เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก - ตอนที่ 511 คืนดี / ตอนที่ 512 ขอความช่วยเหลือ
ตอนที่ 511 คืนดี
สวีอันหรานไม่ได้รับคำตอบ รู้สึกผิดหวังนิดๆ เขาปล่อยมือหล่อน หันไปตั้งใจขับรถกลับบ้าน
สวีรั่วชีรู้สึกว่ามือโล่งๆ พอหันกลับไปดูพบว่าชายหนุ่มปล่อยมือตนแล้ว แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกหนาวกว่าเดิมอีกนะ
“พี่…” สวีรั่วชีมีเรื่องอยากจะพูดแต่พอสีหน้าของชายหนุ่มก็เงียบลง
สวีอันหรานรอฟังหล่อนพูดแต่พอไม่ได้ยินเสียงก็เริ่มหงุดหงิด “มีอะไรจะพูดก็พูดมา ไม่ต้องอ้ำๆอึ้งๆ”
“ฉัน พี่..” สวีรั่วชีไม่กล้าถามไหนๆเธอก็ร่วมมือกับเหยียนเค่อจัดการแก้ปัญหาเรื่องนี้ไปแล้ว เธอก็รู้ว่าสวีอันหรานคงไม่สบายใจเรื่องนี้
สวีอันหรานจอดรถหน้าโรงแรงซีเหยียน ดึงสวีรั่วชีลงมาจากรถ “ฉันทำไม ฉันไม่รักเธอแล้ว? ฉันชอบเฉิงซิน?ฉันรักเธอเพราะลูก?”
สวีรั่วชีหันกลับไปหาชายหนุ่ม มองเห็นเพียงด้านข้างที่ยังคงดูอบอุ่น เธอไม่อยากยอมรับว่าคนที่ไร้เหตุผลแบบนั้นคือเธอเอง จึงทำได้เพียงเดินตามชายหนุ่มเข้าไปด้านในอย่างไม่ขัดขืน
“นอกจากสีรั่วชีแล้วพี่ไม่เคยรักผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย ถ้าเทียบกับลูก พี่ก็รักเธอมากกว่าลูก” สวีอันหรานตอบชัดเจนทุกคำถาม สำหรับเขาแล้วเรื่องพวกนี้ไม่ควรจะเอามาเป็นคำถามด้วยซ้ำ ฉะนั้นเขาไม่ต้องใช้เวลาคิดก็ตอบคำถามพวกนี้ได้
สวีรั่วชีกำลังตะลึงอยู่กับคำตอบของสวีอันหราน แม้กระทั่งตอนนี้เธอถูกจูงไปที่ไหนเธอก็ไม่ได้สนใจ
“มองหน้าพี่ ห้ามใจลอย” สวีอันหรานพูดเสร็จก็รู้สึกเขินอายนอดหน่อย พูดสาบานรักต่อหน้าที่สาธารณะแบบนี้ต้องอาศัยความกล้าอยู่มาก
สวีรั่วชีดึงสติกลับมา เบนสายตาหนี ในใจรู้สึกมีความสุข “อือ”
“ดูสิว่าจัดแบบนี้เป็นอย่างไรบ้าง” สวีอันหรานดันหล่อนไปด้านหน้า ลูบหัวหล่อนเบาๆ
“สถานที่จัดงานแต่งของเรา”
สวีรั่วชีถึงมีสติมองไปที่บรรยากาศรอบๆตัว เวทีทำด้วยคริสตัลสีฟ้าอ่อนและเวทีไล่ระดับที่มีสายน้ำไหลลงมาไม่ขาดสายลงไปยังสระว่ายน้ำรูปทรงพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่ส่องแสงสว่างไสวอยู่ตลอดเวลา ด้านข้างทั้งสองด้านประดับด้วยโคมไฟตั้งแบบโบราณและจอทีวีขนาดสั้น ผ้าไหมนุ่มลื่นลอยขนานกับพื้นอยู่บนเวทีสายน้ำ นอกจากนี้ยังมีผ้าม่านพื้นใหญ่สีแดงประดับอยู่บนเวทีอีกด้วย
