เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 583
เขาไม่ได้คุกคาม และก็ไม่ได้ข่มขู่ ซูย้าวเข้าใจคำพูดของเขาทุกคำ และเมื่อมองดูสายตาของผู้ชายคนนี้แล้ว เธอก็เข้าใจได้เลยว่าเขาจะทำอย่างที่พูดจริงๆ
แต่เมื่อมันเป็นอย่างนี้มากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งกระตุ้นหัวใจของเธอมากขึ้นเท่านั้น เธอไม่เคยอ้างว่าตัวเองเป็นคนดี แต่เมื่อเธอถูกคนอื่นยัดเยียดความผิดเช่นนี้ เธอก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
ซูย้าวรีบซ่อนแววตาไม่สบายใจจากชายตรงหน้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอ็คลี่ยิ้มออกมา “ได้สิ งั้นก็เสียใจด้วยนะ! เพราะถึงยังไงฉันก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว แต่แค่คิดไม่ถึงเลยนะว่า เมื่อเทียบกับประธานลู่ที่เป็นสามีของหล่อนแล้ว คุณลี่จะดูให้ความสนใจหล่อนมากกว่าเสียอีกนะ เป็นไปได้ไหมว่า… คุณกับคุณนายลู่จะความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างกัน?”
ดวงตาที่เฉียบคมของลี่เฉินซีหลุบลง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรออกมา ซูย้าวก็แสดงสีหน้าราวกับว่าขอโทษออกมาทันที เธอขมวดคิ้วมุ่น บนใบหน้าที่บริสุทธิ์ของเธอ มีความรู้สึกผิดปรากฏขึ้นมาเล็กน้อย เธอกล่าวโทษตัวเอง และโค้งคำนับให้ชายคนนั้นอย่างเคารพ “ฉันขอโทษจริงๆ ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าคุณจะมีความสัมพันธ์แบบนั้นกับคุณโม่”
เธอหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็พูดออกมาอีกว่า “แต่คุณวางใจเถอะ ฉันจะไม่เอาเรื่องนี้ไปพูดอย่างแน่นอน และจะไม่เอาเรื่องพวกนี้ไปบอกประธานลู่ด้วยเหมือนกัน”
คิ้วของลี่เฉินซีขมวดเข้าหากันจนดูน่ากลัว นี่มันเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย? !
เขาไปมีความสัมพันธ์กับโม่หว่านหว่านตั้งแต่เมื่อไหร่?
เขารู้สึกตกใจ อีกทั้งยังรู้สึกประหลาดใจไปพร้อมๆ กัน ซูย้าวเดินผ่านเขาไปเรียบร้อยแล้ว
ลี่เฉินซีถอนหายใจออกมา จากนั้นเขาก็หมุนกลับมา และจับข้อมือของเธอเอาไว้อีกครั้ง เขาเดินเข้าไปยืนขวางเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอเดินต่อไปได้อีก ดวงตาที่เย็นชาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย จากนั้นความโกรธก็แทรกซึมเข้ามา
เขาจ้องมองไปที่เธอ และตอนนี้สีหน้าที่อยากจะขอโทษของเธอก่อนหน้านี้ มันก็หายไปนานแล้ว
ดูเหมือนว่า ริมฝีปากของเธอจะเอ่ยคำว่า “ขอโทษ” ออกมา แต่ความจริงแล้วเธอไม่ได้รู้สึกอยากจะขอโทษเลยแม้แต่น้อย เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ อย่างหมดหนทาง ตอนนี้อารมณ์ของเขามันเต็มไปด้วยความโกรธ แต่น้ำเสียงที่เขาพูดออกมามันยังคงแผ่วเบา “มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ผมกับหล่อนไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแบบนั้น หล่อนเป็นแม่บุญธรรมของลูกๆ ของผม และตลอดระยะเวลาสองปีที่ผ่านมานี้ หล่อนก็ดูแลลูกๆ ของผมอย่างดีมาโดยตลอด…”
เขาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาต้องมาอธิบายเรื่องนี้ด้วย ถ้าเธอเป็นซูย้าวเหมือนอย่างแต่ก่อน เธอก็คงจะไม่มีความคิดแบบนี้หรอก
ลี่เฉินซีครุ่นคิดเกี่ยวกับมันอีกครั้ง จากนั้นเขาก็พูดต่อไปอีกว่า “คุณโม่สำหรับพวกเราแล้ว ไม่ใช่แค่ผม หรือพวกเด็กๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงคุณด้วย หล่อนเป็นคนที่สำคัญมาก ซู…”
