เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 438
ภูเขาไฟเซอร์โร เนโกร ตั้งอยู่ที่อเมริกากลางเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นที่อายุน้อยที่สุด ทิวทัศน์ที่อลังการ กับพื้นที่โดยรอบที่สามารถเห็นผู้คลั่งไคล้ในกีฬาเอ็กซ์ตรีมได้ทั่วทุกที่ ยังได้เห็นคนหนุ่มสาวที่ไถลสเก็ตบอร์ดลงมาจากบนภูเขาสูงๆ ตลอดเวลา ตามเสียงกรี๊ดกร๊าดของพวกเขา ซูย้าวก็โดนทิวทัศน์โดยรอบ ค่อยๆ ดึงดูด หลอมละลายไปด้วยกันทีละนิด
ลี่เฉินซีขับรถมาทั้งคืน แค่ให้เธอมาทันที่นี่ ได้ยืนอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด เพื่อดูดวงอาทิตย์ขึ้น
เห็นดวงอาทิตย์ที่ค่อยๆ ขึ้นมา ผ่านภูเขาสีน้ำตาลเข้ม แฉลบไปที่ทุ่งหญ้าสีเขียวที่อยู่ไกลๆ อย่างช้าๆ ค่อยๆ ลอยขึ้นทีละนิดๆ เป็นความเพลิดเพลินที่แตกต่างออกไปจริงๆ
ในทางกลับกัน อานซินเออร์กลับไม่ได้สัมผัสกับฉากที่สวยงามอย่างนี้
เนื่องจากเธอในตอนนี้ เพราะความโคลงเคลงตลอดทั้งคืน จึงนอนหลับสนิทอยู่บนรถ
ลี่เฉินซีจูงมือของเธอ ค่อยๆ เดินอยู่รอบๆ ภูเขาไฟ นักท่องเที่ยวไม่น้อยเลยที่ผ่านข้างกายพวกเขา มองเหล่านักกีฬาที่อยู่ไกลๆ กำลังเหยียบอยู่บนสเก็ตบอร์ด กระโดดลงมาจากบนเขาสูงเจ็ดร้อยกว่าเมตร ความเร้าใจกับความตื่นเต้นอย่างนั้น คาดว่าคนที่ไม่เคยลิ้มลองกีฬาเอ็กซ์ตรีม คงยากที่จะได้สัมผัสถึง
แต่เชยชมทิวทัศน์ที่สวยงาม กับมองดูนักกีฬาเอ็กซ์ตรีม ไม่ใช่จุดประสงค์ที่ซูย้าวมาที่นี่ เธอกำลังมองกลุ่มคนรอบๆ มองหาร่างของเจียงจี้เซิง
เดาว่าการมองหาอย่างนี้ กลัวว่าจะไม่เจออะไร ไม่สู้ไปตามหาตามผับหรือโรงแรมรอบๆ จะดีกว่า บางทีอาจจะเจออะไรบ้าง!
เธอคิดอย่างนี้ จึงหมุนตัวมองไปที่ไกลๆ
ลี่เฉินซีมองออกถึงความคิดในใจของเธอ ยืนอยู่ข้างๆ จับมือของเธอเอาไว้ “ไม่ต้องหาแล้ว เจียงจี้เซิงคนนั้นน่ะ ถ้าคิดจะซ่อนตัวขึ้นมา คุณก็หาไม่เจอหรอก”
“ซ่อนตัว?” ซูย้าวชะงักเล็กน้อย ครุ่นคิด ยากมากที่ในหนึ่งปีเจียงจี้เซิงจะมีวันหยุดสักหนึ่งเดือน ได้ทำเรื่องที่ตนเองคิดอยากจะทำบ้าง ก็คงจะเกลียดการโดนรบกวนมากสินะ!
เธอเอียงหัวคิดๆ ดู “ใช่สิ นี่คุณรู้ได้ยังไงว่าเจียงจี้เซิงจะมาที่นี่?”
