เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 88
บทที่ 88 อย่ากังวลไปเลยมีผมอยู่ทั้งคน
ทันทีที่ลี่เฉินซีกลับไปถึงเมือง A เขาไม่ได้ไปจัดการธุระที่บริษัทและกลับไปหาลูกที่บ้านตระกูลลี่แต่เขาตรงไปที่โรงพักก่อน
หานฉ่ายหลิงถูกควบคุมตัวในโรงพักยังไม่ถึง 48 ชั่วโมง ทนายความได้อยู่ช่วยเหลือเธอตลอดเวลา ทางตำรวจได้ทำการสอบสวนแต่ทุกอย่างไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด ตามกฎหมายแล้วถ้ายังไม่มีหลักฐานมัดตัวอย่างแน่ชัด หลังจากควบคุมตัวผู้ต้องหา 48 ชั่วโมงแล้วจำเป็นต้องทำการปล่อยตัวก่อน
เมื่อลี่เฉินซีมาถึง ผู้กำกับก็ได้เข้ามาทักทายและอธิบายคดีนี้เป็นการส่วนตัวอย่างละเอียด
ซึ่งทุกอย่างมันชัดเจนว่าหานฉ่ายหลิงนั้นเป็นเหยื่อที่ถูกใส่ร้าย
แต่เนื่องจากทางตำรวจไม่สามารถจับกุมรองประธานหลินไม่ได้ หานฉ่ายหลินจึงต้องกลายเป็นแพะรับบาปไป แม้ครั้งนี้จะได้รับอิสระชั่วคราวแต่คดีนี้ไม่จบง่าย ๆ อย่างแน่นอน
ถ้าตำรวจพบเบาะแสอื่น ๆ ภายหลังต้องทำการฟ้องหานฉ่ายหลิงอย่างแน่นอน
รวมถึงผู้ถือหุ้นที่ถูกรองประธานหลิงโกงก็จะไม่ปล่อยเธอไปเหมือนกัน
สถานการณ์นี้มีความล่อแหลมเป็นอย่างมาก
ทันทีที่ลี่เฉินซีรู้สาเหตุทุกอย่าง เขาได้มอบหมายงานทั้งหมดนี้ให้กับหวางอี้และได้เข้าไปห้องสอบปากคำด้วยตนเอง
ในห้องสอบปากคำที่ว่างเปล่านั้น มีเพียงโต๊ะหนึ่งใบและเก้าอี้สองตัว นอกจากนี้ยังมีกระจกด้านที่ไม่สามารถมองทะลุออกไปไหนได้ ซึ่งเป็นบรรยากาศที่น่าหดหู่และชวนอึดอัดใจมาก
ตั้งแต่หานฉ่ายหลิงมาถึงที่นี่เธอดื่มกาแฟไปหลายต่อหลายแก้วเพื่อไม่ให้ตัวเองหลับเพราะถูกตำรวจผลัดกันสอบปากคำอย่างไม่หยุด
นอกจากห้องน้ำแล้วเธอไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปไหนเลย
ไม่ต้องพูดถึงความเหนื่อยล้า ตอนนี้แค่สีหน้าของเธอก็แย่เต็มทีแล้ว เธอได้แต่นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยความเหนื่อยอย่างเหลือทน
ทันใดนั้นประตูห้องสอบสวนถูกเปิดออก ร่างสูงใหญ่ของลี่เฉินซีเดินเข้ามาจนทำให้หานฉ่ายหลิงถึงกับตกใจ
เธอมองเขาด้วยความประหลาดใจ จากนั้นรอยยิ้มแห่งความสุขและความซาบซึ้งก็ได้ปรกฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ เธอรู้สึกไม่คาดคิดเลยจริง ๆ
ไม่กี่ชั่วโมงก่อนผู้ชายคนนี้ยังอยู่ประเทศฝรั่งเศส แต่เพราะสายโทรเข้าของเธอเพียงสายเดียวทำให้เขาข้ามน้ำข้ามทะเลมาหาเธอ
ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร!
