เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 540
ทันใดนั้น ราวกับชีวิตกลับไปสู่ภาวะปกติ ชีวิตที่เรียบง่าย เหมือนชีวิตของครอบครัวทั่วไป ไม่ต่างกันเลย
หากสามารถเป็นอย่างนี้ตลอดไป ก็คงจะดี
ซูย้าวให้ความร่วมมือในการรักษาอย่างดีที่สุด ขั้นตอนในการเลิกยาถึงแม้จะช้ามาก แต่ก็เห็นผล
อย่างน้อยที่สุด ความเจ็บปวดที่กำเริบในช่วงกักตัวแรกๆ ได้ค่อยๆบรรเทาลงมากแล้ว จากที่เมื่อก่อนจะต้องฉีดยาแก้ปวดถึงจะได้รับการบรรเทา มาถึงตอนนี้แค่ร่วมมือในการให้น้ำเกลือก็เท่านั้น
หลังจากผลการตรวจเช็กล่าสุดของเธอออกมาแล้ว คุณหมอหลี่ก็ได้บอกข่าวดีกับเธอว่า รักษาอีกระยะหนึ่ง เธอก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซูย้าวดีใจมาก เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่า สุขภาพร่างกายของตัวเองจะสำคัญเช่นนี้
และก็ไม่เคยคิดว่า จะมีคนคิดถึงความอยู่ดีมีสุขและสุขภาพของเธอ หรือแม้แต่ห่วงใยเธออยู่ตลอดเวลา ความรู้สึกที่มีที่พึ่งแบบนี้ ทำให้รู้สึกมั่นคงอุ่นใจมาก
อาจจะเป็นเพราะว่าเร่ร่อนมาห้าปี เหมือนหัวใจดวงนี้ล่องลอยอยู่บนทะเลมานาน สั่นคลอนเหมือนจะตกลงทะเล แล้วจู่ๆก็มีเกราะกำบังความปลอดภัยของชีวิต การรังเกียจและปฏิเสธตั้งแต่เริ่มแรกของเธอ ตอนนี้ได้ค่อยๆยอมรับ และซึมซับเข้ากับมันแล้วจริงๆ ถึงรู้สึกว่ามันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เธอคิด
ในทางตรงกันข้าม ลูกๆมีพ่อ เธอก็มีที่พึ่งแล้ว นี่อาจจะเป็นทางเลือกและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก็ได้
หลังจากให้น้ำเกลือหมดแล้ว เธอจึงนั่งเหม่อลอยอยู่ในห้องผู้ป่วยเพียงคนเดียว แล้วในหัวสมองก็ครุ่นคิดอย่างงุนงง เธอมองดูลำแสงเจิดจ้านอกหน้าต่างยามบ่ายที่ล้นเข้ามาเต็มห้อง ก็เหมือนกับหัวใจของเธอ ค่อยๆละทิ้งหมอกควันทั้งหมด แล้วแทนที่ด้วยความสว่างไสวที่ไม่สิ้นสุด……..
“เคาะ เคาะ เคาะ ”เสียงเคาะประตูอย่างกะทันหัน ทำให้ความคิดของเธอหยุดลง
ซูย้าวลืมตาขึ้นเล็กน้อย ประตูห้องถูกคนผลักออกจากข้างนอก คนที่เข้ามา ทำให้เธอตะลึงไปครู่หนึ่ง
ชายหนุ่มในชุดสูทรองเท้าหนัง รูปร่างสูงยาวมาก เดินตัวตรงก้าวเท้าเข้ามาอย่างมาดมั่น รวมทั้งบุคลิกที่ชอบไปไหนมาไหนคนเดียวเป็นเงาตามตัวเขา แม้แต่ใบหน้าชั่วร้ายหล่อเหลา ก็ดูดีราวเทพเจ้า
เพียงแต่ซูย้าวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เธอมองดูคนที่ปรากฏตรงหน้าอย่างประหลาดใจ แล้วค่อยๆเปิดปาก“ประธานเพ้ย ท่านมาได้อย่างไรคะ”
เพ้ยส้าวหลี่เดินไปข้างเตียงผู้ป่วย ดวงตาสีดำคู่ลึกราวทะเล ที่เต็มไปด้วยความเร้นลับที่คนอื่นยากจะเข้าใจ เขามองดูเธอ หัวเราะสดใสก่อน แล้วกล่าวขึ้นว่า“ผมมาเยี่ยมคุณ”
