เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 84
บทที่ 84 เป็นผู้หญิงที่ซื่อจริง ๆ
“สวัสดีค่ะ ที่นี่คือสถานีหน่วยกู้ภัยเขตสาม ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ช่วยเหลือไหมคะ?”
“สวัสดีค่ะ? ไม่ทราบว่าได้ยินไหมคะ?”
“ฮัลโหล?”
เสียงผู้หญิงส่งมาจากสายตรงข้าม แต่หลังจากถามคำถามที่ไร้คนตอบแล้วสายก็ถูกวางไป
ซูย้าวได้แต่มองสายที่ถูกตัดแล้วถอนหายใจดัง ๆ จากนั้นเธอมองชายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสคนนั้น เลือดในบาดแผลบนร่างกายของเขายังคงไหลอย่างไม่หยุด……
ฉันต้องทำอย่างไร?
ซูย้าวพยายามใช้ผ้ากดตรงบาดแผลเพื่อห้ามเลือดแล้วมองไปรอบ ๆ ห้องเพื่อหาชุดประถมพยาบาลภายในบ้าน
ไม่มีอะไรเลย!
เธอวิ่งออกไปนอกวิลล่าและมองไปรอบ ๆ นอกจากความมืดสี่ด้านแล้วเธอไม่เห็นอะไรเลย
เธอควรทำอย่างไรดี?
เธอหันกลับมาด้วยความกังวล เธอเห็นลี่เฉินซีที่นอนอยู่บนพื้น ใบหน้าของเขาเริ่มซีดเซียวเพราะเสียเลือดมากเกินไป แม้แต่ริมฝีปากของเขาก็ซีดเซียวเหมือนผู้ป่วยสาหัส
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เขาอาจจะ……อันตรายถึงชีวิตแล้วจริง ๆ!
โอ้วพระเจ้า! ซูย้าวเกลียดตัวเองที่เป็นใบ้ เธอไม่สามารถพูดได้ เรื่องง่าย ๆ แค่นี้แต่ตัวเองกลับ……
เธอดิ้นรนอยู่สักพัก ตอนนี้เริ่มมั่นใจแล้วว่าเธอหยุดเลือดบนบาดแผลของเขาได้แล้ว แต่เนื่องจากแอลกอฮอล์ในร่างกายและอาการบาดเจ็บยังทำให้เขาอยู่ในสภาพที่หมดสติอยู่
เมื่อตรวจดูบาดแผลบนร่างกายของเขาแล้วเธอเห็นบาดแผลที่แขนใหญ่มาก ส่วนบาดแผลบนหัวก็อาจจะต้องเย็บหลายเข็มเลย
เธอจะนั่งอยู่นิ่งเฉยรอให้ความตายมาเยือนไม่ได้ เธอต้องออกไปขอความช่วยเหลือ
โดยด่วนที่สุด!
ซูย้าวดูให้แน่ใจว่าลี่เฉินซียังหายใจอยู่ เธอจึงรีบออกไปอย่างเร่งรีบ เธอเดินบนถนนยามค่ำคืนในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยนี้ มันช่างยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน
ก้อนเมซเริ่มก่อตัวและท้องฟ้าร้องสนั่นอย่างไม่หยุด
เธอไม่มีเวลามาใส่ใจสิ่งเหล่านี้ ในใจคิดเพียงว่ารถที่มาส่งเธอก่อนหน้าได้ขับผ่านถนนเส้นนี้ ลมเริ่มกระโชกแรงขึ้นเรื่อย ๆ ต้นไม้รอบ ๆ สั่นไหว ไม่นานหลังจากนั้นฝนตกเทลงมา
ฝนฟ้ากระหน่ำทำให้เธอเปียกและหนาวไปทั้งตัว
อุณหภูมิในปารีสต่ำว่าที่จีนมาก
เสื้อผ้าบาง ๆ ไม่สามารถกันความหนาวเย็นในขณะนี้ได้ และเส้นทางที่เต็มไปด้วยโคลนมันยากที่จะเดินเพราะเธอสวมรองเท้าส้นสูงอยู่ เธอจำเป็นต้องถอดรองเท้าแล้วเดินด้วยเท้าเปล่า
หลุมบ่อเต็มไปด้วยน้ำขังและเศษหินกับเศษไม้ ทำให้ข่วนเท้าของเธอจนเจ็บปวดอย่างเหลือทน
ไม่ง่ายเลยที่จะเดินออกมาได้ระยะทางหนึ่ง เท้าของเธอเต็มไปด้วยรอยแผลและทุก ๆ ก้าวที่เธอเดินมันก็จะปวดอย่างสุดคำบรรยาย