หานฉ่ายหลินไม่ได้เป็นคนโง่ เธอรู้ดีถึงน้ำใจของเขาที่มีต่อเธอ
“เฉินซี คุณมาจนได้? ขอโทษด้วยนะ! ฉันไม่ควรรบกวนคุณเลย……”
หลังจากรู้สึกมีความสุขแล้ว เธอก็รู้สึกผิดจากก้นบึ้งหัวใจของเธอ เธอได้แต่หรี่ตาลงแล้วโทษตัวเอง “ฉันไม่ดีเอง……”
เธอพูดคำว่า‘ขอโทษ’อย่างไม่หยุด
ลี่เฉินซีที่ฟังแล้วก็เริ่มรู้สึกอึดอัด
รอยพับระหว่างคิ้วของเขาลึกขึ้น เขาดึงเก้าอี้มานั่งลงตรงหน้าเธอแล้วถอนหายใจ “ไม่ต้องขอโทษผมหรอก คุณไม่ได้ทำอะไรผิด”
“ถึงฉันไม่ได้ทำอะไรผิด แต่คุณก็ไม่ผิดเหมือนกันนะ! ฉันไม่ควรปล่อยให้คุณต้องมาวุ่นวายกับเรื่องนี้เลย!” เธอยังรู้สึกละอายใจและได้แต่ก้มหน้าเหมือนเด็กที่เพิ่งทำอะไรผิดมา
เขาโน้มตัวไปข้างหน้าแล้วเอื้อมมือยกคางเธอขึ้นมา “เงยหน้าขึ้นสิ ผมบอกแล้วไงว่าคุณไม่ได้เป็นคนผิด ต่อให้คุณไม่ยอมบอกผม แต่ถ้าผมรู้ผมก็คงไม่อยู่นิ่งเฉยหรอก”
“เฉินซี……”
หานฉ่ายหลิงมองไปที่เขา ในชีวิตนี้ได้พบกับผู้ชายที่เปี่ยมด้วยความรักความห่วงใยคนนี้ถือเป็นบุญของผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ
“เชื่อฟังนะ เหนื่อยก็นอนพักบนโต๊ะก่อนสิ! แล้วกินอะไรยัง? ถ้ายังเดี๋ยวผมให้คนส่งเข้ามาให้นะ” เขาพูด
เธอส่ายหัว “เกิดเรื่องวุ่นวายกับบริษัทขนาดนี้จะกินลงได้ไงล่ะ?”
แม้จะเป็นคำพูดประชด แต่เมื่อฟังแล้วก็มีความรู้สึกที่แตกต่างกันไป
ลี่เฉินซีกุมมือเธอไว้แน่น ๆ “สำหรับเรื่องของรองประธานหลินเดี๋ยวผมจัดการให้นะ คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ผมจะหามันให้เจอ”
แต่เธอกลับถอนหายใจแล้วก้มหน้าลงอย่างเดียวดาย “ต่อให้หาเขาเจอแล้วจะทำอะไรได้ล่ะ? ประเทศที่เขาอยู่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน เราไม่มีทางจับเขากลับมารับโทษได้หรอก”
“เรื่องนี้ผมมีวิธี คุณไม่ต้องกังวลหรอก!”
หานฉ่ายหลิงมองดวงตาที่มุ่งมั่นของชายที่อยู่ตรงหน้า เธอรู้สึกเหมือนได้เห็นความหวังอันริบหรี่อีกครั้ง จากนั้นพยักหน้าเบา ๆ
เขาเหมือนมีเวทมนตร์อยู่ในตัว มันสามารถทำให้คนรู้สึกอบอุ่นใจอย่างไม่มีสาเหตุ แม้จะเป็นเรื่องใหญ่แค่ไหนแต่ก็ไม่กลัวอีกต่อไป
ทางด้านปารีสในฝรั่งเศส
ซูย้าวตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ใกล้จะค่ำแล้ว
อัสดงล่วงลับขอบฟ้า แสงอาทิตย์สีส้มสอดส่องเข้ามาเต็มห้องผู้ป่วยนั้น ร่างที่ผอมบางพิงอยู่ที่ขอบหน้าต่าง ดวงตาที่ชุ่มชื้นเริ่มระเหยเป็นหมอกและพร้อมที่จะกลั่นตัวเป็นฝนกระหน่ำ
เธอยืนนิ่งอยู่ขอบหน้าต่างไม่ขยับไปไหนจนฟ้ามืด
เธอยืนนิ่งเหมือนงานหัตถกรรมแกะสลักที่ทำมาจากหยก นอกจากเสียงไอแล้วไม่มีเสียงอะไรอีกเลย ไมค์พยายามแวะมาดูห้องผู้ป่วยของเธอหลายรอบ ทุกครั้งที่ดูก็เห็นเธอยืนอยู่จุดเดิมไม่ขยับไปไหน มันนานเกินไปจนอดไม่ได้ที่จะผลักประตูเข้าไปหาเธอ
“คิดถึงเขาอยู่หรือ?”
