เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 403
กลางคืน ด้วยความสุภาพบุรุษ ลี่เฉินซีได้ส่งซูย้าวกลับโรงแรม
พอขึ้นห้องเปิดประตูเข้ามา ทั้งสองคนตกใจกับภาพที่เห็นในห้องรับแขกอย่างมาก
ถึงหวางอี้จะรับตำแหน่งเป็นเลขาในบริษัทลี่ซื่อ แต่ก็เป็นคนที่ลี่เฉินซีไว้ใจที่สุด รู้ทุกเรื่องของเขา และเป็นคนที่เขาเชื่อใจมากที่สุด
ถึงแม้จะเป็นเลขา แต่ก็เป็นคนที่มีตำแหน่งหน้าที่ระดับสูงในบริษัท เรียกได้ว่าอยู่เหนือกว่าใครๆรองจากลี่เฉินซีเลยก็ว่าได้ มีทั้งอำนาจและตำแหน่ง
หน้าตาก็ดูขาวสะอาด ทำไมถึงดูเหมือนเด็กเนิร์ดอ่อนแอไม่สู้ใครอย่างงั้น สูง180ซม.กว่าๆ แต่งเนื้อแต่งตัวและใส่สูทแล้ว เป็นพระเอกเกาหลีได้เลย แต่นาทีนี้ เป็นเพราะBOSSได้ไหว้วานให้ดูแลเด็กสองคน ลูกผู้ชายอกสามศอกถูกรังแกจนกลายเป็นสภาพนี้
ซูย้าวแทบไม่กล้าเชื่อตาตัวเอง ตอนที่ทั้งสองคนกลับมาถึง ซีซีเพิ่งคลานลงจากหลังของหวางอี้ ผู้ชายหลังได้ยินเสียงก็ตามด้วยนั่งลงที่พื้น
เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกปากกาสีน้ำของเด็กทำเลอะจนเต็มไปด้วยสีสันแถมยังมีลิปสติกราคาแพงของซูย้าวถูกเด็กเล่นจนดูไม่ได้ เครื่องสำอางตกเกลื่อนพื้น และยังมีหน้าของหวางอี้ ถูกแต่งเขียนจนหนาตึบ อย่างกับสาวประเภทสองที่มาจากบางประเทศ และบนหัวยังมีผ้าสีแดงผูกเอาไว้ ยิ่ง……ดูน่าเกลียด!
ผมที่ตัดจนสั้น กลับถูกเด็กมัดเป็นจุกๆจนได้ ดูประหลาดมาก
บนตัวเปื้อนเลอะไปด้วยน้ำซุปและแยมขนมก็ตกเต็มพื้น
ทั้งห้องดูเละเทะไปหมด ดูไม่ได้เลย
ของเล่น ตุ๊กตา เครื่องสำอาง……
เห็นภาพนี้แล้ว ซูย้าวจากที่หัวใจสงบ อารมณ์ขึ้นมาในทันที
หวางอี้ก็มองทั้งสองคนอย่างทำอะไรไม่ถูก เรียกขึ้นมาอย่างเก้อเขิน“ประธานลี่ คุณซูครับ……”
ยิ่งไปกว่านั้น ลี่เฉินซีไม่กล้ามองหน้าเขาเลย ได้แต่ก้มหน้าแล้วพูด“นายอยากเพิ่งพูด ไปล้างหน้าก่อน!”
ซูย้าวอดสงสารเขาไม่ได้จริงๆ แล้วพูด“ไปอาบน้ำเถอะนะ!มีน้ำร้อง ฉันไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้……”
อาบน้ำ?!
ลี่เฉินซีอึ้ง การปฏิบัติแบบนี้ เขายังไม่เคยได้รับมาก่อน รู้ตั้งแต่แรก เขาน่าจะรีบกลับมาดูแลเด็กๆดีกว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ อาจจะได้……
ในหัวกำลังจินตนาการภาพทะลึ่งของเขากับเธออยู่ และหวางอี้ดูสีหน้าของเจ้านายออกตั้งนานแล้ว เขารีบพูด“ผมขอไปล้างหน้าก็พอครับ!อาบน้ำ ไม่แล้วดีกว่าครับคุณซูครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ!”
ทั้งๆที่เด็กสองคนเป็นคนทำเขาหมดสภาพแบบนี้ เขากลับมาขอโทษเธอ ทำเอาซูย้าวยิ่งรู้สึกผิด
“ไปอาบน้ำเถอะนะ!ฉันไปเอาผ้ามาให้!”
ระหว่างที่เธอพูด และกำลังจะเดินเข้าไปข้างในนั้น ที่ไหนได้ ซีซีกลับวิ่งออกมาจากห้องนอนและหยิบผ้าเช็ดตัวกับผ้าขนหนูผืนเล็กออกมาก่อนแล้ว
ลี่เฉินซีเห็นแล้ว หมดคำพูดอึ้งในทันที สาวน้อยคนนี้ ไม่เข้าข้างพ่อเลยนะ!
