เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 744 เธอถูกฉันจ้องมองมาตั้งนานแล้ว
ซูย้าวเดินตรงไปที่ลานจอดรถกลางแจ้งด้านนอกโรงแรมเพื่อไปรับรถ เมื่อเดินมาถึงข้างรถ หยิบกุญแจรถออกมา ยังไม่ทันได้กดปุ่ม มือถือก็สั่นขึ้นอีกครั้ง แจ้งเตือนว่าได้รับหนึ่งข้อความ
เธอหยิบออกมาด้วยความสงสัยเล็กน้อย แต่ในนาทีที่กดเปิด ก็ชะงัก
นั่นคือข้อความวิดีโอ น่าจะเป็นการตัดออกมาส่วนหนึ่ง ดังนั้นจึงมีเนื้อหาเพียงไม่ถึงสิบวินาที แต่ปริมาณข้อมูลมหาศาล ทำให้เธอตกใจอยู่ตรงนั้น
เธอไม่สนใจอย่างอื่นอีก เก็บกุญแจรถโดยไม่ต้องคิด หมุนตัวกลับไปที่โรงแรมอีกครั้ง
ภายในล็อบบี้ เธอเงยหน้าขึ้นไปมองชั้นสองอีกครั้ง ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มก่อนหน้านี้หายไปอย่างไร้ร่องรอย เธอกัดฟันด้วยความโกรธ สุ่มหยุดบริกรหนึ่งคน เอ่ยถามหมายเลขห้อง รีบเดินขึ้นชั้นบน
หน้าประตูห้อง2056 เพราะประตูห้องไม่ได้ล็อค ดังนั้นเมื่อเธอเคาะประตู ประตูก็เปิดออกแล้ว เธอจึงผลักประตูเดินตรงเข้าไป
ลี่เฉินซียืนอยู่ริมหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศส ไม่ได้สวมเสื้อสูท ปกคอเสื้อเชิ้ตสีขาวคลายออก พับแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นลำแขนที่แข็งแกร่ง ในมือข้างหนึ่งที่นิ้วเรียวยาวราวกับหยก ถือเหล้าค็อกเทลอยู่แก้วหนึ่ง
เมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้า ถึงหมุนตัวมา หน้าหล่อที่มีความน่าสนใจมีรอยยิ้ม ดวงตาที่ลุ่มลึกตกลงมาที่เธอ “เชื่อฟังขึ้นมาดีๆ ก็โอเคแล้วไม่ใช่หรอ? ยังต้องให้ฉันทำเรื่องไม่จำเป็น”
ซูย้าวโกรธจนใบหน้ามืดมน ริมฝีปากที่เม้นแน่นก็เผยความโมโห เดินเข้าไปพูดอย่างขุ่นเคือง “นายป่วยหรือไง? หรือว่ามีอาการเสพติดแปลกๆ !”
วิดีโอเมื่อครู่นี้ ลี่เฉินซีเป็นคนส่งมา
แล้วเนื้อหา ก็เป็นฉากที่ทั้งสองอยู่ด้วยกันในห้องที่ถ้ำสำราญมังกรเมื่อคืน แม้ว่าจะเป็นวิดีโอที่ถูกตัดต่อเพียงแค่สิบวินาที แต่กลิ่นของฤดูใบไม้ผลิ มันเกินที่จะทนดูได้!
“นายถ่ายของแบบนี้ไว้ทำไม? จะใช้มันขู่ฉันหรอ?”เธอไม่มีอารมณ์ โกรธจนไฟลุก ใบหน้าพุ่งไปตะคอกใส่เขา
ลี่เฉินซีมีท่าทีต่างกับเธอ ยังคงเฉยเมยเหมือนเคย ดวงตาเบาเอื่อยราวกับน้ำ ถือแก้วไวน์เล่น พูดขึ้นอย่างไม่รีบไม่ร้อน “ไม่ได้ขู่ แต่ เรื่องความรักตัวคนเดียวไม่ได้ เรื่องความรักของชายหญิง ก็ปกติไม่ใช่หรอ?”
“ปกติ……”ซูย้าวถูกทำให้โกรธจนพูดไม่ออกแล้ว “นาย……”
ถ้าทั้งสองรักกันจริง แล้วเป็นผู้ใหญ่แล้ว เกิดอะไรขึ้น หรือทำอะไรไป ก็นับว่าปกติ แต่เขาถ่ายวิดีโอ แล้วส่งมาให้เธอ ยังปกติอยู่หรอ?!
เขายิ้มจิบไวน์สองสามอึก วางแก้วไวน์ในมือลง เดินก้าวเข้าหาเธอ ยื่นมือไปกุมแก้มเธอ พูดอย่างบางเบา รอยยิ้มหนาแน่น “ฉันเคยพูดแล้ว ว่าเธอโกหกไม่เก่ง และเล่นละครไม่เก่ง เป็นเด็กดีเชื่อฟังฉัน ก็พอ จะทำให้เป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตทำไม?”