“ก็สวยดีนะ แต่มันดูบริสุทธิ์ไปไม่ค่อยเหมาะกับฉันเท่าไหร่” คำตอบของหล่อนทำเอาคนฟังโมโหได้ง่ายๆ แต่สวีอันหรานก็ไม่รู้จะจัดการหล่อนอย่างไรดี
สถานที่แต่งงานจริงๆของพวกเขาจะจัดที่เกาะบาหลี แต่เนื่องจากมีเพื่อนๆบางส่วนที่เดินทางไปร่วมงานที่นั่นไม่ได้ แต่อย่างไรก็ต้องมีงานเลี้ยงขอบคุณ สวีอันหรานไม่อยากจัดแบบขอไปดี เขาว่าแบบนี้สวยมากแล้ว
ความจริงสวีรั่วชีก็พูดไปแบบนั้นเอง ถึงแม้เธอจะรู้สึกว่าสีบริสุทธิ์แบบนี้ไม่เหมาะกับมารร้ายอย่างเธอ แต่ถ้าสวีอันหรานชอบเธอก็ยอมรับได้
“อยากเปลี่ยนใหม่ไหม” สวีอันหรานอุตส่าห์แปลงโฉมซีเหยียนให้เป็นแบบนี้แล้ว ถ้าเปลี่ยนใหม่หมดเหยียนเค่อฆ่าเขาแน่ๆ
สวีรั่วชีดึงแขนเสื้อชายหนุ่ม “ไม่ต้องหรอก ถึงฉันจะไม่ได้เห็นใจเหยียนเค่อ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเปลืองเงินขนาดนั้น”
สวีอันหรานจนปัญญา “ถ้าเธอไม่ชอบจริงๆก็เปลี่ยนได้ ไม่ต้องฝืนใจ”
“ฉันไม่อยากเปิดโอกาสให้เหยียนเค่อใกล้ชิดพี่อีก” สวีรั่วชีกำลังจะดึงผ่านม่านสีแดงบนเวทีลงมา แต่สวีอันหรานหยุดมือเธอไว้ก่อน “ถ้าเธอดึง พี่จะไปขอเหยียนเค่อแต่งงานจริงๆนะ”
“ใจร้าย” สวีรั่วชีหมดคำพูด ยอมลดมือลง ตามองไปรอบๆ สวีอันหรานคอยประคองหล่อนจากด้านหลัง ทั้งคู่เดินไปดูรอบๆ
สวีอันหรานมองหญิงที่ตนรักที่อยู่ด้านหน้าตน ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกรักทะนุถนอม ชีวิตสมบูรณ์แบบมันเป็นอย่างนี้เองสินะ แม้ว่าอนาคตอาจจะมีทะเลาะผิดใจกันบ้าง แต่ว่าพวกเขาต่างเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของกันและกัน ที่คอยช่วยเหลือพึ่งพากันไปตลอดชีวิต
ตอนที่ 512 ขอความช่วยเหลือ
ซย่าเสี่ยวมั่วมัวแต่ยุ่งวุ่นวายเรื่องของสวีรั่วชีจนลืมความเศร้าของตัวเองไปชั่วขณะ หญิงสาวดึงทึ้งผมตัวเอง ยันตัวขึ้นจากโซฟาแล้วรวบรวมความกล้าโทรหาเสิ่นมั่วหลี
“มีอะไร” เสิ่นมั่วหลีกำลังกินข้าวอยู่กับเหยียนเค่อ ใจจริงเขาไม่อยากรับโทรศัพท์หล่อนเท่าไหร่นัก
หญิงสาวหยุดชะงักไปชั่วขณะ ไม่กล้าเอ่ยอะไรต่อ ไม่รู้ว่าทางนั้นกำลังทำอะไรอยู่ เวลาผ่านไปก็ยังไม่มีเสียงพูด แต่พอเสิ่นมั่วหลีกำลังจะวางสายก็ได้ยินเสียงโอดครวญของน้องสาวดังมาตามสายเสียก่อน “พี่ชาย!”
