เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 733 ฉันรอเธอได้
เพ้ยส้าวหลี่มีความคาดไม่ถึง และมีความไม่คาดคิด แววตาที่ลึกซึ้งรวมตัวกัน เป็นระลอกคลื่นอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดถึงตกตะกอนช้าๆ กางแขนออก กอดเธอไว้ในอ้อมแขนเบาๆ เอนตัวไปกระซิบข้างหูเธอ “เมื่อกี้ไม่ควรอารมณ์เสียใส่เธอ แต่รับปากฉัน หลังจากนี้มีแค่ฉันคนเดียว นะ?”
ซูร่างร่างแข็งทื่อเล็กน้อย มือที่ไม่เป็นธรรมชาติดันอยู่ที่แผงอกของชายหนุ่ม แต่ก็ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวมากนัก เพียงแค่พูดว่า “เมื่อกี้ฉันก็ตกลงไปแล้วไม่ใช่หรอ?”
ชายหนุ่มกอดเธอแน่นอย่างปลื้มใจ และยิ่งกว่านั้น ราวกับว่าอยากที่จะสูบเธอเข้าไปในเลือดเนื้อตัวเองซะอย่างนั้น
ซูย้าวหลับตาลงอย่างทำอะไรไม่ได้ ทางเลือกนี้เจ็บปวดมาก และช่วยไม่ได้ แต่กลับไม่มีหนทางอื่นแล้ว
เพื่อความปลอดภัยในอนาคตของเด็กๆ และเพื่อให้อานเจียเย้นตายใจโดยเร็วที่สุด ยุติเกมที่ไร้สาระนี้ไปโดยสมบูรณ์ เธอมีแต่ต้องทำแบบนี้
อยู่ห่างจากลี่เฉินซี ไม่ใช่เพียงแค่การกระทำเท่านั้น ในใจเองก็ต้องวางขอบเขตไว้ด้วย
ดังนั้น ในตอนนี้ เธอเตือนตัวเองอยู่ในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ลืมเขา ลืมเขา จะต้องลืมให้ได้!
ความโกรธในใจของเพ้ยส้าวหลี่ไม่รู้ว่าจางหายไปมากแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยล้าอย่างอธิบายไม่ถูก เพียงแค่กอดเธอไว้แน่น ฝังศีรษะไว้บนไหล่ของเธอ พูด ‘อืม’ด้วยเสียงอู้อี้ จากนั้นก็พูดขึ้นหนึ่งประโยค “”เมื่อกี้ทำให้ตกใจหรือเปล่า? ขอโทษนะ บางครั้งฉัน ก็งี่เง่าไปหน่อย……”
ซูย้าวชะงักเล็กน้อย รู้สึกพูดไม่ออก สักพักใหญ่ถึงพูดอย่างคลุมเครือ “ไม่เป็นไร เรียกร้องความต้องการแบบนี้กับนายได้ ฉันต่างหากที่งี่เง่า”
อาศัยที่เพ้ยส้าวหลี่ยังมีความรู้สึกให้ตนอยู่ จึงใช้ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ มาหาเขาในทันที ลากเขาออกมา เพื่อเป็นโล่กำบังที่ยิ่งใหญ่แบบนี้
ตามอารมณ์ตามเหตุผล มันล้วนแต่ไม่ยุติธรรมต่อเพ้ยส้าวหลี่ไม่ใช่หรอ?
