เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 344
การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของหลินจิ้งซูทำให้ซูย้าวแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่น่าแปลก
เพราะกลับประเทศครั้งนี้ เธอมีสิ่งที่เธอต้องทำ และหลินโม่ป่าย ก็มีงานที่เขาต้องเผชิญ
นั่นก็คือกอบกู้ธุรกิจของตระกูลหลิน
กรุ๊ปหลินเป็นบริษัททางการแพทย์ที่มีชื่อเสียงในประเทศ ปู่ย่าตายายต่างก็ทำงานด้านการแพทย์ คนของตระกูลหลินส่วนใหญ่ก็เป็นแพทย์ เป็นเภสัชกร นอกจากนี้ยังเป็นตระกูลแพทย์ที่มีชื่อเสียงในประเทศจีนมีการสืบสานประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมยาวนานหลายร้อยปี
และในฐานะที่เป็นทายาทที่เป็นผู้ชายแต่เพียงผู้เดียวของกรุ๊ปหลินบนไหล่ของหลินโม่ป่ายตั้งแต่เกิดเขาก็ถูกกำหนดให้แบกรับความเจริญรุ่งเรืองของทั้งครอบครัวและชะตากรรมของบริษัทแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่ชอบทำธุรกิจก็ตามแต่หลังจากหลบหนีไปหลายปีสุดท้ายก็ต้องเผชิญ
โดยเฉพาะช่วงที่คุณท่านหลินแก่ชราและร่างกายอ่อนแอ การต่อสู้ในครอบครัวก็มีตลอด ญาติมิตรต่างจ้องมองอย่างประสงค์ร้าย ในเวลาเช่นนี้ แม้ว่าหลินโม่ป่ายยังอยากจะหลบหนีอีก ในที่สุดก็ต้องเผชิญหน้ากับความจริง
นี่คือสาเหตุหลักที่เขาเดินทางกลับประเทศจีน
เขาต้องการสืบทอดและรับตำแหน่งประธานกรุ๊ปหลินและหลินจิ้งซูในฐานะที่เป็นพี่สาวแท้ๆของเขา ก็เฝ้ารอน้องชายกลับมารับตำแหน่งเร็วๆ ช่วงแบ่งเบาภาระของตัวเองบ้าง
ตอนเด็กซูย้าวก็เคยเห็นหลินจิ้งซูแต่หลังจากได้เจอกันหลายปี เจอกันกะทันหัน จึงนึกไม่ออกก็แค่นั้น
“ประธานหลิน” ซูย้าวคิดแล้วคิดอีก ตอนเด็กเคยเรียกเธอว่าพี่จิ้งซู แต่ตอนนี้โตแล้ว และคิดถึงตำแหน่งของหลินจิ้งซู จึงเรียกประธานหลิน อย่างเคารพและสุภาพ
หลินจิ้งซูพยักหน้าเล็กน้อย หันไปมองคนข้างๆ คนรอบข้างเข้าใจทันที จึงแยกย้ายออกไป
เมื่อเหลือแค่สองคนหลินจิ้งซูจึงพูดว่า “ถ้าเป็นไปได้ ขอคุยอะไรด้วยหน่อยนะ”
ซูย้าวมองไปที่ห้องผ่าตัด เธอเป็นห่วงหลินโม่ป่าย ไม่รู้ผลการผ่าตัดเป็นอย่างไรบ้าง
หลินจิ้งซูสามารถมองทะลุความคิดของเธอได้ในพริบตา กล่าวตรงๆว่า “การผ่าตัดในครั้งนี้ จะเสร็จสิ้นได้ก็ต้องใช้เวลาประมาณสิบกว่าชั่วโมง ไม่ต้องกังวล ฉันจะพูดคุยกับคุณไม่นาน”
เมื่อพูดเช่นนั้นแล้ว ซูย้าวก็ไม่เป็นกังวลแล้ว จึงตามหลินจิ้งซูออกไป
สำนักงานบนชั้นนี้หลินจิ้งซูอาศัยสถานะของตัวเอง เลือกใช้ได้ตามสบาย ปิดประตู เธอยืนอยู่ข้างหน้าต่าง สายตามองไปถนนด้านนอก พูดว่า “พวกเราไม่ได้เจอกันมานานแล้วใช่ไหม”
“อืม น่าจะเกือบสิบปีแล้ว” ซูย้าวพูด
“ใช่ ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนตอนเจอคุณ คุณก็จะไม่พูดไม่จา คนอื่นยังบอกว่าคุณเป็นใบ้ แต่มีเพียงโม่ป่ายไม่ยอมรับ” เธอหันมาอย่างช้าๆไม่รีบร้อน
ซูย้าวนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ เธอปวดกระเพาะเล็กน้อย การยืนขึ้นทำให้อาการปวดแย่ลง นั่งดีกว่าเล็กน้อย
