เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 348
ซูย้าวรู้ว่าหลินโม่ป่ายรักตัวเองมาก แค่นึกไม่ถึงว่า รักนี้ จะมีความสำคัญต่อเขามากขนาดนี้
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธออาจจะลังเล ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ แต่ตอนนี้ กลับมีความรู้สึกที่แตกต่างกัน
อาจจะเป็นเพราะเติบโตตามอายุ เจอเรื่องราวมากมาย ชีวิตที่เหลือยังอีกยาวนาน อยู่คนเดียว ขมขื่นและเหนื่อยเกินไป แต่ถ้าจะเลือกใครสักคนมาใช้ชีวิตด้วยกัน ก็ไม่มีใครเต็มใจ
แต่ถ้าคนคนนั้นเป็นหลินโม่ป่าย เธอก็จะพิจารณา เชื่อในผลลัพธ์สุดท้ายก็จะยอมรับด้วยความยินดี
“โม่ป่าย ให้เวลาฉันอีกนิดนะ ฉันขอคิดอีกนิด จากนั้นก็จัดการกับความยุ่งเหยิงในใจของฉัน เมื่อถึงเวลานั้นฉันจะให้คำตอบที่คุณพอใจ ดีไหม” เธอพูด
หลินโม่ป่ายหัวเราะ “ฉันรอคุณมานานขนาดนี้ ยังจะกลัวที่จะต้องรออีกนิดเหรอ ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ คุณไม่จำเป็นต้องบอกฉัน”
เธอยิ้มและพิงอยู่ในอ้อมแขนของเขาเวลาผ่านไปไม่นาน เธอไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะสามารถรับใครเข้ามาในชีวิตได้อีก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็มีความคิดและแผนอื่นๆ
ดูเหมือน เวลาเป็นสิ่งที่ดีจริงๆ สามารถเปลี่ยนความตั้งใจและความคิดเดิมของคนได้อย่างง่ายดาย
วิธีลืมรักเก่า ก็คือรักใหม่กับเวลา
ต้องเลือกรักใหม่ที่ดีพอ กับเวลาที่เพียงพอ เชื่อว่าความทรงจำที่เจ็บปวดหรือการต่อสู้ ก็จะค่อยๆลืมไปได้
ในวันถัดไป หกโมงเช้า ซูย้าวตื่นขึ้นมาจากเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น
ผู้ช่วยของเธอโทรมา
เธอรีบลุกขึ้นนั่งรับโทรศัพท์ด้วยสายตาง่วงนอน “เสี่ยวหลี่ เกิดอะไรขึ้น”
“ประธานซู แย่แล้ว โรงพยาบาลแจ้งมาว่า ผู้จัดการเถียนตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตได้รับการช่วยเหลือสองครั้ง เหมือนจะมาไหวแล้ว เถียนลี่ลี่โวยวายอยู่ที่โรงพยาบาล และแจ้งความแล้วด้วย” ผู้ช่วยพูดในโทรศัพท์
ซูย้าวขมวดคิ้ว “เธอแจ้งความทำไม”
“เธอแจ้งตำรวจเพื่อฟ้องคุณไง ตอนนั้นก็มีแค่ท่านกับผู้จัดการเถียนอยู่ในสำนักงาน ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว แต่บันทึกการของกล้องวงจรในสำนักงานหายไป ตอนนี้หลักฐานมีผลเสียต่อท่าน” ผู้ช่วยพูดอย่างรีบร้อน
เธอตะลึง บันทึกของกล้องวงจรปิดหายไป
หลังจากรวบรวมสติ ซูย้าวกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล ฉันจะไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้”
เธอวางโทรศัพท์ลง รีบล้างหน้าแต่งตัว หลังจากนั้นก็โทรหาโม่หว่านหว่าน ให้เธอไปดูแลเด็กสองคน ตัวเองก็ขับรถไปที่โรงพยาบาล
เพิ่งถึงโรงพยาบาล ยังไม่ทันขึ้นไปชั้นบน ก็ถูกนักข่าวกลุ่มใหญ่ที่รออยู่รุมล้อม
ยังไม่ถึงเจ็ดโมงเช้า เวลาเช้าขนาดนี้ ข้างนอกฝนก็ตก อากาศก็ไม่ค่อยดี แต่เพื่อให้ได้ข่าวนักข่าวพวกนี้ก็อดทนจริงๆ
รปภ.ในโรงพยาบาลห้ามนักข่าวขึ้นไปชั้นบนอย่างเด็ดขาด กังวลว่าจะรบกวนคนไข้คนอื่นๆและการทำงานของคุณหมอ ดังนั้นคนมากมายรออยู่ด้านนอกประตู เมื่อเห็นซูย้าวก็รุมล้อมเข้าไปทันที
