เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 647 ทำไมถึงต้องเป็นเธอ
ที่ที่สะอาดและเงียบสงบ คนจะนึกถึงที่ไหน?
เมืองสกรีดในต่างประเทศ โรงพยาบาลเอกชนสุดหรูแห่งหนึ่งที่ขาวราวกับหิมะ กลิ่นของยาฆ่าเชื้ออบอวลอยู่บนชั้นบรรยากาศ ในห้องพักฟื้นVVIPชั้นพิเศษสูงสุด มีชายสูงอายุคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงพร้อมกับสายท่อต่างๆบนร่างกาย ที่เชื่อมต่อกับชิ้นส่วนของอุปกรณ์ที่อยู่ข้างๆ บนจอแสดงให้เห็นสัญญาณชีพจร
พยาบาลเปลี่ยนถุงน้ำเกลือให้ชายชรา แล้วปรับอัตราการไหลของน้ำเกลือ จากนั้นหันมามองชายร่างสูงในชุดสูทรองเท้าหนังข้างๆเขา พยักหน้าให้เล็กน้อย แล้วหันหลังเดินจากไป
สายตานิ่งๆของชายคนนั้นจ้องมองไปยังชายชราที่อยู่บนเตียง รูม่านตาสีน้ำตาลของเขาดูคลุมเครืออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปนความเศร้าไว้เล็กน้อย แต่ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาฉายแวววับวาบ และในที่สุดก็หายวับไปในความว่างเปล่า
นานกว่าที่ชายหนุ่มจะเอ่ยปากพูด แต่เสียงที่พูดออกมานั้นฟังดูเย็นชาและนิ่งมาก
“คุณก็มีวันนี้เหมือนกัน”
มันแทบจะเป็นการที่เขาพูดกับตัวเอง ชายชราที่อยู่บนเตียงมีลมหายใจรวยริน ทำได้เพียงพึ่งพาเครื่องจักรต่างๆเพื่อรักษาชีวิตของเขาไว้เท่านั้น อยู่ในอาการโคม่า ไม่ได้สติมานานแล้ว
แต่ชายหนุ่มยังคงพูด ริมฝีปากบางของเขาขยับเล็กน้อย มุมปากเผยให้เห็นรอยยิ้มที่เหมือนกับเยาะเย้ย “คิดไม่ถึง ว่าวันหนึ่งจะได้เห็นคุณกลายเป็นแบบนี้”
เขาเดินช้าๆ ไปหยุดที่ข้างเตียง ร่างยาวของเขาค่อยๆเอนตัวลง มือข้างหนึ่งจับขอบเตียง ใบหน้าหล่อเหลายื่นเข้าหาชายชราที่หมดสติ พูดอยู่ข้างหูเขา “คุณควรจะรู้สึกโชคดี เพราะคุณยังสามารถนอนอยู่ที่นี่ได้”
“รู้ไหมว่าตอนนั้นแม่ผมเป็นยังไง?”
ชายหนุ่มหลับตาลงอย่างเจ็บปวด “เธอเป็นมะเร็งตับ ตับคืออะไร? คืออวัยวะสำคัญที่กรองสารพิษในร่างกายเลยนะ แต่อวัยวะของเธอพังแล้ว ทำได้แค่ทนนอนอยู่บนเตียงเย็นๆทุกวัน ทนอยู่อย่างเจ็บปวด”
“รู้ไหมว่าทำไมเธอถึงต้องทน?” ตาที่คลอไปด้วยน้ำตาของเขา จู่ๆก็ยิ้มขึ้นมา เพียงแต่รอยยิ้มนั้นเย็นชาเกินไป มีแต่ความเย้ยหยัน “ก็เพื่อรอคุณไง!”
“เธอรู้ตั้งนานแล้วว่าคุณยังมีชีวิตอยู่ เพื่อแย่งชิงทรัพย์สินของตระกูลเพ้ย คุณไม่ลังเลที่จะจัดฉากให้ทุกคนเชื่อว่าคุณตายแล้ว และยังทิ้งแม่ของผมไปอย่างโหดเหี้ยม ขนาดลูกชายของตัวเองเสียชีวิต ก็ไม่ยอมแสดงตัว!”
อานเจียเย้นพูดต่อไม่ลง หลายปีมานี้ เขาเกลียดเพ้ยหยู่เจี๋ยมากเกินไป ทั้งๆที่เขาก็ถือว่าถูกเพ้ยหยู่เจี๋ยเลี้ยงดูมา แต่ก็แทบจะทนอยากฆ่าเขาให้ตาย เพื่อล้างแค้นให้แม่บุญธรรมไม่ได้!
