เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 838 อย่าแตะต้องเธอ
ช็อกกับตะลึงงัน ลนลานกับตกตะลึง ความซับซ้อนต่างๆ รวมตัวอยู่ในใจของซูย้าวจนวุ่นวายไปหมด
มือที่ถือผลตรวจตั้งครรภ์ไว้ค่อนข้างสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เธอจ้องมองเส้นสีแดงสองขีดของชุดผลตรวจซ้ำไปซ้ำมา สิ่งที่สามารถแน่ใจสุดขีดคือเธอตั้งครรภ์อีกแล้วจริงๆ
ยื่นมือจับหน้าท้องแบนราบของตัวเอง ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ และความรู้สึกเลย พอคิดดูอย่างละเอียดแล้ว อาจจะเพราะอายุครรภ์ยังน้อยมากมั้ง!
เธอยกมือก่ายหน้าผากอย่างไม่รู้จะรับมือยังไง บังเอิญมือถือที่อยู่ในกระเป๋าได้สั่นสะเทือนในเวลานี้
ลี่เฉินซีโทรเข้ามา นาทีนี้ซูย้าวจะมีอารมณ์ไปรับสายเขาได้อย่างไร จึงได้ละเลยและตัดสายทิ้งโดยตรง ผ่านไปไม่กี่วินาที ได้มีข้อความวีแชทของฝ่ายตรงข้ามส่งเข้ามา
“คุณอยู่ไหน?ทานข้าวเที่ยงหรือยัง?”
นาทีนี้การถามไถ่สารทุกข์สุกดิบด้วยความเป็นห่วงของเขา ก็ไม่สามารถทำให้เธอหลุดพ้นออกมาจากความลนลานได้ มีชีวิตน้อยๆ อีกชีวิตหนึ่งกำลังเจริญเติบโตอยู่ในท้องของเธออย่างเงียบๆ อีกแล้ว ผ่านไปไม่กี่เดือนก็จะคลอดออกมา นั่นกำลังจะเป็นลูกคนที่สี่ของเธอกับลี่เฉินซี……
ซูย้าวหลับตาอย่างไร้เรี่ยวแรง ลูกคนนี้มาไม่ได้เวลาเลยจริงๆ บังเอิญดันมาในช่วงเวลานี้ เธอควรจะเอายังไงกับลูกคนนี้ดี?
หลังจากมีอารมณ์หวาดกลัวกับความซับซ้อนในระยะเวลาสั้นๆ สิ่งที่มาแทนที่คือ หน้าที่ความรับผิดและความดีใจที่ได้เป็นแม่คน เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีลูกแล้ว ยิ่งมีประสบการณ์การตั้งครรภ์ เพราะฉะนั้น เธอไม่มีทางตัดสินไปทำแท้งโดยไม่ได้รับอนุญาตแน่นอน
ถึงเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย แต่ก็เป็นชีวิตหนึ่ง อีกอย่างเงื่อนไขแต่ละด้านก็ล้วนไม่เลว เลี้ยงดูลูกเพิ่มอีกคนก็ไม่เป็นปัญหาเลย
เธอแค่กังวลปัญหาอย่างอื่นมากกว่า อย่างเช่นอานเจียเย้นที่รับมือยากที่สุด ถ้าให้เขารู้ข่าวนี้ เขาจะมีความเคลื่อนไหวที่บ้าคลั่งอะไรออกมาอีก……
ซูย้าวค่อนข้างไม่กล้าคิดต่อ เธอส่ายหัวอย่างไว อยากจะสลัดความวุ่นวายของในหัวทิ้ง จากนั้นได้เก็บผลตรวจไว้เป็นอย่างดีอีกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ข่าวตั้งครรภ์รั่วไหลออกไป ได้เก็บเข้าไปในกระเป๋าอีกครั้งอย่างระมัดระวัง แล้วลุกขึ้นมากดปุ่มชักโครก
ที่จริง ลูกทุกคนล้วนเป็นของขวัญล้ำค่าที่ฟ้าประทานให้
บางครั้ง มักจะมาตอนที่คาดคิดไม่ถึงและเหนือความคาดหมายของคน เป็นการประทานให้อย่างหนึ่ง และเป็นทางเลือกอย่างหนึ่ง
ส่วนจะเอายังไงดี ก็ต้องดูความคิดและประสบการณ์ของแต่ละคน และปัญหาต่างๆ ที่ต้องเผชิญแล้ว
ซูย้าวได้จัดระเบียบความคิดของตัวเอง ตอนที่ออกมาจากห้องน้ำอีกครั้ง ลั่วซีก็ได้วิ่งมารอเธออย่างกระดี๊กระด๊าแล้ว ในมือยังหอบของไว้หลายกล่อง พร้อมยื่นให้เธอทีเดียวหมด และใช้ภาษามือพูดว่า “พวกนี้เป็นครีมทามือที่ฉันทำเองหมดเลย มอบเป็นของขวัญให้คุณก็แล้วกัน!”
