เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 345
ประโยคเดียว ‘คุณแต่งงานกับเขาเถอะ’เกือบจะเปลี่ยนความคิดของซูย้าวแล้ว แก้วหูของเธอเจ็บปวด
แววตาที่สับสนของเธอมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า หลินจิ้งซูใบหน้าที่ซีดเซียวดูเหมือนจะมีความอ่อนโยนเล็กน้อย แต่ซูย้าวดูออก เธอจริงจังมาก ไม่ได้ล้อเล่นเลยแม้แต่นิดเดียว
“ประธานหลิน เรื่องแต่งงาน ไม่ใช่เรื่องเด็กๆ ถึงแม้ฉันกับโม่ป่ายจะโตมาด้วยกัน แต่เรื่องแต่งงาน……..”
ซูย้าวพูดยังไม่ทันจบ หลินจิ้งซูก็พูดขึ้นว่า “หรือว่าคุณยังมีความหวังกับอดีตสามีคนนั้นอยู่เหรอ”
“……….”
“เท่าที่ฉันรู้ เขากำลังจะหมั้นกับหานฉ่ายหลิงแล้ว หมั้นกันไม่นานก็คงจะแต่งงานกัน ผู้ชายที่กำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน เขาไม่มีความรู้สึกอะไรกับอดีตภรรยาอย่างคุณตั้งนานแล้ว คุณยังจะฝากชีวิตไว้กับผู้ชายแบบนี้อีกเหรอ” หลินจิ้งซูพูด
ซูย้าวตะลึง เขากำลังจะหมั้นเหรอ”
เห็นร่องรอยความว่างเปล่าในดวงตาของเธอหลินจิ้งซูจึงรีบหยิบมือถือออกมา เพียงแค่ค้นหา ก็เจอข่าวของสองวันนี้ ยื่นให้เธอดู
ข่าวบนหน้าจอมือถือ เข้าตาทีละแถว ซูย้าวรูม่านตาขยายเปิดกว้าง ล้วนเป็นข่าวล่าสุดของสองวันนี้ เป็นเพราะเธอยุ่งมาก จึงไม่ได้สนใจ หรือว่า………
“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่รู้ แต่ตอนนี้ฉันบอกคุณแล้ว งานหมั้นของอดีตสามีของคุณกับหานฉ่ายหลิงมีกำหนดคืนมะรืนนี้ที่โรงแรมโกลเด้น ตระกูลลี่ได้ออกแถลงการณ์แล้ว เชิญผู้คนมามากมาย“ เธอพูด
ซูย้าวดูลังเล ทันใดนั้นความคิดในหัวก็เป็นพันอย่าง แต่ความคิดนับพันนั้น ในที่สุดสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็แค่ ยอมรับความจริง พวกเขาก็หย่ากันแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะกลับไปเหมือนเดิมได้ จะแต่งงานใหม่ก็เป็นเรื่องปกติ
“ในเมื่อพวกเขาสามารถเข้าใจและปล่อยวางแล้ว แล้วทำไมคุณถึงจะทำไมล่ะ” หลินจิ้งซูย้อนถาม
ซูย้าวมองเธอ ริมฝีปากซีดเม้มเบาๆ “ไม่ใช่ว่าฉันไม่ยอมปล่อยวาง แต่เรื่องแต่งงานมีครอบครัว ก็ต้องคิดไตร่ตรองให้รอบคอบก่อน”
“หรือว่าหลายปีที่ผ่านมาคุณอยู่กับโม่ป่าย ไม่เคยคิดจะแต่งงานกับเขาเลยเหรอ” ทันใดนั้นหลินจิ้งซูรู้สึกประหลาดใจมาก ยิ่งกว่านั้นคือ หรือว่าไม่เห็นค่าของน้องชายที่ทำให้
ประโยคเดียว ทำให้ซูย้าวตะลึง
เธอยอมรับ หลินโม่ป่ายทำเพื่อตัวเองมากมาย
จำได้ว่าตอนที่ซีซีเพิ่งเกิด น้ำนมของเธอไม่พอ ซีซีไม่ยอมดื่มนมวัวกับนมผง ดื่มแค่นมแม่ เลือกทานมาก ผู้ชายอย่างหลินโม่ป่าย ในสถานที่ต่างประเทศเช่นนั้น ช่วยค้นหาสถานที่รับนมวางศักดิ์ศรีลงเพื่อขอร้องคุณยายแก่ๆคนหนึ่ง ยอมช่วยเธอทำงาน ไม่ว่ามันจะสกปรกหรือเหนื่อยแค่ไหนก็ยอม…………
และนอกจากนี้ยังมีตอนซีซีไม่กี่เดือน ไข้สูงอย่างกะทันหันตอนนั้นพวกเขาอาศัยอยู่ในเมือง ห่างจากโรงพยาบาลไกลมาก ฝนตกตอนดึกๆรถเสียหลักตกร่องกลางถนน เขาก็แบกเธอกับซีซีเดินเท้าไป เดินมากว่าสองสามกิโลเมตร เมื่อส่งพวกเขาไปถึงโรงพยาบาล ท้องฟ้าก็สว่างแล้ว
