เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 644 ผักกาดขาวน้อย
ลี่หมิงตอนนี้นับว่ามีความสุขมาก พาซูย้าวไปแนะนำให้เพื่อนร่วมชั้นทุกคน ความโอ้อวดเล็กๆ ที่มาจากใจ ทำให้คนทั้งโมโหทั้งขำ
แม้กระทั่งซูย้าวถูกเขาลากไปแบบนี้ เจอเพื่อนร่วมชั้นมากมาย ก็ไม่รู้จะยิ้มหรือร้องไห้ดี
แต่ลี่เฉินซีกลับนั่งนิ่งเงียบอยู่ด้านข้าง ร่างสูงนั่งพิงพนักเก้าอี้ สายตากวาดมองแม่กับลูกชายนิ่งๆ
ท่ามกลางบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม กลับมีคำพูดที่ไม่ระมัดระวังของเด็กคนหนึ่ง ทำลายความสงบสุขในทันที เด็กคนหนึ่งพูดโดยไม่พลั้งปาก “ในเมื่อแม่นายดีขนาดนี้ ทำไมก่อนหน้านี้พวกเราไม่เคยเจอเลยล่ะ?”
ล้วนแต่เป็นเด็กอายุไม่กี่ขวบ ความพูดจาไร้เดียงสา ทุกคนต่างก็เข้าใจ
แต่ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย จู่ๆ เด็กคนหนึ่งก็พูดขึ้น เด็กสองสามคนด้านข้างก็พูดตามๆ กัน “ใช่แล้ว ลี่หมิง ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นแม่นายมารับนายกับลี่เจินเลย นี่ใช่แม่แท้ๆ ของนายเหรอ?”
“ว้า คงไม่ใช่แม่เลี้ยงหรอกนะ!”
การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ทำให้ใบหน้าซูย้าวแข็งทื่อทันที
แล้วรอยยิ้มบนใบหน้าของลี่หมิง ก็ค่อยๆ แข็งตัว ในที่สุดก็หายไปโดยสมบูรณ์
“ถ้านี่เป็นแม่เลี้ยงของนาย งั้นนายก็เป็นเหมือนหลี่เฉิงหยู่ห้องสองไม่ใช่เหรอ?” เด็กชายตัวอ้วนคนนั้นกะพริบตาสีเข้ม “ถ้าเป็นแม่เลี้ยง งั้นก็ปฏิบัติตัวไม่ดีกับนายและลี่เจินหรือเปล่า?”
ด้านข้างยังมีเด็กพูดอีก “มีอีกนะ ลี่เจิ้งพี่ชายนายล่ะ? ฉันรู้สึกว่ามันแปลกๆ พวกนายสามคน เกิดมาจากแม่คนเดียวกันเหรอ?”
“แม่ฉันบอกว่า คลอดลูกได้แค่สองคน มีแต่นโยบายลูกสองคน ไม่มีนโยบายลูกสามคนนะ!”
พูดคำนี้จบ เด็กอ้วนด้านข้างก็ผลักเด็กคนนั้นหนึ่งที “นายโง่หรือเปล่า? ลี่หมิงกับลี่เจินเป็นฝาแฝดกันนะ!”
“อ้อ ฉันเกือบลืมไปแล้ว!”
เด็กหลายคนพูดต่อๆ กัน เมินเฉยลี่หมิงที่ใบหน้าจมดิ่งลงทะเลไปโดยสมบูรณ์ จู่ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้น แววตาเย็นชากวาดไปที่ฝูงคนอย่างไม่อดทน “พวกนายพูดมั่วซั่ว! เธอคือแม่แท้ๆ ของฉัน ไม่ใช่แม่เลี้ยงซะหน่อย!”
ลี่หมิงพูด พลางดึงมือของซูย้าว เงยหน้าเล็กๆ ขึ้น มองไปที่เธอด้วยใบหน้าน้อยใจ
ซูย้าวสูดหายใจลึกอย่างทำอะไรไม่ได้ เธอไม่มีทางมีลูกที่โตขนาดนี้ ได้เพียงทำตามความต้องการของเด็กน้อย โน้มตัวคุกเข่าลงตรงหน้าเด็กหลายคน “เด็กๆ จ้ะ ฉันเป็นแม่แท้ๆ ของหมิงเอ๋อนะ! ก่อนหน้านี้ เป็นเพราะเรื่องงาน ก็เลยไม่ได้อยู่ที่เมืองนี้…..”
“ก่อนหน้านี้น้าไม่อยู่ หมิงเอ๋อได้รับการดูแลจากทุกคน ดังนั้นอีกเดี๋ยวน้าเลี้ยงของอร่อยๆ พวกหนู ดีไหมจ้ะ?”
ถึงยังไงก็เป็นเด็กทั้งนั้น เมื่อได้ยินว่าของอร่อย แต่ละคนก็มีแสงประกายในดวงตาทันที พยักหน้าตามๆ กัน “คุณน้าใจดีจัง! ทั้งสวยทั้งอ่อนโยน!”