ซูย้าวสังเกตดูชายหนุ่มตรงหน้า ยังเหมือนเมื่อก่อนไม่เปลี่ยนแปลง เพียงแต่เวลานี้ ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชานั้น มีความรู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย ถึงแม้จะยิ้ม แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ยิ้มจากใจ แม้แต่หว่างคิ้ว ก็ขมวดแน่นเข้าหากัน ดูเหมือนจะเหนื่อยมาก
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง“มีเรื่องอะไรหรือ”
เขานั่งลงเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ มองดูเธอตาไม่กะพริบ“เพียงแค่มีดูคุณ ขอโทษด้วย ที่มาช้า”
ระยะเวลาในช่วงนี้ จากที่ทางจู้สือกรุ๊ปมีข่าวคราวก่อกวนออกมาบ่อยๆ เขาก็ถูกโยงเข้าไปด้วย ให้ความร่วมมือทางตำรวจในการตรวจสอบนานมาก รอดพ้นจากความสงสัยอย่างหวุดหวิด ส่วนบริษัททางนี้ ก็มีปัญหาบางอย่าง
เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับสถานการณ์ทางซูย้าว หลังจากที่รู้ว่าเธอถูกคนวางยาจนกลายเป็นการเสพติด เขาอยากจะมาอยู่ข้างกายเธอในเวลานั้นโดยเร็วที่สุด แต่เขาในตอนนั้น…….ไม่อาจแยกร่างได้จริงๆ
ดวงตาคู่ลึกของชายหนุ่มจ้องไปที่เธอ เขายื่นมือขาวสะอาดข้างหนึ่งกุมไปที่นิ้วมือของเธอ“ขอโทษ ผมควรจะมาเร็วกว่านี้หน่อย”
ซูย้าวรู้สึกแปลกๆ แต่ยังยิ้มจางๆอย่างเกรงใจ ดึงมือกลับอย่างมีมารยาท “ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ว่าแต่ประธานเพ้ย ฉันดูคุณสีหน้าไม่ค่อยดี ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”
เขาจงใจหลบเลี่ยงไม่ตอบ ยังคงมองดูเธอ นิ่งไปครู่หนึ่ง เมื่อเปิดปากพูดอีกครั้ง คำพูดนั้นทำให้คนประหลาดใจ “คุณเลือกจะให้อภัยเขาหรือ ”
เขา ในปากของเพ้ยส้าวหลี่ หมายถึงใครนั้น ซูย้าวเข้าใจดี
เพียงแต่เธอไม่เคยคิดจู่ๆจะพูดถึงเรื่องนี้ ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วเธอก็พูดขึ้นว่า “ประธานเพ้ยเป็นห่วงมากหรือ”
หว่างคิ้วชายหนุ่มขมวดเข้ม ยิ่งแต่ละคำพูดที่เธอเรียก ‘ประธานเพ้ย’ยิ่งรู้สึกอึกอัก แต่ก็ไม่สะดวกแก้ไขให้ถูกต้อง ทำได้เพียงพูดต่อช่วยไม่ได้“ผมเป็นห่วงคุณมากมาตลอด”
ถ้อยคำเรียบง่ายจากปากของเขาด้วยน้ำเสียงแหบเบา มีความรู้สึกกำกวนขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ซูย้าวชะงักไปเล็กน้อย ก้มหน้าลง จงใจหลบสายตาเร่าร้อนของเขา “ฉันเพียงแค่ให้โอกาสเขาอีกครั้ง ไม่ว่าอย่างไร เขาก็เป็นพ่อของลูกฉัน”
และเป็นชายหนุ่มที่เธอเคยรักมากที่สุดด้วย
เมื่อเพ้ยส้าวหลี่ได้ยินเช่นนั้นปรากฏว่าเขายิ้ม ยิ้มเย้ยหยันอย่างเปิดเผย“แค่นี้เองหรือ หากเป็นเช่นนี้ ก็อิจฉาเขาเล็กน้อยจริงๆ”
ซูย้าวอึ้งไปเล็กน้อยอีกครั้ง จนเงยหน้าขึ้นมองไปทางชายหนุ่ม แต่ดวงตาของเขาลึกเหมือนทะเล ลุ่มลึก จนเธออ่านไม่เข้าใจ
ชายหนุ่มเอนกายไปข้างหลัง ร่างกายที่สูงใหญ่พิงไปที่พนักเก้าอี้ มองดูเธอด้วยสายตาซับซ้อนเล็กน้อย “ถึงแม้ว่าระหว่างพวกคุณจะไม่มีลูก คุณก็จะพยายามหาข้ออ้างร้อยอย่าง เพื่อให้อภัยเขา”
ซูย้าวเลือกที่จะเงียบ
หากไม่มีลูก……..