ซูย้าวกัดฟันเดินไปเรื่อย ๆ และไม่กล้าหยุดเลย เธอไม่รู้ว่าต้องเดินอีกนานเท่าไหร่กว่าจะไปถึงในตัวเมือง
ท่ามกลางลมกระโชกฝนกระหน่ำมีเพียงเธอคนเดียวที่เดินอยู่บนถนน
เธอรู้สึกกังวลใจมากแต่ไม่ได้รู้สึกกลัวเลย ซูย้าวมีเพียงความตั้งใจเดียวเท่านั้น นั่นก็คือต้องหาคนมาช่วยลี่เฉินซีโดยเร็วที่สุด ต้องช่วยเขาให้ได้……
และในขณะนั้นฝนก็ตกกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย เธอเดินอยู่บนถนนคนเดียวด้วยเสื้อผ้าเปียกโชกอย่างน่าสงสาร
ในที่สุดเธอก็เดินไปถึงในเมือง แต่นี่ก็ดึกมากแล้ว ซึ่งในขณะนี้แทบจะไม่มีคนและรถสัญจรเลย เธอเดินวนอยู่สักพักและในที่สุดเธอก็ได้เห็นร้านขายยาที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมงร้านหนึ่ง
ซูย้าวมองเห็นความหวังอันริบหรี่ เธอรีบวิ่งเข้าไปอย่างเร็วที่สุด
เมื่อเปิดประตูเข้าไป พนักงานขายที่อยู่ข้างในก็ต้องตกใจกับเธอ
พนักงานขายรีบเดินอ้อมเคาน์เตอร์เพื่อเข้าไปหาเธอ “คุณผู้หญิง เกิดอะไรขึ้นคะ? คุณถูกใครทำร้ายหรือเปล่า? มีอะไรให้ช่วยไหม?”
ซูย้าวเกาะแขนเธอไว้แล้วหายใจอย่างรุนแรง
เธอรู้สึกหอบมาก
แต่เธอไม่มีเวลาพักหายใจนานกว่านี้ เธอจึงรีบพูดด้วยภาษามือ
“มีคนได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้เขาสาหัสมาก ได้โปรดช่วยโทรแจ้งตำรวจและเรียกรถพยาบาลให้ที……”
ไม่ง่ายเลยที่เธอจะเล่าสถานการณ์จนหมด แต่อีกฝ่ายกลับมองเธออย่างมึนงง
ซูย่าวรีบพูดด้วยภาษามืออีกครั้ง
แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
เธอรู้สึกกระวนกระวายมากขึ้นและรีบอธิบายอย่างรีบร้อน “นี่เป็นเรื่องเร่งด่วนจริง ๆ นะ ขอร้องแล้วล่ะ ช่วยแจ้งตำรวจให้ที!”
ดูเหมือนว่าฝ่ายตรงข้ามเริ่มมีการตอบสนอง “คุณผู้หญิง คุณเป็นใบ้ใช่ไหม? แต่ต้องขอโทษด้วยนะที่ฉันไม่เข้าใจภาษามือ!”
ว่าไงนะ?!
“เดี๋ยวนะ เดี๋ยวนะ ฉันจะไปค้นหาภาษามือในอินเทอร์เน็ตก่อน……” พนักงานพูดเสร็จก็เดินข้ามเคาน์เตอร์ไปแล้วเริ่มเซิร์ทหาภาษามือในอินเทอร์เน็ต
ซูย้าวถึงกับอึ้ง เธอจะมีเวลามานั่งรอเขาเรียนภาษามือได้อย่างไร?!
“มีคนบาดเจ็บ!” ซูย้าวพยายามใช้ภาษามือที่เข้าใจง่ายที่สุด
อีกฝ่ายก็ยังไม่เข้าใจเธออยู่ดี
“อาการสาหัสมาก ช่วยแจ้งตำรวจให้ที หรือว่า……” ซูย้าวเห็นยาวางอยู่บนชั้นวางแล้วแสดงท่าทางภาษามือต่อ “หรือว่าเอายารักษาภายนอกให้ฉัน ยาห้ามเลือด ยาแก้อักเสบ……”
พนักงานขายยังคงสับสน ความรู้สึกแบบนั้นมันไม่ต่างอะไรกับการดูการแสดงลิงในละครสัตว์
ซูย้าวไม่รู้จะทำยังไงต่อแล้วจริง ๆ!
แต่เธอจะโทษพนักงานขายคนนั้นไม่ได้ เพราะภาษามือไม่ได้เป็นภาษาสากลและโดยทั่วไปแล้วคนส่วนน้อยที่จะเข้าใจภาษานี้
เธอจะโทษใครไม่ได้ ถ้าคิดจะโทษใครเธอคงต้องโทษตัวเอง เพราะถ้าหากเธอพูดได้ก็จะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น!
