เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 401
ลี่เฉินซีมองสาวสวยที่อยู่ตรงหน้า ดวงตาที่คมลึกแอบแฝงรอยยิ้มคมเข้มขึ้นทันที รู้ว่าคุยนอกเรื่องไปแล้ว ถ้าขืนยังพูดเรื่องนี้ต่อ ก็คงไม่เป็นผลดีแน่
เขาเลยพูด“เอาล่ะ ไม่คุยเรื่องนี้กันแล้ว!”
“ทำไมต้องเลิกคุยด้วย?”ซูย้าวยักคิ้วมองเขา กลับยิ้มมุมปากขึ้นมา“คุณเอาแต่ชี้ว่าฉันกับโม่ป่ายไม่เหมาะสมกัน นั้นถ้าอย่างที่คุณว่า ฉันกลับรู้สึกว่าระหว่างคุณกับคุณหานยิ่งไม่เหมาะสมเลยแหละ!”
ลี่เฉินซีอึ้ง“ผมกับเธอ?”
“ใช่!”ซูย้าวมองหน้าเขา แววตาแฝงด้วย‘กันโจมตีและแก้แค้น’
ลี่เฉินซีเองก็ดูออก เขายิ้มบางๆทีหนึ่ง“ไม่เหมาะสมกันตรงไหน?ไหนคุณลองพูดมาซิ”
“ง่ายจะตายไป บริษัทลี่ซื่อกับบริษัทHSถึงแม้ทั้งสองต่างก็เป็นธุรกิจครอบครัว เป็นวงศ์ตระกูลเศรษฐกิจ แต่ว่าบริษัทลี่ซื่อมีรากฐานที่แข็งแกร่งและมีทรัพย์สินนับไม่ถ้วน แต่เมื่อเทียบกับบริษัทHSแล้ว บริษัทHSดูด้อยมาก ระดับฐานะอย่างประธานลี่ จะแต่งภรรยาทั้งทีก็ควรเลือกที่ฐานะเท่าเทียมกันถึงจะถูกไม่ใช่หรอคะ?แล้วระหว่างคุณกับคุณหานฐานะเท่าเทียมกันมั้ยล่ะคะ?”
การที่ซูย้าวพูดแบบนี้ ไม่ได้ตั้งใจอยากจะทำลายความสัมพันธ์และงานหมั้นระหว่างพวกเขาหรอกนะ เธอก็แค่อยากจะใช้คำพูดของเขาย้อนกลับไปยั่วโมโหเขา จากนั้นค่อยสวนกลับคำหนึ่ง เขามีสิทธิ์อะไรที่มาใช้หลักการความคิดพวกนั้นมาว่าเธอกับหลินโม่ป่าย
แต่ว่า ผลออกมาก็เกินความคาดหมายของเธอ
ลี่เฉินซีไม่โกรธกลับยิ้มแย้ม รอยยิ้มที่ปากยิ่งเห็นได้อย่างชัดเจน“พอคุณพูดแบบนี้แล้ว ผมกับเธอเหมือนจะไม่เหมาะสมกันจริงด้วย!”
“……”
ซูย้าวอึ้ง ทำไมเขาถึงได้ไม่มีปฏิกิริยาตามที่เธอคิดเอาไว้นะ?
ทำเอาเธอพูดไม่ออกเลยกับคำพูดที่เธอเตรียมเอาไว้ก่อนหน้า!
“ในเมื่อถ้าไม่เหมาะสม ผมก็ตัดสินใจหาโอกาสยกเลิกงานแต่งนี้ซะ ในเมื่อหลายปีมานี้ ผมกับเธอก็ไม่ได้เหมือนที่ข่าวลือข้างนอกเขาลือกัน……”เขาพูดอย่างเรียบเฉย น้ำเสียงฟังจะจริงจังแต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียว ทำให้คนยากจะเดาออก
ซูย้าวอึ้ง และขี้เกียจจะไปเดาด้วย พูดติดๆขัดๆ“นั่นมันก็เรื่องของคุณ แล้วแต่คุณแล้วกัน!”
“แล้วแต่ผมได้ยังไง?”