ซูย้าวลุกขึ้นยิ้มเล็กน้อย พูดคุยกับพวกเด็กๆ ต่ออีกหน่อย ขณะที่กิจกรรมเปิดงานเทศกาลศิลปะกำลังจะเริ่มต้นขึ้น เด็กๆ ก็แยกย้ายกันไป
เธอพาลี่หมิงกลับมา เด็กน้อยเงยหน้าเอาแต่มองเธอ “แม่เป็นแม่แท้ๆ ของผม พวกเขาพูดไร้สาระ!”
ซูย้าวไม่อยากทำร้ายจิตใจเด็กน้อย จึงพยักหน้าตาม “อื้ม หมิงเอ๋อว่ายังไงก็ว่าตาม”
“แต่ว่า แม่ไม่รู้อะไร คนพวกนั้นแย่มาก ก่อนหน้านี้ตอนที่ผมไม่สังเกต มักจะรังแกซีซีทุกวัน แล้วยังพูดว่าพวกเราเป็นเด็กที่ไม่มีแม่ เป็นผักกาดขาวน้อย”
ซูย้าวชะงักเบาๆ “ผักกาดขาวน้อย? นี่คือชื่อเล่นอะไร?”
เพราะว่าเด็กขาวสะอาด ก็เลยเรียกผักกาดขาวน้อย?!
ลี่หมิงแอบถอนหายใจ “เพราะพอผักกาดขาวเริ่มเหลือง สองสามขวบก็ไม่มีแม่แล้วน่ะสิ!”
ซูย้าว “……”
เธอพูดอะไรไม่ออก เด็กสมัยนี้ ไม่เพียงแต่เข้าใจก่อนเวลาอันควร แม้แต่ชื่อเล่นเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ทันให้ตั้งตัว ก็ยังมีภูมิหลังที่ใหญ่โตแบบนี้!
ช่างประเมินได้ยากจริงๆ
เธอพาลี่หมิงกลับมา ในมือลี่เฉินซีมีถาดเพิ่มขึ้นมา ด้านบนมีเครื่องดื่มและของว่าง เมื่อเห็นลูกชายเดินเข้ามา ก็ส่งขนมทั้งหมดให้ลี่หมิง
เด็กก็ยังเป็นเด็ก รีบถือขนมกินขึ้นมา ลืมเรื่องที่ไม่มีความสุขเมื่อกี้ไม่หมดสิ้น
หลังจากซูย้าวนั่งลง ถึงพบว่าแทบจะผู้ปกครองและเด็กทุกคนรอบด้าน ในมือล้วนแต่มีถาดที่คล้ายกันอยู่ในมือ ขนมและเครื่องดื่มก็เหมือนกันหมด
สายตาเธอกวาดไปรอบๆ ถึงมองเห็นหวางอี้กับผู้ชายในชุดสูทไม่กี่คนที่อยู่ไม่ไกล กำลังแจกจ่ายขนมให้ผู้ปกครองทุกคน
ซูย้าวหรี่ตาถอนหายใจ ดูท่า ลี่เฉินซีจะเป็นพ่อที่ดีจริงๆ สามารถคิดรอบคอบได้ขนาดนี้…..
เพราะก่อนหน้านี้เกิดเรื่องที่ไม่น่าพอใจกับลี่เฉินซีบนรถ ดังนั้นตอนนี้ ทั้งสองต่างก็ไม่พูดคุยกัน ทั้งสองเลือกที่จะใช้ความเงียบ รับมือไปอย่างชุ่ยๆ
ตอนที่ลี่เจิ้งเข้ามา ก็นั่งลงข้างกายลี่เฉินซี เด็กน้อยถือเครื่องดื่มหนึ่งแก้ว สุ่มดื่มไปสองอึก จากนั้น สายตาก็กวาดไปที่ซูย้าวที่อุ้มลี่หมิงนั่งตักอยู่พลางพูดไปยิ้มไป แขนเล็กๆ กระทุ้งลี่เฉินซี “ทะเลาะกันเหรอ?”
ลี่เฉินซีผงะไปครู่หนึ่ง ก้มหน้ามองไปที่ลูกชาย “ลูก…..”
ลี่เจิ้งราวกับเป็นผู้ใหญ่ตัวเล็ก ยักไหล่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ลดเสียงต่ำใช้ระดับเสียงที่มีแต่พ่อลูกเท่านั้นจะได้ยิน “พ่อกับเธอมีช่องว่างห่างกันหนึ่งที่นั่ง บอกว่าไม่ได้ทะเลาะ ใครจะเชื่อ?”
ลี่เฉินซีถึงได้สติ กวาดสายตามองที่นั่งที่เหลือไว้ด้านข้าง ก็อดไม่ได้ที่แววตาจะจมดิ่งลง จากนั้นก็พูดอธิบาย “ไม่ใช่อย่างที่ลูกคิด นี่คือที่นั่งที่เหลือไว้ให้ซีซี”
“น้อยๆ หน่อย” ลี่เจิ้งมองไปที่เขา ดวงตาที่เหมือนหินสีนิลรัดแน่น “ซีซีมีงานแสดงหลายรายการ มีเวลามาซะที่ไหน พ่อ ผมไม่ได้ว่าพ่อ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาทะเลาะนะ!”
