เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 808 ช่างไม่รู้จักเจียมตัวจริงๆ
“เธอ เธอ……”ซูหยวนโกรธจนพูดไม่เป็นคำ ร่างกายสั่นเทาราวกับโดนเขย่า แรงโกรธมหาศาลทำให้แทบจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แต่ติดตรงที่สถานะและตัวตน จึงทำได้แค่อดทนเอาไว้
ด้านซัวฉ่ายลี่พลันเบิกตาโพลง ทำให้เธอสังเกตได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็พุ่งเข้าไปหาแม่โดยอัตโนมัติ “ตื่นแล้วเหรอคะ?”
ซูย้าวก้มมองซัวฉ่ายลี่ที่ได้สติขึ้นมาแล้ว พร้อมกับแสยะยิ้มออกมาอย่างไม่ปิดบัง “ตื่นขึ้นมาก็ดีเรื่องจะได้ง่ายๆ ”
เพราะถึงยังไง ถ้ายังหมดสติอยู่ก็คงทำเอาเธอเปลืองแรงไม่น้อย
ซัวฉ่ายลี่ฟื้นคืนสติกลับมาเล็กน้อย เมื่อเห็นซูย้าวกับหญิงสาวแปลกหน้าที่เข้ามาประชิด ดวงตาที่ทอแววแปลกใจพลันสั่นสะท้าน เธอมองมาที่ซูหยวนเอ่ยถามว่า “เธอ เธอเป็นใคร?”
ซูหยวนชะงักนิ่ง ตอนนี้เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองทำศัลยกรรมมา หน้าตาพิมพ์เดียวกันกับอู๋หยานเป๊ะ ผู้เป็นแม่จึงจำไม่ได้เป็นธรรมดา
จากนั้น สายตาของซูฉ่ายลี่ก็มองไปทางซูย้าวที่อยู่ข้างๆ เมื่อเห็นแก้วน้ำในมืออีกฝ่ายก็เอ่ยขึ้น “ซูย้าว? แกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
“คุณน้า ตื่นแล้วเหรอคะ” ซูย้าวเอ่ยพูด ด้วยน้ำเสียงเย็นๆ แฝงไปด้วยความนัยเข้มข้น “ยังจำได้ไหมว่าตอนนั้นคุณน้าทำอะไรกับคุณพ่อไปบ้าง?”
วางยาพิษที่ออกฤทธิ์ช้าลงในน้ำชาของเขาทีละนิด พอรู้ว่าเขาเริ่มสงสัยตัวเองกับเซียวควน และกำลังร่างพินัยกรรม ก็ยิ่งเพิ่มยาลงไปมากกว่าเดิม แม้ว่าจะถูกจับได้ ซัวฉ่ายลี่ก็ยังใจร้ายเอายาพิษถ้วยใหญ่กรอกปากเขา
แถมยังบอกกับคนภายนอกว่าเขาเสียชีวิตกะทันหัน เพราะว่าตอนนั้นเธออยู่ในฐานะคู่ชีวิต จึงใช้อำนาจไม่ให้ตำรวจเข้ามาชันสูตรศพ หลังจากเผาศพ ก็มาปิดปากซูย้าว ตักตวงเอาทุกอย่างของตระกูลซูไปอย่างสบายใจเฉิบ แถมยังใช้เงินที่มาจากน้ำพักน้ำแรงคนอื่นจนมือเปิบ!
คิดมาถึงตรงนี้ ความโกรธที่สะสมในใจมานานของซูย้าวก็ก่อตัวพุ่งพรวดขึ้นมาอีกครั้ง มือที่กำลังถือแก้วน้ำค่อยๆ หดเกร็ง จนข้อต่อเป็นสีขาว
ซัวฉ่ายลี่คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ เธอจะพูดถึงเรื่องนี้ จึงออกอาการลนลานขึ้นมาชั่วขณะ ใบหน้าแทบจะเปลี่ยนหลากหลายสี “ฉัน…… ฉัน ตอนนั้นฉันยังอ่อนวัย ย้าวย้าว ถึงจะร้ายดียังไงฉันก็เลี้ยงแกมาทั้งแต่เด็กๆ อีกอย่างฉันก็ถูกจับเข้าคุก เพื่อรับกรรมกับสิ่งที่ฉันทำไปแล้ว แกช่วยเห็นแก่เรื่องพวกนี้ หยุดพูดถึงเรื่องนั้นสักทีเถอะนะ ปล่อยฉันไปเถอะ!”