น้ำเสียงของลี่เฉินซีฟังดูหนักหน่วง แววตาก็ดูลึกลับยากที่จะเข้าใจ“ในเมื่อคุณยกออกมาพูดแล้ว แถมยังวิเคราะห์ได้อย่างละเอียดยิบ และผมก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง นั้นคุณก็มาช่วยผมหาวิธี แล้วพวกเรามาแก้ไขมันด้วยกัน!”
“……”
ซูย้าวหมดคำพูดกับเขาเลย“นี่มันงานแต่งของคุณ ความรักของคุณ เกี่ยวอะไรกับฉันด้วย?”
“ไม่เกี่ยวได้ยังไงล่ะ?ก่อนหน้านี้คุณยังพูดอยู่เลย ว่าผมเป็นพ่อของลูกคุณ อีกอย่าง เราก็เป็นอดีตสามีภรรยากันไม่ใช่หรอ?”ลี่เฉินซียิ้มต่อ แววตาที่มองเธอก็ดูสงบ“แล้วอีกอย่าง คุณก็รู้ว่าผมไม่มีพี่น้อง ข้างกายไม่มีคนที่สามารถคุยด้วยได้เลยแม้แต่คนเดียว เวลาแบบนี้ คุณไม่ช่วยผมแล้วใครจะช่วย?”
“……”
ซูย้าวขมวดคิ้วขึ้น“คุณไม่มีพี่น้องแท้ๆก็จริง แต่คุณมีลูกพี่ลูกน้องเยอะแยะจะตายไป อีกอย่าง เพื่อนสนิทของคุณ คุณชายลู่ คุณชายเพ้ยอะไรพวกนี้ก็มีตั้งห้าหกคน!อย่ามาหลอกฉันให้ซะยากเลย!”
“เรื่องงานแต่งเรื่องใหญ่อะไรแบบนี้ คุยกับพวกเขาไม่ได้แน่ พวกเขามีแต่จะทำเสียเรื่อง จะเหมือนคุณได้ยังไง ที่คิดแทนผมอย่างใจจริงทุกอย่าง……”ลี่เฉินซียิ่งพูดยิ่งมีอารมณ์
ซูย้าวฟังออกว่าเขาตั้งใจ แค่รู้สึกยิ่งหมดคำบรรยายกับเขาเลย เป็นถึงประธานของบริษัทลี่ซื่อแท้ๆ ทำไมถึงกลายเป็นผู้ชายกะล่อนปลิ้นปล้อนเหมือนตอนนี้ได้?
เหมือนลี่เฉินซีจะรู้ความคิดเธอ จู่ๆก็เปลี่ยนเรื่องคุย“หรือว่าเอาอย่างนี้มั้ยล่ะ คุณกับหลินโม่ป่ายก็ไม่เหมาะสมกัน ส่วนผมกับหานฉ่ายหลิงก็ต่างกันมาก แต่พอมาคิดดูดีๆแล้ว ผมกับคุณเหมาะสมกันที่สุด หรือว่าเรา……”
“ไม่มีทาง!”
เขายังไม่ทันพูดจบ ซูย้าวก็ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย
แถมยังพูดออกมาตรงๆ ไม่เหลือความหวังแม้แต่นิดให้เขา
ซูย้าวมองดวงตาที่คมลึกของเขา เธอยิ้มบางๆอย่างเย็นชา แล้วพูดออกมาคำหนึ่งถือเป็นการอธิบาย“ฐานะของประธานลี่สูงส่งเกินไป ตอนนั้นที่หย่ากัน ก็เป็นเพราะฉันอาจเอื้อมไม่ถึง ตอนนี้ นี่มันก็ผ่านมาห้าปีแล้ว ฉันไม่อยากกลับไปทำผิดซ้ำสองอีก!”
