้วพูดขึ้น “ผมได้ยินว่า ก่อนหน้านี้ประธานลี่ก็เคยมาปรึกษาคุณเรื่องร่วมงานกัน แต่กลับโดนคุณปฏิเสธ?”
“คะ? ช่วงนี้ประธานเพ้ยก็ชอบข่าวซุบซิบเล่าลืออย่างนี้เหรอคะ?” ซูย้าววางแก้วน้ำลงด้านหน้าเขา แล้วตนเองก็นั่งลงไป
เพ้ยส้าวหลี่พูด “เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคุณ จึงค่อนข้างสนใจน่ะครับ”
“โชคดีมากนะคะ ที่ข่าวลือคราวนี้เป็นเรื่องจริง ฉันปฏิเสธความหวังดีที่ประธานลี่อยากจะร่วมงานด้วยกันไปจริงๆค่ะ” เธอพูด
เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย “เพราะอะไรถึงปฏิเสธครับ?”
ทำธุรกิจภายในประเทศ ต่างรู้กันอยู่แล้วว่าบริษัทลี่ซื่อคำนี้แสดงถึงอะไร ได้ทำงานร่วมกับบริษัทลี่ซื่อ ก็เท่ากับได้รับอาญาสิทธิ์์ ไม่ต้องพูดถึงกำไรที่คงที่ไม่ขาดทุน แต่ยังมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
และหลายปีมานี้ บริษัทมากมาย บริษัทต่างประเทศหลากหลายแห่ง ปรารถนาอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมงานกับบริษัทลี่ซื่อ และบริษัทลี่ซื่อไม่เคยตกลงร่วมมือกับใครหรือบริษัทไหนมาก่อนเลย แต่ครั้งนี้ กลับโดนซูย้าวปฏิเสธ คิดๆแล้วก็น่าเหลือเชื่อ
“ถ้าคุณเป็นคนก่อตั้งจู้สือ คุณปฏิเสธความร่วมมือของเขา ผมสามารถเข้าใจได้ แต่จู้สือไม่ใช่ของคุณคนเดียว คุณทำอย่างนี้ ไม่กลัวตนเองโดนศัตรูล้อมรอบ แล้วจะยิ่งลำบากเหรอครับ?” เขาพูดต่อ
แน่นอนว่า เพ้ยส้าวหลี่วิเคราะห์ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
ซูย้าวก็เข้าใจดี กลับประเทศมาคราวนี้ Jock อยากให้จู้สือเข้ามาในตลาดภายในประเทศ แล้วก็อยากสอดส่องจับตาดูบริษัทลี่ซื่อและกรุ๊ปเพ้ยซื่อ ทั้งสองบริษัทนี้
บอกว่าจับตาดู คงไม่สู้บอกว่ากลัวเล็กน้อยหรอก แต่ถ้าสามารถเปลี่ยนศัตรูเป็นเพื่อนได้ ก็จะเป็นลู่ทางดีๆที่ช่วยกันหาเงินอีกทางหนึ่ง
เธอปฏิเสธที่จะร่วมงานกับบริษัทลี่ซื่อ บอสด้านนั้น ก็คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง พวกนี้ ซูย้าวเข้าใจดี
ซูย้าวครุ่นคิดเล็กน้อยชั่วครู่ แล้วยิ้มมุมปากอย่างเปล่งประกาย “เหตุผลที่แท้จริง เรียบง่ายมากค่ะ——”
เธอลากเสียงเล็กน้อย เผชิญกับสายตาที่สงสัยของอีกฝ่าย ยังคงมีรอยยิ้ม “เพราะบริษัทลี่ซื่อสำหรับฉัน ไม่มีความมั่นใจมากพอว่าจะสำเร็จ”
“คุณไม่มั่นใจในบริษัทลี่ซื่อ?” เพ้ยส้าวหลี่ยิ้มเยาะประหลาดใจ
แต่ซูย้าวกลับพูดขึ้น “บริษัทลี่ซื่อเพิ่งจะซื้อบริษัทเกม แต่ก่อนไม่เคยก้าวเข้ามาในอาณาจักรด้านนี้เลย อนาคตข้างหน้าเป็นยังไง ก็คือความไม่แน่นอน เปรียบเทียบกับพละกำลังของกรุ๊ปเพ้ยซื่อแล้ว ฉันไม่ควรเลือกอย่างหลังจริงๆเหรอคะ?”