เขากำลังจะเรียกเธอว่า “ซูย้าว” อีกครั้งโดยไม่รู้ตัว แต่เมื่อคำพูดนั้นมาถึงริมฝีปากของเขา เขาก็หยุดยั้งมันเอาไว้
ไม่ใช่ว่าเขารู้สึกว่าตัวเองเรียกชื่อเธอผิด แต่เมื่อเขาเห็นความเย็นชาในดวงตาของซูย้าวแล้ว มันก็ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าเธอรู้สึกเฉยเมยต่อทุกสิ่ง และไม่ได้สนใจอะไรเลยแม้แต่น้อย
ความแตกต่างเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าคุณจะสามารถปิดบังมัน หรือคุณจะแสดงเอาได้
มันมาจากใจของเธอจริงๆ
เธอไม่ได้ให้ความสนใจกับโม่หว่านหว่าน หรือแม้แต่เขาเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าทุกคนเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเธอ
เมื่อซูย้าวได้ยินเขาพูดเรื่องพวกนี้ เธอก็หลับตาลงครู่หนึ่ง และยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรออกมาอีก เธอก็ปัดมือของผู้ชายคนนั้นออกไปเสียก่อน และเมื่อเธอลืมตาขึ้น ใบหน้าของเธอก็ปรากฏรอยยิ้มจางๆ ออกมา แต่มันก็เป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้มาจาก จากนั้นเธอก็แสร้งพูดออกไปว่า “ขอบคุณคุณลี่นะคะที่บอกฉัน ตอนนี้ฉันรู้แล้ว ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
เธอพูดออกมาอย่างสุภาพ เพราะเธอเอาแต่เรียกเขาว่า ‘คุณลี่’ ตลอด
คิ้วของลี่เฉินซีขมวดเข้าหากันแน่น จากนั้นเขาก็จับข้อมือของเธอเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย และกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและแข็งทื่อว่า “เดี๋ยวก่อน เรายังไม่รู้เลยว่าอาการของหว่านหว่านจะเป็นยังไงบ้าง คุณยังไปไม่ได้”
ซูย้าวรู้สึกตกใจขึ้นมาทันที “คุณลี่ยังคิดว่าอาการของคุณนายลู่ที่เป็นอยู่ตอนนี้ มันเกี่ยวกับฉันอีกเหรอคะ?”
ตอนนี้เธอรู้แล้วว่า เธอไม่น่าจะทำตัวเป็นคนดีเลย และเธอไม่น่าเข้ามายุ่งกับเรื่องน่ารำคาญแบบนี้ด้วย
สถานการณ์ที่นี่ก็ดีขึ้นแล้ว และธุระของเธอก็ยังไม่เสร็จ เพราะอย่างนั้นเธอจึงอยากจะปลีกตัวออกไปก่อน และในตอนนี้ ถ้าหากความสัมพันธ์ของบริษัทLGต้องพังทลายลง ทุกอย่างในอนาคตก็คงจะไม่คืบหน้า…
ลี่เฉินซียกมือขึ้นมาคลายเนกไทออก ลูกกระเดือกที่ดูดีของเขาขยับขึ้นลงเล็กน้อย และยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรออกไปสักสองสามคำ ไฟสีแดงด้านบนห้องคลอดก็ดับลง
เขาเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นมัน เพราะอย่างนั้นเขาจึงลากซูย้าวให้เดินไปที่หน้าห้องคลอดอย่างรวดเร็ว ประตูห้องผ่าตัดถูกผลักให้เปิดออก และคนที่ออกมาก่อนก็คือพยาบาล
ลู่ส้าวหลิงก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เขาเปิดปากออกเล็กน้อยเพื่อที่จะถาม แต่คำถามของเขามันก็ติดอยู่ที่คอ
เมื่อพยาบาลเห็นท่าทางที่แข็งทื่อและพูดไม่ออกของเขา หล่อนก็รู้ได้ในทันทีว่าเขารู้สึกกังวลใจมากแค่ไหน หล่อนจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “ยินดีด้วย ค่ะประธานลู่ ตอนนี้ปลอดภัยดีทั้งแม่และลูกแล้ว คุณได้ลูกชายค่ะ ตอนนี้คุณได้เป็นคุณพ่อแล้วนะคะ! ”
จู่ๆ ลู่ส้าวหลิงก็รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองตกลงมาจากที่สูงอย่างไรอย่างนั้น เขาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นเขาก็ถามพยาบาลที่กำลังจะเดินออกไปว่า “ขอโทษนะครับ ภรรยาของผมเป็นยังไงบ้าง?”