“อย่าเรียกฉันแบบนั้นได้ไหม ฟังแล้วขนลุก”
ซย่าเสี่ยวมั่วเบ้ปาก พลางคิดในใจ อย่างพี่เนี่ยนะกลัว ขนาดผีถ้าเห็นพี่ยังต้องเดินหนีไปอีกทางเลย แต่ปากกลับสวนทางกับสิ่งที่คิด เธอเอ่ยชม “พี่ดูหน้าตาพี่สิ หน้าตาขาวสะอาดราวกับผู้หญิง รูปร่างงดงามราวกับมังกร ใบหน้าเปล่งปลั่งสดใสราวกับดอกเบญจมาศในฤดูใบไม้ผลิ ใบหน้าปราศจากมลทินราวกับเมฆที่สามารถบดบังความงามดวงจันทร์ เหมือนภาพวาดที่ลอยได้ถูกลมพัดผ่านไป…
“เธออ่านผิดแล้ว” เสิ่นมั่วหลีอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแทรกขึ้น “ลอยไปตามลม”
ดูก็รู้ว่ายายคนนี้แอบค้นหาในไป่ตู้[1]มา ชายหนุ่มไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ
ถูกลมพัด…ลอยตามลม…
ซย่าเสี่ยวมั่วกดปิดเว็บไซต์ในคอมพิวเตอร์อย่างยอมแพ้ เริ่มคร่ำครวญต่อ “พี่ดูสิพี่หน้าตาดีแล้ว ทำไมยังต้องฉลาดแบบนี้อีก”
“ฉันจะถือว่าทั้งหมดเป็นคำชมล่ะกัน” เสิ่นมั่วหลีพูดนิ่งๆ
ซย่าเสี่ยวมั่วไม่ได้อยากจะชมชายหนุ่มสักนิด แต่ตอนนี้เธอรู้สึกหดหู่ ต้องการความช่วยเหลือจากเขา ดังนั้นไม่ว่าชายหนุ่มจะพูดอะไรเธอจึงทำได้แต่ไหลไปตามน้ำ “ถูกแล้ว ฉันชมพี่อยู่นะ พี่ชายสุดที่รัก”
“มีอะไรก็พูดมาตรงๆ ฉันไม่ได้อยากได้ยินเสียงเธอเท่าไหร่นักนะ” คำพูดแต่ละคำที่เสิ่นมั่วหลีพูดออกมาเสียดแทงซย่าเสี่ยวมั่วได้ทั้งนั้น
“ช่วยแนะนำที่ที่ฉันจะไปพักได้ประมาณเดือนหนึ่งให้หน่อยสิ”
ใกล้จะถึงฤดูหนาวแล้ว ไม่อยู่บ้านเฉยๆแต่กลับจะออกไปเที่ยวเนี่ยนะ
เสิ่นมั่วหลีไม่เข้าใจว่าจู่ๆหล่อนเกิดเพี้ยนอะไรขึ้นมา จึงเอ่ยถาม “ตอนนี้?”
“อือ ตอนนี้ฉันรู้สึกเหนื่อยใจ ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง เลยว่าจะไปขอชาร์ตพลังจากธรรมชาติสักหน่อย” ซย่าเสี่ยวมั่วพูดความจริง เพียงแต่คำพูดที่เธอใช้พูดมันดูกวนประสาทคนฟังไปหน่อยเท่านั้นเอง
“เมื่อเช้าใครที่ดูกระปรี้กระเปร่าอยากให้ฉันคบกับผู้ชายอยู่เลย ตอนนี้แกล้งทำมาเป็นไม่สบายแล้ว?”