“คุณลองเดาดู?” เขาก้มมองเธอ บนใบหน้าหล่อๆ เต็มไปด้วยรอยยิ้มบางๆ
ซูย้าวหายใจเข้าลึกๆ “ตอนนี้ฉันไม่อยากเดา ปวดหัว คุณบอกฉันมาเถอะ!”
“ปวดหัว?” เขาตกใจ “แผลที่หลังหัวเหรอ? ปวดยังไง?”
แต่เธอกลับหัวเราะ “ไม่มีอะไร ก็แค่ตอนที่นึกถึงอะไรบางอย่าง เลยรู้สึกปวดหัวนิดหน่อย……”
ลี่เฉินซีลนลาน “โอ้มายก๊อด! คำเตือนของหมอถูกจริงๆ ด้วย……”
“คำเตือนอะไร?” ซูย้าวค่อนข้างสงสัย
แต่เขากลับส่ายหัว น้ำเสียงราบเรียบ “ก็ไม่มีอะไร อย่าคิดมากเลย”
“เป็นอะไรกันแน่?” สัญชาตญาณบอกซูย้าวว่า เหมือนเขากำลังปิดบังอะไร
เห็นท่าทางซักไซ้ของซูย้าว ลี่เฉินซีจึงคิดๆ ท่าทีเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมา “คุณอยากรู้จริงๆ เหรอ?”
น้ำเสียงทุ้มต่ำ ควบคุมเสียงพูดเอาไว้ ในน้ำเสียงทุ้มลึกปรากฏความเคร่งขรึมออกมา ทำให้ซูย้าวควบคุมหัวใจไม่ให้ตึงเครียดไม่ได้เล็กน้อย เผชิญหน้ากับสายตาของเขา ค่อยๆ พยักหน้า
“คุณหมอบอกว่า——”
ลี่เฉินซีลากเสียงยาว มองเธอ แล้วถอนหายใจ พูดขึ้น “คุณหมอบอกว่าหลังจากที่คุณได้รับบาดเจ็บที่หลังหัวครั้งนี้ อาจจะก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนอยู่บ้าง อาจจะส่งผลกระทบถึงสติปัญญา พูดให้เข้าใจง่ายๆ หน่อย ก็คือไอคิวอาจจะเปลี่ยนเป็นติดลบ……”
“……”
ในทันที ซูย้าวก็หลุดพ้นออกจากบรรยากาศที่ตึงเครียดโดยสิ้นเชิง สายตาค่อยๆ เย็นชา จนกระทั่งเธอเอ่ยปากขึ้น แต่ลี่เฉินซีกลับทนไม่ไหวหัวเราะพรวดออกมา
“ลี่เฉินซี คุณจะบอกว่าฉันไอคิวต่ำใช่ไหม?”
ทำไมเธอถึงไม่รู้สึกนะ? เขาแค่คิดจะหาเหตุผลกับข้ออ้าง เปลี่ยนเป็นเล่ห์เหลี่ยมที่ใช้เยาะเย้ยถากถางเธอ!
ลี่เฉินซีหัวเราะอย่างมีความสุข ยกมือขึ้นจับไหล่ของเธอ “พอแล้วๆ แหย่คุณเล่นเฉยๆ ซูย้าวของผมจะไอคิวต่ำได้ยังไงล่ะ? อย่างมากที่สุดก็แค่ไม่ฉลาดเท่านั้นเอง!”
“แน่สิ เพราะฉันไม่ฉลาด ไม่งั้นตอนแรกจะแต่งงานกับคุณได้ยังไง! แล้วยังคลอดลูกให้คุณอีก?” เธอพูดอย่างเย็นชา
แต่เขากลับโต้แย้ง “โอ๊ย อย่าพูดเหลวไหล นั่นเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดที่สุดในชีวิตคุณแล้วนะ!”
“น้อยๆ หน่อย นั่นก็ไม่ใช่เถอะ! เป็นเพราะพินัยกรรมของคุณย่าคุณต่างหาก!”
