เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 353
โรงแรมโกลเด้น ผู้คนคึกคัก ครึกครื้นอย่างยิ่ง
งานเลี้ยงงานหมั้นที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่เคยมีมาก่อน ถูกจัดขึ้นที่นี่ตามกำหนดการ ตอนนี้ที่ล็อบบี้ เต็มไปด้วยแขกเหรื่อมากมาย ทั้งแต่วงการบันเทิง วางการธุรกิจไปจนถึงการเมือง ไม่มีใครไม่ให้เกียรติบริษัทลี่ซื่อ ทยอยกันมามอบของขวัญและอวยพรด้วยความจริงใจ
สื่อที่อยู่ด้านนอกใช้โอกาสนี้รายงานข่าว สถานที่ที่มีชีวิตชีวา ความสนุกสนานร่าเริง สีสันสดใสเกลื่อนกลาด
เพราะเหตุผลที่หานฉ่ายหลิงกรีดข้อมือ ส่งผลให้งานเลี้ยงงานหมั้นล่าช้าไปหลายชั่วโมง ถึงแม้แขกเหรื่อที่มาในงานจะรออย่างร้อนใจ แต่เพราะความน่าเกรงขามของตระกูลลี่ จึงไม่มีใครกล้าสอบถาม ทุกคนต่างรออย่างเงียบๆ ต่างฝ่ายต่างยกแก้วชนและพูดคุยกัน งานเลี้ยงงานหมั้นกลายเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์แลกเปลี่ยนมิตรภาพขึ้นมาในทันที
เจี่ยงเวินอี๋ดูแลแขกเหรื่อพลางพูดคุยกับทุกคนพลางดื่มพลางสั่งให้เลขาหลี่ไปกระตุ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า หนึ่งนาทีที่ลี่เฉินซียังมาไม่ถึง หัวใจดวงนี้ของเธอไม่สามารถหยุดตื่นเต้นได้เลย
ในที่สุด ภายในความหวังของทุกคน ภายใต้ความหวังที่ขมขื่นของเจี่ยงเวินอี๋ ลี่เฉินซีก็มาถึงที่งานหมั้น
ผู้ชายหล่อเหล่าสวมชุดสูทสีดำรองเท้าหนัง รูปร่างสูงสง่า ใบหน้างดงามหล่อเหลาสะอาดสะอ้านราวกับเทพบุตร ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็หล่อ เทียบได้กับไอดอล ดารา ราวกับเทพบุตรสมบูรณ์แบบ ทำให้ผู้หญิงทุกคนที่อยู่ในงานแววตาส่องประกาย ดึงดูดสายตาอย่างนับไม่ถ้วน
ทันทีที่เจ้าบ่าวปรากฏตัว หัวใจที่หวั่นไหวของเจี่ยงเวินอี๋ ก็ถือว่าสบายใจขึ้นมาได้ครึ่งหนึ่ง ส่งสัญญาณบอกพิธีกรที่อยู่บนเวทีให้เริ่มงาน
การจัดสถานที่ทั้งหมดใช้สีชมพูเป็นหลัก ให้ความรู้สึกโรแมนติกและอบอุ่น บนหน้าจอใหญ่ค่อยฉายภาพของทั้งสองคน ส่งต่อความหวาน ความรักให้ทุกคนในงาน
แขกเหรื่อในงานไม่น้อยเป็นหญิงสาว เห็นภาพนี้ คู่หมั้นที่หล่อเหลา งานเลี้ยงงานหมั้นที่หรูหรา หญิงสาวต่างก็รู้สึกตื่นเต้น มุ่งหวังด้วย เสียงพูดคุย กระซิบกระซาบมากมาย
“ว้าว อิจฉาคุณหานจัง คู่หมั้นหล่อขนาดนั้น!”
“ไม่ใช่สักหน่อย ประธานลี่หล่ออย่างนี้มาตลอด น่าเสียดาย วันนี้มีเจ้าของเสียแล้ว!”
“ได้ยินว่าก่อนหน้านี้ประธานลี่มอบร้านอาหารในเครือให้เป็นของขวัญกับคุณหาน หรูหรายิ่งใหญ่ สงสัยชาติที่แล้วคุณหานคงช่วยโลกไว้สินะ!”
“ช่วยโลกที่ไหนกัน? น่าจะช่วยกาแล็กซีไว้มากว่า!”
“ถ้าเมื่อไหร่ฉันมีแฟนหล่อขนาดนี้ ฉันคงตื่นมาพร้อมกับรอยยิ้มในฝันแน่เลย!”
“เธอนะ อย่าฝันไปเลย!”
