เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 657 ไม่เคยมีความแค้นต่อกัน
บริเวณจุดพักผ่อน เจียงจี้เซิงกับลี่เฉินซีคุยกันนานมาก เห็นเวลาผ่านไปทุกวินาที แต่ยังไม่เห็นซูย้าวกลับมา
ลี่เฉินซีมองดูนาฬิกาบนข้อมือไม่หยุด เธอไปสองชั่วโมงกว่าแล้ว จะออกไปเดินเล่นนานเท่าไหร่กันแน่?!
เจียงจี้เซิงมองความกลัดกลุ้มที่หว่างคิ้วของเขาออก กระตุกริมฝีปากยิ้มเล็กน้อย “ปากบอกไปดูไปทีละก้าว เธอเพิ่งจะเดินไปครู่เดียว ก็เป็นห่วงเช่นนี้แล้ว!”
ลี่เฉินซีขี้เกียจสนใจการหยอกล้อของเขา เพียงแค่ยกแก้วน้ำดื่มขึ้น แล้วดื่มไปสองคำ
“ผมตาฝาดหรือเปล่า? ทำไมครั้งนี้เจอซูย้าวแล้วรู้สึกว่า ความรู้สึกที่เธอให้คนไม่ค่อยเหมือนกัน” เจียงจี้เซิงหวนนึกถึงตอนเจอกันสั้นๆเมื่อกี้นี้อย่างละเอียด มีความสงสัยเล็กน้อยในสายตาของเขา
ซูย้าวคนก่อน ฉลาดหลักแหลม มักให้ความรู้สึกว่าเป็นผู้หญิงแกร่งในหน้าที่การงาน และใช้มุมมองของผู้ชายมองผู้หญิงคนหนึ่ง มักจะมองเห็นสิ่งที่ลึกกว่านี้
ในกลุ่มผู้หญิงมากมาย เธอสามารถทำให้คนสังเกตเห็นเธอในแวบเดียว และผ่านตาแล้วลืมยาก
แต่เมื่อเจอกันครั้งนี้ ความรู้สึกที่ซูย้าวให้คน เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เธอในตอนนี้ ยังคงสวยงามโดดเด่น ท่าทางสง่าผ่าเผย แต่หางตาของเธอแฝงไปด้วยความเยือกเย็น เย่อหยิ่ง และความโหดเหี้ยม
เจียงจี้เซิงดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง แล้วพยักหน้า ก็คือความโหดเหี้ยม ความโหดเหี้ยมแบบที่เปื้อนไปด้วยคาวเลือดการแข่งฆ่า เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยมีมาก่อน
หากจะบอกว่าซูย้าวเมื่อก่อน เหมือนกุหลาบที่เบ่งบานสวยงาม แล้วเธอในตอนนี้ ก็คือดอกฝิ่นที่มีหนามแหลมคม
ย่อมมีกลิ่นอายของเวทมนตร์ ดึงดูดคนมาก แต่ก็ทำให้ถึงแก่ชีวิตได้เหมือนกัน
แม้ว่าเป็นการสัมผัสกันสั้นๆครู่หนึ่ง แต่หลายปีมานี้ เจียงจี้เซิงเห็นคนมานับไม่ถ้วน จุดนี้เขาดูไม่ผิดอย่างแน่นอน
เขาเอียงหน้ามองไปที่ลี่เฉินซีที่อยู่ข้างๆ แล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้ง”หากผมเดาไม่ผิด ในสองปีที่เธอหายตัวไป น่าจะเกิดเรื่องมากมาย และก็ประสบพบเจอมากมาย เฉินซี ระหว่างคุณกับเธอ คงจะไม่ง่ายเหมือนที่คุณคิดแล้ว”
แม้จะเป็นเพียงการยืนยันและคาดเดาของเจียงจี้เซิง แต่ว่า เขามีความมั่นใจเต็มสิบ มั่นใจว่าตัวเองพูดไม่ผิด
ซูย้าวในวันนี้ โดดเด่นเกินไป และก็……เกินไป
เขาหาคำที่เหมาะสมมาพรรณนาไม่ได้ สรุปแล้ว หากไม่ใช่พวกเขาต่างคุ้นเคยกันดี เขาก็จะเกิดความสงสัยจริงๆว่า ผู้หญิงคนนี้เหมือนหมอกควันที่ดำสนิท มักให้ความรู้สึก เป็นภาพลวงตาที่ไม่สามารถมองทะลุได้เพียงแวบเดียว
ลี่เฉินซีขมวดคิ้วขึ้นทันที เลิกเปลือกตาขึ้นเล็กน้อยสายตาเย็นชากวาดไปที่เขาแวบหนึ่ง”ถ้าอย่างนั้นคุณกับคนนั้นล่ะ? เธอชื่ออะไรนะ ผมจำได้เหมือนว่า…….”
