เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 527
ลี่เฉินซีโน้มน้าวเต็มที่ แทบจะเรียกได้ว่าอะไรที่พูดได้ ควรพูด เขาก็พูดแล้ว ทุกอย่างพูดอย่างจริงใจ ยิ่งกว่านั้น เขายังไม่ค่อยจะมีความอดทนที่จะปฏิบัติตัวกับใครด้วยความอดทนแบบนี้ด้วย
แต่ไม่รู้ทำไม เขาพูดอย่างประทับใจและจริงใจ แต่เมื่อคำพูดเข้าหูลี่เจิ้งไป แต่เหมือนกลายเป็นเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
เด็กน้อยดูเหมือนแทบจะไม่ได้พิจารณาเลย ไม่แต่พูดว่า “ทำไมต้องโทษพ่อด้วย? พ่อเป็นพ่อผม พ่อดีกับผมมาก เป็นผู้คนนั้นต่างหาก เธอไม่ต้องการผม และไม่ใช่พ่อ…”
ทันใดนั้นลี่เฉินซีก็พูดอะไรไม่ออก
และยิ่งพูดไม่ออกยิ่งกว่า
ไม่รู้ว่าเพราะเด็กคนนี้สลบมานานมากเกินไปแล้วสมองจึงทำงานได้ไม่ค่อยดี หรือเขาจงใจ ไม่ว่าจะพูดแค่ไหน เด็กคนนี้ก็ยังคงไม่ฟัง
สุดท้ายลี่เฉินซีก็เลิกพูดได้แต่มองเขาอย่างลึกซึ้งแล้วพูดทิ้งท้าย “ลูกลองไปคิดดูเอาเองนะ!” แล้วหันหลังเดินออกไปจากห้องคนไข้
เขาเจอกับเจี่ยงเวินอี๋ที่เพิ่งกลับมาพอดี เขาสบตากับแม่แล้วพูดเสียงต่ำ “แม่ เรื่องของผู้ใหญ่ก็ปล่อยให้ผู้ใหญ่ไปจัดการได้ไหม อย่าเอาอคติของตัวเองไปฝังใส่หัวเด็ก คำพูดพวกนี้ ผมไม่อยากจะพูดเลย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแม่จะเอามันฝังใส่หัวลูกผมได้!”
เจี่ยงเวินอี๋ตกตะลึงในทันที จ้องมองไปที่ชายตาแหลมด้วยความประหลาด หัวใจของเธอก็จมลงชั่วขณะหนึ่ง
ลี่เฉินซีที่เป็นแบบนี้ เธอเคยเจอมาแล้ว
เมื่อห้าปีก่อนตอนที่ผู้หญิงคนนี้จากไป เขาก็แทบจะเป็นแบบนี้อยู่ตลอดเวลา ไม่ค่อยกลับบ้านมาหาเธอ และไม่ค่อยพูดคุยกับเธอ ทุกๆ ครั้งที่คุยเรื่องผู้หญิงคนนี้ก็มักจะทำหน้าแบบนี้!
ตอนนี้ก็ด้วย
ทุกครั้งที่มีปัญหาเกี่ยวกับซูย้าว ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไป
เจี่ยงเวินอี๋ชั่งน้ำหนักซ้ำแล้วซ้ำอีก และในที่สุดก็เงยหน้าขึ้นอย่างเย็นชาและสบตากับเขา “ฉันสอนอะไรหลาน? ฉันฝังหัวอะไรให้หลาน? แกก็คิดถึงแต่ว่าเจิ้งเอ๋อเป็นลูกแก แล้วลูกฉันล่ะ? ลูกชายฉันเคยคิดถึงใจแม่คนนี้บ้างไหม!”
ลี่เฉินซี “…”
ที่สุดแล้ว ความสัมพันธ์ในครอบครัวแบบนี้ คงคุยอะไรด้วยเหตุผลไม่ได้!
เขาไม่พูดอะไรอีกและเดินจากแม่ของเขาไปอย่างเงียบๆ
ลี่เฉินซีขับรถกลับไปที่บ้านใหญ่ตระกูลลี่ ภายในบ้านนั้นเงียบสงบ บ้านหลังใหญ่แต่ทุกคนทำอะไรด้วยความเบามือและไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหว ราวกับว่าจะเกิดเสียงดังและรบกวนใครบางคนเข้า
เขากวาดสายตามองไปที่ห้องรับแขก พ่อบ้านซึ่งเดินออกมาจากครัวจึงพูดขึ้นเบาๆ “คุณซูยังพักผ่อนอยู่ ระหว่างนั้นเธอตื่นขึ้นมาหนึ่งครั้ง ดื่มน้ำหนึ่งแก้วแล้วเข้านอนต่อครับ”
ลี่เฉินซีพยักหน้า “แล้วเด็กๆ ล่ะ?”
