เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 697 เป็นตัวคุณเองที่ไม่เห็นคุณค่าของคนอื่น
“คุณหนู เกิดอะไรขึ้น?” เมื่อเซียวหยางเดินเข้ามา ก็สังเกตเห็นซูย้าวยืนอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์คิดเงิน บนเคาน์เตอร์มีบัตรจำนวนหลายใบวางไว้อยู่
ซูย้าวส่ายศีรษะอย่างจนใจ ทันใดก็นึกขึ้นมาได้ว่าใช้โทรศัพท์จ่ายเงินได้ เลยรีบหยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะพบเช่นกันว่า บัญชีของวิธีการชำระเงินทั้งสองก็ถูกระงับเช่นกัน ไม่สามารถจ่ายเงินได้!
เซียวหยางดูออกว่าเธอลำบากใจ ก่อนจะรีบเข้าไปจ่ายเงินสดให้ หลังจากที่ทั้งสองก้าวออกจากร้าน เธอจึงพูดว่า “ไปสิบมาหน่อย ทำไมบัญชีของฉันถึงถูกระงับ”
“ครับ” เซียวหยางพยักหน้า ก่อนจะพูดอีกว่า “หรือจะเป็นเพราะประธานอานครับ?”
ซูย้าวสงสัยอยู่บ้าง แม้อานเจียเย้นจะไม่สบอารมณ์กับการมีชีวิตที่ไร้หลักแหล่งที่อยู่ของเธอ แต่เขาไม่น่าจะเป็นคนที่ใช้อุบายเรื่องเงินทองมาต่อรอง บังคับให้เธอกลับไปแต่เธอก็ยังพูดว่า “ไปสืบมาให้หมดเถอะ!”
“ครับ” เซียวหยางตกปากรับคำ และซูย้าวก็ดื่มเครื่องดื่มไปได้ครึ่งแก้ว มองดูสกีรีสอร์ทที่อยู่ไกลออกไป ก่อนจะเริ่มสนใจอีกครั้ง ก่อนจะไถแคร่สกีหิมะไปเล่นอีกรอบ
เธอก้าวไปยังลานสกีข้างหน้า เธอเล่นด้วยความเพลิดเพลิน ไม่ทันรู้ตัวก็เป็นเวลานานกว่าชั่วโมงแล้ว หลังจากเธอรู้สึกตัวว่าควรพอได้แล้ว จึงไถสกีออกไป จากระยะไกล เธอเห็นเซียวหยางยืนโบกมือให้เธออยู่ไม่ไกล
“คุณหนู” เขาตะโกนเรียกเธอ หนุ่มน้อยภายใต้รังสีสะท้อนของแสงที่คลุ้งไปด้วยละอองหิมะ แสงอันอบอุ่นของดวงอาทิตย์ย้อมกาย ทำให้เขาหล่อเหลาราวกับชายหนุ่ม
เซียวหยางมาพัวพันกับเธอเพราะเหตุผลบางอย่าง เพราะปัญหาหลายอย่างเช่นกันที่ทำให้เขายังทำงานอยู่ข้างกายเธอ แต่อย่างไร เขาเป็นเพียงเด็กผู้ชายอายุยี่สิบต้นๆ เท่านั้น ซูย้าวคิดที่จะขอให้เขากลับไปเรียนหนังสืออีกครั้ง อายุแค่นี้ไม่ควรจะมาเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์
ในขณะที่เธอคิด เธอก็ก้าวไปหาเด็กหนุ่มตรงหน้า เมื่อจวนจะถึง ทันใดเสียงแสบหูของรถก็พุ่งเข้าโสตประสาท ซูย้าวขมวดคิ้ว ในขณะที่คิดจะหันไปตามเสียง และชายตามอง ก็เห็นรถสีดำที่คล้ายปีศาจอยู่ไม่ไกล ในสภาพแวดล้อมที่ขาวโพลนไปด้วยหิมะอย่างไม่ทันคาดคิดด้วยซ้ำไป
รถขับเข้ามาด้วยความเร็ว โดยไม่ให้คนได้ทันตั้งตัว ทันใด รถก็พุ่งเข้าไปหาเซียวหยาง ซูย้าวตกตะลึง ยังไม่ทันได้ตอบสนองอะไร เธอก็เห็นเด็กชายร่างสูงถูกรถกระแทกออกห่างไปหลายเมตร
ทันทีที่เด็กหนุ่มล้มลงไปกับพื้น หิมะสีขาวก็ถูกย้อมไปด้วยเลือดอุ่นร้อนสีแดงฉาน
ซูย้าวตกตะลึงร่างกายแข็งทื่อ เมื่อได้สติกลับมา เธอโยนบอร์ดในมือทิ้งอย่างเร็ว และรีบวิ่งไปทางเซียวหยาง “เซียวหยาง……”
เธอร้องเรียกชื่อของเด็กหนุ่ม ก่อนจะรีบเข้าไปตรวจอาการบาดเจ็บทันที เพราะเมื่อกี้แรงกระแทกมันรุนแรงเกินไป เห็นได้ชัดว่าขาของเขาหัก และของเหลวสีแดงสด อุ่นร้อน ก็ไหลท่วมทะลัก
ซูย้าวตื่นตระหนกและสับสน ใจคิดอยากจะโทรเรียกรถพยาบาลอย่างเป็นกังวล แต่ทันทีที่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ดันไม่มีสัญญาณเสียอย่างนั้น สถานที่แบบนี้ที่ต่างประเทศ อยากจะเรียกกู้ภัยมันก็ช่างลำบาก!