ไม่รอให้ลี่เฉินซีพูดต่อ เจียงจี้เซิงก็ตัดบททันที”พอแล้ว ถือว่าผมพูดมาก ขอให้พวกคุณชั่วฟ้าดินสลาย มีลูกเร็ววัน !”
ลี่เฉินซีกระตุกยิ้มที่มุมปาก”ยังจะมีลูกเร็ววันอะไร ผมกับเธอมีลูกสามคนแล้ว ว่าแต่คุณ รีบแต่งงานมีลูกเถิด !”
เจียงจี้เซิง”……”
ขณะที่ลี่เฉินซีพูดก็ลุกขึ้น แต่ยังไม่ทันให้ก้าวขาออก ก็มีพนักงานบริการวิ่งเข้ามา เงยหน้าเห็นลี่เฉินซี ก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้ แล้วพูดว่า”คุณลี่ ฉันคิดว่าคุณกลับไปแล้ว เพราะว่าก่อนหน้านี้ฉันเห็นคุณอานได้จากไปแล้ว ”
พนักงานบริการพูดแค่นั้น ดูเหมือนพูดมากไปเล็กน้อย และเวลานี้ ดวงตาลี่เฉินซีหม่นหมองลง แล้วถามขึ้นว่า”เธอไปแล้วหรือ? คุณแน่ใจ?”
เจียงจี้เซิงก็เงยหน้ามองไปทางเขา”นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมาหลิ่งโจวใช่ไหม?”
ความหมายนั่นคือ ซูย้าวเพิ่งจะมาถึง แทบจะไม่คุ้นเคยกับที่ไหนสักแห่งในที่นี้ จะจากไปก่อนคนเดียวได้หรือ?
ลี่เฉินซีก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติ ยื่นมือไปหยิบเสื้อสูทบนเก้าอี้ขึ้นมา ก้าวเท้าใหญ่ตรงไปข้างนอก
เขาเดินไปด้วยโทรหาซูย้าวด้วย อีกฝ่ายแจ้งทันทีว่าปิดเครื่องแล้ว นี่ยิ่งทำให้เขาสงสัย ตามพนักงานบริการไปห้องกล้องวงจรปิด
ลี่เฉินซีมองดูภาพที่คอมพิวเตอร์ ซูย้าวเดินตามพนักงานบริการผู้หญิงอายุน้อยคนหนึ่งไปทางประตูหลัง แต่จากนั้นทั้งสองก็เข้าไปในจุดบอดของกล้องวงจรปิด และก็ไม่สามารถจับภาพใดๆได้อีก
พนักงานที่อยู่ข้างๆนำภาพหน้าของพนักงานบริการผู้หญิง ส่งไปให้ฝ่ายบุคคลยืนยัน โทรศัพท์มาแจ้งว่า ที่นี่ไม่มีข้อมูลใดๆของพนักงานบริการผู้หญิงคนนี้
และก็คือ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่พนักงานในสนามกีฬา เพียงแค่ใส่ชุดที่คล้ายกับชุดของพนักงานบริการ ใช้สิ่งนี้ปะปนเข้ามา
เจียงจี้เซิงยืนอยู่ข้างหลัง ได้เวลาพูดขึ้นว่า”อย่าเพิ่งใจร้อน เธอมาที่หลิ่งโจวครั้งแรก น่าจะไม่ได้หาเรื่องอะไรกับคนทางนี้ บางทีอาจจะกลับไปเอง เราหาดูอีกครั้ง”
เขาพูดพลาง ส่งสายตาให้เลขา เลขาเข้าใจทันที หันหลังออกไปจัดคนไปตามหา
ลี่เฉินซีรู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกมาก ซูย้าวมาที่นี่ครั้งแรกไม่ผิด และก็ไม่ได้ไปหาเรื่องใครด้วย ดังนั้นจะบอกว่าลักพาตัว ไม่ต้องโจมตีก็แตกเอง แต่ว่า จู่ๆก็หายไป ยังมีหญิงพนักงานบริการคนนั้น จุดน่าสงสัยมากเกินไป มักจะทำให้คนคิดไปทางการลักพาตัวอย่างไม่รู้ตัว
เจียงจี้เซิงตามเขาไปข้างนอกด้วยกัน ตรงประตูหลังสนามกีฬา ลี่เฉินซีมองดูกล้องวงจรปิดหลายตัว กับภาพที่ห้องกล้องวงจรปิดไปมา เพราะว่าทางประตูหลังนี้แทบจะไม่มีลูกค้าเข้าออก ไว้ให้พนักงานใช้เท่านั้น บวกกับวันนี้ก็ถูกเจียงจี้เซิงเหมาสนามไปก่อนแล้ว ดังนั้นรถที่มาจากข้างนอกยิ่งน้อยมาก
แต่ในกล้องวงจรปิดยังพบรถเก๋งเมอร์เซเดสเบนซ์สีดำ รู้สึกสะดุดสายตาเล็กน้อย จึงเอาภาพส่งให้ลี่เฉินซี
เจียงจี้เซิงก้มลงมองดู แล้วเอารูปถ่ายส่งไปให้เลขาอีกครั้ง ให้เลขาตรวจเช็ดทะเบียนรถและข้อมูลเจ้าของรถ
แม้จะดูไม่เหมือนการลักพาตัว แต่สัญญาณต่างๆ ก็ไม่ยากที่จะทำให้คนคิดไปทางด้านนี้ เจียงจี้เซิงก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงถามว่า”คือ หลังจากที่เธอกลับมาในประเทศแล้ว เคยไปหาเรื่องกับศัตรูบ้างไหม? รวมทั้งทางเมืองAด้วย”
ศัตรูหรือ?!
