เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 537
คนที่เคาะประตูแล้วเดินเข้ามาคือชายแปลกหน้าสองคน คนหนึ่งอาวุโสกว่า อีกคนดูอ่อนวัยเล็กน้อย
ลี่เจิ้งอยู่ตรงประตูห้องผู้ป่วยตลอดเวลา ทันทีที่เห็นคนแปลกหน้าทั้งสองเคาะประตูแล้วเดินเข้ามา เขาก็บังคับรถวีลแชร์เดินตามเข้ามาด้วย
เมื่อทั้งสองเห็นซูย้าว ก็รีบเข้าไปแสดงตัวตน “คุณผู้หญิงซูย้าว ใช่ไหมครับ เราเป็นตำรวจนานาชาติผู้รับผิดชอบคดีของจู้สือกรุ๊ป ”
หลังจากที่ลี่เฉินซีมองดู บัตรแสดงประจำตัวก่อนหลังแล้ว พยักหน้าให้ทั้งสองเล็กน้อย แล้วก็เชิญทั้งสองนั่งลงก่อน
รู้สึกว่าเด็กๆอยู่ในสถานการณ์ด้วยไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เขาจึงหันไปมองทางลี่เจิ้ง“เจิ้งเอ๋อ หนูพาน้องชายกับน้องสาวออกไปเล่นก่อน”
ลี่เจิ้งดูออกว่าฐานะทั้งสองต้องไม่ธรรมดา เหมือนกับมีเรื่องใหญ่อะไรจะคุยกับซูย้าวเช่นนั้น สายตาระมัดระวังจ้องไปที่ทั้งสองคน ไม่ยอมขยับออกแม้แต่ก้าวเดียว
ทั้งสองมองดูเด็กๆ คนที่มีอายุดูจะชอบลี่เจิ้งมาก กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า“วางใจเถอะ เราไม่ได้จะมาหาเรื่องแม่ของหนู เรามาเพื่อจะทำความเข้าใจกับสถานการณ์บางอย่างก็เท่านั้นเอง พูดไม่กี่คำ ก็จะไปแล้ว”
เมื่อพูดเช่นนี้ ลี่เจิ้งก็เงยหน้ามองไปทางลี่เฉินซี หลังจากได้รับการยืนยันทางสายตาแล้ว ถึงพาซีซีกับเตียวเตียวออกไปจากห้องผู้ป่วย
หลังจากที่ในห้องเหลือเพียงผู้ใหญ่ไม่กี่คน ตำรวจคนที่มีอายุถึงนำเอกสารออกมาสองฉบับ ขอให้ซูย้าวช่วยดู
เธอดูคร่าวๆ ล้วนเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินของสำนักงานใหญ่จู้สือกรุ๊ป กับรายชื่อตำแหน่งพนักงาน คนที่อาวุโสกว่าพูดอยู่ข้างๆว่า
“คดีของจู้สือกรุ๊ปนี้ เกี่ยวข้องกับหลายส่วน และกระทบกับหลายคนมาก เราได้ตรวจยึดสำนักงานใหญ่ของจู้สือกรุ๊ป กับบริษัทในเครือที่เกี่ยวข้องหลายร้อยบริษัท และก็ได้จับกุมพนักงานที่เกี่ยวข้องบางส่วนแล้ว”
หยุดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นอีกครั้ง“แน่นอนว่า ตามที่เราตรวจสอบมา คุณผู้หญิงซูย้าวไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ คุณเป็นผู้บริสุทธิ์ ต่อไปถ้าขึ้นศาล หากมีความจำเป็น ขอเชิญคุณไปในฐานะพยานด้วย ได้ไหมครับ ”
ก่อนหน้านั้นที่ซูย้าวถูกเรียกไปสอบสวน ก็เคยให้คำมั่นสัญญาไว้แล้ว และในเวลานี้ เธอก็ยิ่งจะปฏิเสธไม่ได้“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา ”