เธอหลุบตามองครีมทามือเจ็ดแปดกล่องที่อยู่ในอ้อมกอด อดจ้องอย่างตะลึงไม่ได้ ในขณะที่ซาบซึ้งกับความอบอุ่นและเป็นมิตรของลั่วซี ก็รู้สึกว่าในใจยากที่จะสงบด้วย
จะพูดยังไงดีล่ะ?
ดูแว๊บแรก ลั่วซีหญิงสาวคนนี้อายุไม่เยอะ รูปร่างหน้าตาโดดเด่น นอกจากมีความบกพร่องในการพูดและได้ยิน แทบไม่มีที่ติเลย อีกอย่างจากการสื่อสารในระยะเวลาอันสั้น ก็ดูปัญหาใดๆ ของหญิงสาวคนนี้ไม่ออกเลย
ถ้าอย่างนั้น ก็มีความเป็นไปได้แค่สองอย่างเท่านั้น ไม่ก็คือลั่วซีมีเล่ห์เหลี่ยมเกินไป เสแสร้งได้สมจริงเกินไป หรือไม่ก็คือเธอบริสุทธิ์ใจจริงๆ
แต่สถานการณ์อย่างหลัง ซูย้าวไม่ค่อยพิจารณา
เพราะอะไรน่ะเหรอ มีสาเหตุอยู่มากมาย
ก่อนอื่น ในห้องเพาะปลูกดอกไม้ ฐานทดลองที่ลั่วซีพาเธอดูเมื่อครู่ ตรงมุมนั้น ก็เหมือนห้องทดลองขนาดเล็กห้องหนึ่ง แม้แต่หน้ากากป้องกันต่างๆ ก็ล้วนมีครบครันหมด เธอสามารถผสมและสกัดน้ำมันหอมระเหยจากดอกไม้สดนานา ชนิด นี่ย่อมเป็นเรื่องดีอยู่แน่นอน แสดงว่าเธอฉลาดเกินคน แต่มองจากอีกมุมหนึ่ง ได้แสดงให้เห็นว่าอย่างไรล่ะ?
การมองคนและงานของซูย้าว ล้วนไม่ได้มองแค่ภายนอกเท่านั้น แต่จะสำรวจเจาะลึกเข้าไป ถึงจะสามารถศึกษาอย่างละเอียดและทำความเข้าใจได้ดีกว่า
และสิ่งที่เธอได้เห็นได้รู้สึกผ่านอวัยวะที่รับรู้ความรู้สึกของเธอ สัญชาตญาณแม้กระทั่งการรับรู้และอื่นๆ ต่างก็กำลังบอกเธอว่าลั่วซีกับลั่วปิน‘พี่น้อง’คู่นี้ไม่ธรรมดาเลย
“ขอบคุณของขวัญมากมายของคุณลั่วด้วยค่ะ พาฉันไปชมห้องอื่นอีกหน่อยได้มั้ยคะ?”ซูย้าวใช้ภาษามือสอบถาม “ถ้าได้ ฉันจะสั่งดอกไม้สดล็อตหนึ่ง ส่งไปเมืองอื่นได้มั้ยคะ?”