ประเมินค่าของบริษัทลี่ซื่อให้ต่ำลงในเวลาเดียวกัน ก็ยกยอกรุ๊ปเพ้ยซื่ออยู่เงียบๆ
พูดเช่นนี้ เพ้ยส้าวหลี่จึงอดยิ้มไม่ได้ “ไม่ว่าคุณจะพูดจริงหรือไม่จริง แต่คำพูดพวกนี้ที่ออกจากปากคุณ ผมฟังแล้วก็สบายใจ!”
ต่างรู้กันอยู่แล้ว เพ้ยส้าวหลี่กับลี่เฉินซีก็คือคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง สองธุรกิจครอบครัวขนาดใหญ่ในประเทศ เพียงพอที่จะเรียกได้ว่าเป็นบุคคลสำคัญ ตำแหน่งที่แข็งแกร่งไม่สั่นคลอน แต่เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด สองธุรกิจที่เหมือนน้ำกับไฟ ความสัมพันธ์ตึงเครียด
“ฉันแค่พูดความจริงเท่านั้นค่ะ” ซูย้าวยิ้ม ใบหน้าถ่อมตัวมองไม่ออกถึงความซับซ้อน
เลขาเคาะประตูเข้ามา พูดขึ้นเบาๆ “ประธานซูคะ คุณนัดกับผู้จัดการพวกนั้นที่ศูนย์การค้าไว้ ถ้าตอนนี้ยังไม่ไป เกรงว่าจะไปไม่ทันแล้วนะคะ”
ซูย้าวพยักหน้า ให้เลขาออกไปก่อน แล้วพูดขออภัยอย่างชัดเจน “ขอโทษด้วยนะคะ ฉันยังมีธุระต่อ เกรงว่าวันนี้จะอยู่คุยกับประธานเพ้ยต่อไม่ได้แล้ว”
“ไม่เป็นไรครับ คุณไปทำธุระเถอะ! เอาไว้เราค่อยติดต่อกันครับ” เพ้ยส้าวหลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน ลุกขึ้นบอกลา
เพียงแค่ก่อนไป ก็มองผู้หญิงคนนี้ โดนสายตาที่อ่อนโยนของเธอดึงดูดอย่างลึกซึ้ง แววตาที่ลึกล้ำราวกับมหาสมุทร กว้างสุดลูกหูลูกตา
ส่งเขาไปแล้ว ซูย้าวรีบเก็บของ แล้วเตรียมตัวไปศูนย์การค้ากับเลขา
ระหว่างทางรถค่อนข้างติด รถเคลื่อนไปอย่างเชื่องช้า แม้จะไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์หรือเทศกาล แต่ใจกลางเมืองด้านนี้สถานการณ์รถติดแทบจะเป็นเช่นนี้ทุกวัน ถึงในใจจะร้อนรน แต่ทำได้เพียงอดทนอย่างเลี่ยงไม่ได้
ว่างจนเบื่อหน่าย จู่ๆเลขาก็เหลือบตาสังเกตเห็นจอขนาดใหญ่บนตึกด้านนั้น กำลังรายงานข่าวบันเทิงล่าสุด
“ประธานซูคะ ประธานลี่จะหมั้นแล้วค่ะ!” เลขากล่าว
ซูย้าวตะลึงงัน “ห๊ะ?”
มือของเลขาชี้ไปที่หน้าจอขนาดใหญ่ที่อยู่ไกลๆ ด้านบนหมุนเวียนรายงานข่าวที่เกี่ยวข้องกับลี่เฉินซีและหานฉ่ายหลิง มีรูปของทั้งสองคน ปรากฏขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า
เลขานับวันดู ก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ “วันที่ 26 นั่นก็อีกสามวันไม่ใช่เหรอคะ? ประธานซู พวกเราต้องไปไหมคะ?”
“……”
สายตาของซูย้าวเคลื่อนจากหน้าจอด้วยความรวดเร็ว มองไปที่การจราจรที่ติดขัดนอกรถอย่างเมินเฉย พูดขึ้น “ถ้าได้รับบัตรเชิญ ก็ไป!”
สุดท้ายแล้วเขาก็ยังหมั้นกับหานฉ่ายหลิง
บอกไม่ถูก ในใจลึกๆมีความว้าวุ่นลอยออกมา ขนตาสั่นไหวเล็กน้อย แล้วยังทรยศต่อความรู้สึกที่แน่วแน่ของเธอด้วย
เลขาแค่ได้เห็น ก็รู้สึกว่าตนเองพูดมากไปแล้ว จึงเงียบไปโดยสัญชาตญาณ ไม่กล้าพูดอะไรอีก