เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 749 เปลี่ยนวิธีดีกว่า
ระหว่างทางไร้การพูดคุย ลี่เฉินซีขับรถขึ้นทางด่วนไปด้วยตัวเอง เมื่อเห็นว่าระยะทางห่างออกมาจากเมือง A ขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกกระวนกระวายในใจของซูย้าวก็อดไม่ได้ที่จะหนาแน่นขึ้น แต่เมื่อมองเห็นป้ายบอกทางบนทางด่วนเขียนว่า ‘หลิ่งโจว’โดยบังเอิญ ถึงโล่งใจลงเล็กน้อย
หลิ่งโจวอยู่ห่างจากเมืองAไม่ไกล เป็นเมืองที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองAกับเมืองD มีขนาดใหญ่มาก และเป็นเมืองใหญ่ที่มีความทันสมัย สิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุด คืออุตสาหกรรมเคมีรายวันแห่งหลิ่งโจว
แล้วสารเคมีรายวันหลิ่งโจว สิบกว่าปีมานี้ บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป ก็ยังคงผู้ขาดอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น ซูย้าวจึงเดาว่าลี่เฉินซีอาจจะไปทำธุระที่หลิ่งโจว ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมพาเธอไปด้วย เธอก็ขี้เกียจที่จะคิดเหตุผล จึงเอนเบาะนั่งข้างคนขับ ปรับท่าทางให้สบายหน่อย แล้วใช้เสื้อสูทของชายหนุ่มคลุมร่างไว้ หลับตานอนไป
ลี่เฉินซีก็ไม่ได้เรียกเธอ ขับรถไปอย่างเงียบเชียบ ตรงไปที่หลิ่งโจว
เมื่อมาถึง ก็ใกล้จะเป็นเวลาตีสี่แล้ว เขาขับรถตรงไปที่โรงแรม แล้วซูย้าวเองก็หลับไปสนิทไปนานแล้ว เขาอุ้มเธอขึ้นชั้นบน
นาทีที่วางเธอลงบนเตียง อาจเป็นเพราะเตียงนุ่มนิ่ม แตกต่างจากเบาะนั่งเล็กน้อย และอาจเป็นเพราะการเคลื่อนไหวของเขาใหญ่โตเกินไป หลากหลายเหตุผล เธอจึงตื่นขึ้น
ซูย้าวยกมือขึ้นขยี้ตาอย่างพร่ามัว กวาดตามองห้องที่ไม่คุ้นตาด้วยสายตางัวเงีย เมื่อสังเกตเห็นว่าตนอยู่บนเตียง จิตใต้สำนึกก็รู้สึกตึงเครียดทันที ร่างเล็กๆ รีบถอยหลังไปตั้งหลัง
ลี่เฉินซีหันตัวมาใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ ยกมือขึ้นถอดนาฬิกาข้อมือ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ต หลังจากถอดก็โยนไปด้านหนึ่ง จากนั้นถึงหันร่างที่สูงใหญ่ กำยำราวกับภูเขาน้ำแข็ง อากาศโดยรอบ อุณหภูมิลดลงอย่างไร้รูปร่าง
เขาชันขาข้างหนึ่งไว้ที่ขอบเตียง ร่างที่สูงใหญ่ ค่อยๆ โน้มไปที่เธอ เอนตัวเล็กน้อย มืออีกข้างหนึ่งจับแก้มเธอขึ้นมา “กลัวฉัน?”