เสียเบา ๆ มาจากด้านหลังเธอ
ซูย้าวหันไปมองก็เห็นชายร่างสูงผมบลอนด์และตาสีฟ้ายืนอยู่ด้านหลัง
เธอได้แต่ยิ้มเบา ๆ แล้วส่ายหัวเล็กน้อย
ซูย้าวกำลังคิดถึงเจิ้งเอ๋อ เธอออกต่างประเทศไปหลายวันไม่รู้ว่าหนูน้อยคนนั้นจะเป็นยังไงบ้างแล้ว
“คุณหลอกผมไม่ได้หรอก ผมเป็นหมอนะ นอกจากจะรักษาบาดแผลภายนอกของผู้ป่วยแล้ว ผมยังสามารถมองเห็นความกังวลภายในของผู้ป่วยด้วยนะ ผมรู้ว่าคุณห่วงใยเขามาก”
ไมค์เข้าไปรินน้ำอุ่นแก้วหนึ่งแล้วยื่นให้กับเธอ
ซูย้าวรับน้ำมาแต่ไม่ได้แสดงทีท่าว่าจะดื่ม เธอแค่กุมมันไว้ในมือแล้วสัมผัสความอุ่นของน้ำในแก้ว
“คุณซูคงไม่ได้เป็นใบ้แต่เกิดใช่ไหมครับ! ผมเห็นผลตรวจสุขภาพของคุณแล้ว ร่างกายของคุณเคยได้รับอันตรายจากสารพิษหลายครั้ง หลายปีผ่านไปร่างกายของคุณก็ดูดซึมสารพิษนั้นจนสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับร่างกายของคุณ”
ในอดีตซัวฉ่ายลี่พยายามจะฆ่าซูย้าวหลายครั้งเพื่อปกปิดหลักฐานที่ตัวเองฆ่าสามีตัวเอง แม้ซูย้าวจะเป็นใบ้แต่เธอก็ไม่ยอมปล่อยไว้
เพราะเธอคิดว่าซูย้าวต้องตายเท่านั้นถึงจะปกปิดความลับได้ดีที่สุด
แต่ซัวฉ่ายลี่ก็ไม่อยากเชื่อจริง ๆ ว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงได้ตายยากตายเย็นได้เช่นนี้ หลายต่อหลายครั้งที่เธอพยายามฆ่าแต่ซูย้าวก็รอดชีวิตไปได้อย่างหวุดหวิด
ครั้งหนึ่งเคยเกิดอุบัติเหตุในลิฟต์ ซูย้าวรอดมาได้ ส่วนอีกครั้งที่เกิดไฟไหม้บ้าน แม้ซูย้าวจะติดอยู่ในกองไฟแต่ก็ทำอะไรเธอไม่ได้ และครั้งสุดท้ายที่ซูย้าวถูกไล่ล่าแต่เธอก็ยังหนีรอดไปได้……
ซัวฉ่ายลี่รู้สึกเหลือทนกับ‘อุบัติเหตุ’ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เธอสร้างขึ้น จนสุดท้ายต้องหันมาใช้วิธีวางยาพิษเรื้อรัง
แต่ซูย้าวก็ยังโชคที่รอดชีวิตมาได้อีกครั้ง
จนกระทั่งหนึ่งปีที่แล้ว เธอจำเป็นต้องแต่งงานกับคนตระกูลลี่ตามความประสงค์ของนายหญิงตระกูลลี่เพื่อให้เธอได้หยุดพ้นจากซัวฉ่ายลี่ได้สักที
ดังนั้นซูย้าวรู้ดีว่าสภาพร่างกายของเธอนั้นเป็นอย่างไร
“ผมแทบจะไม่เคยเห็นสภาพร่างกายแบบนี้เลยนะครับ คุณซูครับ สรุปว่าคุณเคยเจออะไรมาบ้าง?”
ไมค์รู้สึกสงสัยมาก สภาพร่างกายของหญิงสาวอายุเพียงแค่ยี่สิบกว่าแต่ต้องมาเติบโตพร้อมกับสารพิษในร่างกาย เบื้องหลังสิ่งนี้มันมีอะไรซ่อนอยู่กันแน่?
ซูย้าวมองไปที่เขาแล้วยิ้มจาง ๆ และใช้ภาษามือพูดว่า “ฉันไม่เป็นไรหรอก จริง ๆ นะ”
“ไม่ใช่ว่าการที่มีชีวิตอยู่ก็เพียงพอแล้วนะครับ คุณซู ชีวิตคนเรานอกจากความรักและชีวิตคู่แล้ว สิ่งสำคัญกว่านั้นก็คือสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงนะครับ!”
ไมค์ไม่รู้จะอธิบายกับเธอยังไงแล้ว แม้ตอนนี้สภาพร่างกายและอวัยวะในส่วนต่าง ๆ เริ่มดีขึ้น แต่ในอนาคตล่ะ?
สุดท้ายเขาก็พูดว่า “เอางี้นะครับ! คุณซู ถ้าอนาคตคุณต้องการรักษา คุณมาหาผมที่นี่ได้ทุกเมื่อ ผมจะปรับสภาพและรักษาร่างกายของคุณเอง ทุกเมื่อนะครับ”
ซูย้าวยิ้มอีกครั้ง เรื่องอะไรที่เธอถึงทำให้หมอไมค์ที่เต็มไปด้วยความสามารถคนนี้สัญญากับเธอได้
แต่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเธอในทุกวันนี้มันไม่ใช่สุขภาพร่างกายของตนเองแล้ว
เธอได้แต่ยิ้มพูดด้วยภาษามือ “ขอบคุณนะคุณหมอไมค์ แต่วันพรุ่งนี้ฉันจะกลับประเทศแล้ว ขอบคุณในความหวังดีของคุณจริง ๆ นะ”