……
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทุกคนไม่ดัง สถานที่จัดงานขนาดใหญ่ สายตาทุกๆ รูปแบบมองไปที่บนเวที ลี่เฉินซีก้าวเท้าเดินอย่างช้าๆ รูปร่างสูง ใบหน้าหล่อเหล่า ดวงตาลึกซึ้ง ไม่รู้ว่าดึงดูดความหวังลับๆ ของสาวๆ ในงานมากมายแค่ไหน
หลังจากรอมาสักครู่ หานฉ่ายหลิงจึงค่อยเดินออกมาจากด้านหลังเวที โดยมีเพื่อนสนิทสองคนเดินมาเป็นเพื่อน ปลายชุดที่ยาวลาดพื้น สวมชุดสีชมพูอ่อน ไม่ใช่ชุดแต่งงานแต่ดีกว่าชุดแต่งงาน ปิดบังร่างที่สวยงามของหญิงสาว สีชมพูอ่อนหวานราวกับดอกไม้ตูมในแจกัน สวยจนผู้คนตื่นตกใจ
ทั้งสองคนเพิ่งจะขึ้นไปยืนบนเวที พิธีหมั้นก็กำลังดำเนินการ แต่สายตาของลี่เฉินซีสังเกตเห็นร่างที่คุ้นเคยกลางกลุ่มแขกเหรื่อ ดวงตาดำเปล่งประกาย สายตาขรึมยิ่งขึ้น
หานฉ่ายหลิงสังเกตเห็นความแปลกในสายตาเขา ตัดสินใจดึงชายเสื้อเขา ถามอย่างอ่อนโยนว่า “เฉินซี?”
ลี่เฉินซียังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับไปไหน
หานฉ่ายหลิงดึงข้อมือเขาเบาๆ “เฉินซี คุณเป็นอะไรไป?”
ขณะที่พูด เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องหนึ่งรอบ ไม่เห็นเงาของซูย้าว อดผ่อนคลายขึ้นมาไม่ได้ ในที่สุดก็ไม่มีผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัวขึ้นมาสร้างความวุ่นวาย แต่ทำไมสายตาของลี่เฉินซี ยังเป็นเช่นนี้…
ขณะที่เธอกำลังสงสัย แต่เขากลับจับมือเธอไว้ และพูดเสียงเบาๆ ว่า “ทางนั้นมีคนสนิท ไป เดินไปดูเป็นเพื่อนฉันหน่อย!”
หานฉ่ายหลิงตกใจ สายตาสังเกตเห็นพ่อของตัวเอง ขมวดคิ้ว ว่ากันตามเหตุผลแล้ว ไม่ควรไปเยี่ยมพ่อของตัวเองก่อนหรือไง?
ทำไมถึง…
เธอยังไม่ได้คิดอะไรมาก ก็โดนลี่เฉินซีลากเดินผ่านแขกเหรื่อในงานไป
ลี่เฉินซีมองร่างสูงที่อยู่ท่ามกลางแขกเหรื่อในงาน ยิ้มน้อยๆ “ประธานเพ้ย เพิ่งมาถึงหรือ?”
เพ้ยส้าวหลี่ได้ยินเสียงและหันกลับมา ดูเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง แต่กลับมีพลังดึงดูดสายตาเขาเป็นพิเศษ ยิ้ม “อืม ยังดีที่ไม่ได้มาสาย”
“จะสายได้ยังไง ถ้าแขกพิเศษอย่างประธานเพ้ยไม่มา จะเริ่มงานได้ยังไงกัน?” ลี่เฉินซียิ้มน้อยๆ ใบหน้าหล่อเหลาแสดงออกอย่างสบายดี แววตาสุขุมลึกแต่กลับดูเป็นธรรมชาติ
เพ้ยส้าวหลี่เผยรอยยิ้มออกมาอย่างสงบ กวาดสายตามองหานฉ่ายหลิงที่อยู่ด้านข้างเขา อดพูดออกมาไม่ได้ว่า “วันนี้คุณหานสวยมากจริงๆ”
หานฉ่ายหลิงยิ้มมุมปากน้อยๆ หลบสายตาลงอย่างเขินอาย
ความจริงแล้ว ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เธอระแวงผู้ชายคนนี้มากขึ้น และมีความเคยชินน้อยลง ทุกครั้งที่เจอรู้สึกว่าสายตาล่าเหยื่อคู่นั้นของเขาน่ากลัว ทันใดนั้นในใจเธอก็เห็นทุกอย่างอย่างทะลุปรุโปร่ง ความรู้สึกนี้ทำให้เธอรู้สึกรังเกียจเป็นอย่างมาก
เพ้ยส้าวหลี่จ้องเธอ แต่กลับมีความน่าหลงใหลและแอบยิ้มมุมปาก “หลายปีมานี้ ฉ่ายหลิงอยู่ข้างตัวมาคุณตลอด พวกคุณสองคนมีวันนี้ ก็ถือว่าเป็นคู่รักที่ในที่สุดก็ได้แต่งงานเป็นครอบครัวกัน ประธานลี่ หลังจากนี้ดูแลเธอดีๆ ละ!”
