เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 799 ฉันเป็นสัตว์เลี้ยงคุณเหรอ?
หลังจากที่ออกมาจากวิลล่า ซูย้าวก็ขับรถตรงไปยังบริษัทลี่ซื่อทันที ในหัวของเธอเต็มไปด้วยฉากที่คุยกับซูหยวนตลอดทาง
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เธอมีเรื่องในมืออยู่เยอะมา แค่อานเจียเย้นคนเดียวก็กวนใจเธอเกินพอแล้ว ยังจะมี “อู๋หยาน” เพิ่มขึ้นมาอีก
ลี่เฉินซีคนนี้ เขาคิดจะทำอะไรกันแน่ เธอย้ำเตือนเขาไปตั้งหลายครั้งแล้วว่า เขาจะเอาผู้หญิงคนไหนก็ได้ เว้นไว้คนเดียวคือ “อู๋หยาน” แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่ยอมฟัง เขานี่มันดื้อดึงจริงๆ !
ทั้งๆ ที่ผู้หญิงคนนี้เจี่ยงจี้เซิงหมดรักไปแล้ว ก่อนจะตกมาถึงมือเขาและกลายเป็นสมบัติล้ำค่า นี่มันดูไม่สมเหตุสมผลเลยจริงๆ !
หญิงสาวจอดรถไว้ข้างทาง ก่อนจะเดินตรงเข้าไปในตึกบริษัท
จากนั้นก็ขึ้นลิฟต์ไปจนถึงชั้นบนสุด ระหว่างนั้น ซูย้าวก็คิดไปคิดมา ไม่มีอะไรทำไมเธอต้องเอาแต่โมโหเรื่องของเขากับอู๋หยานนะ นี่มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ?
เธอพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อยู่หลายครั้ง เพื่อให้ตัวเองผ่อนคลายลง จากนั้นก็เดินไปเคาะประตูแล้วก้าวเข้าไปในห้องทำงานท่านประธาน
ลี่เฉินซีกำลังยุ่ง ทว่าท่าทีอันหล่อเหลายังไม่ต่างจากเดิม แว่นกรอบบางที่เขาสวมอยู่นั้นบดบังความหนาวเย็นรอบๆ ตัวไปจนหมด ในทางตรงข้ามยิ่งมันแผ่กระจายความอบอุ่นของเขาออกมามากเท่าไร ยิ่งให้ความรู้สึกราวกับเป็นเขาเทพบุตรมากขึ้นไปอีก
สีหน้าของซูย้าวที่เดินเข้ามาดูไม่ค่อยดี มีแววตาเย็นยะเยือกมองทะลุมาทางเขา
ลี่เฉินซีเหลือบตามองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “คุณนั่งลงก่อน”
งานในมือเขาตอนนี้ค่อนข้างเยอะ เมื่อจัดการไปพอสมควรแล้ว เขาถึงยืดตัวขึ้น ก่อนจะเดินอ้อมไปที่โซฟาด้านข้าง จากนั้นก็สวมกอดเธอจากด้านหลัง สองแขนเพียงสัมผัสแค่เล็กน้อย ซูย้าวก็ดันเขาออกด้วยท่าทีรังเกียจ “อย่ามาแตะต้องฉัน!”
ชายหนุ่มขมวดคิ้วอย่างเย็นชา ก่อนจะเดินอ้อมมานั่งลงข้างๆ เธอ “เป็นอะไรอีก? ใครมาทำอะไรให้ที่รักของผมไม่พอใจ?”
เขาก็ยังเหมือนเดิม รอยยิ้มจางๆ ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา ก่อนจะยกมือขึ้นบีบแก้มเธอเบาๆ “ทานข้าวรึยัง? อีกเดี๋ยวอยากทานอะไรไหม?”
ซูย้าวรู้สึกจนปัญญาเล็กน้อย ทุกครั้งที่เขาเจอเธอ มีแต่พูดถึงเรื่องกิน หรือว่าในหัวเขาอยากให้เธอเอาแต่กินทั้งวันรึไง?!
นัยน์ตาของเธอสั่นไหวเบาๆ ก่อนจะมองไปทางเขาด้วยแววตาเย็นชาอย่างหมดความอดทน “ฉันไม่ใช่คุณนะที่จะมีอารมณ์ทานลง ลี่เฉินซี เรามาเปิดใจคุยกันตรงๆ เถอะ!”
ขณะที่พูด เธอก็ก้มหน้าลงเปิดกระเป๋าหาของที่อยู่ด้านใน
ลี่เฉินซีขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเอื้อมมือไปกุมมือเธอไว้ “เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทะเลาะกับใครมางั้นเหรอ?”
หญิงสาวผลักเขาออกอย่างหมดความอดทน เธออยากจะตอบไปเหลือเกินว่า “แฟนสาวสุดที่รักที่อยู่กินกับคุณไง” แต่ก็รู้สึกว่ามันเด็กน้อยเกินไป จึงได้แต่ปิดปากเงียบไว้ ก่อนจะหยิบกระเป๋าตังออกมาจากกระเป๋า จากนั้นก็หยิบบัตรเครดิตออกมาอีกสี่ห้าใบ พร้อมกับยัดทั้งหมดใส่มือชายหนุ่ม
“อ่ะ ฉันให้คุณ นี่เป็นทั้งหมดที่ฉันมีแล้ว” หญิงสาวพูดขึ้น
ชายหนุ่มหลุบตาลงมามองบัตรในมือด้วยความตกตะลึง ก่อนจะถามขึ้นอย่างประหลาดใจว่า “ให้ผมทำไม?”
ซูย้าวถอนหายใจด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ก่อนจะหันไปหาเขา พร้อมกับเอ่ยขึ้นอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ว่าคุณอยากตามจีบคุณอู๋ แต่โครงการเหมืองแร่คาราเวอไรต์นั่นมันไม่ได้จริงๆ ทั้งไม่เหมาะกับบริษัทลี่ซื่อ แล้วก็ไม่เหมาะกับคุณอู๋ ในบัตรฉันน่าจะมีอยู่ประมาณสามหมื่นล้าน คุณเอาเงินนี้ไปเลือกซื้อโครงการอื่นให้เธอใหม่ ถือเสียว่าเป็นของขวัญก็แล้วกัน!”
เงินพวกนี้ เป็นเงินจากการที่เธอทำธุรกิจกับอานเจียเย้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเธอต้องอาศัยอยู่กับเขา เธอจึงแทบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในชีวิตเลยแม้แต่บาทเดียว อีกอย่างเธอก็มีนิสัยชอบออมเงิน ทีละเล็กทีละน้อย จนสุดท้ายก็มีมากขนาดนี้
พูดจบ เธอก็เสริมอีกประโยคว่า “คุณเก็บไว้เถอะ ถึงอย่างไรเมื่อก่อนฉันก็เคยใช้ลายเซ็นคุณขายบริษัทสาขาที่ต่างประเทศไปก็เยอะ ทำให้คุณขาดทุนไปไม่น้อย แค่นี้ยังไม่พอที่จะชดใช้หรอก แล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วงฉันนะ ฉันยังมีเหลือเก็บอยู่นิดหน่อย”
ถึงแม้เธอจะเหลือเก็บไว้เล็กน้อย แต่มันก็มากพอที่จะใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาทั่วไป แค่ชีวิตที่เรียบง่าย แค่นั้นก็พอแล้ว
ซูย้าวพูดจบ เธอก็จัดกระเป๋าตัวเอง ระหว่างที่กำลังรูดซิป เธอก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง พร้อมกับย้ำอีกประโยคว่า “เลิกให้ความสนใจกับโครงการเหมืองแร่คาราเวอไรต์นั่นเถอะ ให้ฝ่ายวางแผนและฝ่ายการตลาดหยุดทำงานนี้เสีย ไปทุ่มเทแล้วก็ให้ความสำคัญกับโครงการอื่นดีกว่า คุณเองก็เป็นเถ้าแก่ที่ไม่เลว มีสมองแล้วก็มีสายตาที่เฉียบคม ไม่จำเป็นต้องมาฝืนเอาโครงการที่ไม่เหมาะสมแบบนี้หรอก”
จากนั้น หญิงสาวก็ยืดตัวขึ้นเตรียมจะเดินอ้อมเขาออกไป ทว่า เมื่อเธอเดินเข้าไปใกล้เขา ลี่เฉินซีก็เอื้อมมือออกมาจับแขนเธอไว้ ก่อนจะดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอดเขาอย่างนุ่มนวล
การกระทำที่มาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้ซูย้าวตกใจอยู่ไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นท่านั่งที่ไม่ทันเรียบร้อยดีทำให้ร่างกายของเธอทรงตัวไม่อยู่ หญิงสาวจึงยื่นมือออกไปคว้าชายหนุ่มไว้โดยไม่รู้ตัว ทว่าเธอกลับไม่ทันได้สังเกตว่าสิ่งที่เธอคว้าไว้คืออะไร พอรู้ตัวอีกทีถึงได้รู้ว่าบางอย่างในมือกำลังแข็ง…..