ความโกรธของซูย้าวรวมตัว ไม่สามารถระบายออกได้แล้ว เพียงแค่ปัดมือของเขาออกอย่างเย็นชา เบี่ยงตัวออกเหมือนงูเลื้อย พยายามสงบสติอารมณ์ “นายคิดจะทำอะไรกันแน่?”
“นอกจากเธอแล้ว ฉันยังจะทำอะไรได้อีก?”เขาพูดนิ่งๆ คำพูดบางเบา แต่ล้นออกมาจากปากเขา ผสมกับความธรรมชาติ ดูแล้วเหมือนมีเหตุผล
ดวงตาเธอทรุดลงอย่างไม่อดทน มองไปที่เขาอย่างดุร้าย “นาย…..นาย…..”
ซูย้าวครุ่นคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ท้ายที่สุดก็บีบคั้นออกมาหนึ่งประโยค “เมื่อคืนนายพึ่งทำเสร็จไปไม่ใช่หรอ? หรือยังจะเอาอีก!”
เขาเองก็พยักหน้าตอบหน้ารวดเร็ว “อืม แน่นอน”
เธอโมโหจนพูดไม่ออกโดยสมบูรณ์ ผู้ชายคนนี้……
เขาเบี่ยงตัวเดินไปตรงหน้าเธอ มือข้างหนึ่งที่สง่างามยกขึ้นช้าๆ ปลดกระดุมเสื้อโค้ชของเธอออก มือใหญ่เข้าควบคุมเอวที่เรียวบางของเธอ ดวงตาที่หยั่งลึกจดจ่ออยู่ที่ใบหน้าไม่ยินยอมของเธอ ยิ้มขึ้นอีก “ดูท่าเธอจะยังเป็นเด็กดีไม่เป็น”
“เรียกปุ๊บมาปั๊บ เชื่อฟังให้ความร่วมมือ แบบนี้เธอถึงจะทุกข์น้อยลง ไม่เข้าใจหรอ?”
เขาจงใจโน้มตัวลง หน้าหล่อเอนไปที่ข้างหูเธอ พ่นลมหายใจ “หรือว่า อยากเป็นเหมือนเมื่อวาน เหนื่อยจนเดินยังไม่ไหว ถึงจะพอใจ?”
ซูย้าวไฟลุกขึ้นหน้าอย่างอธิบายไม่ได้ แดงขึ้นเหมือนมะเขือเทศทันที แต่กลับจ้องไปที่เขาอย่างรุนแรง มือเล็กๆ เลี่ยงออกจากพันธนาการของเขาอย่างไม่อดทน “นายอย่าได้คืบจะเอาศอก!”
เขาไม่สนใจคำพูดที่ไร้การคุกคามแบบนี้ มือข้างหนึ่งบีบแก้มเธอ บังคับให้เธอหันหน้าไปด้านหนึ่ง น้ำเสียงแหบกร้าวมีเสน่ห์ “เข้าไป ถอดซะ ขึ้นเตียง”
ชะงักเล็กน้อย แววตาที่เยือกเย็นของลี่เฉินซีเผยแสงที่เฉียบคม “หรือว่าเธออยากให้ฉันเอาวิดีโอนี่ ส่งให้ ‘คู่หมั้น ‘คนนั้นของเธอดูล่ะ?”
มือของเขากระชับแรงขึ้น บังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นสูง ให้สายตาเธอมองมาที่ตน “เมื่อคืนเธอยังพูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่ารักเขา ใส่ใจเขาไม่ใช่หรอ? งั้นวันนี้ให้เขาดูวิดีโอนี่ จะคิดยังไงกัน?”
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธของซูย้าวไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เธอไม่สนว่าวิดีโอนี่จะส่งให้ใครดู ถึงยังไงก็เป็นเขากับเธอสองคน ถ้าเสียหน้า ก็เป็นกันทั้งคู่
อีกอย่าง ความสัมพันธ์ของเธอกับเพ้ยส้าวหลี่ เดิมที่ก็เป็นสิ่งจอมปลอม ต่อให้มีวิดีโอนี่เพิ่มเข้ามา ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไร
เพียงแต่ ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยถูกต้อง
เธอยึดมั่นในหลักการที่คนอื่นจะเลวร้ายยังไงก็ได้ แต่เธอจะไม่เป็นธรรมไม่ได้ แม้ว่าเพ้ยส้าวหลี่จะทรยศต่อความตั้งใจเดิมของเธอ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องกระตุ้นเขาด้วยเรื่องแบบนี้นะ!
ดังนั้นเธอจึงชั่งน้ำหนัก เพียงแค่พูดอย่างดุร้าย “ถือว่านายร้าย! ลี่เฉินซี นายมันใช้ได้จริงๆ !”
พูดจบ เธอก็ปัดมือใหญ่ของเขาออก หมุนตัวเดินไปทางห้องนอน
เธอเต็มไปด้วยความโกรธในใจ ดังนั้นประตูเองก็ถูกเธอถีบเท้าเปิดอย่างรุนแรง ถอดเสื้อคลุมออก สุ่มมือโยนลงไปที่พื้น นั่งอยู่ขอบเตียงด้วยความขุ่นเคือง ทันใดนั้น ก็หันตัว ราวกับว่าคิดอะไรออก
ไม่ช้า เธอก็ลุกขึ้นอีกครั้ง เดินออกมาจากห้อง
“ลี่เฉินซี”เธอเอ่ยปาก น้ำเสียงแม้ว่าจะไม่นุ่มนวลมาก แต่ก็มีความอ่อนโยนอย่างเห็นได้ชัด “นายรักฉันมาก แบบนี้ใช่ไหม!”
ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มชะงักเล็กน้อย ดวงตาเผยความซับซ้อน หันตัวมองไปทางเธอ “อยากจะพูดอะไรอีก?”
ซูย้าวเดินมาถึงข้างตัวเขา เงยหน้ามองไปที่เขา “นายน่ะรักฉัน แล้วยังรักมากรักมาก นายคงจะหวังมาตลอดว่าเราจะเลิกบาดหมางกัน คืนดีกันเหมือนเดิม ใช้ชีวิตครอบครัวอย่างมีความสุข อยู่กันไปจนแก่เฒ่า”
ลี่เฉินซีนิ่งเงียบ แววตาลุ่มลึก เฝ้าดูเงียบๆ
“ในเมื่อนายรักฉัน แล้วทำไมถึงบังคับฉันแบบนี้ล่ะ?”เธอเหมือนในที่สุดก็เข้าใจทุกอย่าง และรู้สึกโล่งใจขึ้นทันที ผ่อนคลายมาก “นายรู้ไหมว่าการรักใครสักคน สิ่งที่ควรทำที่สุดคืออะไร?”
“ไม่ใช่ครอบครอง และไม่ใช่ไม่เกี่ยงวิธีการ แต่หวังดีกับคนคนนั้น หวังให้เขามีความสุข ดีใจ สามารถยิ้มได้ในทุกๆ วัน”
ลี่เฉินซีฟังคำพูดล้าสมัยของเธอเงียบๆ เลิกคิ้วเบาๆ “พูดต่อ”
“และควรเรียนรู้ที่จะวางมือในเวลาที่เหมาะสม ตอนนี้ฉันไม่อยากอยู่กับนาย วางมือเถอะ อย่ากวนใจฉันอีกเลย และอย่าบังคับฉันอีก!”เธอพูดความในใจออกมา
ลี่เฉินซีมองไปที่เธออย่างให้ความร่วมมือ “งั้นที่รัก เธอหวังให้ฉันทำยังไง?”
“วางมือสิ!”เธอรีบพูด น้ำเสียงมีความร้อนรนเล็กน้อย “นายบริหารลี่ซื่อกรุ๊ปของนายให้ดี ทำหน้าที่ประธานของนาย ดูแลพวกเด็กๆ ขณะเดียวกันก็มองหาผู้หญิงคนอื่น ด้วยคุณสมบัติของนายแล้ว ผู้หญิงแบบไหนก็หาได้ทั้งนั้น และง่ายมากด้วย”
ลี่เฉินซีพยักหน้าเบาๆ “เธออยากให้ฉันเป็นแบบนั้นสินะ…..”
เธอเองก็ก้มศีรษะน้อยๆ อย่างรวดเร็ว “ใช่แล้ว พวกเราต่างคนต่างอยู่ ไม่เกี่ยวข้องต่อกัน จนถึงตอนนี้”
ลี่เฉินซีทนไม่ไหวอีกต่อไป ยิ้มอย่างอดไม่ได้
รอยยิ้มบนหน้าหล่อๆ ลึกซึ้งมาก ความหมายลึกซึ้งที่แฝงอยู่ในริมฝีปากก็หนาแน่น ราวกับสามารถทำให้คนจมลงไปได้ทุกเมื่อเขายื่นมือไปจับแก้มเธอ นิ้วที่หยาบกร้านลูบไล้ผิวของเธอเบาๆ พูดยิ้ม “บางที ถ้าเป็นเมื่อสิบปีก่อน ฉันอาจจะทำตามได้ แต่ตอนนี้ เธออย่าแม้แต่จะคิด ฉันไม่สามารถปล่อยเธอไปได้”
“ที่รัก เธอถูกฉันจับจ้องไว้ตั้งนานแล้ว ก็เหมือนเหยื่อ ยิ่งเธอดิ้นรน ยิ่งอากจะหนี ฉันกลับยิ่งรู้สึกน่าสนใจ เหมือนเกมเกมนึง ไม่ว่าเมื่อไหร่ เธอก็เป็นของเล่นในฝ่ามือฉัน”
เขาปล่อยมือ หันแล้วโน้มตัวไปโอบเอวอุ้มเธอที่มึนงงตัวแข็งทื่ออยู่ขึ้นมา เขาเดินก้าวใหญ่ พาเธอตรงไปที่ห้องนอน
โยนเธอลงบนเตียงใหญ่ เขายืนอยู่ข้างเตียง แววตาลดต่ำ “เธอจะเข้าใจว่าฉัน ไม่รักเธอก็ได้ ไม่รักเลยสักนิด……”
พูดจบ ทั้งตัวเขาก็คร่อมไปที่เธอ……