เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 373
“ประธานลี่ ล้อเล่นอะไรคะ คุณมาเจอเพื่อนเก่าไม่ใช่เหรอ?” ซูย้าวยิ้มอย่างเย็นชา ในน้ำเสียงแฝงด้วยการเหน็บแนม
ลี่เฉินซีดูออกว่าเธอไม่ค่อยสบอารมณ์ ใบหน้าหล่อกระชากใจเผยรอยยิ้มที่
หยอกล้อออกมา “ใช่ มาเจอเพื่อนเก่า”
“อืม คาดว่าตอนนี้เพื่อนเก่าคุณกำลังอยู่ออฟฟิศชั้นบนค่ะ ค่อยๆเดินนะคะ!” ในคำพูดของซูย้าวแฝงด้วยการเหน็บแนม เธอยังได้ถือโอกาสทำท่า‘เชิญ’ด้วย เพื่อส่งสัญญาให้เขาเข้าลิฟต์
ทันใดนั้น ตัวเองก็ได้เดินผ่านข้างกายเขาไป
ลี่เฉินซียืนอยู่ที่นั่นพร้อมยิ้มอย่างเย็นชา ในขณะที่หันหลังก้าวเท้าไปตามเธอ ก็ได้จับข้อมือของเธอไว้ ไม่หยุดพักก็ดึงเธอออกไปด้านนอกเลย
ผู้ชายก้าวเท้ายาว ซูย้าวต้องเสียแรงถึงจะตามทัน เธอได้เดินตามเขาออกจากบริษัท โรลส์รอยซ์สีดำได้จอดอยู่ที่ข้างถนน ลี่เฉินซีพาเธอมาหยุดลงที่ข้างรถโดยตรง
เขาเปิดประตูข้างคนขับออกก่อน และส่งสัญญาณให้เธอขึ้นรถ
ซูย้าวอึ้งเล็กน้อย เปิดปากพูดอย่างค่อนข้างโกรธเคือง “ประธานลี่ ไม่ขึ้นไปหาเพื่อนเก่าที่ชั้นบน แล้วนี่กำลังทำอะไรอยู่คะ?”
“คุณขึ้นรถก่อน!” เขาพูด
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย
เห็นเธอยังลังเลอยู่ ลี่เฉินซีกุมข้อมือเธอไว้แล้วดึงเธอเข้าไปโดยตรง พอมาแบบนี้ ซูย้าวกลับกลายมาเป็นฝ่ายถูกกระทำ เธอได้ปัดมือของเขาออกแล้วขึ้นรถไปอย่างเชื่อฟัง
หลังจากเขาปิดประตู รูปร่างสูงใหญ่ก็ได้เดินอ้อมไปนั่งฝั่งคนขับและขับรถจากไป
ซูย้าวไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ในใจคิดอยู่ว่าเขากำลังทำบ้าอะไรอีก เดี๋ยวตัวเองยังต้องไปที่ร้านค้าปลีกอยู่ ก็เลยพูดตรงๆว่า “ประธานลี่ นี่คุณหมายความว่ายังไงคะ? มีธุระหาฉัน?”
“ทำไม‘เพื่อนเก่า’ที่ผมพูดจะต้องเป็นคนอื่นล่ะ?” เขายังสับสนกับคำถามของก่อนหน้านี้อยู่
ซูย้าวหายใจลึกๆ เธอก็แค่พูดออกไปโดยไม่คิด ใครจะไปรู้ว่าเขาจะจริงจังขนาดนี้
“ตอนนั้นประธานลี่ไม่ใช่เคยมีข่าวฉาวกับรองประธานหลินเหรอคะ? ตามระดับบางอย่างแล้ว ไม่นับว่าเป็นเพื่อนเก่าเหรอ?” เธอพูด
ลี่เฉินซีอึ้ง “รองประธานหลิน? คนที่บริษัทคุณส่งมาใหม่?”