ซย่าเสี่ยวมั่วรู้ดีว่าชายหนุ่มต้องยกเรื่องนี้มาเป็นประเด็น จึงได้แต่แกล้งร้องไห้
เธอแกล้งร้องไห้ไม่ใช่เพราะอยากได้ความเห็นใจจากเสิ่นมั่วหลี แต่เธอจงใจให้ชายหนุ่มทนเธอไม่ไหวแล้วยอมยกโทษให้เธอต่างหาก
ซย่าเสี่ยวมั่วทำได้ไม่ถึงสองนาที เสิ่นมั่วหลีก็ทนไม่ไหวแล้ว ชายหนุ่มเอ่ยอย่างไร้เยื่อไย “หุบปาก ช่วยทำตัวให้สมกับเป็นกุลสตรีหน่อยได้ไหม”
“ฉันอยากไปเที่ยว อีกสองสามวันนี่แหล่ะ พี่แนะนำที่เที่ยวให้หน่อยสิ” ซย่าเสี่ยวมั่วอยากได้สถานที่หลบไปพัก
“แล้วหมาของเธอล่ะ” เสิ่นมั่วหลีไม่ได้อยากคัดค้านที่เธอจะไปเที่ยว เพียงแต่ถ้าเลือกไปช่วงนี้มันไม่ค่อยสะดวกและก็ไม่ปลอดภัยอีกด้วย
ซย่าเสี่ยวมั่วไม่รู้จริงๆว่าจะจัดการอย่างไร เอ่ยออกไปอย่างขอไปที “ถ้าหาที่เที่ยวได้แล้ว เดี๋ยวค่อยหาทางจัดการแล้วกัน”
“ไปกุ้ยโจว[2]แล้วกัน กลับสู่ความเป็นจริง”
“ตอนนี้ฉันยังไม่กลับอยู่ในสภาพจริงอีกหรอ” ซย่าเสี่ยวมั่วรู้สึกว่าตนเป็นคนไร้เดียงสามาก ถ้าให้กลับไปสู่สภาพเดิมอีกก็คงกลายเป็นไข่รอการปฏิสนธิแล้วล่ะ
เสิ่นมั่วหลีหัวเราะเบาๆ “สมองถูกทำลายแล้ว ไม่พอให้กลายเป็นคน”
เอาเถอะ เธอถูกเล่นงานอีกแล้ว แต่ว่าเธอค่อนข้างพอใจกับคำแนะนำของพี่ชาย “ฉันรู้แล้ว”
“อือ”
“พี่ไม่มีอะไรอยากกำชับฉันเหรอ” ซย่าเสี่ยวมั่วเริ่มน้อยใจกับปฏิกิริยาของพี่ชายตน “อย่างไรซะฉันก็เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวนะ”
เสิ่นมั่วหลีกำชับอย่างจริงจัง “อย่าลืมเอาหมาเธอไปฝากที่ศูนย์รับฝากสัตว์เลี้ยงนะ”
ซย่าเสี่ยวมั่วฝืนยิ้ม “หมายังสำคัญกว่าฉันอีกเหรอ”
“อือ” ความจริงชายหนุ่มไม่อยากตอบหล่อน
เขารู้ว่าการที่น้องสาวโทรมาหาก็เท่ากับเป็นการบอกเขาไว้แล้วว่าหล่อนจะไปเที่ยว ถ้าเกิดอาของตนหาลูกสาวตัวเองไม่เจอ เขาก็ต้องเป็นคนออกหน้ารับแทน แถมยังต้องรับผิดชอบอีกหากว่าหล่อนเกิดอันตรายขึ้น แม้ไม่อยากยอมรับ แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าบางครั้งน้องสาวของเขาก็ฉลาดเสียจริงๆ
——
[1] ไป่ตู้ เป็นเว็บที่ใช้ค้นหาสิ่งต่างๆของจีนเหมือนกับ google
[2] กุ้ยโจว มณฑลที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน