เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 702 ทำผิด
เมื่อได้ยินดังนั้น น้าชิวถึงกับตะลึงงัน
แต่ในเมื่อเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ดีบ้างร้ายบ้างหลายปีแล้ว สถานการณ์ไหนความลำบากไหนไม่เคยเห็นบ้างล่ะ น้าชิวไม่ถือเป็นจริงจัง เพียงแต่ยิ้มเย็น แล้วจุดบุหรี่ขึ้นอีก “สาวน้อย ฉันจะพูดความจริงกับเธอ ในเมื่อประธานลี่โยนเธอไว้ที่นี่แล้ว ยังสั่งกับฉันด้วย ไม่ใช่แค่ให้เธอล้างห้องน้ำธรรมดาแค่นั้นหรอก!”
“ฉะนั้น ไม่ว่าจะทำอะไร เธอต้องทำตามที่ฉันสั่ง! ฉันให้เธอทำอะไร ก็ทำซะดีๆ! พูดมากไปทำไม!”
ชักจะรำคาญ เธอดูแลผู้หญิงมามากมาย ส่วนใหญ่ยินยอมทั้งนั้น ขาดเงินส่วนตัวทำนองนั้น หรือไม่ก็ติดหนี้ติดสิน ต้องทำงานหาเงินคล่อง น้อยครั้งนักที่จะเจอแบบซูย้าว และยังพูดว่าฝันไป เธอสิฝันไป!
ซูย้าวขมวดคิ้วรำคาญ ถอนหายใจเบาๆ แม้ว่าตอนนี้ยังกินไม่อิ่ม มองอาหารที่ยังเหลือบนโต๊ะ แต่ก็หมดอารมณ์จะกินต่อไป คิดนิดหนึ่ง แล้วพูดขึ้น “อย่างนั้น นี่คือความหมายของลี่เฉินซี ใช่มั้ย”
“เขาให้ฉันไปรับใช้คนอื่น ทำเรื่องพรรค์นั้นงั้นหรือ” เธอตั้งใจตีความ หวังว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าจะฟังเข้าใจ
น้าชิวลูกตาขยับนิดหนึ่ง แต่ยังคงพูดเด็ดเดี่ยว “ใช่สิ ไม่อย่างนั้นเขาจะโยนเธอมาที่นี่ทำไมกันล่ะ เธอคงไม่ได้จะรักษาเนื้อรักษาตัวเพื่อผู้ชายใช่มั้ย ฝันไปเถอะ ผู้ชายอย่างประธานลี่ ไม่มองเธอหรอก!”
ซูย้าวหลับตาลงช้าๆ ขนตางอนยาวปิดบังอารมณ์ที่ซับซ้อนในดวงตา ครุ่นคิดช้าๆ ลี่เฉินซีรังเกียจเธอ เธอไม่ว่าอะไร เพียงแต่…
เขาอยู่ๆ ให้เธอมาทำเรื่องอย่างนี้หรือ ผู้ชายคนนี้สมองมีปัญหา!
ซูย้าวพยายามอดกลั้นอยู่นาน ค่อยพูดขึ้น “เมื่อกี้ฉันพูดแล้ว ไม่ได้ ไม่ว่าใครสั่ง ก็ไม่ได้!”
ร่างกายเป็นของเธอ เธอก็ไม่ถึงกับเสียสติขาดความยั้งคิดขนาดนั้น จะยอมเป็นหุ่นเชิดให้คนอื่นได้อย่างไร!
น้าชิวเบะปาก “อ้อ อยากให้ฉันใช้กำลังถึงจะยอมใช่มั้ย”
“กำลัง” ซูย้าวขมวดคิ้ว หางตามองผู้ชายสองคนที่อยู่ข้างหลังน้าชิว แม้ว่ามองแล้วจะสูงใหญ่บึกบึน ท่าทางเป็นบอดี้การ์ดมาหลายปี แต่เธอก็ไม่หวาดกลัวสักนิด พูดขึ้น “คิดว่าแค่สองคนนี้ จะจัดการฉันได้หรือ”
อานเจียเย้นเคยสอนยูโดให้เธอกับมือ แม้จะพูดไม่ได้ว่าชำนาญ แต่อย่างน้อย การป้องกันตัวพื้นฐาน ก็ยังทำได้สบายๆ
น้าชิวประหลาดใจทีเดียว แต่ยังไม่ทำตอบสนอง ซูย้าวก็ลุกขึ้นหมุนข้อมือ “ตอนนี้ฉันอยากไปแล้ว ถ้าพวกเธอฉลาดละก็ อย่าขวางทาง ไม่อย่างนั้น…”
“โอ้ พระเจ้า! เธอมันบ้าไปแล้วจริงๆ!” รู้สึกอายจนโกรธ สั่งคนที่อยู่ข้างหลังทันที “ลงมือ! ฉันจะดูซะหน่อยวันนี้นังแพศยานี่จะขัดคำสั่งได้มั้ย!”