“หลินหวั่นหญิง” เธอได้แต่พูดชื่อออกมา
เขาเข้าใจทันที ชื่อนี้ อยู่ในความทรงจำอย่างเงียบๆมาหลายปีแล้ว จู่ๆพอเอ่ยถึงก็ยังค่อนข้างช็อกอย่างเลี่ยงไม่ได้
เรื่องในอดีตเหมือนควันบุหรี่จริงๆ ไม่นานก็จางหายไป
“ทำไมคะ? ประธานลี่คงไม่ใช่ลืมสนิทแล้วมั้งคะ?” ซูย้าวถาม แต่สีหน้าและน้ำเสียงไม่เชื่อเขาเลย
เขายิ้มอ่อนๆ “ก็ไม่ได้ลืมหรอก แต่ไม่ว่าจะพูดตามระดับไหน คุณกับเธอจะเอามาเปรียบเทียบกันได้ยังไง?”
“ทำไมเธอกับฉันจะเปรียบเทียบกันไม่ได้?” ซูย้าวกลุ้มใจ ทำไมถึงเซ้าซี้คำถามนี้ไม่เลิกสักทีนะ
ลี่เฉินซีมองมาที่เธอ แววตาที่ระยิบระยับเหมือนกับมีหมู่ดาวเป็นพันเป็นล้านรวมตัวกันอยู่ ลำแสงสีสันหลากหลาย ตามมาด้วยรอยยิ้มร้ายๆและเปิดปากพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “คุณคือคุณ เธอคือเธอ ถ้าแฟนที่ลือการในข่าวเมื่อหลายปีก่อนล้วนนับว่าเพื่อนเก่าล่ะก็ แล้วภรรยาเก่าที่เคยมีความสัมพันธ์เป็นสามีภรรยามาหลายปีอย่างคุณ จะถือว่าเป็นอะไร?”
“…….”
ฟังคำอธิบายของเขาแล้ว กลับทำให้ซูย้าวถึงกับหมดคำพูด
มองหน้าตาที่พูดไม่ออกของเธอ เขาคอยหมุนพวงมาลัยอย่างช้าๆไม่เร่งรีบ ในขณะเดียวกันก็ได้กุมมือเธอไว้ “ไปเถอะ พาคุณไปที่ที่หนึ่ง”
“……”
ในใจเธอมีเครื่องหมายคำถามโผล่ขึ้นมา อยากถามมากเลยว่าจะไปไหน แต่พอคิดๆแล้วไหนๆก็ขึ้นรถของเขามาแล้ว นาทีนี้มาปฏิเสธก็ไม่ทันแล้ว
พอคิดถึงตรงนี้ เธอแค่พูดคำเดียวว่า “เดี๋ยวฉันยังมีธุระต่อ เพราะฉะนั้นไวหน่อยนะคะ!”
เขาไม่ได้พูดอะไร แค่คอยตั้งใจขับรถอย่างเดียว
ไม่มีคำพูดตลอดทาง รถได้ขับผ่านสะพานข้ามทะเลอย่างเงียบๆ หลังจากขับผ่านสะพานแล้ว ไม่นานก็มาถึงทะเล เขาหันมามองเธอแวบหนึ่งแล้วพูดว่า “เดี๋ยวก็ถึงแล้ว อย่ารีบร้อนสิ”
ซูย้าวหันหน้ามา สายตามีความงงงวยอยู่หลายส่วน
เขากลับคอยยิ้ม และเลี้ยวที่ทางข้างหน้า จากนั้นได้ขับไปอีกที่หนึ่ง
เธอค่อนข้างแปลกใจ กลับไม่รู้ว่าเขาจะพาตัวเองไปไหน แต่พอนึกถึงเห็นแก่ที่หลายวันนี้เขาช่วยรับส่งลูกๆ ตอนนี้ถ้ายังสงสัยอะไรอีก มันก็จะดูไม่ค่อยดีแล้ว เพราะยังไงซะก็มาถึงที่นี่แล้ว รออีกหน่อยก็แล้วกัน ดูซิว่าเขาจะพาตัวเองไปไหนกันแน่!
