เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 737 อย่าทำให้ตัวเองอับอาย
ตลอดทางที่ซูย้าวลงมาชั้นล่าง ไม่เกิดอุบัติเหตุอะไร รถมายบัคสองสีคันหนึ่งจอดอยู่ข้างถนน ผู้ชายอายุประมาณสามสิบปีคนหนึ่ง ใส่ชุดสูททั้งตัวยืนอยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นเธอเดินออกมา ก็เดินเข้าไปทัก
“คุณอาน ประธานเพ้ยติดธุระชั่วคราว ให้ผมมารับคุณครับ”
ชายหนุ่มเอ่ยปากพูด
ซูย้าวขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ได้หยุดฝีเท้า และไม่ได้เดินไปที่รถ แต่จงใจเดินเลี่ยง เดินไปพูดไป “ฉันยังมีธุระนิดหน่อย นายกลับไปก่อนเถอะ!”
“คุณอาน”ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าเดินมาถึงตรงหน้าเธอ วิธีการที่ดุดัน บังคับให้เธอต้องหยุดลง ชายหนุ่มพูดต่อ “ถ้าพูดอย่างล่วงเกิน ผมไม่เคยเห็นประธานเพ้ยปฏิบัติต่อเพศตรงข้ามคนไหนเหมือนคุณ พูดได้ว่า สำหรับประธานเพ้ยแล้ว คุณคือการมีอยู่ที่พิเศษมาก”
ซูย้าวมองไปที่เขาด้วยสายตาสงบนิ่ง “แล้วยังไง?”
“ดังนั้น ก็เชิญคุณอานให้ความร่วมมือ เชิญขึ้นรถเถอะ! ผมพาคุณไปส่งที่คฤหาสน์”ขณะที่ชายหนุ่มพูด ก็โค้งตัวเบาๆ อย่างสุภาพ แล้วพยักหน้าไปทางรถ ทำสัญญาณมือบ่งบอกว่า ‘เชิญ’
ซูย้าวมองชายหนุ่มนิ่งๆ เย็นชาและเย่อหยิ่งแบบนี้ เป็นคนที่เพ้ยส้าวหลี่ฝึกฝนออกมาจริงๆ เมื่อกี้ที่เขาอยากจะพูด คือให้เธอรู้ตัวเองหน่อย อย่าทำให้ตัวเองอับอาย!
คิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว สถานการณ์ของเธอในตอนนี้ ดูเหหมือนว่าก็ควรจะเป็นแบบนั้นจริงๆ
ไม่ว่าจะให้ความร่วมมือ หรือการแลกเปลี่ยน ถ้าขาด ‘การช่วยเหลือ’จากเพ้ยส้าวหลี่ หนทางต่อจากนี้ สำหรับเธอแล้ว ยากเกินไป
เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และไม่ได้ปฏิเสธอีก ก็ก้าวเท้าขึ้นรถไป
ชายหนุ่มพาเธอออกจากบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป ตรงไปที่คฤหาสน์เพ้ยในย่านในกลางเมือง ที่นี่ทำเลดีเยี่ยม อยู่ใกล้ย่านธุรกิจ ปกติจะมีเพียงแค่เพ้ยส้าวหลี่อาศัยอยู่คนเดียว ดังนั้นในทุกๆ ด้านแล้ว ล้วนแต่ดีเยี่ยม
พ่อบ้านปฏิบัติต่อเธออย่างสุภาพและรอบคอบ พาเธอขึ้นชั้นบนด้วยตัวเองเพื่อทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม แล้วยังเตรียมห้องนอน และห้องทำงานเดี่ยวให้เธอเป็นพิเศษ เพื่อให้เธอใช้ชีวิตและพักผ่อนได้อย่างสะดวก
สำหรับเรื่องพวกนี้ ซูย้าวไม่ได้จู้จี้อะไร เพียงแค่กำชับสองสามคำ ก็เดินจากพ่อบ้านไป นั่งอยู่ในห้องทำงานคนเดียว สติล่องลอย
ความคิดจมดิ่งยาวนาน หลังจากครุ่นคิดแล้ว เธอก็รีบกำจัดความคิดซับซ้อนในสมอง ดึงสติกลับมานั่งลงตรงหน้าโต๊ะทำงาน เปิดคอมพิวเตอร์
ในกล่องจดหมายลับส่วนตัวของเธอ มีอีเมลสองสามฉบับที่เซียวหยางส่งมา ส่วนใหญ่แล้ว ล้วนเกี่ยวกับ Double Aceกรุ๊ป กับรายละเอียดสถานการณ์ของบริษัทอื่นๆ ที่อยู่ในชื่อของอานเจียเย้น
ช่วงที่ผ่านมานี้ เซียวหยางพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลในต่างประเทศมาโดยตลอด แต่บางครั้งก็จะตรวจสอบเรื่องบางอย่างแทนเธอ ในด้านนี้ เขานับว่าเป็นมืออาชีพมาก สำหรับตัวซูย้าวเอง ก็มีความจริงใจมาก ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอื่น
ซูย้าวตรวจดูเนื้อหาในอีเมล ดูการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของ double A ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ธุรกิจ ถึงขนาด ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน เพียงแค่วุ่นวายเล็กน้อย ความแน่วแน่ที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ มันแสดงถึงอะไร?