“คุณซู ครอบครัวของผู้จัดการเถียนผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณกล่าวหาว่าคุณใช้ความรุนแรงกับพนักงาน คุณมีอะไรจะพูดไหม”
“จากที่คุณเถียนพูด ในขณะเกิดเหตุ มีเพียงแค่คุณกับผู้จัดการเถียนสองคนอยู่ในสำนักงาน ผู้จัดการเถียนล้มลงกับพื้นเพราะเจ็บป่วยกะทันหัน ตอนนี้ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย สภาพวิกฤต สำหรับเรื่องนี้ สงสัยคุณจะหนีไม่พ้น ยืนยันว่าคุณทำให้ผู้จัดการเถียนได้รับบาดเจ็บ”
“เหตุการณ์ที่ทำร้ายคนในครั้งนี้ การกระทำเป็นการกระทำของคุณซูโดยส่วนตัว หรือในสถานะของผู้รับผิดชอบภาคประเทศจีนจู้สือกรุ๊ป” ผู้สื่อข่าวไล่ถามไม่ยอมถอย ทุกคำถามคมมาก ชี้ตรงไปที่ตัวเธอ อยู่ดีๆเรื่องก็คลี่คลายลง ทันใดนั้นสิ่งต่างๆได้เกิดขึ้นอย่างชัดเจนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ นิยามเธอโดยสิ้นเชิงว่าเป็นคนร้าย ‘ทำร้ายคนอื่นโดยเจตนา’เจ้านายที่ชั่วร้าย
คำต่างๆนานา ลอยอยู่บนหัวเธอ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าจะต้องเป็นข่าวหน้าหนึ่งของสองสามวันนี้แน่นอน ซูย้าวขมวดคิ้วอย่างเครียด มองไปที่ไมโครโฟนจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ตรงหน้า อารมณ์สับสนไปหมด
เธออยากเข้าไปในโรงพยาบาล ต้องการกำจัดภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้โดยเร็วที่สุด แต่นักข่าวพวกน้ำไม่ได้ให้ตามที่เธอต้องการ
“คูณซู ขอถามหน่อย”
“เหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจเช่นนี้ ท่านเคยคิดไหมว่าจะส่งผลกระทบต่อคนของตระกูลเถียน คุณเป็นแค่เจ้านายคนหนึ่ง พนักงานของคุณก็มีสิทธิส่วนบุคคลเช่นกัน”
คำพูดของนักข่าวแสดงถึงแนวโน้มทั่วไปของความคิดเห็นของประชาชน ไม่รู้เอียงไปทางเถียนลี่ลี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทุกคนล้วนชี้ไปที่เธอ ซูย้าวรู้ดีว่า ในเวลานี้ ไม่ว่าตัวเองจะพูดอะไร ก็จะต้องถูกโจมตีแน่นอน สู้ไม่พูดอะไรเลยจะดีกว่า พยายามอยู่เงียบๆ
รปภ.ก็พยายามรักษาความเรียบร้อยในสถานที่ คนเยอะมาก เธอถูกทุกคนรุมล้อมไว้ตรงกลาง ยากที่จะออกมาได้
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับซูย้าวเลย”
มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้ความโกลาหลในที่เกิดเหตุ เงียบลงทันที
ซูย้าวที่อยู่ในฝูงชนหันตามเสียง ในฝูงชนจำนวนนับไม่ถ้วน เธอเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย เขาเป็นหลินโม่ป่าย
นักข่าวเหล่านี้เห็นเป็นหลินโม่ป่าย หลังจากยืนยันตัวตนของอีกฝ่าย ทันใดนั้นเหมือนแมลงวันหัวโตที่เห็นเลือด พุ่งเข้าหา รุมล้อมหลินโม่ป่ายทันที ไมโครโฟนจำนวนนับไม่ถ้วนจ่อไปที่ด้านหน้า
“คุณเถียนครอบครัวของผู้ป่วยได้ยื่นสอบถามเกี่ยวกับการผ่าตัดไปยังโรงพยาบาลและหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องแล้ว คุณเถียนกล่าวว่าการผ่าตัดที่คุณหมอหลินทำการผ่าตัดให้คุณพ่อ มีอันตรายที่ซ่อนอยู่บางอย่าง มันเป็นอุบัติเหตุทางการแพทย์ สำหรับเรื่องนี้ คุณหมอหลินมีอะไรจะพูดไหม”
