เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก - ตอนที่ 569 หมาอยู่ที่ไหน / ตอนที่ 570 รีบจบเรื่องให้ไว
- Home
- เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก
- ตอนที่ 569 หมาอยู่ที่ไหน / ตอนที่ 570 รีบจบเรื่องให้ไว
ตอนที่ 569 หมาอยู่ที่ไหน
ซย่าเสี่ยวมั่วตื่นขึ้นมาก็รู้สึกเวียนหัวตาลาย เธอมุดตัวกลับไปในผ้าห่ม รู้สึกว่าบ้านขาดสีสันอะไรไป จู่ๆก็นึกถึงบรรยากาศตอนี่เหยียนเค่ออยู่ที่นี่ด้วย
ซย่าเสี่ยวมั่วคลำหาโทรศัพท์ในผ้าห่มอยู่นานจนในที่สุดก็หาเจอ แล้วกดโทรหาคนที่ช่วยรับเลี้ยงเจ้าโกลเด้นอย่างฉินซื่อหลาน
ฉินซื่อหลานเพิ่งผ่าตัดเสร็จ ยืนไปประมาณแปดชั่วโมงขาล้าไปหมดแล้ว จึงทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาอย่างหมดแรง
“ฮัลโหล”
“ฮัลโหล”
ทำไมเสียงของฉินซื่อหลานมันฟังดูแย่กว่าเสียงคนป่วยอย่างเธอเสียอีก ซย่าเสี่ยวมั่วเอาโทรศัพท์แนบหูอีกครั้ง
“หมาของฉัน…”
“เธอว่าใครเป็นหมาของเธอฮะ” ฉินซื่อหลานได้สติขึ้นมาทันที เอ่ยโต้กลับไป
ซย่าเสี่ยวมั่วตกใจกับเสียงของชายหนุ่ม ถอนหายใจอย่างไม่มีเสียง “นายช่วยเลี้ยงมันให้อีกสองสามวันนะ”
“อ๋อ โอเค อย่างนั้นเดี๋ยวฉันให้เหยียนเค่อดูต่อให้” เปลือกตาของฉินซื่อหลานเริ่มหนัก เอ่ยอย่างเหนื่อยล้า
“อะไรนะ!” ควาวนี้ซย่าเสี่ยวมั่วนิ่งต่อไม่ได้แล้ว น้ำเสียงดังกว่าฉินซื่อหลานเมื่อครู่เสียอีก ทำเอาฉินซื่อหลานหายง่วงขึ้นมาทันที
“หมาของเธออยู่ที่เหยียนเค่อ” ฉินซื่อหลานเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหู กลัวว่าจะตกใจกับน้ำเสียงของหล่อนอีก
ซย่าเสี่ยวมั่วได้ยินเสียงเน้นย้ำอีกครั้งว่าเป็นเหยียนเค่อก็เริ่มสงบลงนิดหนึ่ง แต่เธอก็ยังรับไม่ได้อยู่ดี
“ทำไมไปอยู่กับเหยียนเค่อได้ นายทำอะไร”
“ฉันจะทำอะไรได้” ฉินซื่อหลานขำในสิ่งที่หล่อนถาม “ฉันดูแลมันไม่ได้ อยู่กับฉันมันก็อดอาหารเหมือนกัน”
“นายต้องทำอะไรไม่ถูกต้องแน่ๆ” ซย่าเสี่ยวมั่วสะบัดผ้าห่มออกไป
“นายบอกมา ว่านายคิดไม่ดีกับหมาของฉันใช่ไหม”
“ถ้าฉันคิดไม่ดีกับหมาของเธอแล้วเธอคิดว่าเหยียนเค่อจะดีไปกว่าฉันหรืออย่างไร”
“ไม่” ซย่าเสี่ยวมั่วยิ่งไม่เชื่อใจเหยียนเค่อเข้าไปใหญ่ “แล้วทำไมนายถึงได้ให้หมาฉันไปอยู่กับนายนั่น”
ฉินซื่อหลานอดยิ้มไม่ได้ “หมาของเธออาจจะชอบเป็นฝ่ายรับอะไรแบบนี้ ชอบการโดนข่มขู่”
ซย่าเสี่ยวมั่วแบมือ “What?เหยียนเค่อสิต้องเป็นแบบนั้น หมาฉันมันเก่งจะตาย”
“หึหึ แล้วแต่เธอแล้วกัน พี่รองของฉันรังแกง่ายอยู่แล้วหนิ” ฉินซื่อหลานเข้าใจในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ คนที่กล้าว่าเหยียนเค่อเป็นฝ่ายรับเห็นทีจะมีแค่ซย่าเสี่ยวมั่วคนเดียวเท่านั้นแหล่ะ จึงเอ่ยอย่างชื่นชม
“ฉันขอคาราวะให้กับความกล้าของเธอ”