พยาบาลตอบกลับมาว่า “ภรรยาของคุณลู่ปลอดภัยดีค่ะ การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี หมอจะอธิบายรายละเอียดให้คุณฟังในภายหลังนะคะ”
หลังจากที่พูดจบ พยาบาลก็ปลีกตัวเดินออกไป
ซูย้าวมองตรงไปที่ชายหนุ่มสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาโล่งอกขึ้นมาทันที เธอเหลือบไปมองที่ลี่เฉินซีด้วยหางตา เมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดเผือดของเขา เธอก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะพูดว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน แต่เขาก็ดูวิตกกังวลมากเลยจริงๆ …
หมอเดินออกมาจากห้องคลอด จากนั้นเขาก็อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับอาการของโม่หว่านหว่านให้ลู่ส้าวหลิงฟังอย่างละเอียด และหลังจากที่เขาพูดออกมาได้ไม่กี่คำ พยาบาลก็อุ้มทารกและเข็นเตียงผู้ป่วยที่โม่หว่านหว่านกำลังนอนไม่ได้สติออกมา
คุณแม่ถูกส่งไปที่ห้องพักผู้ป่วยก่อน จากนั้นพยาบาลจึงนำทารกไปให้ลู่ส้าวหลิงดู ทารกตัวเล็กมาก เขาถูกห่อหุ้มด้วยผู้อ้อม ตัวเล็กๆ ผิวขาวๆ และตา เรียวเล็กของเขายังคงปิดสนิท
ลู่ส้าวหลิงก้มลงไปมองที่เด็กน้อยแวบหนึ่ง จากนั้นเขาก็หันมาพูดว่า ‘เฉินซี นายช่วยดูลูกให้ฉันหน่อย ‘ จากนั้นเขาก็รีบร้อนไปที่ห้องพักผู้ป่วยทันที
ซูย้าวมองตามผู้ชายคนนั้นที่กำลังวิ่งออกไปดูอย่างเร่งรีบ เมื่อมองดูแล้วก็สามารถบอกได้ว่า ลู่ส้าวหลิงห่วงใยภรรยาของเขา มากกว่าลูกของเขา
ลี่เฉินซีอุ้มเด็กน้อยเอาไว้ และเขาก็มองดูเด็กน้อยด้วยความสงสัย ทารกที่เพิ่งเกิดก็มีความแตกต่างกันไม่มากเท่าไหร่นัก เพียงแต่เด็กคนนี้ขาวมาก บนศีรษะของเขามีกลุ่มผมสีดำขึ้นมาประปราย มองดูแล้ว รู้สึกน่ารักมากอย่างบอกไม่ถูก
เธออดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปลูบมัน และเธอก็ไม่ได้สนใจชายที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอเลยแม้แต่น้อย และตอนที่เธอกำลังยื่นมือออกมานั้น ชายคนนั้นก็เอ่ยปากถามออกมาว่า “ชอบมากเลยเหรอ?”
ซูย้าวตกตะลึงไปครู่หนึ่ง และมือของเธอที่ยื่นออกไปก็นิ่งค้างอยู่กลางอากาศ
ชายคนนั้นมองเธอด้วยสายตาพร่ามัว และความรู้สึกของเขามันก็รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ “ตอนนั้นที่เจิ้งเอ๋อเพิ่งเกิด หล่อนก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน…”
เสียงของเขาลากยาว ดวงตาของเขานุ่มนวล อีกทั้งยังดูลึกล้ำ “แล้วก็ยังมีหมิงเอ๋อกับซีซีด้วย”
เห็นได้ชัดว่าซูย้าวผงะไปครู่หนึ่ง เธอลดมือของตัวเองที่นิ่งค้างอยู่กลางอากาศลง จากนั้นเธอก็หันไปมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “คุณลี่ คุณคิดว่าฉันเป็นอดีตภรรยาของคุณอีกแล้วเหรอ?”