ซูย้าวผงะอย่างผิดปกติ พูดให้ถูกคือ เธอไม่ได้กลัวเขา แต่ผลักไสเขามากกว่า
เธอขมวดคิ้วอย่างไม่อดทน ปลดพันธนาการของชายหนุ่มออกอย่างไม่ต้องคิด แล้วถอยไปข้างหลังอีก พูดขึ้น “นายเหนื่อยแล้ว พักผ่อนเถอะ ฉันไปที่โซฟา”
ยังไม่ทันสิ้นคำพูด ข้อมือของเธอก็ถูกชายหนุ่มคว้าขึ้นมา ขัดขวางทุกอย่างที่เธอคิดจะทำต่อจากนี้ หน้าหล่อพร้อมรอยยิ้มของเขามองไปที่เธอ สายตาลุ่มลึก เต็มไปด้วยความก้าวร้าว “เธอว่า รอยประทับที่มีอยู่ทั่วตัวเธอ นานแค่ไหนมันถึงจะหายไป?”
ขณะที่เขาพูด สายตาที่ลุ่มลึก ก็ตรวจตราร่องรอยบนคอเธออย่างไม่รู้จักพอ ความหมายลึกซึ้งที่ไม่ชัดเจนในแววตา ก็หนาแน่นขึ้น
สายตาที่เกือบจะเข้มงวดของซูย้าวชะงัก แทบจะรู้สึกได้ถึงความอันตรายด้วยสัญชาตญาณ รีบยกมือขึ้นอยากจะขัดขวาง แต่ก็สายไปแล้ว แรงบนมือของชายหนุ่มกระชับขึ้น คร่อมเธอไว้ใต้ร่างทันที เขามองไปที่เธอ มืออีกข้างหนึ่งจับแก้มเธอ “ที่รัก รู้สึกว่าชั่วชีวิตนี้เธอจะกลับไปไม่ได้แล้ว!”
ความคิดของเธอว้าวุ่น ฟ้าพลิกแผ่นดินหมุน หน้าหล่อของชายหนุ่มลดลงมา อมเธออย่างแม่นยำ บีบจนแห้ง ราวกับมีความเด็ดขาดของราชา แข็งแกร่งจนไม่อาจกักเก็บได้
แรงกระตุ้นชั่วขณะ ห้องที่น่าหลงใหล สิ่งที่ควรเกิดก็ได้เกิดขึ้น
เธอไม่ยินยอมอย่างมาก และอยากที่จะดิ้นรนหลบหนี แต่หลีกเลี่ยงจากพละกำลังที่เหลื่อมล้ำกันแบบนี้อย่างไร ก็มีแต่ทำให้เธอทำไม่สำเร็จ
ดังนั้น ท้ายที่สุดแล้วไม่เพียงแค่ทำให้เขาเสร็จ แต่ยังตั้งสองครั้ง!
เมื่อทุกอย่างจบสิ้น เธอก็เหนื่อยล้าจนวูบไปแล้ว เขาอุ้มเธอไปล้างตัวในห้องน้ำ การเคลื่อนไหวที่อ้อยอิ่ง พิถีพิถัน
ซูย้าวฝืนลืมตาขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรง พยายามประคองตัว น้ำเสียงขาดๆ หายๆ “ลี่เฉินซี นายเสร็จหรือยัง?”
“ทำไม? เมื่อกี้ไม่สบาย?”เขาพูดนิ่งๆ น้ำเสียงแผ่วเบาเล็ดลอดมาจากเหนือศีรษะเธอ น้ำอุ่นไหลริน ทำให้ทั้งสองคนเปียก
เธอหลับตาลงตามน้ำอุ่น แล้วยังยกมือขึ้นปรับอุณหภูมิน้ำให้สูงขึ้น ต้อนรับการชำระล้างจากน้ำอุ่น “นายจะพาฉันมาที่นี่ให้ได้ ก็เพื่อทำสิ่งนี้หรอ?”
เขากอดเธอจากด้านหลัง “อันที่จริง อยู่ที่ไหนก็ทำได้”
เธอยิ่งคิดยิ่งอึดอัด อยากหมุนตัวอย่างไม่อดทน แต่กลับถูกชายหนุ่มกอดรัดไว้ ยากที่จะขยับตัว เธอได้เพียงพูดว่า “นายขาดแคลนผู้หญิงขนาดนี้เลย?”