ตอนซีซียังเล็กมาก เธอเริ่มเป็นนายหน้าค้าหุ้นเพื่อที่จะหารายได้รายได้มาก แต่ไม่มั่นคง เปิดเผยตัวตนโดยบังเอิญ ถูกตามล่า และหลินโม่ป่ายก็เป็นคนปกป้องพวกเขาแม่ลูกโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเอง………
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นปรากฏต่อหน้าต่อตา แวบขึ้นในหัวของซูย้าว ล้วนเป็นสิ่งที่หลินโม่ป่ายทำเพื่อเธอ เยอะมาก
“ในความทรงจำของฉัน คุณไม่ใช่ผู้หญิงโลภและเย็นชา ฉันมักจะคิดว่า ไม่ว่าโม่ป่ายจะทุ่มเทให้คุณมากแค่ไหน ทั้งหมดนี้คุ้มค่า นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันตามใจเขามานานซูย้าว คุณลองคิดดูดีๆนะ”
หลินจิ้งซูก็ไม่ได้ทำให้เธออึดอัดมากเกินไป พูดจาฉะฉาน แต่ไม่บังคับ เธอแค่พูดทุกอย่างให้มันชัดเจน หวังจะได้คำตอบที่น่าพอใจแค่นั้น
ซูย้าวเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นพี่ของเธอ แต่พูดเรื่องแต่งงานขึ้นอย่างกะทันหันเช่นนี้ ทำให้เธอทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย
ออกมาจากห้องทำงาน ไฟหน้าห้องผ่าตัดก็เพิ่งดับลง ซูย้าวเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่หลินโม่ป่ายออกมา ก็เห็นเธอ
เขาเดินเข้ามา ยังไปไม่ถึงตรงหน้าซูย้าว ก็ถูกเถียนลี่ลี่ดึงตัวไว้ “พ่อของฉันเป็นอย่างไรบ้าง การผ่าตัดเป็นอย่างไรบ้าง”
หลินโม่ป่ายเอาผ้าปิดปากออก ถอนหายใจ พูดเบาๆ “การผ่าตัดประสบความสำเร็จ เนื้องอกที่ด้านหลังของสมองผู้จัดการเถียนถูกตัดออกไปแล้ว”
เถียนลี่ลี่รู้สึกโล่งใจ และถามอีกว่า “แล้วพ่อของฉันจะฟื้นเมื่อไหร่”
“จากสภาพการณ์แล้ว นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับว่าเขาสามารถพ้นขีดอันตรายได้อย่างราบรื่นหรือไม่ ต้องรอหลัง 48ชั่วโมงจึงจะบอกได้” เขาพูด
เถียนลี่ลี่กะพริบตา “ในระหว่างการผ่าตัด ไม่ได้เกิดเหตุการณ์ผิดปกติอะไรใช่ไหม”
หลินโม่ป่ายขมวดคิ้ว แสดงความเหนื่อยเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “การดำเนินการทั้งหมด ดำเนินการอย่างเปิดเผย และมีการบันทึกวิดีโอด้วย ถ้าคุณมีข้อสงสัยก็สามารถไปตรวจดูจากวิดีโอได้เลย”
“ฉันตรวจสอบแน่ คำพูดเดิม ขอแค่พ่อของฉันปลอดภัย ทุกอย่างก็จะคุยกันง่ายขึ้น มิฉะนั้น ไม่จบง่ายแน่” เถียนลี่ลี่พูด แล้วพาแม่เดินตามพยาบาลไปหาพ่อที่ห้องไอซียู
หลินโม่ป่ายมองไปทางซูย้าว แม้เธอจะไม่ได้พูดอะไร แต่แววตาที่เป็นห่วงเป็นใยได้ระบุไว้ทุกอย่างอย่างชัดเจนแล้ว
เขายิ้มเล็กน้อย พูดอย่างอ่อนโยน “ไม่มีอะไรแล้ว การผ่าตัดถือว่าประสบความสำเร็จ ไม่ต้องกังวล”
“คุณแน่ใจ” ซูย้าวพูดด้วยเสียงเบา เงยหน้าขึ้นมองเขา ดูเหมือนจะไม่อยากปล่อยให้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในการแสดงออก อยากจะเดาใจของเขาให้ได้มากที่สุด
หลินโม่ป่ายยิ้มอย่างผ่อนคลาย ยกมือขั้นวางบนไหล่ของเธอ “ฉันบอกแล้วไงว่าการผ่าตัดเรียบร้อยดี ก็แสดงว่าไม่มีปัญหาแน่นอน มั่นใจได้”
“แต่ว่า คนยังมีชีวิตอยู่” เธอยังคงกังวลเล็กน้อย
เขายิ้มและจับมือเธอ “ยังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าสถานการณ์ในอนาคตพูดยาก แต่ฉันก็ได้พยายามสุดความสามารถแล้ว”
