เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 638 ต้องปฏิเสธนายอีกครั้งแล้ว
ช่วงค่ำ ซูย้าวยังใช้เวลาอีกสองสามชั่วโมง ในการทำงานขั้นสุดท้ายตกแต่งชุดออกงานจนเสร็จ มองดูชุดกระโปรงตัวน้อยบนหุ่นลองเสื้อ ก็เผยรอยยิ้มที่พอใจออกมา
แต่ไม่รู้เพราะอะไร รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วน มีความปวดเล็กน้อย
เธอมีอาการปวดท้อง ไม่นับว่าเป็นอาการแปลกใหม่อะไร แต่ทุกครั้งที่ปวดขึ้นมา ก็ปวดถึงขั้นจะเอาชีวิต
ซูย้าวหยิบกระเป๋ามาด้วยความเร็วที่สุด ควานหาด้านใน ไม่เจอยากระเพาะอาหารที่กินเป็นปกติ อาจจะเพราะไม่ได้ใช้ยามานานแล้ว ก็เลยไม่ได้เอายามาด้วย
เธอเคลื่อนตัวไปรินน้ำร้อนให้ตัวเอง ดื่มแล้วดีขึ้นเล็กน้อย แล้วในตอนนี้เอง ก็มีคนมาเคาะประตู
ไม่นานนัก ประตูห้องก็เปิดออก ศีรษะเล็กๆ ของซีซีโผล่มาจากประตู ตากลมโตสวยมองปริบๆมาที่เธอ เรียกอย่างหวานชื่น “คุณแม่”
สิ้นเสียง เด็กน้อยก็สังเกตเห็นชุดกระโปรงบนหุ่นลองเสื้อตัวนั้นที่อยู่กลางห้อง ดวงตาทั้งคู่เป็นประกาย วิ่งเข้าไปด้วยความตื่นเต้น “นี่คือกระโปรงของหนู ใช่ไหมคะ?”
ซูย้าวอดทนความปวดท้อง พยายามแย้มรอยยิ้มแล้วพยักหน้า “ใช่จ่ะ ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซีซีชอบไหม?”
“อื้มอื้ม!” เด็กน้อยพยักหน้าราวกับโขลกกระเทียม แล้วยังพุ่งเข้ามาเขย่งปลายเท้าเล็กๆ ซูย้าวรีบย่อตัวลงอย่างให้ความร่วมมือ เด็กน้อยหอมแก้มเธออย่างแรงหนึ่งที “คุณแม่ดีจริงๆ ! ทำได้เยี่ยมมาก! พรุ่งนี้หนูต้องเป็นเจ้าหญิงน้อยที่สวยที่สุดแน่นอน!”
ซูย้าวเองก็ยิ้มอย่างนุ่มนวล “เด็กบ๊อง เดิมทีหนูก็เป็นเจ้าหญิงน้อยอยู่แล้วนะ!”
ลูกสาวตัวน้อยคนเดียวของตระกูลลี่ เด็กน้อยที่เกิดมาพร้อมช้อนเงินช้อนทอง ถูกลิขิตให้เป็นเจ้าหญิงโดยธรรมชาติ แล้วยังหน้าตาสวยแบบนี้ โตขึ้นไปกลายเป็นสาวงาม ต้องเป็นเพชรน้ำงามแน่ๆ
ความสนใจของซีซีอยู่บนชุดกระโปรง ซูย้าวหยิบลงมาให้เธอ เธอลองใส่ดู หมุนไปรอบๆ ห้องอย่างมีความสุข หลังจากได้รับคำชมจากซูย้าว เด็กน้อยก็วิ่งลงชั้นล่างด้วยความดีใจ
เด็กยังไงก็เป็นเด็ก เรื่องเล็กๆ เรื่องเดียวก็สามารถมีความสุขได้นานมาก
ซีซีใส่ชุดกระโปรงวิ่งโลดแล่นลงชั้นล่างอย่างมีความสุข ยืนอยู่ตรงหน้าพี่ชายทั้งสองกับลี่เฉินซี อวดไม่หยุด “ดูดีไหมคะ? ดูดีมากใช่ไหม?”