พอคิดแบบนี้ เธอก็ปล่อยให้เขาขับรถผ่านหมู่บ้านคอนโดหลายโครงการที่ริมทะเล ขับอยู่บนทางถนนอยู่ช่วงระยะทางหนึ่ง ซูย้าวกลับจำได้ว่าสุดปลายทางของถนนเส้นนี้ เหมือนได้พัฒนาอุทยานธรณีแห่งหนึ่ง ตอนนั้นเขาก็เคยพาตัวเองมาเหมือนกัน
หรือว่าจะหวนคืนถิ่นเก่า?
เขาคงจะไม่ทำเรื่องพวกนี้ให้เธอหรอกมั้ง เพราะยังไงเขาก็ได้หมั้นหมายแล้ว น่าจะไม่สุงสิงกับผู้หญิงอื่นหรอก
รถได้ขับต่อและเลี้ยวไปหลายโค้งก็เข้าสู่พื้นที่ที่คล้ายอุทาน ซูย้าวก็เห็นต้นบันยันที่นับไม่ถ้วน ดอกไม้นานาชนิดกำลังเบ่งบานอย่างสวยงามอยู่ใต้แสงอาทิตย์ เหมือนกับอยู่ในแดนสวรรค์ยังไงอย่างงั้น
ดวงตาของเธอเปล่งประกาย ลี่เฉินซีมองเธอแล้วยิ้มอ่อนๆ จากนั้นได้จอดรถลงมา พอลงจากรถแล้วได้เปิดประตูฝั่งเธอออก และดึงเธอลงมาจากรถ
ซูย้าวรู้สึกแค่ว่าทุกอย่างของรอบๆมันช่างเซอร์ไพรส์เหลือเกิน แทบจะไม่กล้าเชื่อไม่คิดเลยว่าจะรวบรวมดอกไม้ต้นหญ้านานาชนิดไว้ด้วยกัน และดอกไม้สวยสดมากมาย ถึงจะอยู่ในฤดูกาลที่สอดคล้องกัน มันจะไม่ผลิบานในเวลาพร้อมๆกันนี่นา……….
อุทยานที่กว้างใหญ่ ได้รวบรวมดอกไม้อย่างน้อยหลายร้อยชนิด ทั้งดอกไม้ของในประเทศและต่างประเทศ ยังมีต้นซากุระที่มีชื่อเสียง ปลูกอยู่ทั้งสองข้างทางในอุทยาน ใบเมเปิ้ลที่แดงสด ราวกับได้อยู่ที่แคนาดายังไงอย่างงั้น ส่องแสงซึ่งกันและกันกับพระอาทิตย์ที่แจ่มใส ไม่ใช่ความขุ่นมัวของโลกมนุษย์ สวยตระการตาจนทำให้คนหยุดหายใจ
“ทำไมมีดอกไม้สดเยอะขนาดนี้คะ?” เธอมองทุกอย่างของตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม สวยเกินจริงมากๆ
แต่พอเดินไป กลับพบว่าดอกไม้ทุกชนิดต่างก็ดำรงอยู่อย่างแท้จริง ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์พลาสติกที่จอมปลอม ดอกไม้ทั้งหมดล้วนเติบโตอยู่ในดินอย่างเป็นธรรมชาติ ผ่านการใช้ใจเพาะปลูกอย่างดี ถึงได้สวยงามผลิบานขนาดนี้
ลี่เฉินซีมองเธอและเผยรอยยิ้มอ่อนๆออกมา
ผู้หญิงล้วนชอบสิ่งสวยงาม ถึงซูย้าวก็คงไม่มีข้อยกเว้นหรอกมั้ง!
เขาพาเธอเดินอุทยานอย่างช้าๆ “สวยมากเลยใช่มั้ย!”
