เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 881 นี่กำลังล่อให้เขาเข้ามาติดกับดัก
ออฟฟิศที่เวอร์วังอลังการ กว้างใหญ่จนเกินจินตนาการ
อานเจียเย้นเอียงตัวพิงอยู่ที่โต๊ะทำงานที่อยู่ด้านหลัง รูปร่างที่ผอมเพรียวดูสูงสง่า ใบหน้าที่คมเข้มแลดูอ่อนโยน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกลับดูเคร่งขรึม เขาเอ่ยสถานที่ขึ้นมาหลายแห่งอย่างเรื่อยเปื่อย แล้วให้ซูย้าวเลือก
แต่นี่เป็นการถามความเห็นของเธอและให้เธอเลือกง่ายขนาดนั้นจริงนะหรอ?!
ซูย้าวมองหน้าเขาโดยที่เงียบไม่พูดอะไร เธอรู้สึกมึนงงสับสน ในหัวล้วนมีแต่ข่าวเกี่ยวกับลี่เฉินซีต่างๆ นานาในวิดีโอเมื่อกี้ พวกเขาเกิดเรื่องแล้ว
ขนาดเจียงจี้เซิงยังถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ นั้นเซียวไน่ก็อาจจะตกอยู่ในอันตรายด้วยแล้วเช่นกัน ถ้าเป็นอย่างนี้ แล้วโม่หว่านหว่านล่ะ?!
เธอเอาแต่คิดเรื่องนี้จนเหม่อลอย โดยที่ไม่ได้สังเกตหรือได้ยินสิ่งที่ผู้ชายตรงหน้าพูดเลย อานเจียเย้นเดินเข้ามาบีบหน้าเธออย่างรุนแรงด้วยสีหน้าเหลือทน ขนาดที่เขากำลังจะพูดอะไรนั้น ประตูออฟฟิศก็มีเสียงเคาะประตู’ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ดังมาจากที่ไกล
จากนั้น ลุงไชลด์ก็เดินเข้ามา
อานเจียเย้นสังเกตออกสีหน้าของเขาดูเคร่งเครียด รู้สึกได้ว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ๆ เลยรีบปล่อยซูย้าวออกแล้วหันหน้าเดินเข้าไปหาเขา
ลุงไชลด์กระซิบที่ข้างหูของเขาไม่กี่คำ สีหน้าของอานเจียเย้นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ระหว่างนั้น อารมณ์โกรธและความเย็นเยือกก็มาพร้อมกันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย
ทันใดนั้น เขาก็หันมาอย่างช้าๆ จับจ้องมาที่ตัวซูย้าวด้วยสายตาดุร้ายและแววตาดูเย็นชา ราวกับแสงเลเซอร์และมีดคม จะสับเธอเป็นชิ้นๆ ให้ได้อย่างไงอย่างนั้น และในที่สุด คำพูดที่เย็นชาก็พูดออกจากปากอย่างยากเย็น”เพื่อนสนิทคนนั้นของคุณ อ้อ ไม่ใช่สิ ต้องพูดว่าเพื่อนสนิทสองคนนั้นของคุณถูกช่วยตัวไปแล้ว!”
“คนของผมที่อยู่ฝั่งโน้นก็โดนจับกันไปหมดเลยด้วย” ระหว่างที่อานเจียเย้นพูดก็หักคอ ค่อยๆ เดินเข้าไปหาเธออย่างช้าๆ “พวกเขาร่วมมือกับตำรวจ……. ”
เขาตั้งใจพูดอย่างช้าๆ คอยสังเกตทุกสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงอันน้อยนิดบนใบหน้าของซูย้าว หลังจากที่เห็นเธอเงียบสงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนั้น เส้นเลือดที่เกรี้ยวกราดบนใบหน้าของเขาก็โผล่ออกมาในทันใด ความโกรธที่ราวกับพายุมรสุมได้ระเบิดขึ้นทันที
“คุณเป็นคนทำใช่มั้ย!คุณรู้เรื่องทั้งหมดนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว!”
