เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 351
วันรุ่งขึ้น โรงแรมโกลเด้น
ตั้งแต่เช้า ทั้งโรงแรมประดับประดาไปด้วยผ้าและโคมไฟสวยงาม ทุกคนยุ่งวุ่นวายกับการเตรียมงานทุกอย่าง จนทำอะไรไม่ถูก งานหมั้นที่ยิ่งใหญ่หรูหรากำลังจะเกิดขึ้นที่นี่เร็วๆ นี้
ประธานบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปพ่อค้าชั้นนำประกอบธุรกิจครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจัดงานหมั้นกับลูกสาวของบริษัทหานซื่อที่นี่ ถึงแม้จะไม่ใช่งานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่เคยมีมาก่อนในศตวรรษ แต่ตอนนี้ ตั้งแต่วงการบันเทิงไปจนถึงวงการธุรกิจและภาครัฐ ไม่มีใครไม่เห็นแก่หน้าลี่เฉินซี มาร่วมแสดงความยินดีถึงที่
งานเลี้ยงงานแต่งงานทั้งหมดเริ่มเตรียมไว้ก่อนล่วงหน้าสามวัน อย่างละเอียดทุกขั้นตอน แม้แต่แก้วและภาชนะที่แขกใช้ และดอกไม้ในงานถูกจัดวางและจัดเตรียมพร้อมอย่างละเอียดและใส่ใจ แม้แต่ดอกไม้ที่ไม่ขึ้นตามฤดูกาล ก็ส่งตรงมาผ่านการขนส่งทางอากาศ เรียกได้ว่าเป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่จริงๆ
เจี่ยงเวินอี๋มาที่นี่ตั้งแต่เช้า มาสั่งการที่หน้างานด้วยตัวเอง เพื่อจัดงานเลี้ยงงานหมั้นที่บุกเบิกโฉมหน้าใหม่ให้ลูกชาย
เธอเดินผ่านฝูงชนอย่างยุ่งมาก สังเกตดูทุกๆ รายละเอียด สั่งย้ำแล้วย้ำอีก ห้ามเกิดข้อผิดพลาดความด้านสะเพร่าและอุบัติเหตุใดๆ ทั้งสิ้น
ลู่ส้าวหลิงในฐานะผู้ดูแลโรงแรม ที่จะมาดูแลด้วยตัวเองได้ยาก เห็นเจี่ยงเวินอี๋ที่กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่หน้างาน จึงรีบเดินเข้าไป
“คุณน้า ทำไมถึงมาจัดการวางแผนด้วยตัวเองละ?”
“เรื่องงานหมั้นที่สำคัญของเฉินซีและฉ่ายหลิง ฉันจะวางใจให้คนอื่นทำได้ยังไงกัน?” เจี่ยงเวินอี๋พูดพลางยิ้มพลาง
เขาคิดแล้วคิดอีก “ท่านชั่งรักเฉินซีมากจริงๆ!”
“น้าก็รักคุณเหมือนกัน!ครั้งก่อนฉันเจอแม่คุณ พวกเรายังคุยกันเลย คุณก็อายุไม่น้อยแล้ว ยังไม่คุยเรื่องแต่งงานอีก พวกเรารอจนร้อนใจแล้ว!” เจี่ยงเวินอี๋อายุมากแล้ว เหล่าแม่ๆ ที่อายุขนาดนี้ แทบจะยุ่งกับเรื่องการแต่งงานของเหล่าลูกชายลูกสาวทั้งวัน พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ลู่ส้าวหลิงเงยหน้าและยิ้มอย่างขมขื่น “ผมยังไม่รีบ กลับกันกับเฉินซี งานหมั้นครั้งนี้ก็ไม่ไกลจากการแต่งแล้ว!”
“ใช่เลย ในที่สุดฉันก็วางใจได้หน่อยแล้ว!” เจี่ยงเวินอี๋
ลู่ส้าวหลิงประคองเธอเดินพลางพูดว่า “แต่ว่า คุณน้า ตามเหตุผลแล้ว ท่านก็มีหลานชายหลานสาวแล้ว ไม่ควรกังวลเรื่องแล้วนะ!”
“โธ่…”
พูดถึงหลานชายหลานสาว สมองของเจี่ยงเวินอี๋คิดถึงลี่เจิ้งที่ยังอยู่ในอาการหลับใหล ทันใดนั้นหัวใจบีบแน่น สีหน้าแข็งทื่อตามไปด้วย “เจิ้งเอ๋อของฉันไม่รู้จะฟื้นตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ สำหรับหลานสาวแล้ว ตอนนี้แม้แต่หน้าฉันก็ยังไม่เคยเห็น ไม่ให้กังวล เป็นไปได้ไหม?”