“คุณหนูน้อยกับคุณชายน้อยเล่นอยู่ที่ห้อง ไม่ได้ออกมาเลย พี่เลี้ยงเอาผลไม้ไปให้แล้ว ดูแล้วเด็กๆ เล่นกันอย่างสนุกสนานครับ” พ่อบ้านพูด
เขาชำเลืองดูพ่อบ้านแล้วถอดเสื้อสูทไว้แล้วเดินขึ้นชั้นบน ที่ชั้นบน ในตอนที่ผ่านห้องเด็กนั้น เขายื่นมือออกไปผลักประตูเบาๆ เพื่อเปิดประตูห้อง ภายในห้องเงียบมาก เมื่อยื่นหน้าเข้าไปก็พบว่าเด็กทั้งสองคนหลับไปแล้ว
ซีซีหนุนพุงของเตียวเตียวจนกลายเป็นรูปตะปู และหลับสนิท
เขาเดินเข้าไปแล้วอุ้มซีซีขึ้นเบาๆ นำเธอไปนอนที่เตียงและห่มผ้าห่มให้ จากนั้นก็หันไปมองเด็กผู้ชายที่นอนอยู่บนพื้นแล้วเดินเข้าไปอุ้มเตียวเตียวขึ้นและเดินไปห้องข้างๆ
ตอนที่เขาวางเด็กชายลงบนเตียงนั้น เตียวเตียวก็ตื่น
เขาสะลึมสะลือและยังง่วงอยู่ แต่มือเล็กๆ ของเด็กน้อยก็จับแขนเสื้อชายหนุ่มไว้แล้วพึมพำ “คุณลุง คุณลุงไม่ชอบผมใช่ไหม?”
ลี่เฉินซีนิ่งไป เขาเพียงแค่เคยได้ยินซูย้าวพูดว่าเด็กๆ นั้นรู้สึกถึงสิ่งต่างๆ ได้เร็ว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้ เขาก้มลงมองเด็กคนนั้น “ทำไมถึงพูดแบบนี้?”
เตียวเตียวขยับไปมาอยู่บนเตียง “ผมดูออก คุณลุงจะส่งผมกลับไปบ้านเด็กกำพร้าอีกรึเปล่า? หรือจะส่งไปต่างประเทศ?”
ลี่เฉินซีขมวดคิ้วมองดูเด็กที่ฉลาดเป็นกรดคนนี้ ใบหน้าเล็กๆ ขาวนุ่มและดูดี อีกทั้งยังดูสวยงาม เมื่อพิจารณาหน้าตาดูดีๆ แล้ว ก็มักจะรู้สึกว่าเขาเหมือนเจิ้งเอ๋อตอนเด็กๆ มาก คงจะเป็นเพราะเด็กๆ ก็หน้าตาคล้ายๆ กันเสียส่วนใหญ่
เขาเกิดใจอ่อนขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุแล้วยื่นมือออกไปลูบจมูกเล็กๆ อย่างไม่คิดแล้วพูดอย่างเรียบเฉย “พูดเพ้อเจ้ออะไรกันนะ? ใครบอกว่าจะส่งหนูไปล่ะ? อย่าคิดเพ้อเจ้อ”
เตียวเตียวพยักหน้าอย่างเชื่อฟังและมองดูลี่เฉินซีลุกขึ้นเพื่อเดินออกไปด้านนอก เขาพึมพำขึ้นอีก “คุณลุง ถ้าคุณลุงไม่ชอบผม ผมจะพยายามไม่มาให้คุณลุงเห็น ผมจะกินน้อยๆ และไม่ทำให้รู้สึกว่ามีตัวตน ผมไปเรียนโรงเรียนธรรมดาก็ได้ พอผมโตหน่อย ผมจะเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ขอเพียงคุณลุงอย่าไล่ผมไปได้ไหมครับ? ผมชอบคุณน้ากับซีซี ผมอยากอยู่ข้างๆ พวกเธอ…”
คำพูดไม่กี่คำของเด็กคนนี้ทำให้เท้าของลี่เฉินซีหนักอึ้ง
จนเขาต้องหยุดเดินและหยุดชะงัก เขาประหลาดใจเล็กน้อยและไม่อยากจะเชื่อ ที่มากกว่านั้นคือความตื่นตระหนก
เขาไม่ชอบเตียวเตียว
ด้วยเหตุผลง่ายๆ เขากลัวว่ามันจะเป็นอันตรายต่อซีซี ลี่เจิ้งและซูย้าว แต่ความคิดทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงความคิดของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น
ตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่เขาได้โต้เถียงกับซูย้าวที่ชั้นล่าง เขาได้ละทิ้งความคิดนี้
รู้สึกว่าตนเองเป็นผู้ใหญ่ไม่ควรจะต้องคิดเลอะเทอะกับเด็กห้าขวบคนหนึ่งจนกลายเป็นอะไรแบบนี้?
ยิ่งกว่านั้นเขาก็ไม่ได้ขัดสนเงินทอง แค่เลี้ยงเด็กอีกคน มันเป็นเรื่องง่ายจะตายไป ไม่ใช่เหรอ?