และตอนนี้ สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของอานเจียเย้น รวมถึงแผนการที่เขาตั้งใจวางแผนมาอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา ล้วนแล้วแต่เป็นภาพลวงตาที่พวกของลี่เฉินซีจับฉาบสร้างขึ้นมาหลอกเขา!
หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ นี่เป็นแผนการที่ลี่เฉินซีกับลู่ส้าวหลิงพวกเขาตั้งใจวางไว้ เพื่อล่อให้เขาติดกับดัก
ลี่เฉินซีรู้ว่าโครงการเหมืองแร่คาลาเวอไรต์มีปัญหาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่เคยมีโครงการบุกเบิกอะไรนั่นอยู่จริงเลย ก็แค่เป็นกับดักที่อานเจียเย้นวางไว้ เพื่อให้เขาตกหลงกล ใช้เขาเป็นแพะรับบาปแทนตัวเองก็แค่นั้น
รู้แบบนี้ยังไม่ใช่จุดสำคัญสุด แต่ที่สำคัญสุดคือ รู้ทั้งรู้ว่านี่เป็นกับดัก แต่เพื่อซูย้าวและลูกแล้ว จำเป็นที่เขาต้องเสี่ยงชีวิต
แต่ระหว่างนี้ จะทำการยังไงต่อ ถึงจะสำคัญที่สุด
คนที่อานเจียเย้นส่งมาเฝ้าจับตาพวกเขาในเมืองA เยอะจนพวกเขาเลี่ยงไม่พ้น แต่ตั้งที่โครงการเหมืองแร่คาลาเวอไรต์เริ่มจนถึงตอนนี้ ลี่เฉินซีเข้าออกสถานีตำรวจแค่ไม่กี่ครั้งในช่วงใกล้ๆ นี้ แถมที่ถูกเรียกเข้าไปสอบสวนก็เพราะเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้
ถ้าเขาร่วมมือกับตำรวจ นั้นก็จำเป็นจะต้องมีแผนการสมบูรณ์ไว้รองรับ ต้องรู้ทุกขั้นตอนอย่างละเอียดล่วงหน้า ทั้งหมดนี้ เขาไปทำในตอนไหนกัน?
อีกอย่าง เมื่อกี้ลุงไชลด์ได้บอกเขาว่าเรื่องที่ลี่เฉินซีถูกจับก็แค่เป็นการจัดฉาก เป็นแค่แผนการตั้งใจปล่อยข่าวต่อโลกภายนอก เขาถูกปล่อยตัวตั้งนานแล้ว แถมยังร่วมมือกับตำรวจกวาดล้างที่กบดานอีกแห่งของเขาได้สำเร็จและช่วยโม่หว่านหว่านกับเซียวไน่ออกมาได้สำเร็จ!
ตอนนี้ อานเจียเย้นไม่ได้แคร์ที่ผู้หญิงสองคนจะถูกช่วยตัวออกไปได้หรือมั้ย และไม่ได้แคร์ที่คนของตัวเองถูกจับ แต่เขากลับอยากรู้ว่าทั้งหมดนี้ พวกเขาดำเนินการกันยังไง?แล้วหลบพ้นสายตาเขา ไปทำพวกนี้ในตอนไหน!
เรื่องใหญ่โตขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ว่าจะมีแค่ลี่เฉินซีรู้อยู่คนเดียว เขากำลังสงสัยซูย้าว ไม่สิ ไม่ใช่สงสัย แต่คือแทบจะแน่ใจเลยแหละว่าคือเธอ!
ซูย้าวมองผู้ชายที่สีหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์กราดเกรี้ยวเดินมาที่ตัวเอง เธออดรู้สึกตื่นเต้นและหวาดกลัวไม่ได้ ร่างกายได้ค่อยๆ ถอยไปข้างหลัง ระหว่างถอยยังพูดไปด้วย”ฉันบอกคุณตั้งนานแล้ว ว่าคนที่ฉันเลือกคือลี่เฉินซี”
ที่จริง อานเจียเย้นเข้าใจซูย้าวผิดไปจริงๆ
ทำไมถึงพูดแบบนี้?