คิ้วหนาของเธอมันเต็มไปด้วยความเศร้าโศก “เป็นแบบนี้มันไม่ดีหรอกนะ คนเราต้องอยู่กับปัจจุบัน ไม่ใช่อดีต และคุณลี่ก็ต้องเรียนรู้ที่จะก้าวเดินออกมาอย่างช้าๆ ”
เมื่อเธอพูดจบ เธอก้าวถอยหลัง และพยายามหลีกเลี่ยงทารกที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา แล้วพูดออกไปอีกว่า “ดูเหมือนว่าคุณนายลู่จะไม่เป็นอะไรแล้ว ถ้าอย่างนั้น ความสงสัยที่คุณมีต่อฉันมันก็คงจะกระจ่างแล้ว? ฉันก็คงจะบอกลาคุณได้แล้วใช่ไหม!”
ขณะที่เธอพูด ใบหน้าสวยของเธอก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา จากนั้นเธอก็หันหลังและเดินจากไป แต่ชายที่อยู่เบื้องหลังกลับเอ่ยปากรั้งเธอเอาไว้อีกครั้ง
“คุณอาน”
ครั้งนี้เขาจงใจเปลี่ยนชื่อที่ใช้เรียกเธอ
ซูย้าวที่กำลังก้าวเดินออกไปข้างหน้าก็หยุดชะงักลงอีกครั้ง เธอหันกลับมามองเขา “มีอะไรอีก?”
ลี่เฉินซีอุ้มทารกเอาไว้ในอ้อมแขนและเดินตรงเข้าไปยืนข้างๆ เธอ จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ส่งทารกที่อยู่ในอ้อมแขนมาให้เธออย่างช้าๆ “คุณช่วยผมดูแลเด็กสักครู่หนึ่งได้ไหม ผมยังต้องไปจัดการเรื่องทางโน้นหน่อย”
“หา……”
ซูย้าวรู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันที่เธอจะเอ่ยปฏิเสธออกไป ชายคนนั้นก็ส่งเด็กมาไว้ในอ้อนแขนของเธอเรียบร้อยแล้ว
เด็กน้อยตัวเล็กมาก อีกทั้งยังเพิ่งเกิดได้ไม่นาน จู่ๆ ก็เข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของซูย้าว แม้ว่าในตอนแรกเธอจะพยายามต่อต้านมัน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รับเด็กน้อยเข้ามาไว้ในอ้อมแขนโดยไม่รู้ตัว และพยายามเคลื่อนไหวร่างกายอย่างระมัดระวัง
หลังจากที่เธอรับเด็กน้อยมาอุ้ม และเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ลี่เฉินซีก็วิ่งไปที่ห้องพักผู้ป่วยเรียบร้อยแล้ว
ซูย้าวผงะไปครู่หนึ่ง เธอรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นเธอก็เดินตามเขาไปพร้อมกับอุ้มเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขน ขณะที่เดินเธอก็ถามเขาออกไปด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ “คุณลี่ นี่มันไม่ค่อยเหมาะรึเปล่า? ให้พยาบาล หรือว่าพยาบาลรับจ้างมาดูแลเด็กเถอะ!”
และในขณะที่เธอพูด เธอก็ก้มหน้าลงไปมองทารกที่อยู่ในอ้อมแขนของเธอไปด้วย เด็กน้อยน่ารักมากจริงๆ ปากเล็กๆ ของเขาขยับขึ้นลงเล็กน้อย ราวกับว่าเขากำลังมองหาอะไรบางอย่าง และก็เหมือนกับว่าเขากำลังหิว ถึงได้ขยับปากขึ้นลงแบบนี้
ซูย้าวขมวดคิ้วมุ่น จากนั้นเธอก็พูดออกไปว่า “ดูเหมือนว่าเด็กน้อยจะหิวแล้ว…”
ขณะที่เธอพูด เธอกับชายคนนั้นก็เดินมาถึงประตูห้องพักผู้ป่วย VVIP พอดี ลี่เฉินซีผลักประตูเข้าไปในห้อง แต่ซูย้าวกลับหยุดนิ่งและเอาแต่ยืนอยู่ที่หน้าประตู
ลี่เฉินซีก้าวออกไปด้านหน้าสองก้าว เมื่อรู้สึกว่าด้านหลังไม่มีคนเดินตามเข้ามา เขาจึงหันหลังกลับไปมองที่เธอ คิ้วบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาขมวดเข้าหากัน จากนั้นเขาคลี่เผยรอยยิ้มที่ดูนุ่มนวลและอ่อนโยนออกมา “รอผมอยู่ที่นี่ เดี๋ยวผมมีเรื่องที่อยากจะพูดกับคุณ”