กลัวลั่วซีจะคิดมาก เธอได้เสนอความต้องการอย่างอื่นอีก
ลั่วซีเหมือนจะลังเลไปครู่หนึ่ง ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งถึงใช้ภาษามือพูดว่า “ฉันพาไปห้องเพาะปลูกดอกไม้ห้องอื่นอ่ะได้ แต่ถ้าจะสั่งดอกไม้ เดี๋ยวคุณคุยกับพี่ชายฉันนะ เขารับผิดชอบเรื่องพวกนี้ค่ะ”
ซูย้าวพยักหน้าพร้อมนำของขวัญในอ้อมแขนไปวางไว้ที่ข้างๆ จากนั้นได้ไปห้องเพาะปลูกดอกไม้ห้องอื่นกับลั่วซี
ในขณะเดียวกัน อีกฝั่งหนึ่ง ลี่เฉินซีกับเจียงจี้เซิงก็ได้เคลียร์งานในมือเสร็จแล้ว ทั้งสองได้ตามหาอยู่ที่แถวโรงแรมรอบหนึ่ง ก็ไม่เห็นเงาของซูย้าวกับโม่หว่านหว่านเลย จึงได้มาที่ลานเล่นสกี
นาทีนี้โม่หว่านหว่านก็เล่นไปหลายรอบแล้ว ตอนที่พบว่าซูย้าวหายตัวไป แถมโทรศัพท์ก็โทรไม่ติด ถึงได้มาหาลี่เฉินซี
“ก่อนหน้านี้ซูย้าวเล่นสกีกับฉันตลอด แค่พริบตาเดียว เธอก็หายไปแล้ว!”โม่หว่านหว่านร้อนรนใจจนขมวดคิ้วไม่หยุด คอยมองดูรอบด้าน ลานเล่นสกีใหญ่ขนาดนี้ เงาของนักท่องเที่ยวเยอะเกินไป อยากจะตามหาคนเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร
ลี่เฉินซีเคลื่อนย้ายมือถือที่อยู่ข้างหูออก เขาเองก็โทรไม่ติดเหมือนกัน ได้ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ก่อนหน้านี้เธอได้พูดอะไรที่พิเศษกับคุณมั้ย?”
“คำพูดที่พิเศษ?”โม่หว่านหว่านอึ้งด้วยความสงสัย เหมือนนึกอะไรได้ จึงรีบพูดว่า “ตอนเที่ยงเธอไปพบประธานหลี่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรที่พิเศษ ประมาณเที่ยง พวกเราก็ลงมาชั้นล่างแล้ว……”
“พอลงมาชั้นล่าง ตอนที่เธอได้ยินพวกพนักงานพูดคุยกันมีปฏิกิริยาที่ผิดปกติอยู่ แต่พนักงานพวกนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรที่มันแปลกๆ เลย พูดแค่ว่าห้องเพาะปลูกดอกไม้ของที่ไหนสักแห่งใช้ไฟเยอะเกินไป ตัวเลขน่าตกใจเฉยๆ ”
ลี่เฉินซีจับจุดสำคัญได้ “ห้องเพาะปลูกดอกไม้?”
เจียงจี้เซิงที่อยู่ข้างๆ มีสีหน้าเคร่งขรึม “หรือว่าจะหมายถึงห้องเพาะปลูกดอกไม้เวินย่วน?”
โม่หว่านหว่านพยักหน้ารัวๆ “ใช่ ชื่อเวินย่วนเนี่ยแหละ ทำไมเหรอ?หรือว่าห้องเพาะปลูกดอกไม้นั่นมีปัญหา?”