“อืม แต่พวกนี้ทำได้ยังไงคะ? ดอกไม้ต้นหญ้านานาชนิด แถมยังปลูกในเวลานี้……” เธออดสงสัยไม่ได้
ลี่เฉินซีพูด “คงเป็นเวทมนตร์มั้ง! เวทมนตร์อย่างหนึ่งที่ฟ้าประทานให้”
“……..”
เธอคอยสังเกตดอกไม้ต้นหญ้าอย่างละเอียด จากนั้นได้ดูพิรุธในนั้นออก “คุณใช้เครื่องใช้อุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิต่างๆ เปลี่ยนอุณหภูมิในอุทยาน บวกกับการเพาะปลูกอย่างตั้งใจของช่างฝีมือทั้งหลาย ถึงทำให้ดอกไม้พวกนี้เจริญเติบโตและเบ่งบานพร้อมๆกัน”
ลี่เฉินซีถอนหายใจทีหนึ่ง “คุณโรแมนติกหน่อยไม่ได้หรือไง? นี่ก็คือเวทมนตร์”
เธอพยักหน้าอย่างจนปัญญา “โอเคๆ คือเวทมนตร์ เวทมนตร์ของคุณสุดยอดเลยค่ะ!”
“ผมยังมีเวทมนตร์ที่เยี่ยมกว่านี้อีก จะดูมั้ย?” เขาพูดอย่างมีความสนใจมาก
ซูย้าวกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ “คุณเป็นคนพัฒนาอุทยานแห่งนี้?”
“อืม ยังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างอยู่ ยังไม่ได้เปิดให้คนทั่วไปเข้าชมครับ” เขายืนดูอยู่ข้างๆ มองดูเธอยื่นมือออกมา ดมดอกไม้ดอกหนึ่ง แววตาที่ใสสะอาด เหมือนพระอาทิตย์ที่ขึ้นมาอย่างช้าๆของฤดูใบไม้ผลิ บริสุทธิ์และสวยงามอะไรปานนั้น
ไม่ได้เห็นรอยยิ้มของเธอมานานมากแล้วจริงๆ
ในขณะนี้ ซูย้าวหันมาพูดว่า “เดี๋ยวพออุทยานเปิดให้ใช้งาน คุณจะต้องได้กำไรเป็นกอบเป็นกำแน่นอนเลยค่ะ!”
นี่เป็นโปรเจคที่ยอดเยี่ยมมากๆ
เบื่อหน่ายชีวิตเร่งรีบของเมืองใหญ่ตั้งนานแล้ว ส่วนสวนสัตว์และสวนสนุกก็เป็นสถานที่ที่เหมาะกับหนุ่มสาวที่กำลังคบหาดูใจกันไปเฉยๆ แต่พวกชายหญิงที่อายุมากและยังไม่ได้แต่งงานเนี่ยสิ เป็นวัยที่อึดอัด ยามว่างไม่ชอบความหรูหราของเมืองใหญ่แน่นอน ส่วนที่นี่มีดอกไม้ผลิบานสวยงาม คือสถานที่ที่เลิศที่สุดเลย
“รอบๆสร้างโรงแรมและถนนอาหาร ทางนู้นยังมีหาดทรายทะเล นักท่องเที่ยวที่ไปมาและหนุ่มสาวที่อยู่ในพื้นที่ จะต้องถูกใจที่นี่แน่นอน นี่เป็นการค้าขายที่ไม่เลวเลยค่ะ!” ซูย้าวเผยสายตาที่ชื่นชมออกมา
เขากลับหัวเราะอย่างควบคุมไม่ได้ เดิมทีคืออยากพาเธอมาผ่อนคลายสักหน่อย ทำไมคุยไปคุยมา ถึงได้คุยมาถึงเรื่องงานได้ล่ะ?
“เรื่องโรงแรมและถนนอาหาร ผมไม่อยากทำแล้ว หรือไม่ คุณมาลงทุนและพัฒนา?” จู่ๆเขาเสนอความคิดเห็นออกมา