ชายหนุ่มยิ้ม ยกมือขึ้นเลื่อนมือของเธอที่ขวางอยู่ตรงหน้าอกเขามาตลอด ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนอย่างง่ายดาย ถือโอกาสกดเธอไปที่มุมโซฟา ใบหน้าหล่อเหลาตกลงมาที่เธอ
ตามองริมฝีปากของชายหนุ่มตกลงมา ท้ายที่สุดซูย้าวก็เบือนหน้าหนี ปฏิเสธไป
เพ้ยส้าวหลี่ชะงัก มองลงมาที่เธอ ยิ้มเล็กน้อยอย่างไม่หวาดหวั่น จะจูบเธออีกครั้ง แต่กลับถูกซูย้าวหันหน้าหลบอีกครั้ง ปฏิเสธ
ครั้งนี้ เขาหยุดการเคลื่อนไหวมองไปที่เธอเงียบๆ
ถูกชายหนุ่มจ้องมองด้วยสายตาแผดเผาแบบนี้ ซูย้าวก็รู้สึกอึดอัด และรู้สึกหนังศีรษะชา กะพริบตาโดยไม่รู้ตัว พูดแค่ “คือว่า ฉันไม่ค่อยสบายนิดหน่อย ดังนั้น……”
เธอก็ไม่ได้โกหกเขา ร่างกายเธอไม่ค่อยสบายจริงๆ เมื่อคืนเป็นไข้สูงทั้งคืน แล้วบาดแผลก็ติดเชื้อ อีกอย่าง เธอรู้สึกว่าประจำเดือนของตัวเองกำลังจะมาแล้ว ร่างกายเลยรู้สึกหน่วงๆ อยู่ตลอด รู้สึกไม่ค่อยสบาย
นี่เป็นครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สอง ที่ทำการบอกปัดและปฏิเสธไปอย่างจริงใจ
ถึงอย่างไร ไม่รักก็คือไม่รัก และไม่ชอบ จะให้เสน่หาได้ยังไง?
เพ้ยส้าวหลี่เองก็ดูความหมายของเธอออก คว้ามือเล็กๆ ของเธอด้วยมือข้างเดียว “เมื่อคืนเธอก็ปฏิเสธเขาแบบนี้?”
คำว่า’เขา’ที่ออกมาจากปากเขาหมายถึงใคร ในใจซูย้าวรู้ดี เมื่อได้ยินคำนี้ แววตาก็จมดิ่งทันที
นิ้วเรียวยาวของเพ้ยส้าวหลี่พลิกกลับ ยกคางของเธอขึ้น “ทำไมไม่พูดล่ะ?”
ขนตาเรียวยาวของซูย้าวตกลงเบาๆ มุมปากขยับเล็กน้อย “พูดอะไร? นายอยากได้ยินอะไร?”
เธอพูดว่า เมื่อคืนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเธอกับลี่เฉินซี เขาจะเชื่อไหม?
ในเมื่อเป็นแบบนี้ สู้ไม่อธิบายยังดีเสียกว่า ปล่อยให้เขาฟุ้งซ่านไปตามสบาย
ใบหน้าของเพ้ยส้าวหลี่ค่อยๆ มืดมนลง ทั้งสองแน่นิ่งอยู่หลายวินาที เขาถึงพูด “หลายปีมานี้ ฉันไล่ตามเธอมาตลอด ความรู้สึกที่ฉันมีต่อเธอ แทบจะทุกคนดูออกกันหมด แต่เธอเอาแต่บอกปัดและปฏิเสธ ตอนนี้เกิดเรื่องขึ้น ตอนที่อยากหาคนช่วย เธอถึงนึกถึงฉันเป็นคนแรก”
“แต่ฉันก็ไม่สน แค่อยากให้เธออยู่กับฉันเพียงเท่านั้น อีกอย่าง ฉันก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง เป็นผู้ชายธรรมดาทั่วไป สำหรับผู้หญิงที่ชอบแล้ว มีปฏิกิริยาแรงกระตุ้น ก็ล้วนเข้าใจได้ใช่ไหม?”
เพ้ยส้าวหลี่ยิ่งพูดน้ำเสียงก็ยิ่งจมดิ่ง แล้วเสียงก็เย็นลง “ฉันไม่ได้ขอเธอมากไปใช่ไหม?”