“ทำไมถึงพูดอย่างนั้น?”น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนนุ่มนวล แต่ในคำพูดของเขามีความเยือกเย็นอย่างไม่ต้องสงสัย
ซูย้าวสูดหายใจลึก ตอนนี้ก็ไม่มีความง่วงแล้ว จิตสำนึกในสมองตื่นตัวและเย็นชา “ทำตั้งหลายรอบขนาดนี้ ยังไม่พอ?”
เขากอดเธอไว้ หัวเราะเสียงเบา “เรื่องแบบนี้น่ะ จะมีตอนที่พอได้ยังไงล่ะ? เธอว่าไง? ทูลหัว…..”
“หุบปาก!”เธออดทนไม่ไหวแล้วจริงๆ พูดห้ามออกมาอย่างรวดเร็ว “อย่าเรียกฉันว่า ‘ทูลหัว’หรือ ‘ที่รัก’อีก มันทำให้ฉันขยะแขยง!”
ขณะที่พูด เธอก็ยกมือขึ้นสุดกำลังเพื่อสลัดโซ่ตรวนของชายหนุ่มไปข้างหลัง แววตาเย็นชา “อย่าทำอีก และอย่าแตะต้องฉันอีก!”
เขากลับไม่พอใจ ใบหน้าหล่อเหลาคมชัด ยังจงใจยกสองมือขึ้นเล็กน้อย แสดงความบริสุทธิ์ ใจ ใบหน้าที่ชั่วร้ายนั้น ไร้อันตรายอย่างสิ้นเชิง แล้วยังจงใจพูด “ฉันไม่แตะต้องได้ แต่ดูเหมือน……ฉันจะควบคุมเขาไม่ได้”
ลี่เฉินซีพูดนิ่งๆ ลดสายตาลงเล็กน้อย มันหมายถึงอะไร ซูย้าวรู้ดีแก่ใจ!
เธอโมโหโกรธจัด ทิ้งคำว่า ‘นายป่วยหรอ!’ไว้ หมุนตัวจะออกไป ครั้งนี้ ลี่เฉินซีก็ไม่ได้ห้ามไว้ แต่ทั่วพื้นห้องน้ำมีแต่น้ำ เธอไม่ระวัง เท้าลื่น ลื่นล้มไปทั้งตัว อันตรายมาก ชายหนุ่มก้าวไปข้างหน้า แขนยาวคว้าเธอเข้ามาในอ้อมกอด
เขาลดสายตามองไปที่ใบหน้าเธอ รอยยิ้มที่ริมฝีปากลึกขึ้น และหนาแน่นขึ้น “เอางี้แล้วกัน เปลี่ยนวิธีการ”
เธอชะงักเล็กน้อย ในช่องว่างของความตกตะลึง ชายหนุ่มอุ้มเธอเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ เขาใช้มือใหญ่ปิดฝาชักโครกด้านนอก ให้เธอนั่งลงไป ขณะเดียวกันมือข้างหนึ่งก็จับที่คางเธอ นิ้วเรียวยาวลูบไล้เบาๆ “อ้าปาก…..”
ซูย้าวเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง ตะคอกออกมาโดยไม่ต้องคิด “ลี่เฉินซี!”