เพราะป่วยหนัก โรคภัยไข้เจ็บเล่นงานจนแรงกายไม่มีเหลือ ซัวฉ่ายลี่ในตอนนี้ หมดสภาพจนไม่เหลือคราบผู้มีอำนาจชี้นิ้วสั่งคนอื่นเหมือนในอดีต ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ก็แค่ผู้ป่วยในสภาพร่อแร่และตรอมใจ แม้แต่เสียงพูดก็ยังอ่อนแรง
ซูย้าวดึงมุมปากอย่างเย็นชา พร้อมกับโน้มตัวไปมองอีกฝ่าย “คุณฆ่าสามีตัวเอง ที่เป็นพ่อของฉันเองกับมือ นั่นชีวิตของคนคนหนึ่งเลยนะ คิดว่าติดคุกแค่ไม่กี่ปี ก็ชดใช้หมดเหรอ?”
ในทางกฎหมายอาจจะมองเหตุผลหลายๆ ด้าน จากนั้นจึงตัดสินโทษ แต่ชีวิตคนก็คือชีวิตคน ไม่ว่าเหตุผลอะไรก็ไม่ควรนำมาใช้เป็นข้ออ้างเพื่อฆ่าคนอื่นทั้งนั้น!
มันไม่เกี่ยวกับว่าเป็นคนดีหรือคนเลว ฆ่าคนก็คือฆ่าคน แถมตอนนั้นซัวฉ่ายลี่ยังจงใจฆ่าเองกับมือ ไม่ใช่ยืมมือคนอื่นฆ่า!
ซูย้าวหลับตาลง พร้อมกับแกว่งแก้วน้ำในมือเล็กน้อย “คุณน้า ฉันเองก็ไม่อยากทำให้คุณลำบากใจหรอกนะ แต่เห็นน้ำในแก้วนี้ไหม? ตอนนั้นคุณใส่ยาอะไรให้พ่อฉันกิน จำได้หรือเปล่า?”
ซัวฉ่ายลี่ออกอาการอย่างฉับพลัน สายตาแปลกใจปนหวาดกลัว มองมาที่แก้วน้ำนั้นอย่างนิ่งๆ “นี่แกคิดจะ……”
“ใช่ ฉันใส่ยาชนิดเดียวกันลงไปในนี้ มันไม่สำคัญหรอกนะว่าฉันจะให้อภัยคุณหรือเปล่า มันสำคัญตรงที่คุณควรลงหลุมไปขออภัยพ่อฉันเอง!”
พูดจบ เธอก็เปิดปากของซัวฉ่ายลี่ออก แล้วนำน้ำในแก้วกรอกปากอีกฝ่ายจนหมด
ซัวฉ่ายลี่หวาดกลัวตัวสั่น ดิ้นทุรนทุราย แต่เพราะร่างกายป่วยหนัก แถมยังทุกข์ทรมานมานาน จะเอาแรงที่ไหนไปสู้กับซูย้าวที่แข็งแรงกว่า?
ซูหยวนที่อยู่ข้างๆ ก็ช่วยกีดขวางทุกทางเพื่อช่วยผู้เป็นแม่ แต่แล้วยังไง?
ถ้าซูย้าวลงมือทำแล้ว ใครก็เข้ามาห้ามไม่ได้ทั้งนั้น
ทั้งสามคนยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่พักใหญ่ สุดท้ายซูย้าวก็กรอกปากซัวฉ่ายลี่ได้สำเร็จ เธอดิ้นขลุกขลัก ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง พิษของยาซึมเข้าไปหัวใจและรัดตึงเอาไว้เหมือนงูตัวใหญ่ ทำให้ร่างกายของเธอสั่นเทาอย่างไม่อาจห้ามได้ ต่อมาก็หมดสติไปในทันที
“ซูย้าว!”ซูหยวนตะคอกออกมาอย่างกรุ่นโกรธ กัดฟันกรอดราวกับจะกัดเธอให้ขาดเป็นชิ้น “เธอกล้า……”
ทำอย่างนี้กับแม่ของฉัน ต่อหน้าฉันเหรอ!