แต่วินาทีที่เธอพูดจบ ซูย้าวก็เตรียมพร้อมแล้ว คว้าชามที่ยังเหลือน้ำซุปครึ่งหนึ่งอย่างว่องไว แล้วสาดใส่หน้าน้าชิวเต็มๆ น้ำซุปร้อนๆ สาดเข้าใส่ ร้อนจนน้าชิวกัดฟันร้องเจ็บปวด
“โอ๊ย!” น้าชิวร้องครวญคราง มือปัดเศษราเมงบนหน้า โมโหยิ่งขึ้นร้องตะโกนสั่ง “ลงมือ ยังมัวชักช้าอะไรอีก”
ผู้ชายสองคนถึงค่อยรู้สึกตัว พุ่งเข้าไปใกล้ซูย้าวพร้อมกัน เธอจับแขนของผู้ชายที่ยื่นเข้ามาอย่างง่ายดาย กระบวนท่าสี่ตำลึงปาดพันชั่ง ทุ่มไหล่ทันที ท่าทางสมบูรณ์แบบ
ส่วนผู้ชายอีกคนหนึ่ง เตะขาออกไปโดยไม่ได้เตรียมตัว เตะเข้าท้องน้อยของผู้ชายพอดี เจ็บจนตัวงอ เธอเตะซ้ำไปอีกสองสามที ผู้ชายคนนั้นเจ็บจนลงไปนอนกองร้องโอดโอย
จัดการสองคนง่ายๆ ซูย้าวก็ยืดเหยียดตัว ขมวดคิ้วนิดๆ บาดแผลตรงท้องที่ฉีกขาดอยู่แล้ว ตอนนี้คงจะหนักขึ้น…
มือข้างหนึ่งจับท้องน้อย กดตรงบาดแผล ห้ามไม่ให้เลือดออกมากไป จะเดินออกไปข้างนอก เพิ่งเดินถึงประตู ยังไม่ทันผลักประตู ประตูก็ถูกเตะเต็มแรงจากข้างนอก
จากนั้นก็มีผู้ชายวัยรุ่นสูงใหญ่กำยำอีกสี่คนพุ่งเข้ามา จำนวนคนเยอะเกินไป ประกอบกับตอนนี้ร่างกายซูย้าวก็บาดเจ็บ เธอจึงทำได้แต่ฝืนสู้เต็มที่ ระหว่างต่อสู้กัน มีคนเตะเข้าที่ท้องพอดี ถูกแผลเก่า เจ็บจบแทบทนไม่ไหว
เธอไม่ทันระวังตัว ก็ถูกคนอื่นฉวยโอกาสล้อมเข้ามา
แต่ครู่เดียว กำลังกายไม่พอที่จะทนไหว ก็ล้มลงกองกับพื้น
พวกผู้ชายกรูเข้ามาล้อมตัว น้าชิวก็เดินเข้ามาใกล้ เอียงตัวกระชากผมยาวของซูย้าว ดึงตัวเธอขึ้นมา ยกมือขึ้นฟาดเธอสองฉาด “นังแพศยา! เมื่อกี้ทำเป็นเก่งไม่ใช่หรือ ตอนนี้เป็นยังไงล่ะ”
“ยังคิดจะหนีอีกหรือ เชอะ!”
สั่งสอนอยู่นาน แล้วโยนเธอทิ้ง เหลือบตามองคนที่อยู่ข้างๆ “แบกมันขึ้นมา ตีให้หนัก หักกระดูกมันด้วย ตีมันหลายๆ ที ดูสิจะไม่ยอมเชื่อฟังอีกมั้ย!”
ผู้ชายสามสี่คนลงมือจะเบาที่ไหนกัน ซูย้าวเจ็บจนตัวงอ ใช้มือปกป้องท้องน้อยอย่างยากลำบาก พยายามไม่ให้หมัดเท้าถูกแผล…
…
คืนหนึ่งหลังจากนั้นเกือบสองวัน ในห้องส่วนตัวบนอาคารถ้ำสำราญมังกร ลี่เฉินซีมางานเลี้ยงของเพื่อน เขาเดินไปเข้าห้องน้ำ ตอนที่ออกมา เจอกับผู้จัดการที่เดินผ่านมาพอดี
พอผู้จัดการเห็นเขา ก็รีบค้อมตัวทักทาย “ประธานลี่ สวัสดีครับ!”
