เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 774 ใครใช้ให้คุณมายั่วฉัน?
ซูย้าวมองดูใบหน้าที่เคร่งขรึมของชายหนุ่มตรงหน้า เขาดูเหมือนกับภาพในความฝันของเธอจริง ๆ หญิงสาวหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว
ลี่เฉินซียังคิดที่จะขยับเข้ามาหาเธออีก แต่ถูกหญิงสาวห้ามไว้ก่อน
ซูย้าวไม่ได้พูดอะไร แต่กลับเว้นระยะห่างแล้วมองไปที่เขา จากนั้นก็ค่อย ๆ ยกมือขึ้น แล้วใช้ภาษามือแทนคำพูดแทน “คุณมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไร?”
ลี่เฉินซีจ้องไปที่เธอ “สองวันแล้ว ผมตามหาคุณมาตลอด”
ที่มาร์ลโซร่านี่ สำหรับลี่เฉินซีแล้วถือว่าเขาไม่คุ้นเคยเลยสักนิด เพราะเมืองนี้ถึงแม้จะเจริญรุ่งเรือง แต่ก็ค่อนข้างเหมาะกับการธุรกิจการท่องเที่ยวมากกว่า ทว่าในส่วนของบริษัทลี่ซื่อนั้น จะมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการพัฒนาการท่องเที่ยวในประเทศ เพราะฉะนั้น ที่นี่จึงไม่มีธุรกิจของบริษัทลี่ซื่อเลย
ทันทีที่เขามาถึงที่นี่ ก็เท่ากับว่าเขาไม่มีลูกน้องหรือใครเลย เครือข่ายอันยิ่งใหญ่ของชายหนุ่มก็ยังกระจายมาไม่ถึงที่แห่งนี้ เขาจึงไม่ต่างกับคนทั่วไป ซึ่งไม่ง่ายเลยหากคิดจะตามหาเธอ
บวกกับก่อนหน้านี้ที่เธอพักอยู่ในโรงพยาบาลมาตลอด กว่าลี่เฉินซีจะเจอกับวิลล่านี้ได้ ก็ถือว่าไม่ง่ายเลย
ดวงตาคู่สวยของซูย้าวหลุบลง ก่อนจะใช้ภาษามือพูดต่อ “ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่? คุณไม่ใช่ว่ากำลังพาคุณอู๋ไปเที่ยวอยู่เหรอ? ทิ้งเธอไว้คนเดียวจะไม่ดีนะ?”
ประโยคนี้แฝงทั้งความรู้สึกประชดประชันละเย้ยหยันลงไปด้วย แต่เพราะว่ามันไม่ได้เป็นคำพูดที่หลุดมาจากปาก ดังนั้น ความรู้สึกจึงลดลงไปไม่น้อย
ลี่เฉินซีมองไปที่หญิงสาว ก่อนจะจ้องเธออย่างลึกซึ้ง จากนั้นก็ก้าวยาว ๆ เข้าไปหาพร้อมกับประคองแก้มเธอขึ้นมาเบา ๆ อย่างไม่รู้ตัว มือหนาค่อยเปิดริมฝีปากบางออกเล็กน้อย “ทำไมคุณไม่พูดล่ะ? เสียงของคุณเป็นอะไร?”
สีหน้าที่ไร้คำพูดของซูย้าวพังทลายลง หญิงสาวรีบผลักเขาออกไปอย่างรวดเร็ว “เสียงของฉันปกติดี!”
เธอก้าวถอยหลังเล็กน้อยอย่างหมดหนทาง “ลี่เฉินซี คุณเข้าใจภาษามือ แล้วคุณก็ใช้ภาษามือเป็น งั้นทำไมหลังจากแต่งงานกันคุณถึงไม่ยอมใช้ภาษามือสื่อสารกับฉัน?”
“คุณรังเกียจที่ฉันเป็นใบ้ใช่ไหม! คิดว่าตัวเองเป็นท่านประธานผู้สง่างามและสูงส่งของบริษัทลี่ซื่อ ที่ไหนได้ต้องมาแต่งงานกับผู้หญิงใบ้เพราะพินัยกรรมของคุณย่า ไหนจะเพราะเมาเลยพลาดทำฉันท้องอีก คงจะทำให้คุณขายหน้ามากเลยสิ ใช่ไหม?”
อยู่ ๆ ความโกรธของหญิงสาวก็ลุกโชนขึ้นมา พอเริ่มเอ่ยปาก ทุกสิ่งทุกอย่างก็พรั่งพรูออกมาไม่หยุดราวกับปืนกล ขณะเดียวกันก็ทำให้ความคิดของชายหนุ่มมลายหายไปหมดสิ้นด้วยเช่นกัน
เขาหยุดชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะจ้องไปที่เธอ “คุณ…คุณฟื้นความทรงจำแล้วเหรอ?”
ซูย้าวสูดลมหายใจข้าลึก ๆ เธอควรขอบคุณตัวเองไหมที่กล้าสละชีวิตวางยาอานเจียเย้น? เพราะในตอนที่กำลังจะตาย อยู่ ๆ เธอก็สามารถเปิดประตูแห่งความทรงจำของตัวเองได้
แต่น่าเสียดาย ที่ประตูบานนี้ เพิ่งจะถูกเปิดออกมาแค่เพียงน้อยนิด เรื่องที่เธอจำได้เลยยังถือว่าไม่มาก
แต่เพียงแค่เท่านี้ ก็ทำให้เธอรู้สึกทั้งโกรธและเกลียดชายหนุ่มได้ไม่น้อยแล้ว
“ทำไมล่ะ? คุณลี่คุณกลัวความทรงจำของฉันจะฟื้นกลับมางั้นเหรอ?” เธอยิ้มเยาะอย่างเย็นชา “คุณกลัวว่าฉันจะจำทุกการกระทำที่คุณเคยทำกับฉันได้ใช่ไหม?”
หญิงสาวยกมือขึ้นบังแดดช้า ๆ ดวงตาคู่สวยค่อย ๆ หรี่ลง “คุณลี่เองก็ดูเหมือนจะมีสาว ๆ มาชอบเยอะนี่ ตอนเด็ก ๆ คุณพูดว่าอะไรนะ? ชื่อของฉันเพราะมาก พอโตมาคุณกลับรังเกียจที่ฉันเป็นใบ้…..”
ไม่ทันรอให้เธอพูดจบ ลี่เฉินซีพุ่งตัวเข้าไปหาเธอทันที ทันใดนั้นมือหนาก็เข้าจับแก้มของเธอ ก่อนที่ริมฝีปากจะตามมา เพื่อเป็นการปิดปากไม่ให้เธอพูดต่อ
จูบนี้พุ่งเข้ามาเร็วเกินไปจนเธอไม่ทันตั้งตัว
รอจนกระทั่งสติของซูย้าวกลับมา เขาถึงจะค่อย ๆ ปล่อยเธอออก ก่อนจะหลุบตาลงมองใบหน้าเนียนใสของเธอ จากนั้นจึงพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “ทำไมหยุดพูดไปแล้วล่ะ? เมื่อไรกันที่ผมรังเกียจคุณ?”
เธอสูดลมหายใจเย็น ๆ เข้าปอด ก่อนจะดันเขาออกอีกครั้ง จากนั้นก็เช็ดริมฝีปากตัวเองด้วยความรังเกียจ แล้วเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเคือง “ลี่เฉินซี อย่ามาเข้าใกล้ฉัน!”
“นั่นไม่ได้เรียกว่ารังเกียจเหรอ? หลังจากที่แต่งงานกัน คุณปฏิบัติต่อฉันอย่างไร? หา? พอฉันคลอดเจิ้งเอ๋อออกมาแล้ว คุณ รวมถึงทุกคนในบ้าน โดยเฉพาะคุณแม่ของคุณ ทุกคนล้วนปฏิบัติต่อฉันแบบไหน?”
เธอต้องขอบคุณฟ้าจริง ๆ ที่ทำให้ความทรงจำของเธอค่อย ๆ ฟื้นคืนกลับมาในตอนนี้ ทว่าสิ่งที่เธอรับไม่ได้มากที่สุด คือช่วงก่อนหน้านี้เธอยอมเสียสละไตของตัวเองข้างหนึ่งเพื่อช่วยชีวิตเจี่ยงเวินอี๋!
ถ้าความทรงจำของเธอกลับมาเร็วกว่านี้สักหน่อย ให้ตายอย่างไรเธอก็คงไม่ยอมทำ
“พอลูกคลอดออกมาก็เอาเขาไปตรวจดีเอ็นเอทันที กลัวว่าเจิ้งเอ๋อจะเป็นเหมือนฉัน คนที่เป็นใบ้ แล้วยังมี…..” หญิงสาวหยุดไปเล็กน้อย สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธและความแค้น “ตอนที่ฉันบอกคุณว่าฉันท้อง คุณพูดว่าอะไร?”
“ไปทำแท้ง” ลี่เฉินซีตอบกลับอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาของชายหนุ่มลึกล้ำราวกับเหยี่ยว สีหน้าเริ่มเคร่งขรึมขึ้นมา
ทุกประโยค ทุกการกระทำที่เขาเคยปฏิบัติต่อเธอเขาจำได้ทั้งหมด
เขาจะลืมได้อย่างไร ไม่มีทาง
ในตอนแรกทั้งหมดที่เกิดขึ้นมีแค่ความโหดร้าย แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นความละอาย
ซูย้าวชะงักไป ความโกรธมากมายยังพุ่งขึ้นไม่หยุด “คุณยังมีหน้าพูดออกมาอีกเหรอ ลี่เฉินซี คุณ …คุณยังกล้ามาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก คอยยั่วยุฉันครั้งแล้วครั้งเล่า เกิดเป็นคนทำไมถึงได้ไร้ยางอายได้ขนาดนี้?”
“ผมรู้ดีว่าผมมันไร้ยางอาย และไม่มีสิทธิ์จะพูดคำว่ารักออกมาอีก ผมยังเข้าใจดีด้วยว่าผมควรต้องขอโทษคุณจริง ๆ สักครั้ง” เขาก้าวเข้ามาหาเธอ ดวงตาเรียวยาวราวกับนกฟินิกซ์ของเขา พร่างพราวราวกับกาแล็กซีที่เต็มไปด้วยดวงดาวส่องแสงระยิบระยับ “แต่จะให้ผมทำอย่างไร? ผมไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไร ที่คุณเข้ามาอยู่ในหัวใจของผม”
ถึงแม้เขาจะเข้าใจดีว่าตัวเองทำอะไรลงไป และมันก็ไม่มีทางที่จะชดใช้สิ่งที่เธอเสียไปในตอนนั้นได้ ซึ่งเขายังรู้อีกด้วยว่าการที่เขามาปรากฏตัวก่อกวนเธอแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่ไร้ยางอาย แต่ในเมื่อหัวใจมันร่ำร้อง จะให้เขาควบคุมมันได้อย่างไร?
“ชีวิตที่เหลืออยู่มันยังอีกยาวไกล ผมอยากใช้เวลาต่อจากนี้ ค่อย ๆ ชดใช้ให้คุณ ได้ไหม?”
“ไม่ได้!”
เขายังพูดไม่ทันจบซูย้าวก็สวนกลับอย่างรวดเร็ว เธอแทบจะไม่ต้องคิดด้วยซ้ำ “ตอนนี้สิ่งที่คุณควรทำมีเพียงสิ่งเดียว นั่นก็คืออยู่ให้ห่างจากฉันมากที่สุด แล้วไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าอีก!”
พูดจบ เธอก็หันหลังกลับด้วยความโกรธ จากนั้นก็เดินออกไป
ทว่าลี่เฉินซีกลับไม่ได้จากไปเหมือนอย่างที่เธอบอก เขายังเดินตามเธอต่อไปช้า ๆ
เพราะเขากลัวว่าจะเป็นการไปกระตุ้นหรือยั่วยุให้เธอไม่พอใจอีก ดังนั้น ชายหนุ่มเลยชะลอฝีเท้าลง พยายามรักษาระยะห่างจากเธอประมาณหนึ่งร้อยเมตร
ซูย้าวเดินต่อไปด้วยความโกรธเคืองได้สักพัก พอหันหลังกลับมา ก็ยังเห็นลี่เฉินซีเดินตามเธออยู่ หญิงสาวรู้สึกโมโหจนปวดหัว “คุณยังจะตามฉันมาทำไมอีก?”