ลู่ส้าวหลิงยิ้มอย่างอึดอัด ประคองให้เธอนั่งพักก่อน เจี่ยงเวินอี๋ดูเวลาและถามว่า “เลขาหลี่ ด้านของฉ่ายหลิงเตรียมการเป็นยังไงบ้าง? คุณได้ถามไหม?”
เลขาหลี่ส่ายหน้า “นายหญิง ฉันพยายามติดต่อไปหลายครั้งแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้เลย…”
“ติดต่อไม่ได้?” เจี่ยงเวินอี๋ชะงักเล็กน้อย เอาโทรศัพท์ออกมา และโทรหาหานฉ่ายหลิงด้วยตัวเอง
แต่พบว่าอีกฝ่ายปิดเครื่องไปแล้ว?!
“วันนี้เป็นวันสำคัญงานหมั้นของเธอในฐานะที่เป็นว่าที่เจ้าสาว ทำไมถึงปิดโทรศัพท์กันล่ะ?”
เจี่ยงเวินอี๋รู้สึกแปลก จึงโทรไปหาที่บ้านตระกูลหานอีกครั้ง แม้โทรศัพท์บ้านจะโทรติด แต่คนที่รับสายกลับเป็นแม่บ้าน และไม่รู้ด้วยว่าหานฉ่ายหลิงไปไหน บอกได้แค่ว่าออกไปแต่เช้าแล้ว
“ออกไปแต่เช้าแล้ว งั้นไม่ว่าจะมาที่นี่หรือไปที่บริษัท ควรจะมีข่าวคราวบ้างสิถึงจะถูก!”
เลขาหลี่พูด “ฉันติดต่อไปที่บริษัทHSแล้ว ที่นั่นบอกว่าคุณหานไม่ได้เข้ามาที่บริษัท”
“ไม่ได้ไปที่บริษัท และไม่ได้มาที่นี่ งั้นไปที่ไหนล่ะ?”
จู๋ๆ เจี่ยงเวินอี๋ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ รีบกดโทรศัพท์โทรหาลี่เฉินซี
“เฉินซี ฉ่ายหลิงอยู่กับคุณไหม?” เธอรีบถามทันที
ลี่เฉินซียังอยู่ที่บริษัท ขมวดคิ้วขึ้นมานิดหน่อย “ไม่อยู่ มีอะไร?”
“ฉันติดต่อฉ่ายหลิงไม่ได้แล้ว เธอไม่ได้อยู่ที่บ้าน และไม่ได้ไปที่บริษัท โทรศัพท์ก็ปิดเครื่อง เฉินซี วันนี้เป็นวันหมั้นของพวกคุณนะ ไม่ว่ายังไง เธอจะเกิดเรื่องอะไรไม่ได้เด็ดขาด คุณไปตามหาหน่อยเถอะ!”
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ถึงแม้จะไม่เต็มใจ แต่เป็นช่วงเวลาพิเศษ อีกทั้งแม่ยังเอ่ยปากแล้ว ลี่เฉินซีทำได้แค่ทำตามที่แม่บอก พูดแค่ว่า “ฉันรู้แล้ว!” จากนั้นวางสายไป
ลี่เฉินซีให้หวางอี้ไปหาดู สักครู่ หวางอี้วิ่งเข้ามา มองเขาอย่างรีบร้อน “ประธานลี่ คนที่ส่งให้ไปหาก็หาคุณหานไม่เจอ เจอแค่รถของเธอจอดอยู่ในลานจอดรถของโรงแรมโฟร์ซีซั่น แต่คนอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน!”
พูดจบ ลี่เฉินซีกระตุกขมับทันที มีลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่างเกิดขึ้น เขาลุกขึ้นหยิบกุญแจรถและเดินก้าวขายาวลงบันไดไปทันที
ขณะที่เขารีบมาถึงโรงแรมโฟร์ซีซั่น ลูกน้องหาบันทึกจากกล้องได้แล้ว จริงๆ แล้วหานฉ่ายหลิงเปิดห้องในชื่อของตัวเอง กล้องวงจรปิดก็บันทึกไว้ได้ เธอขึ้นไปด้านบนหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ ก่อนหน้านี้
พนักงานของโรงแรมใช้คีย์การ์ดเปิดห้องให้ กลิ่นเลือดรุนแรงกระทบเข้ามาในจมูก และเมื่อเดินเข้ามาไปด้านใน ภาพที่เห็นตรงหน้า ทำให้ทุกคนตื่นตกใจ
ลี่เฉินซีเห็นผู้หญิงที่ช็อกอยู่บนโซฟา ทันใดนั้นดวงตาเขาแน่นิ่ง รีบก้าวขาเข้าไป ดึงเนกไทมาพันข้อมือเธอไว้ และรับผ้าเช็ดตัวอีกผืนจากพนักงานมาปิดแผลบนข้อมือเธอไว้ เพื่อห้ามเลือด