“ดีแล้ว” เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างไม่เต็มใจ แค่หวังว่าจะเป็นเหมือนที่หลินโม่ป่ายพูด ขอให้ทุกอย่างจะดีขึ้น
และในขณะนี้หลินโม่ป่ายก็สังเกตเห็นหลินจิ้งซูแล้ว ดวงตาสีดำที่เห็นได้ชัดเป็นประกาย พูดออกมาอย่างไม่รู้ตัว “พี่สาว ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่”
“บังเอิญมาทำธุระที่นี่ แล้วคุณล่ะ มาทำงานที่ป๋อเหรินตั้งแต่เมื่อไหร่ ได้เริ่มลงมือทำการผ่าตัดที่นี่แล้วเหรอ” น้ำเสียงของหลินจิ้งซูนั้นเบาแต่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ
หลินโม่ป่ายขมวดคิ้ว ก้มลงพูดกับซูย้าวที่อยู่ข้างๆ “ฉันไปเปลี่ยนเสื้อก่อน คุณไปรอฉันด้านนอกดีไหม”
ซูย้าวรู้ว่าเขาจงใจให้ตัวเองออกไปก่อน จึงพยักหน้า ขึ้นลิฟต์ก่อน ออกจากโรงพยาบาลไป
หลังจากที่เธอไป หลินโม่ป่ายกลับไปเปลี่ยนเสื้อจริง แต่ระหว่างที่เดินไปห้องทำงานก็พูดคุยกับหลินจิ้งซูไปด้วย “เรื่องของฉัน ฉันรู้ตัวดี พี่ คุณไม่ต้องมาดูแลทุกเรื่อง ได้ไหม”
“ฉันพูดอะไรเหรอ”
หลินจิ้งซูย้อนถาม ดวงตาที่เย็นชาเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและความโกรธ “ฉันว่าคุณหลงผู้หญิงคนนั้นมากเกินไปแล้ว เพื่อเธอ กล้าทำเรื่องที่มันเสี่ยงขนาดนี้”
ทั้งๆที่หลินโม่ป่ายกลับประเทศมาครั้งนี้ เพื่อมารับตำแหน่งของคุณพ่อ ก็สร้างความไม่พอใจให้กรรมการและญาติๆในกลุ่มหลายคน ในบริษัทก็มีคำพูดต่างๆนานา เป็นเพราะเขาเป็นทายาทคนแรกบวกกับทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมความสามารถที่ยอดเยี่ยม ทำให้คนอื่นไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ในเวลาเช่นนี้ ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้น เช่นนั้นแล้ว ถ้าเขาคิดอยากจะสืบทอดบริษัทก็จะกลายเป็นแค่ฟองสบู่
หลินโม่ป่ายสีหน้าเคร่งขรึม แต่น้ำเสียงที่พูดออกมา ยังคงอบอุ่นเหมือนหยก “ด้านที่คุณเห็นเป็นความเสี่ยง แต่ถ้าการผ่าตัดประสบความสำเร็จ แล้วมันจะแสดงถึงอะไร”
“ด้วยสุขภาพของคนคนนั้น แม้การผ่าตัดจะประสบความสำเร็จ เขาเกรงว่าน่าจะมีชีวิตอยู่ต่อได้ไม่กี่เดือน ถ้าครอบครัวไม่ยอม อาจทำให้เกิดความยุ่งเหยิงได้ เมื่อถึงเวลานั้น ฉันจะคอยดูว่าคุณจะจัดการอย่างไร”
หลินจิ้งซูถอนหายใจด้วยความโกรธแล้วพูดว่า “คุณเลือกเอาจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น หรือตัดความสัมพันธ์ทันที แล้วฉันจะแนะนำผู้หญิงให้คุณ โม่ป่าย คุณอายุไม่น้อยแล้ว อย่าเสียเวลากับคนที่ไม่คู่ควรต่อไปเลย………”
พูดยังไม่ทันจบ ก็ถูกหลินโม่ป่ายขัดจังหวะอย่างรุนแรง “เธอเป็นคนที่ฉันเลือกแม้จะไม่คู่ควร ในใจฉัน ยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ เป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่สุด อีกอย่าง ทั้งหมดที่ฉันทำ ไม่ใช่เพราะอยากให้เธอแต่งงานกับฉัน ฉันแค่หวังว่าเธอจะสบายดีก็เพียงพอ”
“เพราะความใจดีของคุณ คุณไปเป็นพระโพธิสัตว์เถอะ” หลินจิ้งซูตอบด้วยความโกรธ หันหลังแล้วจากไป