แต่ตอนนี้เมื่อได้ฟังเด็กคนนี้พูดแบบนี้แล้วในใจก็เกิดความรู้สึกที่ซับซ้อน เขาถอนหายใจอย่างกะทันหัน หันหลังกลับไปนั่งที่เตียง “เด็กน้อยอย่างเธอคิดอะไรกันนะทุกวันนี้?”
เขายื่นมือออกไปลูบหัวเล็กๆ ของเด็กน้อย “เธอเห็นฉันดีกับซีซีมากกว่าหน่อยก็เลยคิดว่าฉันละเลยเธอแล้วใช่ไหม?”
เตียวเตียวกะพริบตาโต ทันใดนั้นรู้สึกง่วงก็หมดไป
ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะปฏิบัติด้วยความต่างจริงๆ แต่จะพูดตรงๆ กับเด็กในตอนนี้ก็ไม่ได้ จึงได้เพียงหาข้ออ้างให้ตัวเอง
“ซีซีเป็นเด็กผู้หญิง ยิ่งกว่านั้นเมื่อก่อนอาก็ทำเรื่องไม่ดีไว้มากมาย ทำให้คุณน้าเจ็บ และติดค้างซีซี ดังนั้นอาจึงต้องพยายามชดเชย เข้าใจรึเปล่า? นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าอาไม่ชอบหนูนะ!”
เมื่อพูดข้ออ้างนี้แล้ว แม้แต่ตัวเขาก็ยังต้องยกย่องตัวเอง เรื่องปลอบเด็ก เมื่อก่อนเขาก็ต้องทำกับลี่เจิ้ง จึงมีประสบการณ์มาไม่น้อย ง่ายๆ มันง่ายมากๆ!
เขาลูบใบหน้าจ้ำม่ำของเด็กน้อยซ้ำแล้วซ้ำเล่าและพูดอย่างช่วยไม่ได้ “หนูเป็นเด็กผู้ชาย ต้องยอมให้น้องสาวมากหน่อย ยังมีอีก เรื่องส่งตัวไปอะไรนั่น? เรื่องกินน้อยๆ หรือเรียนโรงเรียนธรรมดา หรือเรียนไปทำงานไปอะไรนั่น? หนูไปฟังมาจากไหน?”
คำพูดพวกนี้หากให้ซูย้าวได้ยินเข้าแล้วเข้าใจผิดว่าเขาปฏิบัติตัวยังไงกับเด็กคนนี้ ด้วยนิสัยเธอแล้ว คงเอาเขาตายแน่!
ลี่เฉินซีคิดถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่าเตียวเตียวนั้นเป็นพวกตามติดแจ เขาควรจะต้องระวังตัวไว้ถึงจะถูก
“หนูกับซีซี ยังมีเจิ้งเอ๋อ พวกหนูต่างก็เป็นลูกของลุงกับคุณน้า ต่างมีความสำคัญ และได้รับการดูแลเท่าเทียมกัน วางใจเถอะ อาไม่ลำเอียงและไม่ส่งหนูไปไหน เด็กดี นอนเถอะ!” เมื่อเขาลุกขึ้น เขาก็เอนตัวลงอย่างเหมาะสมแล้วจูบหัวเด็ก
จากนั้นลี่เฉินซีก็ออกไปจากห้อง
เขาไม่รู้เลยว่าเพียงการกระทำที่ง่ายๆ และเล็กน้อยแค่นั้นก็ทำให้เด็กคนนั้นดีใจไปอีกนาน
แท้จริงแล้ว เตียวเตียวไม่อาจจะบอกเขาได้ว่า ที่เขาชอบที่สุดนอกจากซูย้าวแล้วก็ยังมีเขาด้วย
ไม่รู้ทำไมแต่เตียวเตียวก็ชอบคุณลุงคนนี้มาก เพียงแค่เห็นเขาก็รู้สึกใกล้ชิดมาก ใกล้ชิดและอยากจะเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา แต่ว่าสายตาของเขาล้วนแต่โฟกัสที่ซีซีทุกครั้งไป…
ลี่เฉินซีออกมาจากห้องแล้วคิดถึงสิ่งที่คุยกับเตียวเตียวเมื่อครู่ เขาครุ่นคิดแล้วรู้สึกว่าควรจะให้คนไปสืบหาพ่อแม่ที่แท้จริงของเด็กคนนี้ดูสักครั้ง เขาอยากจะเห็นหน้าจริงๆ ว่าสุดท้ายแล้วเป็นคนแบบไหนกัน ที่มีลูกชายที่ดีขนาดนี้แต่ก็ยังไม่ต้องการเขาได้ลง!
เมื่อดูเด็กทั้งสองเสร็จแล้ว เขาเตรียมที่จะไปห้องข้างๆ เพื่อดูซูย้าว แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวเท้าไป เสียงพี่เลี้ยงก็ดังขึ้นและรีบเดินตามเขามา “คุณลี่คะ เชิญคุณที่ชั้นล่างเถอะค่ะ”