ลี่เฉินซีขมวดคิ้วแน่น ดวงตาคู่ดำหมองคล้ำ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็มีชื่อของคนคนหนึ่งออกมา”เหมือนจะมีคนหนึ่ง ตรวจสอบดูก่อนเถิด!”
เขาพูดพลาง ก็หยิบมือถือออกมาโทรหาหวางอี้
……
ซูย้าวสะลึมสะลือตื่นมา ยังรู้สึกวิงเวียนหัวหมุน ไม่ง่ายเลยที่ได้สติขึ้นมาเล็กน้อย รู้สึกยังมีกลิ่นยาฉุนๆหลงเหลืออยู่ตรงจมูก ทรมานเป็นพิเศษ
หลังจากได้สติมาชั่วขณะ เธอก็ค่อยๆเงยหน้ามองดูรอบข้าง และตกใจเมื่อพบว่า ตัวเองอยู่ในอาคารที่เรียบง่าย
พูดให้ถูกต้อง น่าจะเป็นอาคารสร้างใหม่ที่เพิ่งสร้างไปได้ครึ่งหนึ่ง สิ่งรอบข้างที่ปรากฏในตา ล้วนเป็นผนังสีดำเทา และเศษซากวัสดุก่อสร้าง ใช่ตึก อาคารร้างหรือเปล่า เธอยังไม่รู้
เธอก็ไม่ได้คิดในจุดนี้เท่าไหร่ เพราะว่าทันใดนั้นเธอก็สังเกตเห็นร่างกายตัวเอง มือเท้าล้วนถูกคนใช้เชือกมัดไว้ แล้วนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ไม่ใหญ่นัก และที่ทำให้เธอรับไม่ได้ที่สุดก็คือ บนคอของตัวเอง ถูกโซ่เหล็กใหญ่ที่หนักหน่วงเส้นหนึ่งผูกไว้
โซ่เหล็กยาวมาก ด้านนี้ต่อกับคอของเธอ อีกด้านปล่อยยาวไปถึงที่ข้างหลังที่ไกลมาก
เธออยากจะหันไปดูให้ชัดเจน พอคิดจะขยับร่าง ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเร่งรีบ จากนั้น มีหนึ่งชายหนึ่งหญิงเดินขึ้นมาจากชั้นล่าง
ดูไปแล้วชายหนุ่มอายุราวๆสามสิบกว่า รูปร่างสูงใหญ่ ใส่หน้ากากสีดำ ผมสั้น ใส่ชุดกีฬา ดวงตาคมกริบดุจหมาป่า
ส่วนผู้หญิงข้างกายเขา ก็ใส่หน้ากากสีดำเหมือนกัน ผมหยิกเล็กน้อยยาวประบ่า ดวงตาสวยงาม หน้าตาก็ไม่น่าเกลียด
แม้ว่าผู้หญิงจงใจจะปิดบัง แต่แค่แวบเดียวซูย้าวก็จำได้ เธอก็คือพนักงานบริการคนที่จงใจทำให้เธอเข้าใจผิดก่อนหน้านั้น
ชายหนุ่มหลบซูย้าว เดินอ้อมเก้าอี้ของเธอ เดินตรงไปข้างหลังทันที โน้มตัวเก็บโซ่เหล็กใหญ่จากพื้นขึ้นมา ใช้แรงดึง ซูย้าวถูกโซ่เหล็กรัดต้นคอ เป็นเพราะสาเหตุการกระชาก จึงไม่อาจไม่รีบลุกขึ้น
ผู้หญิงเดินมาตรงหน้าซูย้าว ความสูงทั้งสองใกล้เคียงกัน จ้องตากัน ทันใดนั้นผู้หญิงก็หัวเราะ”ฟังให้ชัดเจน คุณกับเราไม่ได้มีความแค้นต่อกัน สามารถพูดได้ว่าไม่เคยมีมาก่อน ฆ่าคุณเพราะว่าได้รับการไหว้วานจากคนอื่น ดังนั้นคุณกลายเป็นผี ก็ไม่ต้องมาหาเรา”