“คุณรู้ได้ยังไงว่าผ่านมาห้าปี จะคือการทำผิดซ้ำสองไปใช่สายสัมพันธ์ต่อ คุณตัดสินง่ายๆแบบนั้นได้ยังไง?”เขาพูดด้วยน้ำเสียงจับผิด เหมือนกำลังยั่วยุเธอ
ผู้หญิงคนนี้ปราบยากแค่ไหน เขารู้ดี ก่อนหน้านี้ ก็แค่จับพลัดจับผลู ไม่อย่างนั้น ผู้หญิงอย่างซูย้าว ไม่ยอมก้มหัวให้ใครได้ง่ายๆแน่
แต่เขาไม่เคยรู้ว่าการแต่งงานในตอนนั้น มีความรักที่เธอทุ่มเทไปมากแค่ไหน……
มองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า คนที่เธอรักมาสิบกว่าปี มีความรู้สึกมากมายในใจซูย้าว ตอนยังสาว เธอเคยเพ้อฝันว่าเมื่อไหร่เขาจะรักเธออย่างลึกซึ้งแบบนี้ ถึงจะเป็นการเสแสร้งก็เหอะ ขอแค่ได้รับความอบอุ่นชั่วครู่ เธอก็พอใจแล้ว
วกไปวนมาอยู่นาน ถึงแลกความรักลึกซึ้งของวันนี้มาได้ แต่เธอไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว
เริ่มตั้งแต่ที่เสียงเธอกลับมาปกติ ซูย้าวที่เป็นคนใบ้ในตอนนั้นก็ได้ตายจากไปแล้ว
“ความคิดพวกนี้ของคุณ คุณหญิงลี่รู้มั้ยคะ?”
สุดท้าย ซูย้าวก็อดไม่ไหว ปล่อยทีเด็ดออกมา
‘คุณหญิงลี่’ที่เธอพูดถึงก็คือเจี่ยงเวินอี๋
ความสัมพันธ์ระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้ในตอนนั้นแย่แค่ไหน ลี่เฉินซีรู้ดี จนถึงตอนนี้ เจี่ยงเวินอี๋ก็ยังเกลียดเธอมากอยู่ดี
เพราะฉะนั้น เขาเงียบไปทันที
ซูย้าวก็ไม่โกรธเขา ยิ้มบางๆทีหนึ่ง เงยหน้าแล้วยกมือเรียกหาพนักงาน ทำท่าเช็กบิล
แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับยิ้มอย่างประหลาดใจแล้วรีบพูด“คุณผู้หญิงคะ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ประธานลี่ใช้จ่ายที่นี่ แค่ลงบิลก็พอค่ะ อีกอย่าง ท่านเป็นคณะกรรมการของที่นี่ ไม่คิดค่าใช้จ่ายค่ะ”
“เออ……”
ซูย้าวยิ้มอย่างเก้อเขิน ทำท่าให้พนักงานไปได้ ระหว่างที่เธอลุกขึ้นมาก็พูดต่อ“นั้นวันนี้ถือว่าคุณเลี้ยงแล้วกันนะคะ ไว้ว่างฉันจะเลี้ยงคุณกลับ!”
มัวแต่เพลิดเพลินกับอาหารอร่อย จนลืมเป้าหมายที่มาที่นี่ไปเลย โจวลี่ตงล่ะ?เขาไปไหนแล้ว?
“ถ้าแม่ผมเป็นอุปสรรคระหว่างเราละก็ ปล่อยให้ฉันจัดการเรื่องนี้เอง ขอเวลาหน่อย ผมต้องแก้ไขอุปสรรคนี้ได้แน่!”ลี่เฉินซีเงยหน้า จู่ๆก็พูดเรื่องต่อจากเมื่อกี้
ซูย้าวอึ้งนิดๆ เธอไม่ได้สงสัยในตัวเขา แค่รู้สึกว่า ต่อหน้าแม่แท้ๆของตัวเอง เขาจะปรับเปลี่ยนความคิดแม่ของตัวเองได้ยังไง?
เพ้อฝันอะไรโง่ๆ!