ใบหน้าอันหล่อเหลาของลี่เฉินซีหม่นแสงลงเล็กน้อย ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยแววตาเย็นยะเยือกและชั่วร้าย ซึ่งแตกต่างจากปฏิกิริยาทางร่างกายของเขาริบรับ ชายหนุ่มใช้มือข้างหนึ่งเชยคางเธอขึ้น จากนั้นใบหน้าหล่อเหลาก็โน้มลงมาพร้อมกับมอบจุมพิตให้เธอ ไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า ซูย้าวที่กำลังสับสน ก็ถูกเขา…..
การเรียกร้องที่ไร้เหตุผลแบบนี้ ทำให้เธอตั้งตัวไม่ทัน รอกระทั่งเธอนึกออกว่าตัวเองควรทำอะไรมันก็สายไปแล้ว
หญิงสาวไม่เพียงแค่ผลักชายหนุ่มไม่ออก ทั้งยังดิ้นไม่หลุดด้วย อีกฝ่ายไม่ขยับเลยสักนิด สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือ ปล่อยให้เขาทำเรื่องไร้ยางอายแบบนี้ต่อไป จากนั้นก็ฉวยโอกาสตอนที่เขาไม่ทันตั้งตัว กัดไปที่ปากของเขาเสีย!
ซูย้าวคิดจริง แล้วก็ทำจริง เพราะถึงอย่างไรระยะเวลาในขั้นตอนเหล่านี้ก็ไม่ช้าไม่เร็ว หญิงสาวกัดไปที่ปากของชายหนุ่มแล้ว ทั้งยังไม่ยอมปล่อยอีกด้วย แม้ว่าจะไม่ได้ออกแรงมาก แต่เห็นได้ชัดว่ามันคงเจ็บจนลี่เฉินซีต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับร้องออกมาอย่างอดไม่ได้ว่า “ปล่อยก่อน ปล่อย…..”
หญิงสาวยังไม่ยอม ไม่ใช่แค่เธอไม่ปล่อย แต่ยังจงใจออกแรงกัดมากขึ้นไปอีก เธองับปากเขาไว้ครู่หนึ่งจนแน่ใจแล้วว่าชายหนุ่มเจ็บมากจริงๆ ถึงจะปล่อยริมฝีปากเขาออกอย่างพอใจ จากนั้นเธอก็หมุนตัวกลับหมายจะหนี ทว่ากลับถูกลี่เฉินซีรั้งไว้ ก่อนจะดึงเธอกลับเข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้ง
ชายหนุ่มมองไปที่ใบหน้าพออกพอใจของคนตัวเล็ก จนอดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้น “ได้กัดผมนี่มีความสุขมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เธออดไม่ได้ที่จะกลอกตามองบน พร้อมกับผลักเขาออกไปอีก แต่เขาก็ยังไม่ขยับเหมือนเดิม คิดไปคิดมาเธอก็รู้สึกว่าตัวเองทำแบบนี้มันดูเด็กน้อยเกินไปหน่อย จึงเลี่ยงที่จะใส่อารมณ์กับเขา
ลี่เฉินซียกมือขึ้นลูบจมูกเธอเบาๆ จากนั้นก็ค่อยๆ เชยคางเธอขึ้น “คุณนี่นะ จะให้ผมว่าอย่างไรดี? ช่วยดูแลฟันน้อยๆ ของคุณให้ดีกว่านี้หน่อยได้ไหม ถ้ายังใช้มัน “ทำร้าย” คนอื่นอีก แสดงว่าอยากให้ผมลงโทษคุณใช่ไหม?”