เธอกังวลใจและเงยหน้ามองรอบด้านเพื่อหาคนมาช่วย แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เธอก็ตกตะลึง
เพราะว่า ข้างๆ รถสีดำที่เป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุ ปรากฏร่างของชายหนุ่ม ร่างสูงสวมชุดสูทและรองเท้าหนัง เนื่องจากสภาพอากาศที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ เขาจึงสวมเสื้อโค้ตขนสักหลาดสีดำชนิดเดียวกัน และปลอกคอเสื้อสีขาวหนานุ่ม เสริมความหล่อเหลาและโดดเด่นให้ชายหนุ่ม โครงสร้างนิสัยที่แตกต่าง บวกกับหน้าตาที่โดดเด่น นอกจากลี่เฉินซีแล้ว จะเป็นใครได้อีก?
แต่ซูย้าว ไม่เคยคิดฝัน ว่าจะมาเจอเขาอีกครั้งในตอนนี้ และด้วยสภาพแบบนี้!
แตกต่างจากการพบกันครั้งก่อน หน้าผากของเขาเย็นชา แม้แต่ดวงตาที่เย็นเยียบและแคบยาวนั้นก็ดูเหมือนจะย้อมด้วยน้ำค้างแข็ง มันช่างหนาวเหน็บ เขามองมาทางเธออย่างเย็นชา ใบหน้าหล่อเหลาของเขาไร้ความรู้สึก ริมฝีปากบางของเขาเม้มแน่น และความเกลียดชังของเขาก็พวยพุ่งชัดเจน
เกือบจะทันทีที่สบตา ซูย้าวแทบจะหยุดหายใจ ดวงตาคู่ใสสะอาดค่อยๆ หดเกร็ง ปลอบโยนเซียวหยางที่ได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะยันกายลุกขึ้น “ลี่เฉินซี”
เธอพูด น้ำเสียงใสๆ คละเคล้าอารมณ์ “คุณจงใจชนคน!”
ซูย้าวแน่ใจว่ามองไม่ผิด รถสีดำสองคันพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่ามีคนยืนอยู่ข้างหน้ารถ แต่ยังตั้งใจเหยียบคันเร่ง ซึ่งทำให้เซียวหยางกลายสภาพเป็นแบบตอนนี้!
หวางอี้ลงมาจากรถมานานแล้ว และยืนอยู่ข้างลี่เฉินซี เขาเกือบจะพูดอะไรออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่กลับโดนสายตาเย็นชาของชายหนุ่มสกัดเอาไว้
ซูย้าวไม่มีเวลามาสนใจกับความเกลียดชังในดวงตาของเขา เธอรีบหันไปมองรอบๆ ก่อนจะพบว่าสกีรีสอร์ทขณะนี้ กลับว่างเปล่าไร้คนยิ่งกว่าเดิม!
เธอกำมือแน่นอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะนั่งยองข้างเซียวหยางอีกครั้ง “อดทนหน่อยนะ ฉันจะรีบหาคนมาช่วยนาย ไม่เป็นไรนะ อดทนอีก……”
เพราะว่ากระดูกขาของเซียวหยางหักอย่างชัดเจน แม้ปริมาณเลือดจะมาก แต่ซูย้าวก็ไม่กล้าเคลื่อนย้ายเขาแบบลวกๆ เธอลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ก่อนจะพุ่งไปยังชายหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ไกล และพูดว่า “ลี่เฉินซี ฉันรู้ว่าคุณกำลังหาฉันอยู่ ตอนนี้คุณหาเจอแล้ว ช่วยคนก่อน ได้ไหม?”
ลี่เฉินซีมองเธอเงียบๆ ดวงตาของเขาดูถูก และเย็นชามาก และเป็นเวลานานก่อนที่เขาจะหันหน้าไปทางหวางอี้ และสั่งว่า “นำชายคนนี้ โยนลงภูเขาไป!”
หวางอี้ “……”
ถึงแม้จะรู้ว่าบอสพูดเพราะโทสะ แต่หวางอี้ก็พยักหน้าเบาๆ และพูดว่า “ครับ ผมรับทราบ”
พูดจบ หวางอี้ก็ก้าวเข้าไป ซูย้าวรีบเข้าไปปกป้องเซียวหยางด้วยร่างกายของเธออย่างตกใจ “หวางอี้ นายจะทำอะไร?”
ในขณะเดียวกัน เธอก็รีบหันไปมองลี่เฉินซี “คุณตั้งใจชนคน แล้วตอนนี้ยังจะทำลายหลักฐาน คุณบ้าไปแล้วเหรอ?”
