เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 824 ช่างทำให้คนไร้คำพูดที่จะพูดจริงๆ
รับซื้อเหรอ?!
ตอนที่ซูย้าวได้ยินคำพูดนี้ การย่างก้าวทั้งตัวก็หยุดชะงักไปอย่างกะทันหัน ชั่วพริบตาเดียวหน้าตาที่น่าดูก็แข็งทื่อตึงเกร็งไปด้วยเช่นกัน
เธอล้วนไม่กล้าจินตนาการ นี่ก็คือการวางแผนกับแผนการที่ลี่เฉินซีบอกเหรอ?
ใช่หรือไม่ว่าอยู่นัยน์ตาเขา เรื่องอะไรล้วนสามารถใช้เงินจัดการ เพียงแค่ขยับนิ้วเล็กน้อยให้ราคาสูงสักหน่อย ก็ไม่ต้องเสียแรงสักนิด ถ้าหากเป็นเช่นนี้ล่ะก็ งั้นซูย้าวก็ไร้คำพูดที่จะพูดจริงๆ
เธอยอมรับ ของอะไรที่อยู่บนโลกนี้ ทุกด้านล้วนหลีกห่างจากคำว่าเงินทองที่หยาบช้าสามานย์ที่สุดคำนี้ไม่ได้ แต่ปัญหาคือ ไม่ใช่ปัญหาอะไรล้วนสามารถใช้เงินมาจัดการได้ล่ะ!
ก็อยู่ตอนที่เธอฮือฮาตื่นตะลึง พูดแขวะอยู่เต็มหัวใจ ก็ได้ยินชายวัยกลางคนที่เป็นฝ่ายตรงข้ามคนนั้น เอ่ยปากพูดว่า “ประธานลี่ อันดับแรก ผมเป็นผู้รับผิดชอบสกีรีสอร์ทแฟลส์กับจุดชมวิวนี้ แสดงให้เห็นด้วยน้ำใสใจจริงว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งกับบริษัทของคุณ”
“สามารถทำให้บริษัทลี่ซื่อชอบใจได้ ทั้งเอ่ยว่ามีเจตนารับซื้อ ประธานลี่ยังเข้ามาเจรจาหารือด้วยตัวท่านเอง ไม่ว่าต่อสกีรีสอร์ทหรือว่าจุดชมวิวท่องเที่ยวพักผ่อนของพวกเรา ล้วนเรียกได้ว่าทำให้เจ้าภาพรู้สึกมีเกียรติอย่างยิ่งจริงๆ อีกทั้งเงื่อนไขที่ท่านเสนอออกมาก็ทำให้ผมตื่นตะลึงเพราะได้รับความโปรดปรานอย่างคาดคิดไม่ถึงเช่นกัน”
ประธานหลี่เยินยอด้วยความประจบสุดความสามารถก่อนรอบหนึ่ง พูดได้ว่าคำพูดเป็นมารยาทพอเป็นพิธีพูดไปมากมาย แต่ก็หมุนแทรกเข้าในจุดสำคัญทันที “แต่ควรจะพูดกับท่านยังไงล่ะ? สกีรีสอร์ทแห่งนี้กับโรงแรมฮอลิเดย์เหล่านี้ จนกระทั่งสิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่บริเวณรอบๆ ทั้งหมดต่างๆ ล้วนไม่ได้อยู่ในนามส่วนตัวผมนะ”
กลับกันพูดว่า เขาก็ทำงานให้กับคนอื่นเช่นกัน เพียงแค่รับจ้างมาเป็นผู้รับผิดชอบที่นี่เท่านั้น
ลี่เฉินซีรู้ถึงจุดนี้ ก็พยักหน้าหนึ่งที “อืม ผมทำความเข้าใจมาก่อนแล้ว ที่นี่เป็นกิจการในเครือของDouble Aceกรุ๊ป และผู้รับผิดชอบเป็นประธานอานเจียเย้น”
ประธานหลี่ตกปากรับคำต่อๆ กัน “ใช่แล้ว แต่ท่านอาจจะไม่ค่อยชัดเจนมากนะ ที่นี่เป็นประธานอานของพวกเราDouble Aceกรุ๊ปอีกคนหนึ่งรับซื้อในหลายเดือนก่อน ถ้าหากท่านมีเจตนาจะรับซื้อที่นี่จริงๆ งั้นผมก็ต้องแจ้งประธานอาน ซักถามความเห็นของเธอสักหน่อย”