ทีกับพ่อแท้ๆของตัวเอง ไม่เห็นเธอจะขยันทำดีขนาดนี้เลย ขนาดแค่ให้เธอสนใจเขาแป๊บเดียวเธอยังไม่ยอมเลย……
หวางอี้ลูบหัวของเด็กด้วยความนุ่มนวล“ขอบคุณน้ำใจของคุณหนูน้อยนะครับ แต่ว่าเรื่องอาบน้ำไม่ต้องจริงๆครับ!ผมขอล้างหน้าก็พอ”
ระหว่างที่เขาพูด ขาเรียวยาวก็ก้าวเดินเข้าไปในห้องน้ำ
ซูย้าวก็ไม่ได้เกลี้ยกล่อมเขาต่อ เอาผ้าเช็ดตัวกับผ้าขนหนูวางไว้ข้างๆ หลังจากนั้นก็หันไปจ้องเด็กสองคนด้วยอารมณ์ไม่ดี“พวกลูก พวกลูกทำไมถึงไปรังแกคุณอาเขาแบบนั้น!ใจกล้าจังเลยนะเรา!”
เตียวเตียวกลัวจนรีบยืนตัวตรง ตั้งหน้าขึ้นแล้วทำหน้าตกใจ
ซีซีถูกเขาดึงไปยืนอยู่ข้างๆตัวเองด้วย เธอไม่ได้ตกใจกลัวเหมือนกับเตียวเตียว แต่ตาโตๆของเธอกลับทำตาปริบๆ ทำหน้าสงสารแล้วมองซูย้าวกับลี่เฉินซี
แววตาที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาแบบนี้ ทำให้ลี่เฉินซีอดไม่ได้หัวเราะออกมาทีหนึ่งในทันที รีบเดินเข้าไป ก้มลงแล้วกอดเด็กทั้งสองคนไว้“เอาล่ะ พวกเขายังเป็นเด็กนะ มีเด็กที่ไหนไม่ซนกันคุณ?”
“ลี่เฉินซี!”ซูย้าวจ้องมาที่เขา
เขากลับพูดต่ออย่างรักใคร่เอ็งดูเหมือนเดิม“อย่าโกรธเลยนะ หวางอี้ก็ไม่โกรธเด็กหรอก เด็กมันไม่ได้ตั้งใจ!”
ก็เขานี่แหละ เอาแต่โอ๋ลูก ตามใจลูกจนเสียนิสัย ถึงว่าล่ะ ก่อนหน้านี้ที่เธอไปทำงานต่างถิ่น โม่หว่านหว่านถึงไม่อยากมาดูแลพวกเขา
ขยับหาเรื่องให้ปวดหัว……จังเลย!
หวางอี้ล้างหน้าออกมา ก็จะลงไปรอลี่เฉินซีด้านล่าง
เห็นเขากำลังจะไป เด็กสองคนรีบวิ่งตามเข้าไปกอดขาของเขาไว้“คุณอาครับ อย่าเพิ่งไปสิครับ!เล่นกับพวกเราต่ออีกหน่อยนะครับ!”
หวางอี้ก็ชอบเด็กสองคนนี้มาก ถึงจะซนไปหน่อย แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าดี
เขาลูบหัวของเตียวเตียวกับซีซี“เป็นเด็กดีนะครับ ไว้คุณอาว่างเมื่อไหร่ จะมาเล่นเป็นเพื่อนพวกหนูอีกนะ!”
ซีซีทำหน้ามุ่ยอย่างไม่พอใจ แล้วโบกมือลาหวางอี้
เตียวเตียวก็พูด“นั้นบ๊ายบายครับคุณอา วันหลังมาเล่นกับพวกเราอีกนะครับ!”
หวางอี้พยักหน้ารับปาก
เด็กสองคนใช้สายตาส่งเขาจากไป แล้วรู้สึกเศร้าใจ
ลี่เฉินซีสังเกตเห็นแล้วเดินเข้าไปนั่งยองๆตรงหน้าเด็กสองคน แล้วพูดด้วยเสียงเบา“พวกลูกทำไมถึงชอบคุณอาหวางอี้มากขนาดนี้ครับ?”
“เพราะเขาเล่นกับพวกเราไงครับ!”เตียวเตียวอธิบายอย่างไม่อ้อมค้อม
เขาอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วรีบโต้กลับ“ฉันก็เล่นกับพวกนายได้เหมือนกัน!”
“คุณ?”เตียวเตียวมองหน้าเขา ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ
แต่กลับไม่ได้สังเกตว่าซีซีกำลังก้มลงไป มือน้อยๆไปเก็บรองพื้นขึ้นมาแล้วใช้มือแตะครีม ก็จะไปถูบนหน้าของลี่เฉินซี
แต่เขากลับรีบหลบโดยสัญชาตญาณ ซีซีก็แบะปากขึ้นทันทีและเตียวเตียวก็พูด“ดูสิครับ!คุณทำไม่ได้หรอก!คุณอาลี่อย่าฝืนเลยครับ คุณก็เป็นคุณอาใจดีเหมือนกัน!”