เฉินซียิ้มและไม่พูดอะไร
“แต่ว่า เรื่องนี้ไม่ต้องเตือนหรอก ต่อไปประธานลี่จะเอ็นดูเมีย รักและเอ็นดูภรรยามากกว่าที่เราคิดเสียอีก!” เพ้ยส้าวหลี่จงใจพูดให้เสียงดังขึ้นอีก เมื่อพูดจบ แขกเหรื่อที่อยู่รอบๆ ต่างคิดถึงการแต่งงานครั้งก่อนของลี่เฉินซี
ลี่เฉินซียิ้มเย็นชา “ที่ไหนกัน ผู้หญิงของตัวเอง จะรักมากหน่อยก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือไงกัน?”
“แน่นอนอยู่แล้ว!แต่ อาจจะเป็นเพราะฉันไม่เคยแต่งงานมาก่อน เลยไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกนั้น ไม่เหมือนประธานลี่ที่มีประสบการณ์มาก!”
คำพูดของเพ้ยส้าวหลี่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย ราวกับกลัวว่าคนอื่นจะคิดถึงเรื่องการแต่งงานครั้งก่อนของเขาไม่ได้
หัวใจของหานฉ่ายหลิงบีบแน่นขึ้นมาทันที เธอรู้ การหมั้นครั้งนี้เป็นไปได้ยาก ความเป็นไปได้เพียงเล็กน้อยสามารถทำลายทุกอย่างได้ ดึงดูดความโกลาหล และความใส่ใจของเธอมาก
ลี่เฉินซีเข้าใจเจตนาของเขาและไม่คิดที่จะปิดบัง จึงพูดออกไปตรงๆ ว่า “ไม่ถือว่ามีประสบการณ์มาก ก่อนหน้าเคยแต่งงานก็จริง ไม่จบไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน การแต่งงานครั้งนั้นยังทิ้งความทรงจำที่สวยงามไว้มากมาย และยังมีลูกๆ ของผมด้วย”
“โอ้? ได้ยินว่าประธานลี่มีลูกสาวคนหนึ่ง จริงไหม?” เพ้ยส้าวหลี่รีบถือโอกาสถาม
ลี่เฉินซีพูด “อืม มีลูกสาวหนึ่งคน ปีนี้5ขวบ ถ้ามีเวลาว่างจะพาลูกสาวไปพบคุณลุงเพ้ย”
“ฉันยินดีที่จะได้เจอลูกสาวที่รักของประธานลี่ แต่เหมือนฉันจะเคยเจอแล้ว”
เพ้ยส้าวหลี่ยิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มนั้นมีความร้ายกาจปรากฏอยู่ และยังรู้สึกเจตนาที่ไม่ดี
ดวงตาของลี่เฉินซีมืดลง ไม่อยากที่จะคุยหัวข้อนี้กับเขาต่อแล้ว โชคดีที่เลขาหลี่เดินเข้ามาตามพอดี พิธีการกำลังจะเริ่มแล้ว เชิญทั้งท่านด้วย
“คุณว่า วันนี้บรรยากาศอย่างนี้ ทำไมถึงไม่เห็นภรรยาคนก่อนของประธานลี่ละ?”
ท่ามกลางฝูงคน เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของหลายคนดังขึ้น และเข้าในหูของชายหนุ่มที่เดินผ่านมาพอดี
“คุณหมายถึงซูย้าวใช่ไหม? งานอย่างนี้ เธอที่เป็นภรรยาคนก่อนจะมีสิทธิ์อะไร? ถ้าเป็นฉันก็ไม่มา”
“กลับกัน แต่คุณไม่เห็นข่าวหรือไง? ฉันเพิ่งจะดูไลฟ์สดขายของ ซูย้าวคนนั้นโดดซ้อมจนน่าสงสารมาก”
“จริงไหม? ข่าวอะไร หรือว่าคดีนั้นโรงพยาบาล”
“คุณดูสิ! แค่ค้นหาก็หาเจอแล้ว เรื่องเพิ่งเกิดเอง ถูกทุบตี …” คำพูดไม่กี่คำเบาราวกับปุยนุ่น แต่กลับหยุดลงกะทันหันในเวลานี้