เธอเพียงทำตามคำขอในพินัยกรรม ภายใต้คำยุยงของพวกซัวฉ่ายลี่ จึงเลือกที่จะอยู่กับเขา
พูดจบ เธอก็เชิดหน้าอย่างเย่อหยิ่ง ท่าทางเหมือนดอกไม้บนยอดเขาที่ห้ามแตะต้องรุกราน เมินเฉยลี่เฉินซีที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เขาพูด “คุณคิดจริงๆ เหรอว่าหลังจากที่ย่าผมจากไปแล้วจะทิ้งพินัยกรรมอย่างนั้นเอาไว้?”
“ห๊ะ?”
“ก็ได้ๆ พินัยกรรมของย่าผม คุณทำตามพินัยกรรมถึงแต่งงานกับผม ผมไอคิวต่ำ พอใจไหม?” ลี่เฉินซีหัวเราะ ก็ไม่ลืมที่จะปลอบใจเธอ
แต่ซูย้าวกลับเหมือนได้ยินอะไรในคำพูดของเขา สายตาเปล่งประกาย “ไม่ใช่สิ เมื่อกี้เหมือนคุณพูดอะไร ลี่เฉินซี คุณหมายความว่าไง?”
“อะไรหมายความว่าไง?” เขาแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
เธอดึงแขนของเขา “บอกฉันมา เมื่อกี้คุณพูดถึงพินัยกรรมของคุณย่าลี่ เกิดอะไรขึ้น?”
“จะต้องรู้ให้ได้ใช่ไหม?” เขาถามกลับ
ซูย้าวนึกถึงคำพูดเมื่อครู่ของเขา ยังคงค่อนข้างสงสัยอยู่บ้าง แต่สัญชาตญาณบอกเธอว่า เมื่อครู่เขาคิดจะปิดบังอะไรเธอ จึงซักไซ้ถามขึ้น “คุณบอกมาเร็ว!”
“ก็ได้ จะบอกคุณว่า คุณไม่ได้จำผิด เป็นพินัยกรรมของย่าผม ดังนั้นการแต่งงานของเราในตอนแรกจึงสำเร็จตามต้องการ จึงทำให้คุณกลายเป็นอดีตภรรยาในตอนนี้ของผม” น้ำเสียงนิ่งเฉยของเขา เต็มไปด้วยความเอาตัวรอด
ซูย้าวไม่พอใจกับน้ำเสียงที่ขอไปทีอย่างนี้ “คุณ……พูดจริงงั้นเหรอ?”
เขายักไหล่ ปล่อยเธอแล้วเดินไปข้างหน้าเล็กน้อย มองชายหญิงที่มีความสามารถพวกนั้นกำลังไถลสเก็ตบอร์ดลงมาจากบนภูเขาไฟอย่างไม่ขาดสาย ก็รู้สึกหลงใหล
“เราไปลองกันหน่อยไหม?” จู่ๆ เขาก็ถามขึ้น
แต่ซูย้าวกับจมลงไปในคำพูดเมื่อครู่ของเขา ในหัวยังคงครุ่นคิด ไม่มีเวลาสนใจเขาอยู่แล้ว เพียงแค่เอ่ยปากไปเรื่อยเปื่อย “จะเล่นคุณก็ไปเองเถอะ!”
จะยังไงศีรษะเธอก็บาดเจ็บ ยังไม่หายดี กีฬาเอ็กซ์ตรีมอย่างนี้ เธอไม่สามารถเล่นด้วยได้
ลี่เฉินซียืนอยู่ตรงนั้น ร่างสูงแทบจะหลอมรวมไปกับแสงอาทิตย์ ซูย้าวมองผู้ชายคนนี้ จุดประกายออกมาทันที เหมือนกับนึกอะไรได้แล้ว รีบเดินเข้าไป ดึงมือของเขาเอาไว้ “ลี่เฉินซี อย่าบอกนะ หลังจากที่คุณย่าลี่จากไป ก็ไม่ได้มีพินัยกรรมฉบับนั้นอยู่แล้ว!”