ซูย้าวพยายามระงับความรู้สึกผิดและโทษตัวเองในใจชั่วคราว เธอพยายามใช้ภาษามือพูดจนกระทั่งชี้ไปที่ชั้นวางยาที่อยู่ด้านหลังของพนักงานคนนั้น
พนักงานขายเริ่มจะเข้าใจ “คุณต้องการยาเหรอ? ต้องการยาอะไร? รักษาอะไร? ปวดหัว? เป็นไข้?”
ซูย้าวขมวดคิ้วแล้วส่ายหัวอย่างรวดเร็ว จากนั้นให้ภาษามือพูดต่อ “บาดแผลภายนอก อาการสาหัสมาก……”
แล้วพนักงานขายจะเข้าใจได้อย่างไร!
เธอหยิบยาออกมาทีละอย่าง มีทั้งยาสำหรับแก้หวัด ยาพารา ยาแก้ไอ รวมถึงยาควบคุมพิเศษด้วย!
ซูย้าวได้แต่ส่ายหัวและรู้สึกกระวนกระวายใจมาก
ในขณะที่หมดหวัง จู่ ๆ เหมือนเธอจะนึกอะไรบางอย่างได้ เธอชี้ไปที่ประตูเหล็กบานใหญ่ จากนั้นเดินเข้าไปแล้วเอาศีรษะของเธอกระแทกเข้ากับประตูเหล็กนั้น
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน
มันสายเกินที่จะห้ามได้
พนักงานหยุดชะงักไปทันที แต่ตอนนี้เริ่มสังเกตเห็นเลือดบนศีรษะของซูย้าวค่อย ๆ ไหลลงมาแล้ว
“คุณผู้หญิง คุณคิดจะทำอะไรกันแน่? ทำไมต้องทำร้ายตัวเองแบบนี้ด้วย?!” พนักงานไม่รู้จะทำยังไงต่อ เขารีบหายาและเอาผ้าก๊อซมาพันแผลให้เธอ
เลือดค่อย ๆ ไหลผ่านหน้าผากลงมาทำให้เธอมองไม่ค่อยชัด แต่เมื่อเห็นยาและผ้าก๊อซที่พนักงานส่งมาให้เธอ เธอก็ยิ้มออกมาจนได้
แต่นี่ยังไม่พอ นอกจากนี้เธอยังจำเป็นต้องใช้ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบและยาห้ามเลือดด้วย
ซูย้าวมองไปรอบ ๆ เธอได้เห็นผลไม้วางอยู่บนโต๊ะและยังมีมีดปลอกผลไม้วางอยู่ข้าง ๆ ด้วย
เธอรีบเดินเข้าไปหยิบมีดปลอกผลไม้ขึ้นมาแล้วกรีดแขนของตัวเอง……แต่ดูเหมือนว่าเธอจะกรีดแรงไปจนทำให้แผลลึกและมีเลือดพุ่งออกมาทันที
ไม่มีอะไรหยุดเธอได้
พนักงานถึงกับอึ้งไป!
เธอรีบพันแผลแล้วหยิบยาให้กับซูย้าวด้วยความตื่นเต้น ในเวลาเดียวกันเธอก็จับมือของซูย้าวไว้แน่น ๆ เพื่อไม่ให้เธอขยับได้
เพราะเธอกลัวซูย้าวคิดจะทำร้ายตัวเองอีก เธอกลัวเธอจะห้ามไม่ทัน
เธอแค่พันแผลด้วยผ้าก๊อซและไม่ได้ใช้ยารักษาใด ๆ เลย จากนั้นเธอรีบหยิบยาที่ได้มาแล้วออกจากร้านยาอย่างรีบร้อนและหายไปในท่ามกลางสายฝนอีกครั้ง
เมื่อเห็นผู้หญิงคนที่เพิ่งจากไปอย่างเร่งรีบ พนักงานขายรู้สึกตกใจกลัวมาก เธอจึงรีบโทรแจ้งตำรวจทันที……
ในระหว่างทางกลับลมพายุก็ยังกระหน่ำอย่างไม่หยุด ซูย้าวเดินอยู่บนถนนอย่างยากลำบาก เธอพยายามปกป้องยาในอ้อมแขนอย่างระมัดระวัง เธอเดินไปทีละก้าว เดินผ่านความมืดในยามค่ำคืนนั้น
แต่หารู้ไม่ ในที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเธอมีรถสีดำคันหนึ่งขับตามเธออยู่ตลอดเวลา
บนรถนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งถือกล้องไว้แล้วถ่ายภาพของเธอและยังถอนหายใจด้วยความเย้ยหยันตลอดทาง
“ซูย้าวคนนี้ช่างเป็นผู้หญิงที่ซื่อจริง ๆ ……”