เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ - บทที่ 357 เปลวไฟเก่าไหม้ได้ดี
- Home
- เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์
- บทที่ 357 เปลวไฟเก่าไหม้ได้ดี
เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ บทที่ 357 เปลวไฟเก่าไหม้ได้ดี
เรื่องที่แจ็คสันทิ้งทิฟฟานี่ไว้คนเดียวทันทีที่พวกเขามาถึงงานเลี้ยงแทบจะไม่ทำให้เธอรำคาญเลย เธอพอใจเพียงแค่ได้มีความสุขในช่วงเวลาที่เธออยู่ที่นั่นพร้อมกับของหรูหราทั้งหมดที่ปาร์ตี้มีมานำเสนอ แม้ว่าเธอจะอยู่ท่ามกลางคนแปลกหน้าก็ตาม
ห้องจัดเลี้ยงที่เปล่งประกายด้วยแสงสีทองอันหรูหราเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับความเป็นส่วนตัวของคนชนชั้นสูง ที่นี่คุณจะได้พบกับคนชนชั้นสูงที่มีชื่อเสียงในเสื้อผ้าที่เป็นสไตล์ของเขา เช่นเดียวกับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีพร้อมกับมารยาทที่ดีที่สุดของพวกเขา พวกเขาเป็นนักแสดงทุกคนที่ตระหนักถึงบทบาทของตนเองดีและมีความกระตือรือร้นที่จะเล่นมันได้อย่างไม่มีที่ติ
อย่างไรก็ตาม บางคนที่แอบแฝงอยู่ท่ามกลางผู้ดีที่แท้เหล่านี้ ก็กำลังมองหาทางลัดไปสู่สังคมชนชั้นสูง — แม้ว่ามันจะหมายถึงการต้องเสียสละสิ่งเล็กน้อยเพื่อให้เล่ห์เหลี่ยมของเขาออกมาสมบูรณ์แบบก็ตาม ผู้ชายประเภทนี้ก็คือนักธุรกิจที่เผด็จการและผู้หญิงเหล่านี้ก็คือพวกขุดทอง ภายใต้หน้ากากนั้นประกอบไปด้วยชั้นเสื้อผ้าแบรนด์เนมเราคาสูงและเครื่องประดับ และอาจจะมีพวกที่หลงผิดมาและกำลังถูกควบคุมโดยวิญญาณชั่วร้ายด้วย
“บังเอิญจังเลยที่ได้เจอเธอเป็นส่วนหนึ่งของโลกแบบนี้”
เสียงแปลก ๆ ที่คุ้นเคยดังเข้ามาในหูของทิฟฟานี่จากด้านหลังทำให้เธอตกใจ เธอหมุนตัวไปรอบ ๆ และพบกับการจ้องมองของ อีธาน คอนเนอร์
“ทำไม? คนอย่างฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะมาโพล่ในที่แบบนี้หรอ?” เธอตอบโต้ไป “จริง ๆ แล้วงานแบบนี้จัดขึ้นมาเพื่อผู้หญิงอย่างฉันนะ ใครจะไปรู้ ฉันอาจจะได้พบกับเจ้าชายมหาเศรษฐีเจ้าเสน่ห์ของฉันที่นี่และได้ไต่เต้าสู่สังคมชนชั้นสูงก็ได้ นายว่าไหม?”
อีธานหยิบแชมเปญสองแก้วจากบริกรที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ อย่างสง่างามแล้วยื่นหนึ่งในนั้นให้เธอ “อ่ะ ๆ ไม่ว่าระหว่างเราจะเป็นอย่างไรก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเป็นศัตรูกันสักหน่อย”
ทิฟฟานี่รับแก้วใบนั้นมา เธอรู้สึกได้ถึงเจ็บช้ำเล็กน้อยในหน้าอกของเธอ แต่มันก็ไม่ได้หยุดเธอจากการตอบโต้ที่เหน็บแหนมอีกคน “ไม่ได้หมายความเราจะต้องเป็นศัตรูกันอย่างนั้นเหรอ? ฮึ ฉันขอไม่คิดแบบนั้น ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะพอคนายมีปัญญาใส่สูทใส่นาฬิกาแพง ๆ นายก็ทิ้งฉันไว้ข้างทางไง ฉันเลยอดสงสัยไม่ได้ว่าใครกันนะที่เป็นผู้โชคร้ายและโดนนายดูดเลือดอยู่ตอนนี้? นายพาเธอมาด้วยรึเปล่า? บอกตามตรงนะ ฉันอยากเห็นว่านายจะสามารถยอมได้ถึงขนาดไหน ผู้ชายที่เป็นแมงดาหลายคนไม่ถือสือถ้าหากต้องจูบปากผู้หญิงแก่ที่อุบาทและอ้วนตราบใดที่เธอมีเงิน นายจะทำให้ฉันเชื่อว่านายเป็นหนึ่งในนั้นไหม?”
มุมริมฝีปากของเอธานโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มโดยไม่สนใจข้อกล่าวหาอันไร้เหตุผลของเธอ “ฉันไม่ได้มาที่นี่เพราะหลอกล่อใครมา จริง ๆ แล้วมีเพียงคนเดียวที่ดูเหมือนจะเป็นตั๋วสู่สังคมชนชั้นสูงนี้ได้นั่นก็คือเธอ – และถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่เคยเห็นเธอเป็นแบบนั้นเลย”
ดวงตาของทิฟฟานี่หรี่ลงอย่างเชื่องช้า หัวใจของเธอยังคงไม่หยุดเต้นเมื่อเธอจ้องมองตาหรือความโค้งเหนือกรามของเขา มันเป็นผลพวงที่ต้องคำสาปจากการที่เธอเคยรักเขาด้วยทั้งใจของเธอมาก่อนหรือเปล่า? เธอเจ็บปวดที่จะต้องยอมรับว่าเอธานในปัจจุบันที่เข้ามาแทนที่เอธานในอดีตมีความเป็นสุภาพบุรุษมากเมื่อใส่ชุดสูทจนทำให้หัวใจเต้นแรง และตอนนี้คำพูดที่ไร้สาระเหล่านี้ยิ่งทำให้เธอใจเต้นระรัวอย่างน่าขัน
อย่างไรก็ตามทิฟฟานี่ภูมิใจในตัวเองในฐานะคนที่ไม่เพียงแต่ปล่อยให้อดีตผ่านไป แต่ยังไม่เคยคิดอ้อนวอนให้ใครสักคนกลับมาหาเธออีกด้วย “ได้โปรด เก็บน้ำลายของนายไปใช้จีบคนอื่นเถอะ นายคงคิดถึงรักเก่าของนายหลังจากออกไปเที่ยวในโลกแห่งความเกลียดชังมาระยะหนึ่งแล้วใช่ไหมล่ะ?” เธอตะคอก “น่าเสียดายสำหรับนายนะ ที่ฉันไม่ใช่คนโง่ที่จะกางขาให้กับผู้ชายคนไหนก็ตามที่พูดจาหวาน ๆ และใช้จ่ายเงินเพียงเล็กน้อยเพื่อเธอ ดังนั้นฉันขอแนะนำให้นายดำเนินการตามวาระใด ๆ ของวันที่นายมีในตอนนี้ ฉันไม่สนใจว่าจะเป็นการขยายธุรกิจหรือการขยายวงสังคมของนาย แต่ฉันไม่ต้องการเสียเวลากับคนอย่างนายจนติดเป็นนิสัย”
เอธานยักไหล่ด้วยความโกรธ ”เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันไปดีกว่า”
ทิฟฟานี่มองหลังของเขาที่เดินไกลออกไปและถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในใจเธอมีคำพูดที่แหลมคมและบาดใจมากมายที่อยากจะพูดกับเขา แต่เธอก็ไม่สามารถอดที่จะรู้สึกผิดได้จึงไม่ได้พูดมันออกไป ทิฟฟานี่รู้สึกราวกับว่าเธอเป็นหนี้อีธานเพียงเพราะสร้อยคอที่เขามอบให้เธออย่างไม่มีทางเลือกวันนั้น แม้ว่าเธอจะไม่คิดที่จะสวมมันก็ตาม จริง ๆ เธอต้องการเอามันไปคืนมากกว่า แต่เพราะเธอไม่คาดคิดว่าจะได้พบเขาที่นี่เธอจึงทิ้งมันไว้ที่บ้าน
เวลาล่วงเลยไป ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มกว่า ๆ แล้ว และเสียงโห่ร้องในงานเลี้ยงก็เริ่มร้อนแรงขึ้น อย่างไรก็ตามทิฟฟานี่เริ่มรู้สึกเบื่อ
เธอสำรวจสภาพแวดล้อมและค้นพบด้วยความไม่พอใจว่าแจ็คสัน (“ไอ้คนไม่ดีและไม่มีประโยชน์” เธอพึมพัม) เวสต์ กำลังคุยกับอีธานอย่างใจจดใจจ่อ แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้คุยกันตามลำพัง แต่ทิฟฟานี่ก็ยังรู้สึกละอายใจเมื่อดูพวกเขาคุยกันเพราะว่าเธอมาที่นี่ในฐานะคู่ของแจ็คสัน และคู่ของเธอจะคุยกับแฟนเก่าเธออย่างมีความสุขแบบนี้ได้เหรอ?
ยิ่งเธอดูพวกเขามากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจมากขึ้นเท่านั้น เธอหยิบแก้วขึ้นมาดื่มจนหมดจด จากนั้นก็ดำเนินดื่มต่อไปแก้วแล้วแก้วเล่าจนแก้มของเธอเริ่มแดงร้อนเล็กน้อย
ชายวัยกลางคนที่มีพุงพลุ้ยที่โดดเด่นเดินเข้ามาหาเธอด้วยรอยยิ้มที่หยาดเยิ้มและเต็มไปด้วยความคิดวิปลาศภายใต้ดวงตาที่หยิ่งยโส “สวัสดีตอนเย็นครับคุณผู้หญิง! ทำไมหญิงสาวที่งามอย่างคุณถึงได้มาดื่มคนเดียวแบบนี้ละ?” เขาพูดด้วยเสียงหื่น
สัญชาตญาณแรกของทิฟฟานี่คือการปฏิเสธผู้ชายคนนั้น แต่ความเบื่อหน่ายของเธอกลับกระตุ้นให้เธอยืดบทสนทนาแทน “คุณดูเหมือนจะรุ่นเดียวกับพ่อฉันเลยนะเนี่ย”
ชายวัยกลางคนคนนั้นหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะตบไหล่เธอ “เหมือนพ่อของคุณเหรอ? ไม่ใช่อย่างนั้น! คุณจะเชื่อหรือไม่ก็ได้ แต่ผมเด็กพอที่จะเป็นพี่ชายของคุณ! คุณอาจคิดว่าผมแก่แล้ว แต่จริง ๆ ผมอายุแค่สามสิบห้าเอง”
ทิฟฟานี่รู้สึกว่าท้องของเธอปั่นป่วนด้วยความโกหกหน้าด้าน คนที่อายุ “สามสิบห้า” จะดูเหมือนคนอายุห้าสิบห้าปีได้อย่างไร? ถึงกระนั้นเธอก็ยังปล่อยให้เรื่องตลกของชายคนนั้นผ่านและถามว่า “เอาล่ะคุณผู้ชาย คุณรู้จักผู้ชายคนนั้นไหม?”
ชายคนนั้นมองตามสายตาเธอไปที่เอธาน “โอ้โฮ สนใจเขาเหรอ? เขาเป็นเพียงคนที่เขาเรียกกันว่า ‘ดาวรุ่ง’ ในโลกของธุรกิจ เมื่อครึ่งปีก่อนอยู่ ๆ เขาก็โพล่มาและกลายเป็นคนประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ ค่อนข้างใหญ่เลยแหละ” ชายคนนั้นอธิบาย “ผมไม่เคยได้ยินเรื่องของเขามาก่อนเลย แต่เขายังเด็กและเขาก็ดูดีด้วย ดังนั้นผมเดาว่าเขาคงเป็นที่โปรดปรานในหมู่หญิงสาวอย่างคุณ ผมได้ยินมาว่าเขาซื้ออสังหาริมทรัพย์ราคาถูกที่ไม่มีใครต้องการ จากนั้นไม่กี่วันต่อมาก็มีข่าวเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างกะทันหันและทันใดนั้นราคาของมันก็พุ่งสูงขึ้น ผมยอมรับว่าเขามีสายตาที่เฉียบคม คุณรู้ไหม ที่ดินแปลงนั้นเปรียบเสมือนขยะที่เขาหยิบขึ้นมาระหว่างที่เขาเดินเล่น มันไม่มีค่าอะไรเลยเพราะไม่มีใครรู้ว่าสถานที่นั้นยังมีมูลค่าหลงเหลืออยู่ แต่ตอนนี้นะเหรอ? ถ้าเขาขายมันนะ โอ้ ถ้าเขาขายมันละก็ … ”
ทิฟฟานี่ไม่แน่ใจว่าความต้องการของเธอในการหาข้อมูลของอีธานมาจากไหน อย่างไรก็ตาม เธอแทบไม่แปลกใจกับเรื่องราวทั้งหมดเลย เธอคิดมาตลอดว่าเอธานมีอะไรมากกว่าที่เขาเผยให้คนอื่นเห็น เขามีความสามารถพิเศษในการทำสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นผลดีสำหรับเขา และจะไม่มีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถรอดพ้นจากสายตาของเขาได้ ไม่ว่าจะอึมครึมขนาดไหนก็ตาม
ตอนนี้เขาเป็นดาวรุ่ง – ในขณะที่ทิฟฟานี่ตกอยู่ในนาดำ