ลี่เฉินซีพยักหน้าไม่หยุด “ดูดี ลูกสาวปะป๊าใส่อะไรก็ดูดีไปหมด”
ลี่หมิงเองก็อดไม่ได้ที่จะก้มศีรษะลง เป็นเพียงแค่ความอิจฉาเล็กๆ น้อยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของเด็ก “อา ถ้าคุณแม่ทำให้ผมด้วยสักชุดจะดีแค่ไหน!”
“พอเถอะ” ลี่เจิ้งพูดขึ้นทันที ขัดจังหวะความคิดของเด็กทั้งสอง “ทำชุดหนึ่งใช้เวลาไปสองวัน เหนื่อยพอแล้ว!”
คำพูดเข้ามาในหู ลี่เฉินซีอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ลูกชายคนโต
โตขึ้นหน่อยแล้วจริงๆ มองดูปัญหาและเรื่องราวก็มีความคิดที่ต่างไป เมื่อเทียบกับฝาแฝดไข่คนล่ะใบแล้ว ลี่เจิ้งมีเหตุผลมากกว่า
แต่ซีซียังจมดิ่งอยู่ท่ามกลางความสุข ก้มหน้ามองดูกระต่ายน้อยที่ปักอยู่บนกระโปรง “นี่เป็นชุดที่คุณแม่ทำให้หนูด้วยตัวเอง หนูจะเก็บไว้ชั่วชีวิต! ในอนาคตโตไปแต่งงาน ก็จะใส่มัน……”
“งั้นรับรองว่าเธอจะเป็นยัยเตี้ยไปชั่วชีวิต!” ลี่เจิ้งพูดขึ้นทันที
ซีซีชะงัก แลบลิ้นใส่เขาอย่างไม่พอใจ จากนั้นก็ดึงมือของลี่หมิงแล้ววิ่งจากไป
ลี่เฉินซีมองลูกทั้งสอง แล้วก็ยิ้ม ข้างหูได้ยินเสียงของลี่เจิ้งดังขึ้น “คุณพ่อ คือว่า…..”
เขาเบือนสายตาไปมองลูกชาย “หือ?”
“คุณแม่ยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย” ลี่เจิ้งลดเสียงเบามาก พูดจบก็หันตัวเดินไปทางห้องออกกำลังกายชั้นล่าง
ลี่เฉินซีเฝ้ามองแผ่นหลังที่จากไปของลูกชาย รอยยิ้มตรงริมฝีปากค่อยๆ ลึกขึ้น ลี่เจิ้งเด็กคนนี้ เป็นคนหน้านิ่งใจอบอุ่น แล้วยังมีเหตุมีผล เพียงแต่บางครั้งไม่แสดงอารมณ์ โตขึ้นไป คาดว่าคงคล้ายกับเขามาก!
พี่เลี้ยงด้านข้างแยกอาหารใส่ไว้ในถาดเรียบร้อยแล้ว ส่องให้ลี่เฉินซี “คุณผู้ชาย นำไปให้คุณนายเถอะค่ะ!”
ดวงตาเขาหยั่งลึก ไม่พูดอะไร แต่ดับบุหรี่ในมือ แล้วรับถาดเดินขึ้นชั้นบน
ภายในห้องทำงานไม่มีคนอยู่ ดังนั้นเขาจึงเดินย้ายไปที่ห้องพักแขก
‘ก๊อกก๊อกก๊อก’ เขาเคาะประตูสองสามครั้ง ไม่ได้ยินเสียงด้านใน ใช้มือขยับลูกบิดประตู กลับพบว่าประตูถูกล็อกอยู่!