อานเจียเย้นสืบทอดธุรกิจและสถานะของเพ้ยหยู่เจี๋ย แต่ชื่อ ‘Jock’ ท่ามกลางความมืด มีความหมายเหมือนกันกับพ่อค้าคนกลางในการทำการแลกเปลี่ยนใต้ดินที่มืดมิดการค้าที่ผิดกฎหมาย กิจกรรมที่ผิดกฎหมายต่างๆ นานา พวกเขาทำมาไม่น้อยแน่นอน แต่ด้วยการจากไปของเพ้ยหยู่เจี๋ย หลายอย่างถูกชะล้างและจัดการแล้ว ดังนั้นทางฝั่งตำรวจ ไม่มีเบาะแสและหลักฐาน ถึงได้คิดหาวิธีอะไรไม่ได้
แล้วกลุ่มองค์กรแบบนี้ อยากที่จะเอาลงมา ก็จำเป็นต้องหาช่องโหว่ให้เจอ
เดิมทีเธอนึกว่าจะเป็น Double Aceกรุ๊ปแต่ตอนนี้ดูเหมือน เกรงว่าจะไม่ใช่อย่างนั้น
อย่างน้อยที่สุด ดูจากสถานการณ์การตรวจสอบที่มีอยู่ตอนนี้ ไม่เพียงแค่ Double Aceกรุ๊ปเท่านั้น แม้แต่บริษัทธุรกิจใดๆ ก็ตามที่อยู่ภายใต้ชื่อของอานเจียเย้น ล้วนแต่โปร่งใส สะอาดผิดปกติ
ไม่แตกต่างจากนักธุรกิจทั่วไปเลย
เป็นแค่นี้จริงๆ หรอ?
แต่สัญชาตญาณบอกซูย้าวว่า เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
แม้ว่าอานเจียเย้นจะเคยพูดซ้ำๆ ไปแล้วว่า จะไม่เป็นเหมือนเพ้ยหยู่เจี๋ย เขาจะจัดการเรื่องที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายไม่เห็นแสงสว่าง ทำธุรกิจอย่างซื่อตรงและสงบ
แต่ว่า บางครั้งคำที่พูดออกมา ก็เหมือนหลักการที่ว่าหมายังไงก็กินขี้อยู่วันยันค่ำ
เธอยุ่งอยู่ในห้องทำงาน ยุ่งจนถึงเย็น พ่อบ้านเคาะประตูอยู่ข้างนอก เตือนเธอว่าควรกินข้าวเย็นได้แล้ว ซูย้าวไม่มีความอยากอาหาร จึงปฏิเสธไป
จัดการเรื่องพวกนี้ต่อ ผ่านไปอีกหลายชั่วโมง พอใกล้จะสามทุ่มกว่า โทรศัพท์สายหนึ่ง ก็โทรเขามากะทันหัน
เธอมองดูเบอร์แปลกบนหน้าจอมือถือ ขมวดคิ้วไม่หยุด แต่ครุ่นคิดนิดหน่อย ท้ายที่สุดก็รับสาย “คุณอาน ผมคือหลี่ปินผู้ช่วยของประธานเพ้ย”
เสียงผู้ชายที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้นจากปลายสาย แนะนำตัวเองนิดหน่อยก่อน จากนั้นถึงพูด “ถ้าเป็นไปได้ คุณสะดวกมาที่ถ้ำสำราญมังกรไหมครับ? ประธานเพ้ยดื่มหนักไปหน่อย อาการไม่ค่อยดี ดังนั้น……”
ซูย้าวถอนหายใจอย่างไม่อดทน พวกเขาก็แค่เล่นละครสร้างความสัมพันธ์จอมปลอมเท่านั้น เมาแล้ว ยังจะหาเธออีก…..
สัญชาตญาณเธออยากที่จะปฏิเสธ แต่เมื่อคำพูดมาถึงปลายปาก กลับมีความลังเล ท้ายที่สุดก็ตอบตกลงไป
เพ้ยส้าวหลี่ไม่ใช่คนดีอะไรก็จริง แต่ในเรื่องความรู้สึก ก็ไม่เคยหลอกลวงเธอมาก่อน จนกระทั่งตอนนี้ ต่อให้เป็นความสัมพันธ์จอมปลอม แต่เธอก็หวังว่ารอให้พายุทุกอย่างสงบลง เธอก็สามารถเผชิญหน้าเขาได้โดยไม่ละอายใจ
ซูย้าวไม่ได้ให้พ่อบ้านขับรถไปส่งตน แต่เลือกขับรถไปที่นั่นด้วยตัวเอง ถ้ำสำราญมังกร อยู่ไม่ห่างจากที่นี่มากนัก ขับรถประมาณครึ่งชั่วโมงกว่า ก็มาถึง
พอเธอเข้าไป ก็เจอผู้จัดการล็อบบี้ในห้องโถงใหญ่เป็นอย่างแรก เขาตำหนิพนักงานสองคนที่ทำผิดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม สายตาเหลือบเห็นซูย้าว ก็หันหน้าไปโดยไม่รู้ตัว รีบเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “คุณอาน คุณมาทำไมหรือครับ?”