เธอไม่เคยได้วางแผนอะไรใดๆ กับลี่เฉินซีอย่างเป็นทางการเลย นี่คือความจริง
ตั้งแต่ที่โครงการเหมืองแร่คาลาเวอไรต์ถูกพูดออกจากปากของเพ้ยส้าวหลี่ครั้งแรก เธอก็รู้สึกเอะใจแล้ว ตามกาลเวลาที่ผ่านไป ความสงสัยนี้ก็เพิ่มมากขึ้น
หลังจากนี้ เธอรู้ว่าที่ลี่เฉินซีคิดจะประมูลโครงการนี้ไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจหรือเรื่องเงินแค่นั้นแน่ หลังจากนั้น เธอสังเกตเห็นว่าลี่เฉินซีมีเรื่องปิดบังเธออยู่ เขากับลู่ส้าวหลิงและเจียงจี้เซิงสามคน จนมาถึงหลังๆ แม้แต่โม่หว่านหว่านก็เป็นด้วย
คงเป็นการโกหกที่มีเจตนาดี เพื่อปกป้องเธอเลยปิดบังเธอเอาไว้
ซูย้าวเข้าใจถึงข้อนี้ดี ก็ยิ่งเชื่อใจลี่เฉินซีกับโม่หว่านหว่าน เพราะฉะนั้น เธอไม่จำเป็นต้องถามหรือรู้เรื่องอะไร ระหว่างเธอกับเขา ความเข้าใจที่อยู่เหนือกว่าทุกอย่าง ก็สามารถทำให้รู้ใจซึ่งกันและกัน
สิ่งที่ลี่เฉินซีต้องทำ คือทำให้แผนการนี้สมบูรณ์แบบ และสิ่งที่เธอต้องทำก็คือ ทำยังไงก็ได้ พยายามยื้อเวลาให้เขาได้มากที่สุด!
แค่พวกเขาลืมคิดไปว่า ในทั้งเรื่องนี้ เจี่ยงเวินอี๋จะเสียสละชีวิตไปเพราะเหตุการณ์นี้
สีหน้าของอานเจียเย้นดุร้ายขึ้นมาโดยสิ้นเชิง แววตาราวกับสัตว์ร้ายอย่างไรอย่างนั้น เหมือนจะกระโจนเข้ามาบีบคอเธอให้ตายได้เลย ตอนที่เขาก้าวเท้าอีกครั้ง ลุงไชลด์ที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดปากพูด”คุณผู้ชายครับ ที่เราต้องทำตอนนี้ คือรีบไปจากที่นี่ก่อนนะครับ เรื่องอีก เอาไว้คุยกันทีหลังเถอะครับ”
เขาอึ้งไปครู่หนึ่ง สิ่งที่ลุงไชลด์เตือนถูกแล้ว อีกฟากฝั่งถูกตำรวจตรวจค้นจับกุมไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะตรวจค้นมาตามเบาะแสหรือว่าตั้งใจวางแผนจับกุมก็ตาม ไม่ช้าก็ต้องค้นมาถึงนี้ และล้อมพื้นที่นี้ไว้แน่
แน่นอนว่าจะเสียเวลาอยู่ต่อไม่ได้แล้ว!
“ซูย้าว เรื่องนี้ไว้เราค่อยคุยกันภายหลัง!”ระหว่างที่พูด เขาก็จะเข้ามาดึงมือของเธอ
ร่างของซูย้าวตื่นตกใจเร่งรีบหลบไปด้านหลัง ทีแรกกะว่าหลบเขา แต่กลับไม่ระวังไปชนกับแจกันดอกไม้ที่อยู่หัวมุมด้านหลัง ทันใดนั้น เธอคิดขึ้นได้ทันที รีบคว้าแจกันมาแล้วเขวี้ยงลงไปที่พื้นอย่างแรง
‘เพี๊ยะ’หลังเสียงดังลั่นขึ้นทีหนึ่ง แจกันที่เป็นเซรามิกแตกประกระจัดกระจายไปทั่ว
ท่าทีกระทันหันของเธอ ทำให้อานเจียเย้นอึ้งไปไม่น้อย
ซูย้าวได้รีบก้มไปเก็บเศษเซรามิกมาชิ้นหนึ่ง แล้วจี้มาใกล้ที่คอหอยของตัวเองโดยตรง”อย่าเข้ามานะ!อานเจียเย้น ฉันไม่มีวันไปกับคุณแน่!”