เขาเติบโตมาพร้อมกับความเกลียดชังนี้
แต่เมื่อรอเขาแข็งแกร่งจนสามารถแก้แค้นเพ้ยหยู่เจี๋ย กลับพบว่าเขาเป็นมะเร็งสมองและมีชีวิตเหลืออีกไม่มาก
เฉกเช่นตอนนี้ เมื่อเห็นเพ้ยหยู่เจี๋ยนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าที่แต่ก่อนเคยเย็นชาและน่าเกรงขาม ตอนนี้กลับซีดขาวได้ถึงขนาดนี้ ร่างกายผอมจนหมดสภาพไปแล้ว เหลือเพียงหนังห่อหุ้มกระดูกนอนอยู่บนเตียง จู่ๆเขาก็พบว่า…….ตัวเองทำไม่ลง!
น่าขำสิ้นดี
ชายคนที่แกล้งตายเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย จนฆ่าลูกชายตัวเองทางอ้อม ทำลายชีวิตที่สงบสุขลงอย่างสิ้นเชิง มองดูเธออยู่ในความยากจนลำบาก แต่กลับไม่สนใจเธอ
ชายคนที่มาปรากฏตัวต่อหน้าอานเจียเย้นราวกับตัวเองเป็นพระเจ้า หลังจากที่อานชินเสียชีวิต บังคับให้เขาอยู่ข้างกาย และเลี้ยงดูเขาเหมือนเขาเป็นสัตว์ประหลาด
ชายคนที่ไม่นานมานี้ เป็นผู้นำในตลาดทวีปยุโรป และกลายเป็นตำนานธุรกิจรุ่นต่อไป ชายคนที่ใจกว้างบริจาคนับไม่ถ้วน แต่ในความเป็นจริงกลับโหดเหี้ยมอำมหิต ทำแต่เรื่องเลวๆ
อานเจียเย้นมองเขา มันทำไม่ลงจริงๆ
“รู้ไหมว่าสุดท้ายแม่ผมตายยังไง? เธอไม่ได้ตายเพราะโรคมะเร็งตับ”อานเจียเย้นยืนตัวตรง มองไปยังที่ที่ไกลออกไปด้วยดวงตาเฉยชา ไม่แยแสจนเหมือนผู้ชมคนหนึ่ง “เธออดอยากจนตาย”
เพื่อที่จะไม่สร้างความลำบากให้อานเจียเย้น เพื่อที่จะมอบอาหารมื้อสุดท้ายให้กับลูก เธอยอมที่จะเลือกไม่รักษา ยอมที่จะใช้วิธีนี้ฆ่าตัวเองตาย
แม่บุญธรรม เป็นแม่บุญธรรม
แต่กลับมีความรักความเมตตามากกว่ามารดาผู้ให้กำเนิด!
ดวงตาที่แดงก่ำของอานเจียเย้นมีน้ำใสๆคลออยู่ ก้มหน้ามองชายชราบนเตียง “ทำไมเธอถึงเป็นโรคมะเร็งตับ? เพราะคุณให้เธอกินยาใช่ไหม?”
ครั้งสุดท้ายที่อานชินพาลูกไปต่างประเทศ ถึงแม้เพ้ยหยู่เจี๋ยไม่ได้แสดงตัวออกมา แต่กลับสั่งให้ลูกน้องกรอกยาอานชิน
ยานั้นมีผลร้ายต่อร่างกายของเธอมาก ถึงขนาดทำลายระบบสรีรวิทยาของเธอ และยังเป็นการเพิ่มโอกาสการเกิดการแพร่กระจายของมะเร็งตับในระยะต่อมา
ยังไม่เพียงเท่านี้ เพ้ยหยู่เจี๋ยฆ่าเลือดเนื้อของตัวเอง แล้วยังโทษอานชิน จนทำให้คนตระกูลเพ้ยเกลียดเธอ ถึงขนาดขั้นที่ไม่ลังเลถ้าจะฆ่า
เพราะฉะนั้น ต่อมาอานชินกลับมาที่หรู่โจว จึงเป็นการกลับมาแบบหลบหนี
และเพราะแบบนี้ เธอถึงได้เก็บเด็กที่ถูกทอดทิ้งที่กำลังตกอยู่ในอันตรายมาระหว่างทางที่ลักลอบกลับมา หรือก็คืออานเจียเย้นในตอนนี้
“คุณไม่ได้ต้องการเธอตั้งแต่แรก คุณแค่ต้องการหลอกคนตระกูลเพ้ย ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมถึงต้องเลือกแม่ของผม? คุณสามารถเลือกผู้หญิงคนอื่นนิ!”
ความปั่นป่วนและความโกรธในดวงตาของอานเจียเย้นมีอย่างต่อเนื่อง โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ถึงขนาดที่จะทำลายทุกสิ่ง ดวงตาแดงก่ำของเขาดุร้าย ก้มลงและบีบคอของชายชรา “มีผู้หญิงตั้งมากมาย ทำไมถึงต้องเป็นอานชิน? ห๊ะ? ตอบผม!”