……
เขาทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่หยุดไม่พัก ไม่รู้จักพอ และไม่รู้จักเหนื่อย ทำให้ซูย้าวรังเกียจและปวดร้าว บรรยายได้แค่ว่ามีความโลภไม่รู้จบ และเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว
แต่ลี่เฉินซีไม่สนใจ เพียงแต่สุดท้ายแล้วเห็นเธอเหนื่อยจนไม่มีร่องรอยของพลังงาน ก็เกิดทุกข์ใจเล็กน้อย จุ๊บแก้มของเธอเบาๆ “หลับซักตื่นนึงเถอะ ตอนเย็นฉันจะกลับมา”
เขาเป่าผมให้เธอจนแห้ง ห่มผ้าให้อย่างดี แล้วยังไม่ลืมวางน้ำแร่แก้วใหญ่ไว้บนหัวเตียง ป้องกันไม่ให้เธอกระหายน้ำตอนตื่น
สำหรับทุกอย่างนี้ ซูย้าวไม่มีความประทับใจใดๆ เธอเหนื่อยมากจริงๆ ทั้งตัวราวกับจะขาดกระจุย อย่างเดียวที่จะทำให้เธอฟื้นฟูได้ มีเพียงการหลับสนิทอย่างไม่สิ้นสุดเท่านั้น
ครั้งนี่เธอหลับไปค่อนข้างนาน ดังนั้นเมื่อเธอตื่นขึ้นมา ลี่เฉินซีก็กลับมานานแล้ว แล้วด้านนอก ก็กลับมาเป็นกลางคืนอีก
ซูย้าวอยากลุกจากเตียง ขยับตัวเล็กน้อย ก็รู้สึกปวดร้าวไปทั่วร่างแทบทนไม่ไหว อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ทำได้เพียงยอมแพ้ชั่วคราว
ลี่เฉินซีไม่ได้พาเธอลงชั้นล่างอีก เรียกรูมเซอร์วิสมา กินอาหารนิดหน่อยกับเธอ จากนั้น เธอก็นอนอ่านข่าวในมือถือบนเตียง เขานั่งทำงานบนเก้าอี้นวม
ในห้องเงียบสนิท ทั้งสองไม่พูดคุยกัน แม้จะอึดอัด หดหู่ แต่ก็อยู่กันอย่างสันติอย่างหาได้ยาก
อาจเพราะกลางวันนอนนานเกินไป ดังนั้นตอนนี้เธอจึงดูมีชีวิตชีวา ไม่มีความง่วงแม้แต่น้อย นอนอยู่บนเตียง มือข้างหนึ่งท้าวศีรษะ อ่านข่าวในมือถือ
ครู่ใหญ่ จู่ๆ เอกสารฉบับหนึ่งก็ถูกโยนมาข้างๆ เธอเบาๆ ขณะเดียวกัน ชายหนุ่มเองก็เอ่ยปาก “ดูนี่หน่อย”
ดวงตาซูย้าวขยับเล็กน้อย หยิบขึ้นมาด้วยความอยากรู้ พลิกอ่านดู มีเนื้อหาเหมือนกับเอกสารที่เพ้ยส้าวหลี่เอาให้เธอดูก่อนหน้านี้ ล้วนแต่เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับสัญญาการขุดเหมืองแร่คาลาเวอไรต์ที่อ้าวไห่
ลี่เฉินซีก้มหน้ามองคอมพิวเตอร์บนตัก สิบนิ้วเรียวบางโลดแล่นอยู่บนแป้นพิมพ์ เกิดเสียงที่คมชัด ขณะเดียวกันก็เอ่ยถาม “มีความคิดเห็นหรืออยากจะพูดอะไรไหม?”
ดวงตาเย็นชาของซูย้าวมองไปที่เขา แล้วปิดเอกสารนั้นลง โยนคืนไปให้เขา “นี่นายกำลังคุยเรื่องงานกับฉัน?”
นิ้วมือที่จิ้มอยู่บนแป้นพิมพ์ชะงักเล็กน้อย และเงยหน้าขึ้น “อยากฟังความเห็นเธอ”
“ฉันไม่มีความคิดเห็น”ท่าทางเธอเยือกเย็น ใบหน้าเฉยเมย “และไม่อยากคุยเรื่องพวกนี้กับนาย ถ้าจะคุยเรื่องงาน คุณลี่ไปหาคนอื่นเถอะ!”
เธอพูดจบ ก็พลิกตัวห่มผ้าห่มผืนเล็กอย่างไร้เยื่อใย เหลือไว้ให้เขาเพียงแค่แผ่นหลัง แล้วพลิกอ่านข่าวมือถือต่อ