ตาที่ลึกล้ำของลี่เฉินซีหรี่ลงเล็กน้อย “ประธานอานคนนี้ที่อยู่ในปากคุณ ขอถามว่าที่ชี้ถึงคือ……”
“เป็นประธานDouble Aceกรุ๊ปอีกคนหนึ่ง อานหว่านชิงประธานอาน” ประธานหลี่ทำการตอบกลับ จากนั้นแสดงความรู้สึกเสียใจเล็กน้อย ลุกขึ้นมา หมุนตัวไปโทรศัพท์
โดยจิตใต้สำนึกซูย้าวรีบหยิบมือถือของตนเองออกมา กำลังเตรียมตัวจะปรับเป็นเสียงเงียบ กังวลว่าเสียงเรียกเข้าที่จะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จะทำให้สถานะของตนเองถูกเปิดโปง แต่ทำให้เธอนึกไม่ถึงคือ โทรศัพท์ของตนเองไม่ได้ดังขึ้นเลยสักนิด
เธอจ้องมองหน้าจอของมือถืออยู่นิ่งๆ และเงยหน้าขึ้นจ้องมองไปยังทิศทางประธานหลี่ที่คุยโทรศัพท์หันหลังให้กับเธออยู่ที่ไกลๆ อีก ครุ่นคิดจนขมวดคิ้วขึ้นมา
แต่ชั่วขณะ สายของประธานหลี่ดูเหมือนคุยจบแล้ว ก็เลยอ้อมกลับมาใหม่อีกครั้ง หลังจากนั่งลงอีกครั้ง รีบพูดว่า “ประธานลี่ รู้สึกขอโทษมากจริงๆ เมื่อกี้ผมติดต่อประธานอานของเราแล้ว เธอไม่มีความคิดที่จะขายต่อเลย ขอโทษจริงๆ ”
ท่าทีประธานหลี่ดีสุดขีด หลังจากกล่าวขอโทษอย่างนอบน้อมจริงใจต่างๆ นานา รีบพูดอีกว่า “แต่ว่า ท่านยากที่จะได้มาที่นี่ ถ้ามีเจตนาอยากจะอยู่เที่ยวที่นี่ต่อล่ะก็ ผมจะแนะนำไกด์ให้กับท่านเถอะ! สกีรีสอร์ทที่นี่มีชื่อเสียงมากๆ ท่านสามารถ……”
ไม่ได้ให้เขาพูดอีกต่อไป ลี่เฉินซีก็ขวางไว้ในเวลาที่เหมาะสม ใบหน้าหล่อที่ลึกเงียบมองไม่ชัดว่ามีอารมณ์เผยให้เห็นมากเท่าไหร่ ข้างริมฝีปากที่ยิ้มเหมือนไม่ได้ยิ้มก็ได้ปนเปื้อนรอยยิ้มที่ลึกลับไปด้วย “อันนี้ไม่รบกวน ประธานหลี่ ขอถามหน่อยเมื่อกี้ท่านโทรหาคุณอานหว่านชิงแล้วจริงๆ เหรอ?”
ประธานหลี่อึ้งชะงักอย่างฉับพลัน แต่โดยจิตใต้สำนึกยังคงพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “อืม แน่นอนอยู่แล้ว ไม่งั้นคำพูดแบบนี้ ผมก็พูดสะเปะสะปะซี้ซั้วไม่ได้เช่นกันล่ะ!”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ สามารถบุ่มบ่ามซักถามเบอร์โทรของคุณอานหว่านชิงสักหน่อยหรือไม่ล่ะ? ผมอยากจะติดต่อเธอเป็นการส่วนตัวสักหน่อย” ลี่เฉินซีตั้งใจเอ่ยการร้องขอที่ไร้เหตุผลออกมา
ประธานหลี่ก็ตกเข้าสู่สภาพที่รู้สึกลำบากใจ ใบหน้าที่อึดอัดมีความตึงเกร็งเล็กน้อย สายตาที่สลับซับซ้อนลาดตระเวนซ้ำๆ ครุ่นคิดไปนานมาก จึงพูดว่า “เรื่องนี้ เรื่องนี้กลัวว่าจะไม่ได้ล่ะ!”
“ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาประธานอานให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมาก ผมเพียงแค่รับจ้างมาเป็นผู้รับผิดชอบทางนี้เท่านั้น เท่ากับมาทำงานอยู่ ทำให้เบอร์โทรของเถ้าแก่รั่วไหลกลัวว่า……”
ประธานหลี่ยังนับได้ว่าพิจารณาดูแลไปทั่วทุกด้าน คำพูดที่โอ่อ่าพูดจนรู้จักความพอดีมาก ท่าทีก็ดีสุดขีดเช่นกัน แต่ไม่ว่าบรรยายอธิบายยังไง ก็ยากที่จะต้านทานสายตาที่ลึกล้ำหนาวเย็นของลี่เฉินซีได้ ถูกเขาจ้องมองอย่างนี้ไปนาน ในชั่วพริบตาเดียวความแปลกประหลาดมากกับความรู้สึกเหน็บหนาวที่อยู่ในใจรุนแรงขึ้น
สายตาของผู้ชายคนนี้หนาวเหน็บมากเกินไป ทั้งทำให้คนตกใจหวาดกลัวมากเกินไปด้วย คล้ายดั่งมองเขาทะลุโดยสิ้นเชิงมานานแล้ว มองทะลุปรุโปร่งชัดแจ้งถึงความสกปรกโสมมเล็กน้อยนั้นที่อยู่ในใจ
ทั้งๆ ที่ลี่เฉินซีล้วนไม่ได้พูดอะไร แต่อาศัยเพียงสายตาปะทะกัน กับสายตาของประธานหลี่ในครั้งแรก ชั่วพริบตาเดียวก็ทำให้ฝ่ายตรงข้ามพ่ายแพ้แตกไม่เป็นขบวน เขามีความตื่นตระหนกเล็กน้อยรีบย้ายตาออก ในใจสับสนวุ่นวาย และอึดอัดคับแค้น
สายตาของผู้ชายคนนี้เยือกเย็นดื้อรั้นเกินไป รอยยิ้มที่ยิ้มบางๆ ก็ประชดประชันมากเกินไปแล้วเช่นกัน ทำให้ข้ออ้างที่เพิ่งได้มาเล็กน้อยนั้นที่อยู่ในใจเขาแป๊บเดียวก็สูญเสียความเป็นไปได้ที่จะหลบซ่อนแล้ว……
“ประธานลี่ ขอโทษอย่างมากจริงๆ !” ประธานหลี่พิจารณาซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็ได้แต่บังคับคำพูดอย่างนี้ออกมาคำหนึ่ง เขาไม่อยากและก็ไม่สามารถล่วงเกินลี่เฉินซีเช่นกัน แต่พอนึกถึงอานเจียเย้นที่ลึกลับคาดเดาไม่ถูกคนนั้น ก็ทำให้เขากลัวจนตัวสั่นเป็นลูกนก ได้เพียงแต่เสี่ยงเข้าตาจนดู
ไม่รู้ต่อมาลี่เฉินซีจะพูดอะไรหรือว่าจะทำอะไร ถึงอย่างไรซูย้าวก็ทนไม่ได้ เดินตรงเข้าไปจ้องมองประธานหลี่ที่สวมใส่ชุดสูทรองเท้าหนัง ยิ้มนุ่มนวลหนึ่งที “ประธานหลี่ สวัสดีค่ะท่าน”
ประธานหลี่ถูกผู้หญิงที่ปรากฏตัวอย่างกะทันหันคนนี้ทำให้งงงันเล็กน้อย แต่ต่อมา ก็เห็นลี่เฉินซีกางแขนไปยังเธอ ทั้งสองคนนั่งอยู่ด้วยกัน ท่าทีที่สนิทสนมนั้น ตามสถานการณ์ที่เป็นไปก็คาดเดาได้ทั้งหมดเช่นกัน ประธานหลี่รีบไกล่เกลี่ยให้ลงเอยกันด้วยดี “คนนี้เป็นแฟนสาวของประธานลี่ใช่ไหม! ในเมื่อทั้งสองคนมาแล้ว งั้นก็อยู่เที่ยวที่นี่ต่อหลายวันให้สนุกเถอะ! ผมเป็นเจ้ามือเอง อีกสักครู่ ผมจะวางแผนผู้จัดการเข้ามา……”
เขาพูดอยู่ก็จะลุกขึ้น ซูย้าวไม่ได้ให้โอกาส รีบเอ่ยปากขัดขวางไว้ “ยังไม่จำเป็น แต่ยังคงต้องขอบคุณการต้อนรับอย่างอบอุ่นของประธานหลี่ ฉันเพียงแค่มีความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย เมื่อกี้ก็ได้ยินการพูดคุยหลายคำของคนทั้งสองพอดี ไม่มีความคิดที่จะแอบฟังจริงๆ เพียงแค่ไม่ทันระวังได้ยินเท่านั้น……”
เธออธิบายก่อนคำหนึ่ง จากนั้นอมยิ้มจ้องมองผู้ชายคนนี้เหมือนเดิม “ขอถามหน่อยเมื่อกี้ท่านติดต่อคุณอานหว่านชิงแล้วใช่ไหม?”