เห็นแววตาเธอดูสงสัย ลี่เฉินซีก็พูดต่อ“นี่เป็นความรักของผม ชีวิตแต่งงานของผม ถึงแม่ผมจะไม่ยอมรับ ผมก็จะยืนหยัดให้ถึงที่สุด นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับความกตัญญู ผมรู้ว่าควรทำยังไง”
ห้าปีก่อน ผมละเลยเรื่องนี้ไป ตอนนั้น เขาไม่ใช่ไม่รู้ว่าเจี่ยงเวินอี๋รังเกียจและดูถูกซูย้าวมากขนาดไหน แต่เขาแค่คิดว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร แม่สามีกับลูกสะใภ้ไม่ลงรอยกันก็ไม่ใช่มีแต่บ้านเขาบ้านเดียว
แต่เวลาผ่านมาหลายปี หลังจากเสียเธอไป ถึงรู้ว่าอะไรสำคัญที่สุด ไม่ว่ามีเหตุผลและข้ออ้างใดๆ มันก็แค่เป็นข้อพิสูจน์ว่ารักไม่มากพอ เขาเคยเสียเธอไปครั้งหนึ่งแล้ว จะไม่มีครั้งที่สองอีกแน่นอน!
ซูย้าวจ้องหน้าเขา มองแววตาผู้ชายที่ลึกซึ้ง ราวกับได้เห็นความจริงใจและความตั้งใจของเขาจากในนั้นจริงๆ หัวใจที่เข้มแข็งเกือบจะหวั่นไหวกับคำพูดไม่กี่คำของเขา
เธอมันอ่อนแอเกินไปจริงๆ
จะเผยพิรุธต่อหน้าเขาไม่ได้โดยเด็ดขาด ไม่อย่างนั้น ความพยายามหลายปีมานี้ก็สูญเปล่าน่ะสิ?
เธอยิ้มอย่างสดใสแล้วมองดูรอบๆ พูดด้วยเสียงเบาคำนี้“โจวลี่ตงล่ะ?”
ใบหน้าหล่อของลี่เฉินซีห้อยลงมาทันที เขาอุตส่าห์พูดความในใจออกมาได้ เธอกลับ……สนใจแต่ผู้ชายคนอื่น!
ซูย้าวจะมัวแต่เสียเวลากับเขาต่อไม่ได้แล้ว หันหน้าแล้วเดินออกไปเลย ลี่เฉินซีสูดหายใจเข้าลึกๆทีหนึ่งอย่างจนปัญญา ยกมือเรียกพนักงานมา ทั้งสองคนพูดอยู่สองสามคำ จากนั้นเขาก็เดินไปหาเธอ
ดึงมือของซูย้าวแล้วเดินขึ้นชั้นบนไปเลย
“นี่ คุณจะพาฉันไปไหนอีก?”
ลี่เฉินซีหันมา “คุณจะหาโจวลี่ตงไม่ใช่หรอ?เขาเข้าไปในห้องกับหญิงสาวคนหนึ่ง เราไปรอเขาที่ชั้นบนกัน!”
“……อืม!”
เธอเกือบลืมไปว่าเขาคือคณะกรรมการของที่นี่ เรื่องหาคนมีเขาอยู่ก็พอแล้ว ตัดปัญหายุ่งยากไปได้เยอะเลย !
แต่พอมาถึงชั้นบน ประตูห้องแต่ละห้องเหมือนกันหมด แถมไม่ติดเลขไว้เลย ไม่รู้เหมือนกันว่าพนักงานที่นี่เขาหากันยังไง ซูย้าวเห็นประตูแต่ละบานที่เหมือนๆกันแล้วปวดหัวขึ้นในทันที
ลี่เฉินซีกลับนั่งลงที่โซฟาที่ทำจากหนังในล็อบบี้ข้างนอกอย่างกับคุณชายใหญ่ ท่าทางหล่อเท่ แถมยังกวาดมือเรียกเธอนั่งลงด้วย
“นั่งรอที่นี่แล้วกัน!ดูท่าแล้ว โจวลี่ตงคงไม่ออกมาง่ายๆหรอก……”
พูดจบ เขาคิดๆอีกที ยักคิ้วและรอยยิ้มบางๆยังไม่ทันจางหายไป“แต่ ก็ไม่แน่!”
ซูย้าวเหมือนจะฟังความหมายอะไรจากน้ำเสียงของเขาออก