“อานชินใจดีขนาดนั้น คนที่ดีขนาดนั้น ทำไมถึงต้องทำลายทั้งชีวิตของเธอ? เพ้ยหยู่เจี๋ย อ๋อ ไม่ใช่ ผมควรเรียกคุณว่าพ่อ”
เขาเข้ามาแทนที่อานเจียเย้นที่ตายไปเมื่อตอนนั้น ถูกอานชินเลี้ยงดูมาแปดปี หลังจากนั้นก็ถูกเพ้ยหยู่เจี๋ยรับไป เลี้ยงดูในฐานะลูกบุญธรรม เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านไหน เขาก็ควรเรียกเพ้ยหยู่เจี๋ยว่าพ่อ
แต่ว่า เขาไม่เคยเรียกเลย
การกระทำของเพ้ยหยู่เจี๋ยเมื่อตอนที่เขาเป็นหนุ่ม โดยเฉพาะสิ่งที่ทำกับอานชินแม่ลูก เป็นสิ่งที่ลบไม่ออกและลืมไม่ลงในชีวิตของอานเจียเย้น คนที่ทำลายทั้งชีวิตของแม่บุญธรรมเขา และยังเลี้ยงดูเขาเพื่อเป็นเครื่องมือแย่งทรัพย์สิน ไม่มีเรื่องชั่วเรื่องไหนที่ไม่ทำ คนที่ทำให้มือของเขาเปื้อนเลือด มันคู่ควรจะเป็นพ่อคนที่ไหนกัน!
“คุณทำลายแม่ผม ทำลายตัวผม และเกือบจะทำลายชิงชิง……”
อานเจียเย้นเงยหน้าขึ้น ไม่อาจหยุดความปั่นป่วนในดวงตาได้ สุดท้ายก็ไหลออกมา ขณะที่เขาเอนตัว ก็เช็ดมันออก “เมื่อก่อนเธอยังชื่อซูย้าวอยู่ ขนาดเธอเอง ก็เกือบจะถูกทำลายแล้ว!”
“ตระกูลอานเป็นหนี้อะไรของคุณกัน ถึงทำให้คุณไม่ปล่อยแม้กระทั่งเด็กคนหนึ่ง!”
อานเจียเย้นมีคำพูดมากมาย อยากจะถามเพ้ยหยู่เจี๋ย แต่ เวลาที่ผ่านมานานขนาดนี้ เขาพยายามรวบรวมความแข็งแกร่ง ตั้งใจแกล้งทำเป็นโง่ต่อหน้าเพ้ยหยู่เจี๋ย เพียงเพื่อวันนี้ แต่เขาคิดไม่ถึง ว่าตัวเองจะคำนวณผู้ชายคนนี้ผิด
ขนาดโอกาสน้อยๆ เขายังไม่เคยให้ตัวเอง
กระทั่งเขาป่วยหนัก นอนสลบไม่ฟื้นขึ้นมา ไม่มีสติอย่างสิ้นเชิง คนข้างกายถึงได้ปล่อยข่าวให้กับอานเจียเย้น
เขาไล่ไอน้ำที่อยู่ในตาของเขา ทันทีที่เขาหันหลัง ก็ไปเตะโดนอุปกรณ์ที่อยู่ข้างๆ อุปกรณ์เครื่องหนึ่งล้มลม ก็ตามด้วยอุปกรณ์ข้างๆ เหมือนโดมิโนที่ล้มลงทีละอัน
ท้ายที่สุด ก็ไปเกี่ยวกับหน้ากากออกซิเจนหายใจบนใบหน้าของชายชรา ตกลงไปกับพื้น
อานเจียเย้นไม่ได้มองเขา ก้าวเดินออกไปอย่างช้าๆ ก้าวออกจากห้องพักฟื้น
บนระเบียงทางเดินด้านนอก มีคนจำนวนมากยืนอย่างหนาแน่น ผู้ชายในชุดสูทและรองเท้าหนัง ช่วงอายุวัยต่างๆ เมื่อเห็นอานเจียเย้น ทุกคนต่างคำนับ พูดขึ้นพร้อมกันว่า “ประธานอาน”
อานเจียเย้นนิ่งไม่พูด เดินตรงออกไปด้านนอก
และด้านหลัง นางพยาบาลที่เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยวิ่งออกมาด้วยความตกใจ “แย่ แย่แล้ว ชายชราท่านเสียแล้ว!”
ทุกคนผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็เดินไปหาอานเจียเย้นบนทางเดินด้วยการก้าวเท้าก้าวใหญ่ โน้มตัวโค้งคำนับด้วยความเคารพ “คุณอาน”
เปลี่ยนคำเรียกง่ายๆ ที่ไม่ใช่แค่ความหมายบนตัวหนังสือ
เพราะตั้งแต่วินาทีที่เพ้ยหยู่เจี๋ยเสียชีวิต สิทธิ์และทรัพย์สินทั้งหมดจะตกอยู่ภายใต้ชื่อของอานเจียเย้น เขาจะกลายเป็นJockรุ่นต่อไปโดยธรรมชาติ
คนที่เร่ร่อนไปทั่วโลก ที่อยู่ในที่แสงสว่างไม่ได้ มีตัวตนอยู่ในที่ที่มืดมิดที่สุด คนที่ทำให้ทุกคนกลัวและหวาดผวาแค่เพียงได้ยินชื่อ