“คุณหมอหลิน เมื่อครู่กล่าวว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับคุณซู เช่นนั้นแล้ว ท่านอยากจะรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดเองเหรอ”
นักข่าวถามกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ซูย้าวตกตะลึงมาก
‘อุบัติเหตุทางการแพทย์’
ในที่สุด เรื่องราวก็มาถึงฉากที่เธอไม่อยากเห็นมากที่สุด
เถียนลี่ลี่ผลักความรับผิดชอบของความเจ็บป่วยของคุณพ่อไปให้พวกเขาทั้งหมด ยังโยงหลินโม่ป่ายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
เขาอยู่แผนกศัลยแพทย์มาหลายปี ไม่เคยมีข้อพิพาททางการแพทย์ใดๆ มาก่อน ถ้าครั้งนี้……………
ไม่อยากจะคิดเลย ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซูย้าวกำลังตกตะลึง หลินโม่ป่ายก็ถูกนักข่าวรุมล้อมอยู่ และในขณะนี้ ทันใดนั้นก็มีคนบุกเข้าไปในฝูงชน คว้าคอเสื้อของหลินโม่ป่าย แล้วต่อยไปที่หน้าหนึ่งที
หลินโม่ป่ายยังไม่ทันเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร จู่ๆก็ต่อยมาหนึ่งที ต่อยได้พอดีมาก เขาล้มลงกับพื้นโดยตรง
“คุณก็คือหลินโม่ป่ายใช่ไหม คุณเป็นคนผ่าตัดให้ลุงของฉันใช่ไหม คนร้ายหน้าซื่อๆอย่างคุณ คุณยังมีคุณสมบัติเป็นหมอได้อย่างไร”
อีกฝ่ายเป็นผู้ชายอายุสามสิบกว่า รูปร่างไม่ถือว่าสูง แต่แข็งแรงมาก ทั้งตัวมีแต่กล้าม เห็นหลินโม่ป่ายอารมณ์ตื่นเต้น แววตาที่หงุดหงิดจุดไฟแห่งความโกรธ อยากบีบคอเขาให้ตายทันที
“คุณเป็นครอบครัวของผู้จัดการเถียน” หลินโม่ป่ายพยายามลุกขึ้นจากพื้น “คุณใจเย็นๆก่อน ฉันเป็นคนผ่าตัด แต่ใช่อุบัติเหตุทางการแพทย์หรือไม่ ยังต้องรอการตรวจสอบก่อน………..”
ไม่ทันรอเขาพูดจบ อีกฝ่ายก็ต่อยมาที่หน้าของหลินโม่ป่ายอีกครั้ง เขาเดินโซเซ ล้มลงบนพื้นอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวในที่เกิดเหตุกำลังรอชมการแสดง แฟลชท่วมท้น จับภาพทีละช็อตได้เป็นอย่างดี แต่ไม่มีใครเข้าไปขัดขวางเลย
หลินโม่ป่ายเป็นผู้ชายที่อ่อนโยน ไม่เหมาะสมกับการใช้กำลัง ซูย้าวพุ่งออกมาจากฝูงชน รีบขวางอยู่ข้างหน้าเขา มองผู้ชายคนนั้นด้วยสายตาที่เย็นชา “จะเป็นอุบัติเหตุทางการแพทย์หรือไม่ยังไม่ได้ตัดสินเลย คุณจะมาทำร้ายร่างกายของคนอื่นได้อย่างไร ครอบครัวผู้ป่วยท่านนี้ ถ้าคุณลงมืออีก ฉันจะแจ้งความทันที”
“แจ้งความ แจ้งความก็เพื่อจับพวกคุณ คนหนึ่งเป็นเจ้านายชั่วที่รังแกลูกน้อง อีกคนก็เป็นหมอที่ไม่มีมโนธรรมเห็นแก่เงิน” ผู้ชายคนนั้นชี้หน้าด่าทั้งสองคน “พวกคุณ ทำร้ายลุงของฉัน ฉันจะให้พวกคุณชดใช้ เลือดต้องล้างด้วยเลือด”
ขณะที่ผู้ชายคนนั้นพูด คนกลุ่มใหญ่ก็รวมตัวกันอยู่ข้างหลังเขา มีทั้งหญิงและชาย มีทั้งคนแก่และเด็ก ดูก็รู้ว่าน่าจะเป็นครอบครัวของคนป่วย มีสองสามคนถือป้าย บนป้ายเขียนว่า ‘เจ้านายผู้หญิงใจร้ายทำร้ายคน หมอไร้จริยธรรมฆ่าคน ขอกฎหมายช่วยเหลือ ขอความยุติธรรมให้เราด้วย’
นักข่าวกำลังถ่ายวิดีโอกับฉากนี้อย่างเมามัน ซูย้าวกับหลินโม่ป่ายกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนอีกครั้ง และถูกรุมล้อมด้วยฝูงชนอีกครั้ง ยากที่จะออกไป