“ตั้งแต่เด็กจนโต คุณกับโม่ป่ายโตมาด้วยกัน เป็นคู่รักในวัยเด็ก………….” ขณะที่หลินจิ้งซูพูด ดูเหมือนว่าจะมีความทรงจำในวัยเด็กอยู่ในหัวของอยู่เล็กน้อย
เธอหันกลับมา จ้องมองซูย้าวด้วยสายตาที่เฉยเมย “เมื่อก่อนฉันเชื่อมาโดยตลอดว่า คุณก็คือน้องสะใภ้ของฉัน และจะต้องแต่งเข้าตระกูลหลินสักวัน ดังนั้นโม่ป่ายทำเพื่อคุณ ไม่ว่าจะทำอะไร พวกเราตระกูลหลินก็ไม่เคยขัดขวาง”
“ค่ะ ฉันรู้” ซูย้าวมองเธอ “โม่ป่ายปฏิบัติต่อฉันเป็นอย่างดี ความเมตตาของตระกูลหลินที่มีให้ฉัน ชาตินี้ฉันจะไม่ลืม”
หลินจิ้งซูกล่าว “ใช่สิ ตอนนั้นคุณถูกซัวฉ่ายลี่บังคับ ให้แต่งงานกับลี่เฉินซีโม่ป่ายก็ยังลืมคุณไม่ได้ พวกเราก็ไม่เคยพูดอะไร รู้สึกว่าสักวันหนึ่ง คุณกับเขาจะกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง”
ในความเป็นจริงในแวดวงนี้เมื่อเทียบกับอุดมการณ์ของครอบครัวอื่นๆ ตระกูลหลินค่อนข้างเปิดกว้างและเป็นประชาธิปไตย ในขณะที่ทุกคนรังเกียจซูย้าวเป็นคนใบ้ เป็นลูกนอกสมรสเกิดมาในสภาพไร้เกียรติ แต่คนของตระกูลหลินไม่ได้รังเกียจเลย สนับสนุนและยอมรับเสมอ
รวมถึงหลังจากที่ซูย้าวแต่งเข้าตระกูลลี่ตระกูลหลินก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นหรือทัศนคติใดๆต่อมา เธอหย่าร้างแล้ว หลินโม่ป่ายก็พาเธอไปต่างประเทศ ตระกูลหลินก็ไม่มีใครขอให้เขามีความคิดหรือความเห็นที่ละทิ้งซูย้าว
สำหรับสิ่งนี้ ซูย้าวซาบซึ้งมาก และจำความดีของตระกูลหลินได้เสมอมา
“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สำหรับเรื่องแต่งงานของโม่ป่าย พวกเราเคยจัดการหรือแนะนำให้เขาเลย เพราะในใจเขามีแต่คุณ พวกเราต่างก็รู้ดี และไม่อยากบังคับเขา” หลินจิ้งซูกล่าว
ซูย้าวก้มหน้า สายตาจมลงเล็กน้อย
“โม่ป่ายก็ไม่เด็กแล้ว อายุก็สามสิบกว่าแล้ว ในวัยนี้ เป็นวัยที่ควรจะแต่งงานมีครอบครัวและก่อร่างสร้างตัวได้แล้ว ถูกไหม” หลินจิ้งซูกล่าวอีกครั้ง
ซูย้าวเหมือนจะเข้าใจความหมายบางอย่าง เงยหน้ามองเธอ “ดังนั้นความหมายของประธานหลินคือ………….”
“คุณอย่าเข้าใจผิดนะ สุขภาพของคุณแม่ฉันไม่ค่อยดี ไม่เคยยุ่งเรื่องภายนอก พูดเสมอว่าพี่สาวก็เหมือนแม่ เรื่องใหญ่ในชีวิตของน้องชาย ในฐานะที่ฉันเป็นพี่สาว ก็ต้องทำหน้าที่ของฉันให้ดีที่สุด” เธออธิบาย
คำพูดเหล่านี้ ถึงแม้ไม่พูดซูย้าวก็เข้าใจ เธอพยักหน้า แต่ก็ไม่ได้ยกเลิกข้อสงสัยในใจ
ทันใดนั้น หลินจิ้งซูก็ตัดเข้าสู่ประเด็นหลัก“ถ้าไม่ใช่เพราะโม่ป่ายทำเรื่องไร้สาระเช่นนี้ ฉันก็คงไม่มาหาคุณ”
นี่ก็เป็นความต้องการของหลินโม่ป่ายเขาไม่ชอบให้คนของตระกูลหลินเข้ามาวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของเขา ยิ่งไม่อนุญาตให้คนของตระกูลหลินมารบกวนซูย้าว
สำหรับความต้องการของน้องชาย ในฐานะที่เธอเป็นพี่สาว ก็ต้องให้ความเคารพ
แต่ครั้งนี้ ทางเลือกที่เขาเลือก ทำให้หลินจิ้งซูไม่สามารถนั่งดูเฉยๆได้