การยื้อแย่งเมื่อสักครู่ทำให้ซูย้าวเหงื่อไหล ในที่สุดก็จบภาระในใจได้หนึ่งอย่าง อดที่จะผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกไม่ได้ เธอวางแก้วน้ำในมือลง แล้วหันไปทางซูหยวน “ฉันกล้าอะไร?”
“ทำร้ายคนอื่นต่อหน้าต่อตาเหรอ?”เธอชิงตอบก่อนซูหยวน รอยยิ้มเหี้ยมแฝงอยู่ในดวงตา ใบหน้าอาบไปด้วยความดุดัน “มีอะไรแปลกตรงไหน? เธอเองก็ใช้วิธีนี้ ฆ่าอู๋หยานเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”
เธอให้เจียงจี้ฉีตามสืบร่องรอยของอู๋หยานอยู่หลายครั้ง ทว่ากลับหาเบาะแสอะไรไม่ได้เลย แล้วการที่หลินเจว๋ติดตามซูหยวนตลอด แบบนั้น ก็เหลือแค่ความเป็นไปได้อย่างเดียว
ซูหยวนฆ่าอู๋หยาน จากนั้นก็ทำลายศพทิ้ง เพื่อปกปิดตัวตน และสวมรอยเป็นคุณหนูกรุ๊ปอู๋ซื่อตั้งแต่หัวจรดเท้า
ซูหยวนนิ่งอึ้งในทันที ช็อกกับคำพูดของอีกฝ่าย หลังจากตะลึงอยู่ชั่วครู่ เพลิงโกรธลูกใหญ่ก็ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกันนั้นก็สะบัดข้อมือไปทางซูย้าว
แต่ก็ตบไม่โดนเหมือนเดิม เนื่องจากถูกซูย้าวรวบจับเอาไว้ได้ ต่อมาเมื่อซูย้าวสะบัดมือออก ร่างกายของซูหยวนก็เซล้มลงกับพื้นอย่างทรงตัวไม่ได้
ซูย้าวปรายมองเธอจากที่สูง ความโกรธพลันปะทุขึ้นมา “ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าจะมีวันนี้ แล้วทำไมตอนนั้นถึงทำล่ะ? เธออยากจบทุกอย่างกับฉันไม่ใช่เหรอ? อยากแก้แค้นฉันไม่ใช่หรือไง?”
“ไม่รู้จักเจียมตัว!คนอย่างเธอ กล้ามายุ่งกับฉัน กล้ามาแตะต้องลูกชายฉันเหรอ?”
นัยน์ตาของซูย้าวทอแววคมปลาบราวกับปลายดาบที่แหลมคม ตวัดฉับมองมาที่หญิงสาวท่าทางน่าอนาถบนพื้น หลังจากกวาดตามองอีกฝ่ายอย่างเยือกเย็น ก็ก้าวเท้าเดินออกไปจากห้องผู้ป่วย
หลังจากที่เธอเดินออกไป คุณหมอและพยาบาลก็รีบเข้ามาสอบถาม ซูหยวนค่อยๆ หลุดออกมาจากความหวาดกลัว จากนั้นก็รีบลุกขึ้นมาอย่างลนลาน จับชายเสื้อของคุณหมอ แล้วเอ่ยอย่างร้อนใจ “มีคนวางยาแม่ฉัน มันวางยาพิษแม่ฉัน ต่อหน้าต่อตาของฉันเลย!”