ใบหน้าชายหนุ่มเย็นชาตลอดเวลา ไม่มีอารมณ์อื่นใด จะเดินผ่านผู้จัดการไป ก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ ชะลอฝีเท้าลง หันกลับมาถามเขา “ผู้หญิงที่เคยฝากไว้อยู่ที่ไหน”
ผู้จัดการนึกได้ทันทีลี่เฉินซีหมายถึงใคร สายตากลอกไปมากระวนกระวาย พยักหน้าโดยไม่รู้ตัว “เธอ…เธอทำงานอยู่ครับ”
“ที่ไหน” ลี่เฉินซีถามอีก หางตาเหลือบมองห้องน้ำ จำได้ว่าเขาให้เธอทำงานล้างห้องน้ำที่นี่
ผู้จัดการก็มองห้องน้ำที่อยู่ข้างๆ รีบพูดขึ้น “กำลังกวาดถูห้องน้ำ ทำความสะอาด…”
ลี่เฉินซีขมวดคิ้ว “คนล่ะ อยู่ที่ไหน”
“คน คน…” ผู้จัดการอ้ำอึ้ง กลัวจนลนลาน เหงื่อผุดซึมเต็มหน้าผากโดยไม่รู้ตัว
ลี่เฉินซีรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ ใบหน้าคมคายเย็นชา เดินไปข้างหน้า ยื่นมือไปจับคอเสื้อสูทของผู้จัดการ ช่วยเขาจัดให้เรียบร้อย ดูแล้วท่าทางปกติ แต่ทันใดนั้นก็ออกแรง ใช้เนกไทรัดคอเขาเต็มแรง “ผมจะถามครั้งสุดท้าย คนอยู่ไหน”
ผู้จัดการหลับตาจนปัญญา รู้สึกว่าไม่รอดแน่ ได้แต่ตอบว่า “คนอยู่กับน้าชิวครับ เกิดอะไรกันแน่ผมก็ไม่รู้ชัด ได้ยินแต่ว่าถูกขังไว้ ดูเหมือนจะทำอะไรผิด…”
แววตาลี่เฉินซีพลันเคร่งขรึม ทำผิดก็ขังคนหรือ มีเหตุผลนี้ด้วยหรือ!
การแสดงออกบนใบหน้าหล่อเหลาที่เย็นเยียบนั้นไม่เปลี่ยนไป เขาโกรธจนยิ้มออกมา แรงบนมือหนักขึ้น เหวี่ยงผู้จัดการกระเด็นไป และเตะเพิ่มอีกดอกหนึ่ง จนผู้จัดการกระเด็นไปหลายเมตร
ผู้จัดการล้มลุกคลุกคลานที่พื้น ท่าทางน่าเวทนา และยิ่งกลัวจนหัวหด ดิ้นรนพยายามลุกขึ้น แทบจะคุกเข่าใกล้ๆ ลี่เฉินซี “ผมไม่รู้จริงๆ เกิดอะไรขึ้น ประธานลี่ อย่าเพิ่งโกรธ ผมจะพาคุณไป…”
ลี่เฉินซีค่อยคลายโมโห ตามผู้จัดการไปที่โรงแรมด้านหลังถ้ำสำราญมังกร ชั้นใต้ดินชั้นสอง ห้องที่อยู่ด้านในสุดของทางเดิน ด้านนอกมีคนเฝ้าประตูสองคน มองเห็นชัดเจน
เขากวาดตามองแวบหนึ่ง สีหน้าผ่อนคลายที่หาได้ยากก็เคร่งขรึมขึ้นอีกครั้ง คนที่เขาพามา แม้ว่าจะทำผิด ก็ไม่ใช่ให้พวกเขาเฝ้าแบบนี้!
เมื่อเห็นคนเฝ้าห้องสองคน ไม่รอให้พวกเขาพูดอะไร ก็ถูกลี่เฉินซีผลักไปข้างๆ จากนั้น เขาก็เห็นว่าประตูห้องถูกล็อก สูดลมหายใจลึก ยกขาเตะประตูทีหนึ่ง
ขณะที่เตะประตูเปิดออก สายตามองเห็นภายในห้อง ก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง