เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 748 นายนี่นิสัยเด็กจริงๆ
อาหารหนึ่งมื้อ เขาสั่งไปเยอะมาก ส่วนใหญ่แล้วเป็นเมนูพิเศษของที่นี่ ซึ่งค่อนข้างเหมาะสมกับฤดูกาลนี้
ซูย้าวเองก็เริ่มหิวแล้วจริงๆ ดังนั้นจึงก้มหน้าก้มตากินอาหาร ปิ้งย่างเสียบไม้เยอะมาก เธอกินไม้แล้วไม้เล่า ตอนที่เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ก็มองเห็นชายหนุ่มที่อยู่ตรงข้าม พับแขนเสื้อเชิ้ตสีขาวขึ้น ใส่ถุงมือแบบใช้แล้วทิ้ง ปอกกุ้งตัวแล้วตัวเล่า
ผ่านไปไม่นาน เขาก็ปอกกุ้งได้หนึ่งจาน ส่งกุ้งที่ปอกแล้วไปข้างมือเธอ แล้วยังส่งน้ำจิ้มของที่นี่ไปให้ จากนั้นก็พูดขึ้น “กิน”
เขาปอกกุ้งต่อ ทั้งๆ ที่เป็นการเคลื่อนไหวที่ธรรมดามาก แต่ถูกเขาทำอย่างสง่างามเช่นนี้ ใบหน้าที่ชัดเจน และออร่าที่ยอดเยี่ยม
ทำให้คนยากที่จะละสายตา
ซูย้าวเองก็หยิบกุ้งขึ้นมาอย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย จิ้มน้ำจิ้มใส่เข้าไปในปาก รสชาติไม่เลวเลยจริงๆ เผ็ดๆ ชาๆ มีกลิ่นหอมของกุ้ง เนื้อแน่นมาก รสสัมผัสดีเยี่ยม
เธอยิ้มเบาๆ อย่างพึงพอใจ แล้วก้มหน้ากินต่อ กินไปพูดไป “ดูไม่ออกเลย ว่าคุณลี่จะมีด้านที่เอาใจใส่แบบนี้ด้วย”
ซูย้าวกะพริบตา ใช้มุมมองที่ชื่นชมมองชายหนุ่มตรงหน้าที่ตั้งใจแกะกุ้งอยู่ อารมณ์นับว่าไม่เลวร้ายมากอย่างอธิบายไม่ได้ แล้วยังแฝงความหยอกล้อเขา “เป็นเพราะอายุมากขึ้นหรอ? ถึงได้เข้าใจจิตใจผู้หญิงแบบนี้”
การแกะกุ้งของลี่เฉินซีหยุดลง “ถ้าอยู่ด้วยกันมากหน่อย เธอจะพบว่าฉันเอาใจใส่ได้มากกว่านี้”
เขาชะงักเล็กน้อย พูดต่อ “อีกอย่าง นี่ก็ไม่เกี่ยวกับอายุ ขึ้นอยู่กับอีกฝ่าย”
เธอแสร้งพยักหน้า กินกุ้งในจานไม่เหลือ ส่งจานที่ว่างเปล่ากลับไปให้เขา ขณะเดียวกันก็หยิบจานที่เต็มไปด้วยกุ้งที่แกะแล้วข้างมือเขา กินต่อ ขณะเดียวกันก็พูดด้วยความสนใจ “อีกความหมายนึงคือ คุณลี่ปฏิบัติแค่กับฉันเป็นพิเศษ?”
“หึ”เขาหัวเราะเบาๆ อย่างไม่ปิดบัง ไม่ตอบกลับมาโดยตรง และไม่ได้ปฏิเสธ ใช้เพียงรอยยิ้มที่เย้ายวน ปกปิดไว้ เหลือช่องว่างไว้ไม่รู้จบ ให้เธอคาดเดาช้าๆ
แน่นอน เป็นปรมาจารย์ด้านความรัก
ซูย้าวขี้เกียจที่จะคุยเรื่องนี้กับเขาต่อ พูดแค่ “งั้นในเมื่อฉันได้รับเกียรตินี้ ก็รบกวนคุณลี่ปอกเยอะหน่อยนะ!”
เธอรู้สึกว่ากุ้งที่นี่ รสชาติดีจริงๆ ทำให้คนมีความอยากอาหารทันที
ลี่เฉินซีกลับขมวดคิ้ว หลังจากส่งกุ้งข้างมือที่ปอกเสร็จให้เธอแล้ว ก็ถอดถุงมือออก “จะกิน ก็ปอกเองเถอะ!”
ซูย้าว “……”
เธอมุ่ยปากอย่างช่วยไม่ได้ “นายแบบนี้ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย”
ทั้งๆ ที่ด้านข้างยังมีกุ้งอยู่อีกสองจานใหญ่ เธอยังอยากกินอยู่นะ
ลี่เฉินซีกลับมองไปที่เธอด้วยรอยยิ้มเต็มแววตา “คำว่าสุภาพบุรุษ เมื่อมาอยู่บนตัวฉัน มันมีไว้สำหรับผู้หญิงของตัวเองเท่านั้น”
เธอได้ฟัง ก็มีความใจสั่นอย่างอธิบายไม่ได้ จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเม้มริมฝีปาก ยิ้มอย่างขมขื่น เขาอยากให้ตนยอมรับอย่างเปิดเผยว่าตนคือผู้หญิงของเขา แต่กระนั้น เพียงเพื่อกุ้งไม่กี่ตัว เธอจะไม่ยอมโอนอ่อนหรอก!
ซูย้าวไม่สนใจเขาอีก ตัวเองหยิบถุงมือใช้แล้วทิ้งขึ้นมาใหม่ ใส่แล้วเริ่มปอกกุ้ง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอไม่เคยทำเรื่องแบบนี้ หรือร้อนรนเกินไปชั่วขณะ ทำเอาเปลือกแข็งๆ ของกุ้ง บาดไปที่มือของเธอ
“โอ้ย…..”เธอร้องออกมาอย่างอดไม่ได้ หดนิ้วกลับไปอย่างไม่รู้ตัว แล้วก็โยนกุ้งในมือทิ้ง ถอดถุงมือออก เอานิ้วที่มีเลือดออกเล็กน้อย วางไว้ในปากแล้วดูด
ลี่เฉินซีมองเธอนิ่งๆ “เมื่อก่อนคนอื่นก็ปอกให้เธอ?”
แววตาเธอเผยความตกตะลึง เมื่อก่อน…..
เขาขมวดคิ้วถอนหายใจ ตอนที่กำลังจะทำอะไร ข้างหูก็มีเสียงผู้ชายดังขึ้นกะทันหัน “เฉินซี บังเอิญอะไรอย่างนี้…..”
ทั้งสองแทบจะหันไปมองอย่างพร้อมเพรียงกัน ก็เห็นเจียงจี้เซิงชุดสูทรองเท้าหนังโอบเซียวไน่ อยู่ที่หน้าประตูแผงขายอาหาร ทั้งสองเดินเข้ามาพร้อมกัน
ซูย้าวไม่ได้พึ่งเจอเซียวไน่เป็นครั้งแรก ดังนั้นจึงพูดไม่ได้ว่าเป็นคนแปลกหน้า กระทั่งมีความชื่นชอบด้วยซ้ำ ทั้งสองส่งยิ้มให้กัน ต่างคนต่างทักทาย
หลังจากทั้งสี่คนนั่งลง เจียงจี้เซิงเองก็สั่งอาหารมานิดหน่อย จากนั้นถึงเงยหน้าขึ้นมองซูย้าวที่อยู่ตรงหน้า “คุณอาน ขอถามอย่างไม่เกรงใจหน่อยนะ เรื่องที่คุณคุยกับน้องชายผมก่อนหน้านี้…..”
เขาลากเสียงยาวเล็กน้อย บางทีอาจจะรู้สึกว่าตรงไปตรงมาแบบนี้ ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จึงรีบพูดอธิบาย “อย่าเข้าใจผิดนะ เพราะว่าอาฉีคนนี้น่ะ มักจะทำอะไรเกินขอบเขต และชอบหาเรื่องอยู่เสมอ ดังนั้นผมจึงสอบถามนิดหน่อย แต่ว่า มีคุณอานอยู่ ก็คงไม่ทำเรื่องวุ่นวายอะไร บางทีผมคงกังวลมากไป”
ฟังชายหนุ่มอธิบายอย่างสุภาพและรอบคอบ ซูย้าวก็หุบยิ้มไว้ไม่อยู่ ยิ้มออกมาราวกับดอกไม้ที่เบ่งบาน สดใสแพรวพราว
ท่าทางที่ยิ้มออกมาของเธองดงามมากจริงๆ แต่เจ้าตัวกลับน้อยมากที่จะยิ้มออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจแบบนี้
ซูย้าวละทิ้งความต้องการที่จะแกะกุ้ง ขณะเดียวกันก็หยิบไม้ปิ้งย่างด้านข้าง ส่งไปให้เซียวไน่ จากนั้นก็พูดไปกินไป “ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ประธานเจียงกังวลมากไปแล้ว ฉันก็แค่ไหว้วานให้คุณชายรองช่วยฉันตามหาคนเท่านั้น”
เจียงจี้เซิงพยักหน้าอย่างโล่งใจ “ถ้าเป็นแบบนั้น ผมก็บุ่มบ่ามเกินไปจริงๆ ”
หลังจากผ่านหัวข้อนี้ไป ทั้งสี่คนก็คุยถึงหัวข้ออื่น คุยไปยิ้มไป บรรยากาศก็นับว่าเป็นกันเองและน่ารื่นรมย์
เจียงจี้เซิงคุยไป พลางตั้งใจแกะกุ้งไปด้วย นำกุ้งที่แกะเสร็จทั้งหมด ส่งไปให้เซียวไน่ ซูย้าวเห็นฉากนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะกวาดตามองไปที่ลี่เฉินซี
ชายหนุ่มมองอารมณ์เล็กๆ ในแววตาของเธอออก แต่กลับจงใจแสร้งทำเป็นไม่เห็น ยังถามกลับ “มองฉันด้วยสายตาแบบนี้ทำไม?”
ลี่เฉินซีลงมือหยิบตะเกียบขึ้นมา คีบกุ้งขึ้นมาหนึ่งตัว เขย่าอยู่ตรงหน้าซูย้าว “อยากกิน? อยากกินควรจะพูดว่าอะไร?”
ซูย้าวสูดหายใจเข้าลึกอย่างช่วยไม่ได้ ยกเครื่องดื่มด้านข้างขึ้นมาจิบหลายอึก วางแก้วลงแล้วถึงพูด “คุณลี่ เคยมีคนบอกนายไหม ว่านายมันนิสัยเด็กจริงๆ !”
เจียงจี้เซิงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ เซียวไน่เองก็รีบผลักกุ้งที่อยู่ฝั่งตัวเอง ไปให้ซูย้าว พูดเสียงเบา “เรากินด้วยกันนะ ถึงยังไงฉันก็กินคนเดียวไม่ไหว”
ไม่จำเป็นต้องให้ซูย้าวพูดอะไร ลี่เฉินซีก็พูดทันที “คุณเซียวกินเองเถอะ ไม่ต้องสนใจเธอ”
พูดจบ เขาก็มองไปที่ซูย้าวด้วยแววตาลึกหนา “นิสัยเด็ก?”
เขาโค้งปากยิ้มอย่างไม่ปิดบังแม้แต่น้อย “ถ้าเธอรู้สึกว่านิสัยเด็ก งั้นก็นิสัยเด็กเถอะ!”
ซูย้าวเองก็กลอกตาใส่เขาอย่างไม่ปิดบัง ใบหน้าดูถูกและรังเกียจ ชัดเจนแจ่มแจ้ง จากนั้นก็ก้มหน้ากินอย่างอื่น
อาหารหนึ่งมื้อ นับว่ากินอย่างมีความสุข ถ้าไม่มีการจงใจขัดขวางระหว่างนั้นของลี่เฉินซี เธอจะกินได้อย่างมีความสุขมากกว่านี้
หลังมื้ออาหาร ทั้งสี่ก็ออกมาจากแผงขายอาหาร เจียงจี้เซิงหาโอกาส เดินไปข้างตัวซูย้าว โน้มตัวพูดเสียงเบา “รู้ไหม? คุณอาน ผู้ชายคนหนึ่งจะแสดงความเป็นเด็ก ก็ต่อเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้หญิงที่รักที่สุดเท่านั้น บางครั้ง คุณรู้สึกว่านิสัยเด็ก แต่นั่นคือการแสดงออกว่ารักคุณนะ!”
เจียงจี้เซิงจะดูไม่ออกได้อย่างไร ลี่เฉินซีไม่อยากแกะกุ้งให้เธอซะที่ไหน เพียงแค่อยากฟังคำพูดน่าฟังซักคำจากปากเธอ หรือไม่ ก็ยอมรับอะไรบางอย่างทำนองนั้น
ซูย้าวขำออกมาอย่างอดไม่ได้ พยักหน้ายิ้มอย่างสุภาพ “ขอบคุณมากที่เตือน ฉันขอน้อมรับความหวังดีของประธานเจียงไว้ แต่หวังว่าคุณกับคุณเซียวครองรักกันนานๆ อยู่กันไปจนแก่เฒ่า”
เจียงจี้เซิงยิ้ม “ขอบคุณมากสำหรับคำอวยพร”
พูดจบ เขาก็เดินกลับไปที่รถ แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว ราวกับว่านึกอะไรได้ จึงเปลี่ยนทิศทาง เดินไปที่ลี่เฉินซี “เรื่องที่นายให้ฉันตรวจค้นก่อนหน้านี้ ใกล้จะได้ผลลัพธ์แล้ว เหมือนว่าจะอยู่ที่หลิ่งโจว จะไปดูไหม?”
แววตาของลี่เฉินซีจมดิ่ง แต่ไม่ได้ตอบรับไปทันที พูดแค่ “รอดูสถานการณ์”
ทั้งสองรู้ใจกันและกัน หลังจากต่างคนต่างบอกลา เขาถึงหันตัวมองไปที่หญิงสาวที่ยืนอยู่ริมถนน “ยังไม่ขึ้นถอีก?”
ซูย้าวหันมองไปทางเขา “ไม่ล่ะ ฉันยังมีธุระอีก คุณลี่ไปคนเดียวเถอะ รีบพักผ่อน ฝันดี”
พูดจบ เธอยังก้มหน้าเล็กน้อยเพื่อแสดงความสุภาพ จากนั้นก็หันตัวจงใจถอยห่างจากเขา ยืนอยู่ริมถนน รอรถแท็กซี่
ลี่เฉินซีขมวดคิ้วแน่น เดินก้าวใหญ่ไปด้านข้าง มือใหญ่คว้าข้อมือของเธอทันที ไม่จำเป็นต้องให้ซูย้าวมีการตอบสนองใดๆ ก็ถูกเขาลากกลับไปที่รถอย่างหยาบคายเช่นนี้ ก่อนปิดประตูรถ เขาพูดหนึ่งประโยค “ซื่อตรงหน่อย ไปสถานที่นึงกับฉัน”