ตำรวจผู้อาวุโสพยักหน้าเล็กน้อย “แต่ว่า ที่เรามาวันนี้ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ก็คือประธานที่แท้จริงของจู้สือกรุ๊ป ผู้ใช้ฉายาJockมาตลอด เกี่ยวกับข้อมูลประวัติของเขา ตรวจไม่พบสักที เกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณซูย้าวพอจะรับรู้อะไรมาบ้างไหมครับ”
“Jockคนนี้หรือ…….” เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ ซูย้าวอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ เธอครุ่นคิดอย่างรอบคอบ แล้วได้เล่าอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการที่ตัวเองได้พบเจอJockและรับปากเข้าร่วมจู้สือกรุ๊ป ตลอดจนประสบการณ์และขั้นตอนการทำงานต่างๆอีกครั้ง ตำรวจหนุ่มข้างๆจดบันทึกอย่างละเอียด ผ่านไปเนิ่นนาน จึงถามขึ้นอีกครั้งว่า“มีเพียงเท่านี้หรือครับ”
ซูย้าวพยักหน้า“ทุกครั้งJockจะใช้โทรศัพท์ติดต่อกับฉัน ทีแรกฉันก็ไม่เคยเห็นหน้าตาเขา แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาคุยกับฉันโดยมีหน้าจอกั้นกลาง แต่มองรูปพรรณสัณฐานไม่ค่อยชัด ยืนยันได้เพียงว่าเป็นผู้ชาย รูปร่าง….เหมือนจะหนึ่งร้อยเก้าสิบกว่า สูงมาก ผอมมาก น่าจะเป็นลูกครึ่ง”
“ทำไมถึงพูดเช่นนี้ล่ะ”
เธอคิดอย่างถี่ถ้วน“เพราะว่าภาษาอังกฤษของเขา มีสำเนียงแบบหนึ่ง และสำเนียงนี้ ไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ ไม่ว่าอย่างไร ตอนที่พูดออกมาจากปากของเขา พูดคล่องมาก ก็เหมือนกับ…….เป็นมาตั้งแต่เล็ก อย่างกับเป็นมาตั้งแต่เกิด ที่สำคัญ ฉันจำได้เคยได้ยินคนพูดว่า Jockคนนี้ ชอบนครฉงชิ่งมาก แทบจะทุกปีจะไปพักอยู่ที่นั่นสักระยะเวลาหนึ่ง”
ที่จริง ซูย้าวไม่ค่อยรู้จักJockผู้ชายคนนี้นัก
สิ่งเดียวที่รู้ ก็คือเขาลึกลับมาก และก็ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมาก
ตอนที่จู้สือกรุ๊ปรุ่งโรจน์ เขาในฐานะประธานผู้บริหาร ไม่เคยออกงานสังคมใดๆเลย และก็ไม่เคยปราก
ตัวต่อหน้าสาธารณชนด้วย ประหนึ่งว่าตั้งแต่เริ่มต้น ก็จงใจซ่อนอยู่ใต้เงามืด ทำให้คนสับสนและคาดเดาไม่ได้
เธอได้เล่าซ้ำอีกครั้งเกือบทั้งหมดที่เธอรู้เกี่ยวกับJock และข่าวที่ได้ยินมา สุดท้าย เธอก็ได้พูดเรื่องของโม่หว่านหว่านด้วย