พอได้ฟังคำพูดอันคลุมเครือของเขา แก้มของซูย้าวก็เริ่มแดงขึ้นขึ้นมาทันที ราวกับมะเขือเทศลูกน้อยๆ ก็ไม่ปาน ก่อนที่เธอจะผลักเขาออกด้วยความเขินอาย “ลี่เฉินซี คนนิสัยไม่ดี ปล่อยฉันนะ!”
มีหรือที่เขาจะยอมปล่อยเธอออก มีแต่จะกอดแน่นขึ้นต่างหาก ใบหน้าอันหล่อเหลาขยับเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น ก่อนจะสะกดเธอไว้ด้วยแววตาที่จนปัญญา “จริงจังหน่อย ผมจะพูดเรื่องที่เป็นงานเป็นการกับคุณนะ”
“เรื่องเหมืองแร่คาราเวอไรต์ ต่อให้ไม่มีอู๋หยาน ผมก็จะทำอยู่ดี มันเป็นงานของผม พูดไปคุณก็ไม่เข้าใจ คุณเลิกคิดเรื่องนี้ได้แล้ว”
เขามีการจัดเตรียมและการวางแผนของตัวเอง ตอนนี้ยังไม่สามารถอธิบายให้เธอฟังอย่างชัดได้ ส่วนเรื่องก่อนหน้านี้ ที่ไม่สามารถพูดให้เธอฟังได้ทั้งหมด ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง
ลี่เฉินซีชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะออกแรงบีบคางเธอแน่นขึ้น “อีกอย่างเรื่องเมื่อก่อนที่คุณเคยเอาลายเซ็นผมไปใช้ก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึงมันอีก”
ลองถามคนทั้งโลกดูสิ ว่าจะมีใครกล้าเสี่ยงเอาลายเซ็นของเขาไปใช้ แถมยังเสนอขายบริษัทสาขาของเขาด้วยตัวเองอีก!
และเพราะว่ามันคือเธอ ดังนั้น เขาจึงไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยอะไรอีก
ชายหนุ่มบังคับให้หญิงสาวหันกลับมามองที่เขา ก่อนจะเน้นระดับเสียงขึ้น “เงินของคุณ จะเป็นของคุณตลอดไป ผมไม่เอา แต่กลับกัน เงินทั้งหมดของผมล้วนเป็นของคุณเพียงคนเดียว”
ลี่เฉินซียังคิดที่จะหาโอกาสเปิดบัญชีส่งเงินให้เธอใช้อีกสักหน่อย เผื่อเธอจะใช้ตอนว่างๆ แต่คาดไม่ถึง ว่าหญิงสาวจะเอาบัญชีของตัวเองทั้งหมดมามอบให้เขาเสียอย่างนั้น!
นี่มันเรื่องอะไรกันนี่!
“อย่าให้เรื่องนี้มาทำให้เราทะเลาะกันเลยนะ เป็นเด็กดีเชื่อฟังหน่อย” ขณะที่พูด เขาก็ปล่อยเธอออก พร้อมกับยกมือหนาขึ้นลูบหัวเธอเบาๆ ท่าทางแบบนี้ ไม่ต่างจากการเอาใจลูกหมาลูกแมวเลยสักนิด!
ซูย้าวชะงักไปชั่วขณะ หลังจากสติกลับมา เธอก็ปัดมือเขาออกทันที “คุณทำอะไร? คิดว่าฉันเป็นสัตว์เลี้ยงของคุณรึไง?”
ชายหนุ่มเอนตัวไปด้านหลังพิงกับพนักโซฟา “ถ้าคุณเป็นสัตว์เลี้ยงจริงๆ ก็ดีสิ สัตว์เลี้ยงน่ะเป็นเด็กดีกว่าคุณตั้งเยอะ แถมยังเชื่อฟังด้วย!”
พูดจบเขาก็เลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ก่อนจะกวาดสายตามองไปทางห้องพัก “เข้าไปดีๆ รีบอาบน้ำ แล้วก็อยู่บนเตียงรอผม ไปเถอะ!”
ซูย้าว “………”