แรงกระตุ้นนั้นในใจเขาหายไปในทันที ลุกขึ้นนั่งอย่างง่ายดาย “ชิงชิง เธอเคยคิดไหมว่า การที่เธอทำตามใจตัวเองแบบนี้ เธออาศัยอะไรอยู่กันแน่?”
เด็กชอบทำตามอำเภอใจ เพื่อของเล่นที่ชื่นชอบ หรือเรื่องที่อยากทำ สามารถโวยวายตามใจโดยไม่หยุดพัก สิ่งที่อาศัยคือ ความรักใคร่เอาอกเอาใจที่พ่อแม่มีต่อลูก
แต่คำจำกัดความแบบนี้ จำกัดเฉพาะเหล่าเด็กน้อยที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเท่านั้น
พวกเขาต่างก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว หากไม่มีการพิจารณาหรือพึ่งพาอาศัย จะกล้าประมาทตามอำเภอใจแบบนี้ได้ยังไง?
ซูย้าวสูดหายใจลึกอย่างไร้เรี่ยวแรง และลุกขึ้นนั่งช้าๆ “อาศัยที่นายชอบฉัน นายรักฉัน นายอยากแต่งงานกับฉัน และอยากได้ฉัน”
เธอเข้าใจทุกอย่าง และรู้ดีทุกอย่าง และรู้ว่าตนเองทำแบบนี้ มันติดค้างเพ้ยส้าวหลี่มากเกินไปจริงๆ !
ไม่ต้องพูดถึงเขา ไม่ว่าจะเป็นยังไง เคยทำเรื่องไร้เหตุผล หรือชั่วร้ายอะไรมา ก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้ ในเรื่องของความรัก เขาอาจจะไม่ใช่ผู้ชายที่ดี กระทั่งสามารถอธิบายได้ว่าเป็นผู้ชายเจ้าชู้อย่างแท้จริง
เขาทำให้เด็กสาวมากมายผิดหวัง และทำให้ผู้หญิงที่รักเขาจริงหลายคนเสียใจ มีตัวอย่างมากมาย ไม่จำเป็นต้องยกตัวอย่างทีละคน
อย่างเช่นหานฉ่ายหลิงก่อนหน้านี้ แม้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองจะเป็นความร่วมมือทางธุรกิจ แต่การเหยียดหยามครั้งแล้วครั้งเล่าของเขา ก็เป็นเรื่องจริง แล้วยังมีชาร์ลี ใครมีตาก็มองเห็น
แต่ถึงอย่างนั้น ในตอนนี้ซูย้าว ทำกับเขาแบบนี้ ก็ยังคงไม่ยุติธรรม
ดังนั้นในใจเธอก็ไร้รสชาติมาโดยตลอด ดิ้นรนครุ่นคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใบหน้าของเธอในตอนนี้ ปกปิดไว้ยิ่งขึ้นไปอีก “ส้าวหลี่ เรื่องพวกนี้ต่อให้นายไม่พูด ฉันก็รู้”
“บางทีเรื่องความรู้สึก ฉันไม่อาจให้อะไรนายได้ แต่เรื่องอื่น ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่”
เรื่องของความรู้สึก มันแปลกมากจริงๆ ไม่ใช่เขาดีต่อเธอไม่พอ และไม่ใช่ว่าเขาคนนี้ยอดเยี่ยมไม่พอ ต้องโทษช่วงเวลา และสถานที่ที่พวกเขาพบกันมันช้าเกินไป
ผู้หญิงที่หลงรักราชสีห์มาตั้งแต่ไหนแต่ไร จะไปมีใจให้หมาป่าอีกได้ยังไง?