“มันชื่อซูย้าว มันเป็นฆาตกร แจ้งตำรวจ ต้องรีบแจ้งตำรวจให้ไปจับมัน……”
เธอลนลานจนพูดออกมาอย่างลิ้นแข็ง เอาแต่ย้ำคำเดิมอยู่อย่างนั้น คุณหมอมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกใจ หลังจากที่ตรวจร่างกายของซัวฉ่ายลี่เสร็จ ก็ทำการตรวจของเหลวที่ปะปนอยู่ในน้ำต่อ คุณหมอมองซ้ำอยู่หลายรอบ สุดท้ายก็ใช้มือแตะเข้าปากอย่างนึกสงสัย
“นี่มันแค่น้ำหวานธรรมดาเองนะครับ ไม่เห็นมียาพิษตรงไหนเลย คุณครับ คุณมองผิดหรือเปล่า?”
ซูหยวนหน้าแตกเพล้ง อารมณ์สับสนพลันดิ่งวูบ ร่างกายสั่นไหว เซล้มลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง
ซูย้าวใช้วิธีนี้ให้เธอเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาสำเร็จ……
คุณหมอตรวจร่างกายให้ซัวฉ่ายลี่ ไม่รู้ว่าเพราะความวุ่นวายเมื่อสักครู่รุนแรงมากเกินไป หรือว่าร้อนตัวเป็นทุนเดิม จนแยกรสชาติน้ำหวานไม่ออก ถึงได้ตื่นกลัวจนสติกระเจิง เป็นเหตุให้ขาดใจตายในคืนนั้น
เพราะติดเรื่องตัวตนที่แท้จริง ซูหยวนจึงไม่สามารถอยู่ที่โรงพยาบาลได้นาน หลังจากที่ได้รู้ว่าซัวฉ่ายลี่เสียชีวิต เธอก็วิ่งออกจากโรงพยาบาลอย่างลนลาน เดินไปพลางร้องไห้ไปพลาง น้ำตาหลั่งไหลออกมาเป็นสาย ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยสักนิด
ข้างทางที่ปกคลุมไปด้วยความมืดสลัว หลินเจว๋ขับรถมาจอดรอเธอเป็นเวลานานแล้ว
ซูหยวนเช็ดน้ำตาออกลวกๆ เมื่อขึ้นมาบนรถ ก็ไม่สามารถข่มกลั้นไฟโทสะเอาไว้ได้ พลันตะคอกออกมาทันที “ฉันไม่มีทางอยู่ร่วมโลกกับนังเศษเดนซูย้าวได้แน่ๆ !มันฆ่าแม่ฉันทั้งเป็น!นังคนนี้……”
“หลินเจว๋ นายต้องช่วยฉัน ฉันอยากฆ่ามัน ด้วยวิธีที่น่าสยองที่สุด ให้มันทรมานทีละนิดแล้วค่อยตาย!”
หลินเจว๋ไม่คิดจะฟัง ออกรถมุ่งตรงไปยังสถานที่หนึ่งในแถบชานเมืองทันที ระหว่างทางคำพูดโกรธแค้นของเธอก็ดังขึ้นมาไม่หยุด ผ่านไปพักใหญ่ เขาถึงหาบริเวณที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวเจอ จึงเบรกรถดังเอี๊ยด
เขาลงจากรถ เดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งข้างคนขับ พร้อมกับกระชากซูหยวนลงมาอย่างป่าเถื่อน จากนั้นก็สะบัดมือใส่หน้าของเธอ “เธอคิดว่าเธอเป็นใคร? ถึงได้คิดจะฆ่าคุณหนู เธอคู่ควรเหรอ?”
“อีกอย่าง ใครใช้เธอเล่นงานเด็กคนนั้น? มีสิทธิ์อะไรไม่ทราบ!”หลินเจว๋เดือดพล่านเป็นฟืนเป็นไฟ “เธอรู้หรือเปล่าว่าเด็กคนนั้นคือคนที่ประธานอานเลือกมา ไม่ต้องถึงเธอหรอก แม้แต่ฉันก็ยังไม่กล้าแตะต้องเด็กคนนั้น แล้วไหนจะคุณหนูอีก กล้าไปยุ่งคุณหนูนี่ ไม่รู้จักเจียมกะลาหัวเลยหรือไง?”