“ฉ่ายหลิง ฉ่ายหลิง…” เขาเขย่าตัวหานฉ่ายหลิง มองใบหน้าที่ขาวเหมือนกระดาษของเธอ ตื่นตกใจจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น
รีบอุ้มเธอลงไป และรีบส่งไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดโดยเร็วที่สุด นอกประตูห้องฉุกเฉิน เขาสุดหายใจเข้าลึกๆ มองเลือดสีแดงสดที่อยู่บนมือของตัวเอง และมองรอยเลือดที่ติดอยู่บนเสื้อผ้า สมองคิดถึงใบหน้าขาวซีดของหานฉ่ายหลิงวนไปวนมา น่ากลัวมาก…
รีบช่วยชีวิตอย่างรวดเร็ว หมอเดินออกมาจากด้านใน “โชคดีที่มาทันเวลา ตอนนี้ให้เลือดแล้ว ผู้ป่วยไม่มีอันตรายถึงชีวิตแล้ว”
หัวใจที่ห้อยเคว้งคว้างของลี่เฉินซี ก็เบาใจขึ้นมาหน่อย
“ตอนนี้ท่านสามารถเข้าไปเยี่ยมผู้ป่วยได้แล้ว แต่ถึงยังไม่ได้สติ อาจจะต้องรออีกสักหน่อย” คุณหมอเตือนอย่างห่วงใย
เขาพยักหน้า จัดระเบียบความคิด จากนั้นจึงผลักประตูเดินเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย
หานฉ่ายหลิงนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าขาวราวหิมะกับห้องพักสีขาวแทบจะรวมเป็นเนื้อเดียวกัน บนข้อมือเธอมีผ้าพันแผลพันไว้ บาดตาเป็นอย่างมาก เขาเดินเข้าไป ดึงเก้าอี้มานั่งข้างเตียง มือใหญ่เรียวยาวจับข้อมือบาง มองหญิงสาวที่หลับใหล ขมวดคิ้ว
เป็นเวลานานกว่าหานฉ่ายหลิงจะค่อยๆ ฟื้นได้สติ ค่อยๆลืมตาที่เหนื่อยล้าขึ้น มองภาพขาวราวหิมะที่อยู่รอบๆ และกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเบาๆ เตือนให้เธอรู้ว่าที่นี่คือโรงพยาบาลไม่ใช่สวรรค์
หันหน้ามาเห็นใบหน้าหล่อเหลาของลี่เฉินซี เธอขยับตัว และพูดอย่างอ่อนแรงว่า “คุณช่วยฉันไหวหรือ?”
“คุณอยากให้ฉันช่วยหรือไม่ช่วย?” เขาถามกลับ สายตาที่เย็นชาไม่รู้สึกถึงความพิเศษใดๆ
ใจของเธอร่วงหล่นลงเล็กน้อย นอนอยู่บนนั้นอย่างไร้เรี่ยวแรง มองเพดานด้วยสายตาว่างเปล่า “เดิมทีวันนี้ควรจะเป็นงานเลี้ยงวันหมั้นของคุณกับฉัน แต่ฉันรู้ว่าคุณไม่อยากให้เป็นอย่างนี้ เลย…”
“เลย คุณคิดจะใช้วิธีนี้สลัดฉันให้หลุด ใช่ไหม?” ลี่เฉินซีน้ำเสียงเย็นชา มองเธออย่างดุๆ
หานฉ่ายหลิงไม่กล้าเดาความหมายของเขา และไม่พูดอะไร
แค่ท่าทางลำบากใจ แววตาน่าสงสาร ก็อธิบายทุกอย่างชัดเจนแล้วตั้งแต่แรกแล้ว
“คุณใช้วิธีนี้สลัดฉันให้หลุด แต่คุณเคยคิดไหมว่าฉันจะทำยังไง?” เขามองเธอตาไม่กะพริบ
หานฉ่ายหลิงถูกสายตาเขาดึงดูด “คุณไม่อยากแต่งงานกับฉัน ฉันก็ไม่อยากทำให้คุณลำบากใจ แต่กับทางด้านคุณป้าฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี ข่าวงานเลี้ยงงานหมั้นถูกส่งออกไปแล้ว ไม่ว่าจะใช้วิธียกเลิกวิธีไหน ก็ไม่ดีทั้งสำหรับคุณและบริษัทลี่ซื่อ…”
ลี่เฉินซีสุดหายใจเข้าลึกๆ “ถึงฉันจะไม่มีความคิดเห็นกับวิธีการหมั้นอย่างนี้ แต่ ฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธหรือยืนยันปฏิเสธนิ!”
เธอตะลึงเล็กน้อยและมองเขาด้วยความแปลกใจ “เฉินซี คุณไม่ได้ปฏิเสธ แต่ฉันก็ดูออก คุณเองก็ไม่ได้ยินยอมด้วยความเต็มใจ!”
“แล้วยังไง ยินยอมด้วยความเต็มใจไม่กี่คำนี้ สำคัญมากนักหรือไง?”