จำได้ว่ากี่ปีก่อน คุณย่าลี่ชอบเธอมากจริงๆ มาหาเธอที่ตระกูลซูอยู่บ่อยๆ ตอนเด็กๆ ยังจูงมือเล็กๆ ของเธอ บอกให้เธอมาเป็นหลานสะใภ้ของตนเอง แต่นั่นก็แค่คำพูดที่คนแก่พูดไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น หลังจากเสียชีวิตจึงทิ้งพินัยกรรมเอาไว้ จำเป็นต้องแต่งงานกับซูย้าว มิเช่นนั้นมรดกทั้งหมดของบริษัทลี่ซื่อจะถูกแจกจ่ายให้กับองค์กรสวัสดิการ
ตอนนี้คิดดูแล้ว พินัยกรรมที่เหลวไหลอย่างนี้ คุณย่าลี่จะทำขึ้นมาจริงๆ เหรอ? เอากิจการหลายร้อยปีของตระกูลลี่ หยาดเหงื่อความพยายามของคนนับไม่ถ้วน บริจาคอย่างฉับพลัน นอกจากว่าจะรู้ความต้องการของหลานชาย บางทีอาจจะ……
เธอจ้องไปที่สายตาที่ลึกล้ำของฝ่ายชาย ในแววตาที่จุได้แค่สองร่างเล็กๆ ของเธอ มองเขาที่อยู่ตรงหน้า จู่ๆ ระหว่างนั้น ซูย้าวก็เข้าใจโดยสมบูรณ์แล้ว!
“คุณ……คุณแก้พินัยกรรมของคุณย่าลี่?” จู่ๆ เธอก็พูดสิ่งที่เดาอยู่ในใจออกมา
หลังจากเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของฝ่ายชาย เธอก็ยิ่งแน่ใจ ลี่เฉินซีเป็นคนลงมือทำเองทั้งหมดตั้งแต่แรก…… ซูย้าวดึงมือของเขาไม่ยอมปล่อย “เพราะอะไร? ทำไมคุณถึงแก้พินัยกรรมของคุณย่า?”
บางทีให้ชัดเจนอีกหน่อย เธอยังอยากจะถามว่า ทำไมเขาต้องแต่งงานกับตนเอง?
เธอในตอนแรก ก็เป็นแค่ยัยใบ้คนหนึ่ง แต่เขากลับเป็นถึงทายาทที่ร่ำรวยมหาศาล เป็นคนอายุน้อยที่ร่ำรวยและมีอิทธิพลทั้งยังมีความสามารถโดดเด่น นั่งอยู่ท่ามกลางทรัพย์สินนับไม่ถ้วน เงื่อนไขอย่างนี้ ต้องการผู้หญิงแบบไหนก็ได้?
ส่วนเธอนอกจากเป็นลูกสาวนอกสมรสของบริษัทซูซื่อที่กำลังตกต่ำ ก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว แต่งงานกับเขา ก็เพียงแค่หวังพึ่งบารมีเพื่อความร่ำรวย จากนกกระจอกตัวเล็กๆ ที่ไม่มีชื่อเสียงบินไปเกาะยอดไม้เท่านั้นเอง
“เพราะอะไร? ลี่เฉินซี ทั้งหมดนี้ นี่คุณ……”
เธอยังพูดไม่ทันจบ แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของฝ่ายชายกลับหยุดชะงัก แขนยาวๆ โอบเอวบางๆ ของเธอเอาไว้ ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด ถือโอกาสโน้มตัวลงไปจูบบนริมฝีปากของเธอ
“คุณอยากรู้คำตอบงั้นเหรอ? งั้นคำตอบก็คือ……” น้ำเสียงที่น่าดึงดูด กระซิบอยู่ที่ข้างริมฝีปากของเธอ