“ไม่กลับไปอยู่เป็นเพื่อนกับแฟนสาวของคุณเหรอ? ปล่อยให้คุณอู๋อยู่คนเดียวท่าจะลำบากนะ!”
ลี่เฉินซีจ้องไปที่เธอ “ผมกับหล่อนไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน ถ้าคุณยอมล่ะก็ ผมค่อย ๆ อธิบายให้คุณฟังได้”
“ฉันไม่อยากฟัง” เธอตัดบทเขาอย่างเย็นชา
ชายหนุ่มกลืนคำพูดตัวเองลงไปทันที ก่อนจะก้มหน้าลงน้อย ๆ ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาว เห็นได้ชัดว่ามีรังสีความเป็นชายหนุ่มอยู่เต็มเปี่ยม เวลานี้กลับยอมฟังคำดูถูกเหยียดหยามของเธอซ้ำไปซ้ำมา
ซูย้าวหลับตาลงอย่างหมดแรง รู้สึกเหมือนตัวเองไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงใจร้ายคนหนึ่ง ชักจะน่าเบื่อเกินไปแล้ว หญิงสาวค่อย ๆ สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะหันหลังกลับแล้วเดินต่อ
แต่เธอเดินออกไปได้เพียงไม่กี่ก้าว ก็เหมือนกับคิดอะไรบางอย่างออก หญิงสาวหันกลับมาหาชายหนุ่มอีกครั้ง “ในเมื่อคุณไม่ชอบฉัน รังเกียจที่ฉันเป็นใบ้ งั้นตอนเด็ก ๆ คุณจะมายั่วฉันทำไม?”
“ชมว่าชื่อฉันเพราะ ไม่มีอะไรก็มาแวบไปแวบมาในสายตาฉันตลอด คุณไม่รู้เหรอว่ามันดูไม่มีความรับผิดชอบต่อเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเลย?”
ลี่เฉินซีหลุบตาลงพร้อมกับถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะก้าวเข้ามาเบื้องหน้าเธอ จากนั้นก็ค่อย ๆ ใช้มือประคองแก้มเธอขึ้น “ก็เพราะว่าผมชอบคุณ”
“ตอนนั้นผมชอบคุณเข้าแล้ว” เพียงแค่ลี่เฉินซีในตอนนั้นยังไม่รู้สึกตัว ต่อมาหลังจากค้นพบหัวใจตัวเอง ก็ยังมีเรื่องต่าง ๆ และสาเหตุอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ทำให้เขาต้องพยายามเก็บงำความรู้สึกเอาไว้
เขาใช้มืออีกข้างกุมมือของหญิงสาวขึ้นมา จากนั้นก็เอามาทาบตรงตำแหน่งของหัวใจ “มันไม่เคยมีพินัยกรรมของคุณย่ามาตั้งแต่แรก พินัยกรรมนั่นผมทำขึ้นมาเอง การขอคุณแต่งงานต่างหากที่เป็นสิ่งที่ผมคิดอยากจะทำจริง ๆ”
“ตอนที่คุณอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้นกับตระกูลซู การขอคุณแต่งงานแล้วพาคุณเข้ามาอยู่ข้างกายผม เป็นสิ่งเดียวที่ผมอยากจะทำ” จนกระทั่งเรื่องทุกอย่างที่ตามมาทีหลัง ทำให้เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาควรจะแก้ไขอย่างไร
อาจเป็นเพราะเขายังเด็ก เลยไม่เข้าใจว่าความรักคืออะไร
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เขาเลือกด้านที่หยาบคายและโหดร้ายมากที่สุด มาปฏิบัติต่อคนที่เขารักมากที่สุด โดยลืมไปว่าการกระทำเหล่านี้มันผิดทั้งวิธีการ ทั้งกระบวนการ ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมามันผิดที่ผิดทางไปเสียหมด
นี่ไม่ใช่ความรัก นี่คือการทำร้าย