นี่เป็นเพียงการสมมติ เธอไม่อยากคาดเดาสรุปอะไรมั่วๆโดยอ้างอิงความคิดแปลกประหลาด
“แต่คุณเคยคิดไหมว่า การให้อภัยและข้ออ้างของคุณ เขาจะเห็นเป็นอะไร ”เพ้ยส้าวหลี่ก้มตัวลงเล็กน้อย ข้อศอกยันเข่าไว้ สายตาเร่าร้อนที่เริ่มมีแสงอาฆาต“เมื่อห้าปีก่อน คุณทำเพื่อเขามากมายขนาดนั้น เขายังไม่รักคุณเลย แล้วตอนนี้เขาจะรักคุณหรือ ”
“คุณเข้าใจจริงๆไหมว่า การทำให้เสเพลกลับใจ จำเป็นต้องเสียสละมากเท่าไหร่ คุณน่าจะรู้จักเขาดีกว่าผม หากไม่มีผลประโยชน์ปนอยู่ด้วย เขาจะเลือกคุณจริงๆหรือ ”
เพ้ยส้าวหลี่พูดคำแล้วหยุดครู่หนึ่ง ก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกไม่ดีที่แสดงออกมาบนใบหน้าของซูย้าว เขากัดริมฝีปากเบาๆ“ที่ผมพูดไม่ใช่ว่าผมต้องการจะขัดขวางอะไรคุณ เพียงแค่เตือนคุณ ยาขมเป็นยาดี คำหวังดีฟังไม่เข้าหู จะต้องมีคนคนหนึ่งยอมเป็นบทบาทคนเลว”
เขาลุกขึ้นทันที ร่างสูงใหญ่ราวภูเขากดลงไปทางซูย้าว เห็นสีหน้าตื่นตระหนกและตกใจของเธอ พร้อมกับการขัดขืน เขาเพียงแค่กระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย สองมือยันไว้ตรงข้างหน้าอกเธอ ด้วยท่าทางสนิทชิดเชื้อแบบนี้ ก้มมองดูเธอ“ คุณควรจะคิดดูดีๆ คุณอยากจะเหมือนผู้หญิงทั่วไปพวกนั้น เพื่อลูก ยอมที่จะหาใครสักคนเพื่อให้ผ่านครึ่งหลังของชีวิตไปหรือ หรือว่าต้องการจะได้คนที่รักคุณจริงๆ เห็นคุณเป็นคนของชีวิต ”
“ระหว่างพวกคุณ เขาทำเพื่อลูกจริงๆ เพียงเท่านั้นหรือ นอกจากนี้แล้ว ยังมีสิ่งที่ลึกซึ้งกว่านี้ ที่เขาจงใจจะปกปิดอะไรคุณไว้หรือเปล่า…..”
เขาลากเสียงยาว มือเรียวยาวข้างหนึ่งลูบไปที่แก้มของเธอ ถูกซูย้าวปัดออกอย่างเย็นชา นิ้วมือเคว้งคว้างอยู่กลางอากาศ แต่ก็ไม่แปลกใจ ในทางตรงกันข้าม บนใบหน้าหล่อเหลาเย็นชานั้น มีความรู้สึกเหมือนพรานไล่ล่า และแม้แต่คำที่พูดต่อ ก็โน้มน้าวใจ ราวกับคาถาเร่งชีวิตที่ยั่วยวน
“คุณเป็นผู้หญิงที่ฉลาดคนหนึ่ง แต่ขอร้องคุณ ในด้านของความรู้สึก ให้ตื่นตัวบ้าง ใช้หัวสมองบ้างเถอะ ”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ เพ้ยส้าวหลี่ก็ลุกขึ้น ก่อนจะก้าวออกไปข้างนอก ก็จ้องมองเธอลึกๆอีกครั้ง ยกมือขึ้นทำท่าทางชี้ไปที่ตำแหน่งหัวสมองของตัวเอง แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม“บางเรื่อง ยังต้องการให้คุณไปค้นพบเองจะดีกว่า ”
ซูย้าวมองดูชายหนุ่มหันหลังเดินออกข้างนอกไปอย่างเงียบๆ เงาหลังที่ทระนง กับถ้อยคำก่อนหน้านั้น เหมือนเข็มเหล็กทิ่มแทงแก้วหูเธออย่างแรง
ระหว่างเธอกับลี่เฉินซี…….
มีความรักกันจริงๆหรือ
สิ่งที่เขาทำทั้งหมดนี้ นอกจากองค์ประกอบลูกแล้ว เขาเคยมีความจริงใจไหม
เมื่อห้าปีก่อน เขาเคยแต่งงานกับเธอ ในตอนนั้นเป็นการแต่งงานที่ไม่มีความรัก เขามีเพียงภาระหน้าที่และความรับผิดชอบต่อเธอเท่านั้น กับลูกเพียงแค่เต็มที่กับหน้าที่ของพ่อคนหนึ่ง แสดงอยู่ช่วงเวลาหนึ่งจนทำให้คนนอกดูไปแล้วเป็นชีวิตที่น่าอิจฉา
แต่ทั้งหมดนี้ ก็ดูเหมือนเป็นหลุมกับดักความอ่อนโยน ที่ทำให้ตกลงไป และทำให้เธอกลัว
ชีวิตในอนาคตข้างหน้า อาจจะยังมีเวลาหลายสิบปี จะผ่านมันไปเช่นนี้หรือ กับคนที่ไม่รักตัวเองเลยสักนิด แต่เพื่อลูกเท่านั้น……….
นอนเตียงเดียวกันแต่คนละความฝัน จะกลายเป็นคนแปลกหน้าที่คุ้นเคยที่สุดอีกครั้งหรือ