ลี่เฉินซีขมวดคิ้วแน่น ใช้สายตาแปลกใจมองไปที่ลูกชายคนโต
“ผู้หญิงล้วนแต่ต้องง้องอน พ่อง้อให้เธอแต่งงานกับพ่อก่อน…..” ลี่เจิ้งพูดมาถึงตรงนี้ ก็ลากเสียงยาว “ดูเหมือนพวกพ่อเคยแต่งงานกันแล้ว ถึงยังไงก็รอให้เธอเป็นของพ่อแล้วจริงๆ ค่อยทะเลาะสิ!”
ลี่เฉินซี “……”
เขาอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปขยี้ศีรษะของลูกชายแรงๆ “ลูกอายุไม่เยอะ ความคิดแปลกๆ พวกนี้ไปเรียนมาจากไหน?”
“ผมสิบขวบแล้ว ไม่เด็กแล้ว อีกไม่กี่ปี ผมก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว มีแฟนได้แล้วนะ!” ลี่เจิ้งพูด
แววตาของลี่เฉินซีมืดลงฉับพลัน “พูดอะไร?”
เขาสูดหายใจเย็นเยือก “ลูกอยากจะมีแฟน อีกสิบปีค่อยคุยเถอะ!ลูกซื่อบื้อนี่ วันทั้งวันคิดอะไรอยู่? เรื่องของพ่อกับแม่ลูก ไม่จำเป็นต้องให้ลูกมายุ่ง!”
ลี่เจิ้งเบะปากมองไปที่เขา แล้วก็ส่ายหัวอย่างไม่อดทน ร่างเล็กๆ หลบเลี่ยงมือใหญ่ของชายหนุ่มสองสามครั้ง ขยับตัวไปนั่งอีกด้าน กินขนมขบเคี้ยว
ลี่เฉินซีมองไปที่ลูกชาย ถอนหายใจไม่หยุดหย่อน ที่ผ่านมาเขาให้ความสำคัญกับงานมากเกินไปจริงๆ เกือบจะละเลยปัญหาการศึกษาของพวกลูกๆ ยังพูดเรื่องมีแฟน เป็นความคิดที่ประหลาดจริงๆ !
หลังจากพิธีเปิดบนเวทีผ่านพ้นไป ก็เริ่มรายการการแสดงทีละชุด อันแรกเป็นการร้องประสานเสียง ซีซีเป็นนักร้องนำ สวมใส่ชุดกระโปรงที่สวยงาม อยู่อยู่ข้างๆ วาทยกร น้ำเสียงใสแจ๋ว มีความเป็นธรรมชาติ
ซูย้าวนั่งฟังอยู่ล่างเวที มองดูซีซีน้อยที่เป็นเหมือนตุ๊กตาอยู่บนเวที อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ซูย้าวคนนี้เป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ สามารถให้กำเนิดเด็กที่สมบูรณ์แบบแบบนี้ได้
อย่างไรก็ตาม ถ้าตนกับซูย้าวเป็นคนเดียวกันจริงๆ งั้นไม่เท่ากับว่าตนเองยอดเยี่ยมเหรอ?!
เธอนึกถึงตรงนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้น ฉีกยิ้ม
หลังจากการขับร้องประสานเสียง ก็เป็นการแสดงชุดใหญ่บนเวที ซีซีเล่นเป็นเจ้าหญิงน้อย สวมใส่ชุดราตรีที่ซูย้าวตัดเย็บให้เองกับมือ โลดแล่นอย่างสวยงามอยู่บนเวที เสียงปรบมือดังมาจากล่างเวทีอย่างต่อเนื่อง
พวกคุณครูเองก็จัดแจงให้เหล่าผู้ปกครองให้กำลังใจลูกๆ อย่างต่อเนื่อง เมื่อสังเกตเห็นซูย้าวกับลี่เฉินซี ครูก็พูดขึ้น “ผู้ปกครองทั้งสองท่าน ชุดครอบครัวที่ให้เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ล่ะคะ รบกวนใส่ด้วยค่ะ!”
ชุดครอบครัว……
ซูย้าวรีบพยักหน้า จากนั้นก็มองไปที่ชายหนุ่มด้านข้าง “ชุดครอบครัว ทำไมนายไม่ใส่มา?”
ขณะที่พูดเธอก็กวาดตามองไปรอบๆ เหล่าพ่อแม่แต่ละครอบครัว ล้วนแต่สวมใส่ชุดครอบครัวที่เหมือนกับลูกแล้ว แต่ล่ะชิ้นเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ บางชุดทำเป็นชุดกระต่ายน้อย บางชุดทำเป็นชุดจิ้งจอกน้อย แล้วยังมีบางชุดเป็นตัวการ์ตูน หลากหลายรูปแบบ
แต่ถึงอย่างนั้น ซูย้าวก็กล้าแน่ใจ ว่าชุดครอบครัวที่เธอออกแบบเอง รับประกันว่าลี่เฉินซีใส่แล้ว จะทำให้เหล่าคนที่นั่งอยู่ประหลาดใจ