ยังคิดอยากจะพาเธอหนีไปด้วย พอเวลาจำเป็น ก็เอาเธอมาเป็นตัวประกัน เพื่อสร้างโอกาสให้ตัวเองมีทางรอด?!
ถ้าหักปล่อยให้เขาทำสำเร็จ นั้นที่เธอกับลี่เฉินซีเตรียมมาทั้งหมดเป็นเวลานานก็สูญเปล่าน่ะสิ?
“เธอไม่ไป คืออยากจะตายงั้นหรอ?”อานเจียเย้นถอยหายใจทีหนึ่ง น้ำเสียงฟังดูใจเย็นลง”หรือว่าเธออยากจะฆ่าตัวตายตามลี่เฉินซี?”
“เขาไม่รอดแน่ ไม่ช้าก็ต้องตาย”แววตาของอานเจียเย้นดูดุร้ายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ซูย้าวกำเศษเซรามิกจี้เข้าไปที่คอตัวเองโดยตรง ผิวขาวเนียนถูกเศษเซรามิทแหลมคมบาดจนมีเลือดออก
เธอกลับไม่รู้สึกอะไร แค่พูดว่า “ถ้าเขาตายจริง นั้นก็ถือว่าเธอฆ่าตัวตายตามแล้วกัน!”
ถ้าไม่ละก็ เธอก็ไม่อยากจะเป็นตัวถ่วงของเขา ยิ่งไม่อยากให้เขาต้องคอยลำบากเพราะตัวเอง!
“แปลว่า เธอเชื่อใจลี่เฉินซีมากถึงขนาดนั้นเลย ไม่เพียงแค่รอเขามาช่วยเธอ แถมยังตายเพื่อเขาได้” แววตาของอานเจียเย้นเคลื่อนไหวนิดๆ แล้วถอนหายใจเบาๆ “ในเมื่อเธอเชื่อใจเขามาขนาดนี้ แล้วเธอรู้มั้ยว่าเรื่องลูก เขาปิดบังเธอมากน้อยแค่ไหน?”
ลูก? !
ซูย้าวอึ้งไป คิดว่านี่แค่เป็นคำพูดรอยๆ ของเขา เธอจะเผลอไม่ได้ เลยรับพูด”นั่นมันก็เป็นเรื่องระหว่างฉันกับเขา ฉันบอกว่าฉันเชื่อใจเขา ก็จะเชื่อใจเขาตลอดไป ไม่ว่าคุณจะพูดอะไร ก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะ!”
อานเจียเย้นพยักหน้าเบาๆ “อย่างนั้นหรอ…… ”
จู่ๆ เขาก็เหมือนอารมณ์จะดีขึ้นมา หันหลังเดินไปโดยที่ไม่สนใจท่าทีของซูย้าวต่อ และไม่แคร์ความร้อนใจของลุงไชลด์ ร่างกายของเขาค่อยๆ เอียงไปพิงกับโต๊ะทำงานที่อยู่ด้านหลังอย่างช้าๆ “เชื่อใจเขาใช่มั้ย นั้นสิ่งที่ผมจะพูดในหลังจากนี้ เธอฟังจบแล้ว อย่าเสียใจทีหลังแล้วกันนะ”
“เรามาคุยเรื่องของลี่หมิงกันก่อนเลยนะ!เธอพูดอย่างเต็มปากและมั่งใจว่าฉันเป็นคนทำให้เขาตาย ความจริงคือแค่นั้นจริงหรอ?”