ดวงตาของลี่เฉินซีจมดิ่ง เอ่ยปากพูด “เปิดประตู”
ภายในห้อง ซูย้าวนอนขดตัวกุมท้องที่ปวดอยู่ กลิ้งไปกลิ้งมา ปวดจนร่างกายเหงื่อไหลออกมา เป็นเวลานาน ยากที่จะอดทน
“เธอคงไม่คิดว่าบานประตูนี่จะหยุดฉันได้เหรอกนะ?” เขากดน้ำเสียงต่ำนิ่ง มีความเยือกเย็นแฝงอยู่
การแสดงออกที่เจ็บปวดของซูย้าว ไม่อยากสนใจเขาแม้แต่น้อย แต่กระนั้น สิ่งที่เขาพูดก็ไม่ผิด ที่นี่คือคฤหาสน์ตระกูลลี่ แค่ประตูบานเดียว เขาต้องมีกุญแจสำรองอยู่แล้ว
ลี่เฉินซีรออยู่หลายวินาที ก็ยังไม่ได้ยินเสียงจากด้านใน จึงหันตัวเตรียมจะไปหยิบกุญแจสำรอง แต่เดินไปไม่ถึงสองก้าว ประตูห้องด้านหลังก็เปิดออก
ใบหน้าซีดขาวของซูย้าว อ่อนแอจนถึงขีดสุด หน้าผากก็มีเหงื่อไหล “ฉันไม่หิว แต่ขอบคุณนายนะ…..”
เธอมองถาดนั้นที่อยู่ในมือเขา สุ่มพูดไปหนึ่งประโยค จากนั้นก็หันตัวจะปิดประตู แต่กลับถูกชายหนุ่มก้าวเข้าไปหยุดไว้
ขณะที่เขาผลักประตูออก แขนยาวก็คว้าเธอไว้แล้วดึงเข้ามาในอ้อมแขน ก้าวใหญ่ๆ เข้าไปในห้อง ก้มตัววางถาดไว้บนโต๊ะด้านหนึ่ง หันกลับมาเอื้อมมือแตะไปที่หน้าผากของเธอ “มีไข้เหรอ?”
อุณหภูมิไม่สูง เป็นอุณหภูมิร่างกายปกติ
เขาขมวดคิ้วแน่น “ไม่สบายตรงไหน?”
เธอไม่อยากตอบ เพียงแค่ใช้น้ำเสียงที่อ่อนแอสุดขีด พยายามพูดออกมา “ฉันไม่เป็นอะไร ปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียวสักพักได้ไหม?”
ลี่เฉินซีลดสายตามองไปที่เธอด้วยความนิ่งเงียบ “กลัวฉันทำอะไรเธอเหรอ?”
เธอหลับตาลง ท้องนี้ปวดท้องมาก เธอไม่มีอารมณ์จะมาล้อเล่นกับเขาจริงๆ
ชายหนุ่มโน้มตัวเข้าไปหาเธอ วางแขนข้างหนึ่งไม้ที่ผนังด้านหลังเธอ จงใจกักตัวเธอไว้ให้อยู่ระหว่างอ้อมแขนของตนกับกำแพง ดวงตาสีเข้มเป็นประกาย “จะทำอะไรได้……”
ไม่ปล่อยให้เขาพูดต่อ ซูย้าวก็ขัดขึ้นทันที “โทษทีนะ ตอนนี้ร่างกายฉันไม่เหมาะ คุณลี่เองก็ไม่ชอบขึ้นเตียงกับคนป่วยเหรอกใช่ไหม?”