ประธานหลี่ซื่อบื้อต่อด้วยตะลึงงัน ก่อนหน้านี้เขาทำงานอยู่ต่างประเทศโดยตลอด สองเดือนนี้เพิ่งกลับประเทศ สำหรับเรื่องมากมายในทางนี้ล้วนไม่ค่อยชัดเจน มีความงงงันเล็กน้อยจ้องมองซูย้าวอยู่ “อืม เป็นเช่นนี้ล่ะ ขอถามว่ามีตรงไหนไม่ถูกเหรอ?”
ซูย้าวส่ายหัวนิดๆ “นั่นกลับไม่ใช่ เพียงแค่ส่วนตัวฉันสงสัยงงงวยมาก ท่านติดต่อคุณอานหว่านชิงคนไหนล่ะ?”
อยู่บนโลกนี้ยังมีชื่อนามสกุลเดียวกันกระทั่งสถานะเท่าเทียมกับเธอ การคงอยู่ล้วนเป็นเหมือนดั่งตัวสำเนาของอีกคนหนึ่งเลยเชียวเหรอ?!
ประธานหลี่รู้สึกประหลาดใจขมวดคิ้วขึ้นมา ยังอยากจะเรียบเรียงเหตุผลอีก แต่ทำให้เขานึกไม่ถึงอย่างเด็ดขาด ซูย้าวไม่อยากจะฟังการอธิบายที่ตลกขบขันเหล่านั้นอีกแล้ว เพียงพูดว่า”ขอโทษมากจริงๆ ฉันก็คืออานหว่านชิงที่ท่านติดต่อเมื่อกี้คนนั้น”
“คุณ คุณ คุณพูดอะไรนะ?” ประธานหลี่แปลกใจหวาดกลัวไม่เป็นสุข สีหน้าหยุดชะงัก เบิกตาโพลง
สีหน้าซูย้าวไม่เปลี่ยน เสียงก็ยังอ่อนโยนเช่นนั้น “จะต้องให้ฉันยืนยันสักหน่อยไหม?”
ประธานหลี่พูดไม่ออกโดยสิ้นเชิง เขาย่อมไม่กล้าให้ซูย้าวไปยืนยันจริงๆ อยู่แล้ว ถ้าหากคนที่อยู่ต่อหน้าเป็นจริงล่ะก็ งั้นเขายิ่งไม่กล้าเพราะว่าเรื่องเล็กๆ นี้ ก็มุทะลุไปทำให้อานเจียเย้นตื่นตัว แต่ถ้าหากคนนี้ปลอมแปลงมา งั้นขอถามหน่อยใครจะมีความกล้ามากขนาดนี้……
เขาสงสัยงงงวยมาก และก็ขัดแย้งกันมากเช่นกัน ตอนที่หดหู่ใจลังเลไปมาอยู่ ซูย้าวเอ่ยปากอีกครั้งแล้ว “Double Aceกรุ๊ปนอกจากมีประธานอานสองคน ยังมีรองประธานเอสโคลกับเฟรดดีรับผิดชอบภาคประเทศจีนผู้รับผิดชอบใหญ่เป็นอานหว่านชิง แต่ผู้รับผิดชอบในเครือทุกด้าน ต่างคนต่างก็คือ……”
เธอพูดชื่อออกมาประมาณสิบกว่าคนในทีเดียว แต่สุดท้าย เธอยักคิ้วเล็กน้อยอีกหนึ่งที “ยังมี ท่านรู้จักหลินเจว๋เลขาหลินกับหลี่สวี่ตงเลขาหลี่ไหม?”
ชื่อของทั้งสองคนนี้ อยู่ที่อานเจียเย้นกับซูย้าวนี่เพียงแค่เลขาผู้ช่วย คนไว้เนื้อเชื่อใจคนหนึ่ง แต่ทั้งบริษัทตำแหน่งกลับเทียบได้กับรองประธาน พูดได้ว่าเหนือกว่าคนทั้งหลายอยู่ใต้อำนาจเพียงผู้เดียว เป็นตัวแปรสำคัญ
และทำให้ประธานหลี่มั่นใจว่าไม่ผิดพลาดที่สุด ไม่ใช่ซูย้าวรู้ถึงชื่อบุคคลกับการกระจัดกระจายเส้นสายที่อยู่ในนั้น แต่สามารถเอ่ยชื่อภาษาจีนของคนทั้งสองนี้ออกมาได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ต้องรู้ว่าอยู่ในบริษัทอาเจว๋กับอาตงใช้อยู่ข้างนอกล้วนเป็นชื่อภาษาอังกฤษมาโดยตลอด เหมือนดั่งรหัสอย่างหนึ่ง คนที่รู้จักชื่อแท้ๆ จริงๆ งอนิ้วนับได้