แน่นอนว่า เธอจงใจปกปิดเตียวเตียวผู้อยู่เบื้องหลัง และใส่ทุกอย่างไปที่โม่หว่านหว่านเพียงคนเดียว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ตำรวจอาชญากรผู้จัดการคดีนี้อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าเที่ยวนี้มาคุ้มจริงๆ ผู้อาวุโสกว่าคนนั้นกล่าวว่า“พูดตามจริง เราหาแฮกเกอร์ผู้ลึกลับคนนี้ มานานมากแล้ว หากไม่ได้ความช่วยเหลือจากเธอ เราก็คงจะไม่สามารถตรวจพบจู้สือกรุ๊ปได้เร็วขนาดนี้ ”
“ควรจะให้เหรียญกับเธอจริงๆ เธอได้ทำความดีหนึ่งเรื่อง วางใจเถอะ เราจะติดต่อคุณโม่ รับประกันความปลอดภัยของเธอให้ดีที่สุด เธอจะเป็นพยานคนสำคัญของคดีนี้”
เมื่อเป็นเช่นนี้ หัวใจที่อยู่ไม่เป็นสุขของซูย้าว จึงวางใจลง
หลังจากส่งตำรวจทั้งสองออกไปแล้ว ซูย้าวก็ให้น้ำเกลือเสร็จพอดี เธอใช้มือกดจุดรอยเลือดที่หลังมือไว้ แล้วขยับตัวลงจากเตียง
นอนอยู่บนเตียงมาทั้งวันแล้ว รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว เมื่อลงมายืดเส้นยืดสายแล้ว ชายตามองไปชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า การสนทนากันเมื่อกี้นี้ ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาเหมือนกันนั่งฟังอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ซูย้าวเดินเข้าไป ใช้มือผลักไปที่ไหล่แข็งแรงของเขา “เป็นอะไรไปหรือ ไม่พอใจหรือ หรือว่ามีเรื่องในใจ”
ดวงตาลุ่มลึกของชายหนุ่มมองมาที่เธอ โดยไม่พูดอะไร แต่มือใหญ่รัดไปที่เอวบางของเธออย่างเผด็จการ ขณะที่ดึงเข้ามาในอ้อมกอด ริมฝีปากบางก็ปิดผนึกเข้าไปบนริมฝีปากของเธอด้วย
หลังจากโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งแล้ว เสียงแหบแห้งของเขาพึมพำอยู่ข้างริมฝีปากของเธอ“ได้ฟังคุณรู้จักผู้ชายคนอื่นดีขนาดนี้ จะดีใจได้หรือ ”
ซูย้าวขมวดคิ้ว“ฉันรู้จักมากหรือ ไม่ใช่หรอก”
เธอรู้จัก Jock น้อยมากเลยนะ
ในทางตรงกันข้าม หากมีคนเข้ามาถามเรื่องของลี่เฉินซี เธอเกือบจะพูดเรื่องนี้ได้ถึงครึ่งค่อนคืนก็พูดไม่จบ
ชายหนุ่มยังคงกอดรัดเธอไว้แน่นๆ ไม่ยอมปล่อยมือ และก็ไม่ยอมให้เธอหนี “ผมรู้สึกว่ารู้จักมากแล้ว คุณบอกผมมาตามตรง ถ้าหากก่อนหน้านั้นคุณไม่กลับมาประเทศจีน คุณกับJockคนนี้จะ………”
ไม่รอให้เขาพูดต่อ ซูย้าวรู้สึกหนาวสั่นจากใจอย่างไม่น่าเชื่อ ยกมือขึ้นปิดริมฝีปากเขาไว้“หุบปาก อย่าพูดไร้สาระ”
เธอกับJockหรือ
นี่มันเรื่องไร้สาระชัดๆไม่ใช่หรือ