หวางอี้ไม่ได้พูดอะไรสักคำ เขาอ้อมตัวซูย้าวไป ก่อนจะเอนกายไปข้างหน้าเพื่อดึงเซียวหยางด้วยมือของเขา คนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วยังต้องมาทนกับการลากดึงแบบนี้อีก เซียวหยางกัดฟันด้วยความเจ็บปวดและ ซูย้าวรีบวิ่งเข้าไปขวางเอาไว้ “หวางอี้ หยุดเดี๋ยวนี้!”
“คุณอาน อย่าเข้ามายุ่งเลยครับ” หวางอี้เปิดปากพูด ในเวลาเดียวกัน เขาผลักซูย้าวออกไปด้วยพละกำลังมหาศาล จากนั้น จึงกระชับมือของตัวเอง เพื่อออกแรงดึงเซียวหยางที่ตอนนี้กำลังกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดมาพาดบนไหล่ของเขาโดยตรง
ซูย้าวมองหวางอี้ที่แบกคนเจ็บผ่านหน้าเธอ เพื่อตรงไปยังภูเขาลึก เธอรีบพุ่งเข้าไปอย่างไม่คิด “หวางอี้!”
เธอรีบเข้ามาขวางหน้าชายหนุ่ม แต่หวางอี้กลับเลี่ยงเธอด้วยใบหน้าที่เฉยเมย “ผมบอกแล้ว คุณอาน อย่ามายุ่งเลย”
ซูย้าวไม่ยอมแพ้ เธอขวางหน้าเขาอีกครั้ง ไม่รู้ว่าบอดี้การ์ดในชุดดำ5-6คนที่เข้ามาขวางเธอไว้ มาจากไหน พวกเขาเข้ามาล้อมเธอเอาไว้
หวางอี้ฉวยโอกาสนี้ แบกเซียวหยางห่างออกไป ไม่ว่าซูย้าวจะพยายามดิ้นรนแค่ไหน ก็ไม่สะเทือนบอดี้การ์ดตรงหน้าได้เลย ในท้ายที่สุด เธอทำได้เพียงมองดูหวางอี้แบกคนเข้าไปในเขาลึกอย่างตะลึงงัน
เธอหันกลับมาด้วยความโกรธจัด และผลักบอดี้การ์ดที่อยู่รอบตัวเธอออกไป ก่อนจะพุ่งตัวไปทางลี่เฉินซี “นี่คุณบ้าไปแล้วเหรอ? นี่เห็นชีวิตคนเป็นผักเป็นปลา ฆ่าคนโดยพลการเหรอ?”
“ถ้าคุณโกรธ คุณแค้น ก็เอามาลงที่ฉันสิ เอาไปลงกับคนข้างกายฉันมันได้อะไร? เซียวหยางเพิ่งจะอายุเท่าไหร่ คุณทำแบบนี้ คุณ……”
คำพูดของเธออาจจะมีสักคำที่สะกิดต่อมของชายหนุ่มเข้า ลี่เฉินซียกมือขึ้นปิดปากของเธอด้วยมือเดียวโดยพลันแบบไม่ต้องคิด เขาบีบแก้มบอบบางของเธออย่างรุนแรงด้วยนิ้วอันทรงพลัง เขากดร่างกายของเธอเข้ากับตัวรถด้วยความโกรธ โน้มตัวเข้าไปหาเธอ และพูดด้วยเสียงต่ำเย็นชา “คุณพูดถูกแล้ว ผมมันบ้า แต่มันก็เกิดจากคุณไม่ใช่เหรอ?”
เธอรู้ว่าเซียวหยางไม่ควรต้องมาชดใช้กับสิ่งเหล่านี้ ถ้าอย่างนั้น เธอรู้ไหมว่า วันที่เธอจากไปพร้อมแผนลวงโลกนั่น ลูกสองคนกลับต้องบาดเจ็บหนักเพราะเธอเอง!
พวกเด็กๆ เพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง เพราะเธอ เลยเกือบจะต้องเสียชีวิต!
“ดูท่าก่อนหน้าผมคงจะปฏิบัติกับคุณดีเกินไป มันเลยทำให้คุณกล้าพอที่จะทำทุกอย่างตามที่คุณต้องการ ทำตามอำเภอใจไม่เกรงกลัวใคร!” เสียงที่เปล่งออกมาอย่างเย็นชาของลี่เฉินซี ราวกับใบมีดรองเท้าสเกตน้ำแข็ง ไม่น่าฟังและบาดได้เลือด “ผมให้คุณอยู่ในฐานะ ซูย้าวมาโดยตลอด กลับเกือบลืมไป ซูย้าวตายไปนานแล้ว คุณตอนนี้ เดี๋ยวนี้ คืออานหว่านชิง!”
“ดังนั้นคุณอานหว่านชิง ในเมื่อตัวคุณเองไม่เห็นคุณค่าของคนอื่น ถ้าอย่างนั้น ก็อย่าโทษที่ผมต้องโหดเหี้ยม!” ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็ดึงเธอขึ้นมาอย่างแรง ก่อนจะเปิดประตูด้วยมือข้างหนึ่ง และยัดเธอเข้าไปในรถด้วยมืออีกข้าง