หลักเหตุผลเข้าใจได้ง่าย แต่ในความรัก หลักการเหล่านี้มันพูดมาชัดเจนแหละ
ซูย้าวมองไปที่เขา “นายก็อย่าคิดแย่ขนาดนั้น หลังจากนี้ฉันจะควบคุมสถานการณ์อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านอานเจียเย้น หรือว่าด้านลี่เฉินซี ฉันจะจัดการให้ดีที่สุด ไม่ต้องให้ถูกบังคับ จะไม่ปล่อยให้นายมีการสูญเสียใดๆ เด็ดขาด”
สิ่งเดียวที่เธอครุ่นคิดและประมาณการอยู่ตอนนี้ ก็คือทางด้านอานเจียเย้น
สืบทอดทุกอย่างหลังการตายของเพ้ยหยู่เจี๋ย บวกกับจิตวิทยาที่บิดเบี้ยวของอานเจียเย้น ปัจจัยผลกระทบหลากหลายด้าน คาดว่าการจะให้เขาวางมือ ยากเกินไปจริงๆ !
แต่ไม่ว่ายังไง เธอจะลองพยายามอย่างเต็มที่!
ต่อให้ถูกทำลายไปด้วยกัน ตัวเธอเองก็ไม่หวั่น แต่ภายใต้เงื่อนไขแรก เธอจะไม่ลากเพ้ยส้าวหลี่เข้ามาเกี่ยว
ไม่เกี่ยวกับนิสัยและการกระทำ เธอเพียงแค่ไม่อยากให้ผู้บริสุทธิ์คนหนึ่ง ต้องมาเสียสละและทุ่มเทเพื่อเธอ ด้วยปัจจัยทางความรู้สึก
ก็เพียงเท่านั้น
เพ้ยส้าวหลี่มองไปที่เธออย่างเย็นชา “เธอคิดว่าฉันยังกลัวที่จะสูญเสียอะไรหรอ? นอกจากเธอแล้ว ทุกอย่างฉันไม่เอาก็ยังได้!”
เขาหันตัวไป พยายามระงับความคิดที่วุ่นวายและอารมณ์ที่ฉุนเฉียว ค่อยๆ ควบคุม ถึงพูดขึ้นต่อ “ถึงยังไงวันข้างหน้ายังอีกยาวไกล วันคืนหลังจากนี้ยังมีอีกมาก ฉันรอได้ รอจนกว่าเธอจะยินดีเต็มใจ รอให้ใจเธอมีฉัน รอวันที่เธอหลงรักฉันจริงๆ ”
“แต่จำไว้นะ ในเมื่อตอนนี้เธอเลือกฉันแล้ว งั้นหลังจากนี้จะเปลี่ยนใจไม่ได้อีก เริ่มตั้งแต่นาทีนี้ เธอเป็นของฉันตลอดไป”
นี่เป็นการอ่อนข้อให้มากที่สุดเพียงอย่างเดียวที่เขาสามารถทำได้แล้ว เขาสามารถยับยั้งแรงกระตุ้นตามธรรมชาติได้ ไม่แตะต้องเธอ และไม่บังคับเธอ รอได้ ให้เวลาชะล้างทุกสิ่ง
ซูย้าวเองก็ลุกขึ้นมา ดวงตาที่เบือนหนีดูมืดมน ตอนนี้เธอเป็นของใคร ก็ไม่สำคัญมาตั้งนานแล้ว ถ้าเป็นความรู้สึกของตัวเธอเอง คนหลายคนลงมือแย่งชิงจนวุ่นวาย นั่นก็ง่ายดาย
ในช่วงที่ผ่านมานี้ เธอก็เคยคิดอย่างถี่ถ้วนใหม่อีกครั้ง เป้าหมายที่แท้จริงของอานเจียเย้น คืออะไรกันแน่?
แต่ก่อนเธอนึกว่าเป็นตัวเธอเอง แต่ตอนนี้ดูเหมือน มันจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น
ซูย้าวไม่ได้หวั่นเกรงซักเท่าไหร่ ขอแค่เพียงสามารถป้องกันลูกๆ ของเธอจากกรงเล็บจอมมาร ทุกอย่างมันก็คุ้มค่า!