“การผ่าตัดในครั้งนี้ ความเสี่ยงมากแค่ไหน คุณก็น่าจะรู้ อย่าว่าแต่โม่ป่ายเลย ถ้าคุณพ่อสุขภาพดี เขาลงมือด้วยตัวเอง ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสำเร็จ ซูย้าว โม่ป่ายไม่ใช่คนโง่ เขาก็รู้ว่าการผ่าตัดในครั้งนี้ไม่สามารถรับได้ แต่ทำไมเขาถึงพยายามเข้าห้องผ่าตัดให้ได้ คุณก็น่าจะรู้ดี”
พูดจบ ซูย้าวใบหน้าดูซึมเซา คาดเดาบางสิ่งบางอย่างโดยไม่รู้ตัว
หลินจิ้งซูยังพูดแทนสิ่งที่เธอเดาในใจ “เขาทำเพื่อคุณเถียนลี่ลี่บอกว่าการผ่าตัดต้องช่วยชีวิตพ่อของเธอให้ได้ ถ้าไม่ได้ เธอก็จะฟ้องคุณ แม้ว่าแรกด้วยชีวิต ก็จะเอาคุณเข้าคุกให้ได้”
เถียนลี่ลี่อาจจะแค่ขู่ หรืออาจจะทำเช่นนั้นจริงก็เป็นได้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ถ้าซูย้าวต้องขึ้นศาล ชื่อเสียงเสียหาย ก็เหมือนกับก่อให้เกิดคลื่นพายุที่รุนแรง สำหรับเธอมันคือหายนะที่ไม่ต้องสงสัย
หลินโม่ป่ายรู้ถึงความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น เพื่อปกป้องเธอ จำเป็นต้องรับการผ่าตัดนี้โดยที่ไม่มั่นใจเลย เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงด้วย
“ถ้าการผ่าตัดล้มเหลว เช่นนั้น อนาคตของโม่ป่าย อาจจะได้รับผลกระทบที่ร้ายแรงเขาก็จะมีส่วนร่วมในคดีความและเรื่องอื้อฉาวต่างๆด้วย ซูย้าว คุณเข้าในไหม”
หลินจิ้งซูมองเธอ สายตาเหมือนคบเพลิงที่กำลังส่องแสง เต็มไปด้วยแสงไฟแห่งความโกรธ
ซูย้าวหายใจเข้าลึกๆ หลับตา และลืมตาอีกครั้ง “ฉันรู้ ดังนั้นตอนที่เขารับการผ่าตัดนี้ ฉันก็ได้ห้ามเขาอย่ารับ แต่…….”
“แต่คุณก็รู้ว่า น้องชายของฉันทำเพื่อคุณ ทำได้ทุกอย่าง แม้จะแลกด้วยชีวิต” หลินจิ้งซูพูด ทำให้ความคิดของซูย้าวสับสนอีกครั้ง
เมื่อฉันยังเด็กเติบโตมาด้วยกันไปโรงเรียนด้วยกันเล่นด้วยกันทุกคำสัญญาที่ทำร่วมกัน ทุกอย่างวนเวียนอยู่ในหัวของซูย้าวค่อยๆปรากฏชัดเจนขึ้นมา
“น้องชายของฉันชอบคุณ เขาไม่เคยรักใครเลยในชีวิต นอกจากคุณ เพราะเขารักคุณ ไม่เคยบังคับคุณ อยู่ข้างกายคุณมาหลายปี และไม่เคยเรียกร้องอะไร นี่ก็คือเขา เพื่อรักคนคนหนึ่ง สามารถให้ได้ทุกอย่าง”
หลินจิ้งซูรักน้องชายของตัวเอง คิดถึงทุกสิ่งที่เขาทำให้อย่างโง่เขลา หัวใจก็เหมือนโดนมีดบาดเลือดไหลซิบๆ
ซูย้าวใจก็สั่นด้วย คิ้วขมวดบ่งบอกถึงสภาพจิตใจของเธอในขณะนี้ เจ็บปวดและดิ้นรน
“ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่คุณจะตอบแทนน้องชายของฉันแล้ว ซูย้าวคุณแต่งงานกับเขาเถอะ”
หลินจิ้งซูขอร้อง “ก็มีทางนี้เท่านั้น ทุกสิ่งที่เขาทำเพื่อคุณ จึงจะมีคำอธิบายและเหตุผลที่สมเหตุสมผล เขากลับมาครั้งนี้ เพื่อจะสืบทอดกิจการของกรุ๊ปหลิน ถ้าเป็นประธานของกรุ๊ปหลินจะต้องไม่มีคราบสกปรกบนร่างกาย แม้คุณจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด แต่เพื่อความรักที่น้องชายของฉันมีต่อคุณ พวกเราตระกูลหลินสามารถพิจารณาและยอมรับได้”
“ดังนั้น คุณก็แต่งงานกับเขาเถอะ”
คำพูดแค่คำสองคำทันใดนั้น ทำให้แก้วหูของซูย้าวเจ็บปวด