ซย่าเสี่ยวมั่วกลอกตาให้กับชายหนุ่ม จากนั้นก็ชวนเปลี่ยนเรื่องคุย ในใจเธอมีแต่ชื่อเหยียนเค่อจนคิดฟุ้งซ่านไปหมดแล้ว “อย่างนั้นฉันถามหน่อย นายเอาหมาไปให้เพื่อนายดูแลแล้วนายจะเอากลับมาให้ฉันอย่างไร คิดแล้วหรือยัง”
“เธอก็ไปเอาคืนเองสิ ทำไมต้องให้ฉันไปเอา” ฉินซื่อหลานกะจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้แล้ว
ไม่ใช่เพราะกลัวยุ่งยาก แต่เพราะซย่าเสี่ยวมั่วส่งเขาไปคุยกับเหยียนเค่อ เหยียนเค่อต้องโมโหแน่ๆ เขาไม่อยากเป็นที่รองรับอารมณ์โมโหของเพื่อน
“นายเป็นคนเอาหมาฉันไปให้นายนั่น” ซย่าเสี่ยวมั่วเอ่ยเตือนเบาๆ ทำไมไม่เข้าใจเธอสักนิดนะ
“ก็เพราะว่าหมาของเธอเอาแค่เหยียนเค่อคนเดียวไง” ฉินซื่อหลานแค่นเสียง “หน้าตาอันหล่อเหลาของฉันเอาชนะใจหมาเธอไม่ได้ แล้วจะให้ฉันทำอย่างไร”
ซย่าเสี่ยวมั่วหมดคำพูด ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกเธอก็คงโทรหาเหยียนเค่อทีเดียวแล้ว จะต้องมาวานฉินซื่อหลานทำไม
“รู้แล้วว่านายไม่มีประโยชน์ หึ อย่างนั้น…” ซย่าเสี่ยวมั่วระบายอารมณ์เสร็จก็เริ่มหงอยอีกครั้ง “อย่างนั้นนายช่วยโทรหาเหยียนเค่อให้เอาหมามาคืนได้ไหม”
“ไม่!” คราวที่แล้วที่เขาเป็นตัวกลางระหว่างคนทั้งคู่ก็เกือบโดนเหยียนเค่อกินหัวอยู่แล้ว เขาไม่อยากเป็นตัวส่งสารอีก นี่ถ้าเหยียนเค่อรู้ว่าซย่าเสี่ยวมั่วโทรหาเขาเร็วกว่าโทรหาตนเอง เขาต้องตายแน่ๆเลย
ซย่าเสี่ยวมั่วไม่พอใจ กัดฟันกรอด ทำไมถึงได้อ่อนกว่าเธออีกนะ ไม่พูดเธอพูดเองก็ได้ น่าโมโหจริงๆ
ตอนที่ 570 รีบจบเรื่องให้ไว
“นายไม่ได้บอกว่าจะช่วยบอกให้เหยียนเค่อช่วยดูแลมันอีกสองสามวันหรือไง” ซย่าเสี่ยวมั่วเริ่มรู้สึกว่าความคิดของฉินซื่อหลานมีปัญหา
ฉินซื่อหลานจนปัญญา “เรื่องแบบนี้ยังต้องไปบอกอีกหรือไง ทำอย่างกับว่าถ้าเธอไม่ไปรับเหยียนเค่อจะเอามันไปทิ้งอย่างนั้นแหล่ะ”
ความหวังสุดท้ายของซย่าเสี่ยวมั่วดับลงในทันที เอ่ยอย่างจำนน “โอเค”
ฉินซื่อหลานทำท่าทางราวกับรอหัวเราะเยาะเหยียนเค่อ คราวที่แล้วที่เขาถูกเตะล้มไปที่พื้นเขายังไม่ได้เอาคืนเลย
ฉินซื่อหลานยังไม่หยุดล้อ เอ่ยปลอบซย่าเสี่ยวมั่ว “เอาน่า เหยียนเค่อหงอจะตายไปไม่ใช่หรือไง เธอจะไปกลัวอะไรล่ะ”
“หึ” ซย่าเสี่ยวมั่วสบถ “แบบนี้ยิ่งน่ากลัวน่ะสิ”
ทั้งคู่เอ่ยคุยถึงเหยียนเค่ออยู่เป็นนานสองนาน จนเป็นซย่าเสี่ยวมั่วที่ได้สติ รีบจบประเด็นนี้ลง “ฉันจะไปนอนแล้ว บายๆ”
ฉินซื่อหลานคุยเป็นเพื่อนเธออยู่นานก็รู้สึกเหนื่อยเหมือนกัน “ฉันก็จะนอนแล้ว”
ซย่าเสี่ยวมั่วที่บอกว่าจะนอนหลับ แต่พอคิดถึงเรื่องที่หมาตนอยู่ที่เหยียนเค่อก็หงุดหงิดจนนอนไม่หลับ กะว่าจะรีบเคลียร์เรื่องนี้ให้จบ รวบรวมความกล้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเหยียนเค่อ เธอมองดูหน้าจอที่ยังคงขึ้นรอสาย ในใจก็รู้สึกว่าตนทำผิดพลาดแล้ว ตอนนี้ยังไม่รู้จะเริ่มพูดอะไรเลยโทรหาชายหนุ่มไม่เท่ากับรนหาที่ตายเหรอ