ระหว่างพูด เขาก็ดึงซีซีไปตรงหน้าของซูย้าว เตียวเตียวก้มหน้าลงอย่างเชื่อฟังแล้วรีบพูด“คุณน้าครับ พวกเราผิดไปแล้วครับ!”
ซีซีก็ก้มหน้าลงทำท่าเหมือนผิดไปแล้ว
พอเห็นแบบนี้แล้ว กลับทำให้ซูย้าวหายโกรธไปเลย เธอเลยถอนหายใจแล้วพูด“พวกหนูยังเด็ก แม่จะไม่โทษพวกหนู แต่ว่าคุณอาเป็นผู้ใหญ่แล้วนะจ้า คราวหลัง ห้ามแต่งหน้าให้คุณอาอีกรู้มั้ย?”
เตียวเตียวพยักหน้าอย่างกับโขลกกระเทียม“รู้แล้วครับ คราวหลังจะไม่เกิดอีกแล้วครับ!”
ซีซีก็พยักหน้ารับปากตาม
เธอยิ้ม“กลับไปที่ห้องก่อน!เดี๋ยวแม่ทำความสะอาดที่นี่เสร็จ แล้วจะมาอาบน้ำให้พวกหนู”
เด็กทั้งสองคนวิ่งกลับไปที่ห้องอย่างรวดเร็ว ซูย้าวดูห้องที่หมดสภาพ เละเทะไปหมดแล้วถอนหายใจยาวทีหนึ่ง ระหว่างที่เธอพูดไปด้วยก็ถอดเสื้อคลุมไปด้วย“ขอโทษนะคะ ฉันต้องทำความสะอาดที่นี่ คุณกลับไปก่อนเถอะนะคะ!”
ลี่เฉินซีกลับไม่คิดจะไป ตรงกันข้าม เขาก็ถอดเสื้อสูทออกแล้วพับแขนเสื้อขึ้นด้วย“ลูกสาวไม่ใช่แค่ของคุณคนเดียว ทำเละเทะขนาดนี้ จะปล่อยให้คุณทำคนเดียวได้ยังไง!ช่วยกันทำเถอะนะ!”
พอพูดแบบนี้แล้ว กลับฟังดูสมเหตุสมผลไปเลย
ซูย้าวก็ไม่ได้ปฏิเสธต่อ ทั้งสองคนช่วยกันทำความสะอาด ไม่นาน ห้องรับแขกก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่เสียดายอย่างเดียว เครื่องสำอางของเธอกลายเป็นกองขยะไปแล้ว
เก็บกวาดขยะออกมาได้เป็นกอง ลี่เฉินซีเข้าไปล้างมือที่ห้องน้ำออกมา พร้อมกันนั้นก็พูดว่า“เดี๋ยวตอนผมลงไปแล้วค่อยเอาไปทิ้งทีเดียวแล้วกัน!”
เธอพยักหน้า แล้วเอาลิปสติกแท่งสุดท้ายที่เก็บขึ้นมาทิ้งลงในถุงขยะ ข้างหูกลับได้ยินเสียงทุ้มต่ำของผู้ชายดังมาต่อเนื่อง“เรื่องที่โจวลี่ตงพูด คุณเชื่อเขามากขนาดไหน?”
“เชื่อมากแค่ไหนหรอ?”เธอยิ้มมุมปากอย่างไร้เรี่ยวแรง แล้วลุกขึ้นมานั่งที่โซฟา“จะเชื่อได้ขนาดไหนกัน?ถึงจะมีแค่0.01% ก็ต้องลองไปดู”
ไม่แน่อาจจะหาเจียงจี้เซิงพบจริงๆล่ะ?
และไม่แน่ หลังจากได้พูดคุยกันหลายครั้ง อาจจะทำให้เขาเห็นความจริงใจของฉัน แล้วถอนฟ้องก็ได้ ไม่อย่างนั้น คุณว่าจะให้เรื่องไปถึงศาลจริงหรอ?ระหว่างที่เธอสูญเสียชื่อเสียงพร้อมกันนั้นยังต้องเสียงานไปด้วย
ถึงต้องเสียงานไปจริงๆก็ไม่เป็นไร เธอยังสามารถหางานและเงินได้ใหม่ แต่ถ้าเสียชื่อเสียงไปล่ะ?
ลี่เจิ้งก็ยังไม่ฟื้น เธอจะพาลูกสาวกับเตียวเตียวไปอยู่เมืองนอกก็คงไม่ใช่!
ไม่ว่าจะยังไง เธอก็ต้องลองดู
“แล้วคุณกะว่าจะไปเมื่อไหร่?”ลี่เฉินซีหันกลับมา แววตาที่คมลึกแอบแฝงความคาดหวัง
มองสายตาของผู้ชาย เหมือนว่าเธอดูอะไรบางอย่างออกแล้วถามกลับด้วยสัญชาตญาณของเธอ“ที่คุณถามแบบนี้ หมายความว่ายังไงคะ?