ยังไม่พูดถึงว่าชายคนนี้ลึกลับขนาดไหน ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมากแค่ไหน ก็แค่พูดถึงความอันตรายของผู้ชายคนนี้เหอะ ค่าสัมประสิทธิ์เกินลี่เฉินซีไม่เพียงหลายหมื่นเท่า
ง่ายๆเลย ธุรกิจของJockเหล่านั้น ดูผิวเผินมีจริยธรรม แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย คนคนนี้ จะใช้คำว่าคนมีการศึกษาที่ทำความชั่วมาอธิบายไม่ได้แล้ว เป็นคนหน้าซื่อใจคดที่แท้จริง วายร้ายที่แท้จริง
สำหรับลี่เฉินซีนั้นไม่เหมือนกัน เขาเป็นนักธุรกิจที่แท้จริง ถึงแม้นิสัยจะเผด็จการและแกร่งกล้า ในสันดานยังมีนิสัยขี้โกงนิดๆ……แต่สรุปแล้ว โดยภาพรวมก็ยังดี
ลี่เฉินซีตามกวนเธอ สองสามทีก็โยนเธอขึ้นไปบนเตียง ยังไม่รอให้ร่างยาวนอนทับลง ข้างหูก็มีน้ำเสียงสดใสแว่วเข้ามา“พอแล้ว พวกเรายังอยู่นะ พ่อ ยับยั้งชั่งใจบ้าง ”
ร่างกายชายหนุ่มแข็งทื่อ ชายตาเหลือบมองไปทางปากประตูที่จู่ๆร่างน้อยทั้งสามปรากฏตัวขึ้น โดยมีลี่เจิ้งนำหน้า เด็กอีกสองคนล้วนพิงอยู่ข้างรถวีลแชร์ของเขา โดยเฉพาะซีซี แขนน้อยๆสองข้างเกาะลี่เจิ้งไว้แน่นๆไม่ปล่อย ราวกับเป็นต้นไม้ใหญ่
ลี่เฉินซีถอนหายใจอย่างจนปัญญา ลูกๆพวกนี้ ขวางงาน….จริงๆ
ใบหน้าเขินอายเล็กน้อยของซูย้าวแดงก่ำ แล้วผลักชายหนุ่มออกไปจากตัว กระซิบเสียงเบา“หยุดได้แล้ว ลูกๆเห็นเข้าจะไม่ดี”
เขาดูเหมือนจะยิ้มไม่ยิ้ม“ถ้าอย่างนั้น อีกสักครู่หลังจากส่งลูกๆกลับไปแล้ว ได้ใช่ไหม”
“……”
เธอหลับตาอย่างอ่อนแรง“ก็บอกแล้วว่า คืนนี้ให้เตียวเตียวอยู่เป็นเพื่อนฉัน คุณกลับไปอยู่กับลูกชายลูกสาวเลย”
ลี่เฉินซี“……”
นี่ใช้ลูกเป็นข้ออ้างให้เขาไปหรือ
พูดส่วนพูด ยิ้มส่วนยิ้ม พอดูเวลาดึกมากแล้วจริงๆ และซูย้าวก็เร่งให้ลี่เฉินซีพาลูกๆกลับไปเร็วๆ หวางอี้พาลี่เจิ้งกับซีซีไปชั้นล่างก่อน เตียวเตียวไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำอย่างเชื่อฟัง แล้วในห้องก็เหลือเพียงเขาทั้งสองอีกครั้ง
ซูย้าวดึงลี่เฉินซีเข้าไป ยังไม่ทันรอให้เปิดปากพูด ก็ถูกชายหนุ่มยกแก้มขึ้นมาจูบไปที่ริมฝีปาก“เด็กดี รู้ว่าคุณไม่อยากให้ผมไป………..”
เธอตกตะลึงและเขินอาย รีบผลักเขาออก แล้วกล่าวว่า“คุณจริงจังหน่อยได้ไหม ฉันพูดเรื่องจริงจังกับคุณ ฉันรู้สึกว่าเรื่องจู้สือกรุ๊ปไม่ธรรมดา Jockคนนั้น ไม่ถูกจับง่ายๆหรอก ที่สำคัญ คุณรู้สึกไหมว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่จู้สือกรุ๊ปในตอนนี้ ไม่รู้สึกว่ามันง่ายไปหรือ”
สายตาเฉียบคมของลี่เฉินซีเคร่งขรึม “คุณอยากจะบอกอะไรหรือ”