นับตั้งแต่หลังเหตุการณ์นั้น ผู้จัดการก็นับว่า ‘เข้าใจ’สถานะของซูย้าวแล้ว แล้วช่วงนี้ข่าวการหมั้นของเธอกับเพ้ยส้าวหลี่ก็เผยแพร่ออกไป ผู้หญิงที่มีภูเขาใหญ่สองลูกอยู่เบื้องหลังแบบนี้ ผู้จัดการต่อให้มีความกล้าหาญมากแค่ไหนก็ไม่กล้าทำให้ขุ่นเคือง
ที่นี่สำหรับซูย้าวแล้ว มีเงามืดอยู่ไม่มากก็น้อยดังนั้นเป็นธรรมดาที่ใบหน้าของเธอจะไม่ค่อยดีนัก เพียงแค่ดูเบอร์ห้องที่ผู้ช่วยส่งมาในโทรศัพท์ ถามแค่ “ห้อง2009อยู่ตรงไหน?”
ผู้จัดการชะงักเล็กน้อย ถามต่อ “ที่แท้คุณก็มาหาคนนี่เอง ผมพาคุณขึ้นไปเองครับ เชิญตามผมมา”
ขณะที่พูด ผู้จัดการก็เดินนำทางอยู่ข้างหน้า พาซูย้าวขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นสอง
ทางเดินที่ทอดยาว แสงไฟนีออนหลากสี สดใสฉูดฉาด ทุกห้องมีเสียงแก้วกระทบกัน และยังมีการร้องเพลงเต้นรำ ครึกครื้นมาก
ตามทางเดิน สามารถได้ยินเสียงบางอย่างอย่างคลุมเครือ เสียงดังวุ่นวาย ทำให้ซูย้าวรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะเร่งฝีเท้า
แล้วตอนนี้ผู้จัดการก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง “ใช่ใช่ใช่ เธออยู่กับผม เอ๋? ถ้าแบบนั้น…..โอเค ผมทราบแล้ว!”
ไม่รู้ว่าทางนั้นพูดกับผู้จัดการว่าอะไร เมื่อเขาวางสายไป ก็รีบหันมามองไปที่ซูย้าว “คุณอาน ห้องที่คุณกำลังหาก็คือที่นี่ครับ มาถึงแล้ว”
เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เมื่อผู้จัดการเดินไปถึงหน้าประตูห้อง เธอเองก็เดินตามไป
ผู้จัดการพูดคำสุภาพอีกสองสามคำ จากนั้นก็ถอยไปอยู่ด้านข้าง ซูย้าวยื่นมือไปจะเคาะประตู สายตากลับสังเกตเห็นเบอร์ห้องบนประตู—-2008
เธอเพ่งมอง รีบหันตัวกลับ แต่ผู้จัดการก็สังเกตเห็นว่าเธอรู้แล้ว รีบพูดขึ้น “ที่นี่แหละครับ ที่นี่จริงๆ คุณอาน ผมไม่โกหกคุณหรอก!”
“ที่ฉันหาคือ2009 ไม่ใช่ที่นี่”ขณะที่พูด เธอก็ยกเลิกแผนที่จะเปิดประตู เดินเลี่ยงผู้จัดการไป
แต่ในช่วงเวลาสั้นๆ ผู้จัดการก็นำเธอไปก่อนโดยก้าวไปเปิดประตูห้อง2008 แล้วขวางทางเธอไว้ “ที่นี่จริงๆ ครับ คุณดูสิ คนที่คุณตามหา อยู่ที่นี่ไม่ใช่หรอ?”
ซูย้าวชะงักเล็กน้อย สายตากวาดเข้าไปภายในห้อง
ห้องมืดมาก ราวกับจงใจปรับลดความสว่างของไฟลง แม้แต่แสงแฟลชวิบวับยังถูกปิด ภายในห้องที่มืดมิดตอนนี้ สิ่งที่เข้ามาในสายตาเป็นอย่างแรก คือร่างที่นอนอยู่บนโซฟา เรียวยาว สูงใหญ่
ชายหนุ่มราวกับดื่มเหล้าไปเยอะมาก เหมือนหลับแต่ไม่หลับ มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาเกยบนหน้าผาก ไม่ขยับเขยื้อน
ด้วยแสงไฟแบบนี้ ซูย้าวมองไปจากระยะไกล ยากที่จะโต้เถียงจริงๆ ว่าคนที่อยู่บนโซฟา ใช่เพ้ยส้าวหลี่หรือไม่กันแน่ เพียงแต่มองดูแวบแรก ก็ดูมีความคล้าย
“คุณดู ผมไม่ได้พูดผิดนะ! คือเปลี่ยนห้องกะทันหันน่ะ คุณรีบเข้าไปเถอะครับ!”ผู้จัดการยืนยิ้มดูด้านข้าง พูดจบ ก็ก้าวถอยจากไปในเวลาที่เหมาะสม