เธออยากจะวางสายแต่ก็กลัวว่าต่อไปชายหนุ่มจะไม่รับโทรศัพท์เธออีกก็เลยทำได้แต่รอ มองหน้าจอไปพลางกำมือ ในใจก็พึมพำ อย่ารับสายนะ อย่ารับเด็ดขาดนะ
ซย่าเสี่ยวมั่วถือสายรออยู่สามสิบวินาทีก็ได้ยินเสียงอัตโนมัติของผู้หญิงดังมาตามสาย เธอจึงได้ผ่อนคลายลง ราวกับใช้แรงไปหมดแล้ว กำลังจะเลื้อยตัวลงนอนในผ้าห่ม
หญิงสาวเอื้อมมือไปสะบัดผ้าห่ม เตรียมจะล้มตัวลงนอนโทรศัพท์ที่อยู่ในมือก็ดังขึ้นเสียก่อน ซย่าเสี่ยวมั่วชะงักไปสองวิ จากนั้นก็รับสายอย่างช่วยไม่ได้
“ฮัลโหล โทรหาฉันมีเรื่องอะไร” ซย่าเสี่ยวมั่วพยายามทำน้ำเสียงตัวเองให้อยู่ในระดับปกติ
คนที่โดนถามกลับมาอย่างเหยียนเค่อถึงกับขมวดคิ้ว สงสัยว่าหล่อนเอาสมองไปทิ้งตอนไปเที่ยวด้วยหรือไง “เธอเป็นคนโทรหาฉันไม่ใช่หรือไง”
“ก็นายเป็นคน…เอ่อ…” ซย่าเสี่ยวมั่วยอมรับว่าเมื่อกี้ไม่รู้เธอเอาสมองไปไว้ที่ไหน “อ้อ ฉันมีเรื่อง”
เหยียนเค่อไม่พูดอะไร รอให้หล่อนเอ่ยต่อ
ซย่าเสี่ยวมั่วยังรอให้ชายหนุ่มเอ่ยถามว่ามีเรื่องอะไร แต่รอนานแล้วก็ไม่ได้ยินเสียงพูด จึงได้รู้สึกตัว “ช่วงนี้รบกวนนายแล้วที่ต้องดูแลหมาให้ฉัน”
“อือ” มันรบกวนจริงๆนั่นแหล่ะ
ซย่าเสี่ยวมั่วชะงักไปกับคำตอบรับสั้นๆของชายหนุ่ม เธอก็รู้อยู่แล้วว่าจะทำให้เหยียนเค่อยิ่งไม่ชอบเธอเข้าไปใหญ่ แต่เรื่องมันก็เกิดขึ้นไปแล้ว เธอก็แก้ไขอะไรไม่ได้
“อย่างนั้น พรุ่งนี้ช่วงเช้าฉันไปรับมันแล้วกัน” ซย่าเสี่ยวมั่วเอ่ยอย่างลังเล ความจริงเธออยากวานให้ชายหนุ่มช่วยเลี้ยงต่อให้สักสองสามวัน แต่ดูจากท่าทีของเขาแล้วก็ไม่น่าเป็นไปได้
เหยียนเค่อตอบรับส่งๆไปอีกครั้ง ทำเอาซย่าเสี่ยวมั่วไปต่อไม่เป็น
ใจจริงซย่าเสี่ยวมั่วอยากให้เหยียนเค่อเอามันมาส่งให้ เพราะเธอก็ไม่มีปัญญาขับรถไปรับมัน
ซย่าเสี่ยวมั่วสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของเหยียนเค่อ เธอทำให้เขารำคาญอีกแล้วใช่ไหม จึงไม่กล้าเซ้าซี้ต่อ
“อย่างนั้นให้ฉันไปรับมันที่ไหน”
“YAN”
ทางด้านของเหยียนเค่อกลับคิดว่าซย่าเสี่ยวมั่วก็รู้ว่าตัวเองขับรถไม่ค่อยเป็นแต่ก็ยังจะมารับมันด้วยตัวเอง เห็นได้ชัดว่าไม่อยากติดค้างบุญคุณกับเขา แต่อยากตัดขาดกับเขาโดยสิ้นเชิงต่างหาก ในเมื่อหล่อนคิดแบบนี้เขาก็คงไม่ต้องไปยื้ออะไรอีก จึงแสดงออกอย่างเย็นชา
แต่ซย่าเสี่ยวมั่วกลับไม่ได้รับรู้ความคิดอันน่าทุกข์ใจของชายหนุ่ม จึงได้แต่คิดว่าบรรยากาศการสนทนานี้มันเริ่มอัดอัดเกินไปแล้ว จึงคิดรีบจบการสนทนา “อย่างนั้นนายทำงานต่อเถอะ ฉันก็มีเรื่องต้องจัดการอีก”
“อือ”
อืออะไรนักหนา ซย่าเสี่ยวมั่วบ่น การสนทนานี้ต้องจากประโยคแรกแล้วทีเหลือต่อจากนั้นเขาก็พูดเป็นคำๆ อย่างเดียวเลย น่าโมโหจนเธอต้องรีบวางสาย