ขณะที่พูด ก็ยักไหล่ยิ้มเยาะ “ต้องปฏิเสธนายอีกครั้งแล้ว……”
ซูย้าวเริ่มพูดต่อไม่ไหวแล้ว ท้องของเธอบิดเหมือนมีดเกลียว ปวดอยู่พักใหญ่ ไม่สามารถอดทนได้ เธอจำต้องกัดฟัน พยายามยืนหยัดไว้
ลี่เฉินซีมองไปที่เธอ คิ้วขมวดลึกขึ้นอีก โน้มตัวไปอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน วางเธอลงบนเตียงเบาๆ ใช้มือดึงผ้าห่มมาคลุมไว้ จากนั้นก็หันตัวเดินออกไป
ซูย้าวมองไปทิศทางที่เขาจากไปอย่างไร้เรี่ยวแรง ในใจยิ้มอย่างขมขื่น อย่างที่คิด ผู้ชายก็แค่สัตว์ช่วงล่าง ปฏิเสธไม่กี่ครั้ง ก็จะรู้สึกไม่น่าสนใจแล้ว……
แต่ความคิดแบบนี้คงอยู่ได้ไม่นาน จากนั้นประตูห้องก็ผลัดออกอีกครั้ง แล้วเขาก็มาปรากฏตัวตรงหน้าเธออีกครั้ง
ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ ครั้งนี้ในมือเขาถือน้ำร้อนแก้วหนึ่ง พร้อมกับยากล่องหนึ่ง
เขาโน้มตัวไปพยุงเธอขึ้นมา จากนั้นก็นั่งลงข้างๆ เธอ ส่งน้ำร้อนให้เธอ แล้วเทยาสองสามเม็ดออกมา จากนั้นก็ยกคางเธอขึ้น แทบจะง้างปากเล็กๆ ของเธอออก ยัดยาเข้าไปโดยตรง แล้วถึงปล่อยมือ “ดื่มน้ำ”
ซูย้าวตะลึงงัน ตกใจกับการกระทำของเขาเล็กน้อย แล้วยังได้รับรสขมของยาในปากช้าๆ จึงรีบดื่มน้ำสองสามอึก ถึงกลืนยาทั้งหมดลงไป
“นายให้ฉันกินอะไร?” เธอถามอย่างเร่งรีบ
ลี่เฉินซีหยิบแก้วน้ำในมือเธอไป จากนั้นก็เอนตัวนอนด้วยกันกับเธอ มือข้างหนึ่งที่เรียวยาวอบอุ่นของเขากุมท้องเธอไว้ ลูบเบาๆ แล้วพูดด้วยเสียงต่ำ “ปวดท้องไม่ใช่เหรอ? ยาโรคกระเพาะไง”
ซูย้าวผงะด้วยความแปลกใจ “นาย…..”
“อาการปวดท้อง ยังรักษาไม่หายเหรอ?” เขามองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง
เธอมองอย่างประหลาดใจไปที่แววตาลุ่มลึกดั่งสายน้ำของชายหนุ่มที่ห่างกันแค่คีบ ราวกับค้นพบร่องรอยของความรักที่ซ่อนอยู่ โดยไม่รู้ตัว “อาการเดิมๆ ไม่ต้องสนใจเหรอก…..”
“เธอพึ่งจะอายุเท่าไหร่เอง มีอาการเดิมๆ อีกสองวันจะนัดผู้เชี่ยวชาญให้เธอ ตรวจดูให้ดีๆ หน่อย” เขานิ่งๆ ใช้มืออีกข้างสอดเข้าไปใต้ศีรษะเธอ ให้เธอหนุน จากนั้นก็ลูบท้องเธอต่อ “เพราะสองวันที่ผ่านมาเหนื่อยไปใช่ไหม?”
เธอชะงัก รู้สึกยังไม่คุ้นเคยกับท่าทางแบบนี้ อีกอย่างความรู้สึกที่ไม่เข้าทีนี้ก็แทรกซึมเข้าไปทุกส่วนของร่างกาย “ก็ไม่ใช่เหรอก…..”
เขาสูดหายใจเข้าลึก “อีกเดี๋ยวยาออกฤทธิ์ก็จะดีขึ้นหน่อย ถ้ายังปวดอีก จะพาเธอไปโรงพยาบาล”