เจียงจี้เซิงไม่ได้พูดต่ออีก แต่ได้หันมามองลี่เฉินซี ทั้งสองแค่มองหน้ากันก็เข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว สีหน้าต่างก็ทยอยกันซีเรียสขึ้นมา
ยิ่งกลัวอะไร ก็ยิ่งเจอสิ่งนั้นจริงๆ
พวกต่างก็คิดอยากจะปกปิดซูย้าวไว้ แค่ให้โม่หว่านหว่านพาเธอเที่ยวทั่วทิศ ฉวยโอกาสตอนที่ทั้งสองเตรียมอย่างอื่นอยู่ คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายก็ทำให้ซูย้าวพบพิรุธจนได้……
เจียงจี้เซิงยิ่งคิดยิ่งรู้สึกกระวนกระวาย และค่อนข้างละอายใจ ได้รีบพูดว่า “ผมคิดไม่รอบคอบเอง บางทีอาจจะไม่ควรมาหาคุณเอง ถ้าผมไม่มา คุณซูก็อาจจะไม่สงสัยหรอก”
ลี่เฉินซีรีบส่ายหัว “ไม่เกี่ยวกับคุณ ย้าวย้าวเธอเป็นคนที่ฉลาดอยู่แล้ว ปิดบังเธอได้ไม่นานหรอก สามารถพบเห็นก็เป็นเรื่องที่ไม่ช้าก็เร็วเท่านั้นเอง”
ซูย้าวสามารถมาถึงที่นครหรงเฉิง สืบเนื่องมาจากการตรวจสอบโดยที่ไม่ได้ตั้งใจของโม่หว่านหว่าน ดังนั้นเธอมาครั้งนี้ เดิมทีก็เพื่ออยากหาหลักฐานบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับอานเจียเย้น ก่อนที่จะบรรลุเป้าหมายและตรวจสอบเจออย่างชัดเจน เธอจะไม่ยอมเลิกราแน่นอน
ครั้งนี้ ไม่เหมือนโรงงานแป้งของเคราวก่อนนะ
สกีรีสอร์ทแฟลส์มีปัญหา ห้องเพาะปลูกดอกไม้เวินย่วนก็เช่นกัน แม้กระทั่งยังหนักกว่าด้วยซ้ำ ทำให้ที่นั่นเป็นหัวใจสำคัญของทั้งหมดนี้ พอถูกพบเห็น ผลที่ตามมาจะต้องแย่แน่นอน
โม่หว่านหว่านกะพริบตางอยู่ที่ข้างๆ อย่างเซ่อๆ ยิ่งอยู่ยิ่งฟังคำสนทนาของพวกเขาไม่รู้เรื่องแล้ว เธอรีบพูดแทรกด้วยความร้อนรนใจ “พวกคุณกำลังพูดอะไรอยู่กันแน่?ห้องเพาะปลูกดอกไม้เวินย่วนเป็นอะไร?หรือว่าทางโน้นก็มีปัญหาเหมือนกัน?”
ลี่เฉินซีถอนหายใจเบาๆ ดวงตาเรียวยาวลุ่มลึก ก็ไม่รู้ควรจะอธิบายให้โม่หว่านหว่านเข้าใจหมดยังไง ได้แต่พูดว่า”เอาอย่างนี้ พวกเราไปกันก่อน!ระหว่างทางผมจะค่อยๆ เล่าให้คุณฟัง”
จากนั้นพวกเขาได้ขึ้นรถไปยังห้องเพาะปลูกดอกไม้เวินย่วนที่อยู่ไกลออกไปด้วยกัน
ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง ชั้นสองของห้องเพาะปลูกดอกไม้ ห้องไหนสักห้องของชั้นบน ชายหนุ่มพิงอยู่ที่ริมหน้าต่าง ก้มหน้าพิมพ์ข้อความบนหน้าจอมือถืออย่างไว จากนั้นได้กดส่งออก
ผ่านไปไม่นาน ก็ได้รับข้อความตอบกลับจากทางโน้นว่า “จัดการทางโน้นให้สิ้นซาก จากนั้นก็กลับมา แต่อย่าแตะต้องเธอ”
ลั่วปินรู้ดีว่า‘เธอ’ที่เจ้านายพูดถึงคือใคร แค่ไตร่ตรองไปครู่เดียว ก็ได้ส่งข้อความออกไปอีกคำว่า “จะให้พวกผมนำตัวเธอกลับไปมั้ยครับ?”
“ไม่ต้อง อีกไม่นาน เธอจะเป็นฝ่ายกลับมาเอง”
ลั่วปินได้ตอบว่า‘เข้าใจแล้วครับ’ จากนั้นได้ปิดหน้าจอแล้วกลับมาที่ข้างโต๊ะ แล้วใส่หน้ากากป้องกัน จากนั้นได้ก้มหน้าดำเนินงานต่อ ส่วนหน้าแพคเกจจิ้งของสิ่งของที่วางอยู่ข้างโต๊ะนั้น ได้ทำเครื่องหมายไว้ว่าCL20