เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1202 อย่าขี้โกงสิโว้ย!
ตอนที่ 1,202 อย่าขี้โกงสิโว้ย!
ตอนแรก พวกมันก็เป็นเหมือนวัชพืชธรรมดา
แต่ยิ่งเดินลึกเข้าไปมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งพบเจอมากเท่านั้น
ในที่สุด หลินเป่ยเฉินก็มาถึงพื้นที่ซึ่งมีต้นไม้ใบหญ้าขึ้นสูงระดับเอว
แน่นอนว่าเขาไม่รู้จักพวกมันเลยสักต้นเดียว
ต่อมา เขาเห็นแม้กระทั่งแมลงตัวเล็ก ๆ ที่แอบอยู่ตามพุ่มไม้เปล่านั้น
นับเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดอย่างยิ่ง
ดูเหมือนอุโมงค์แห่งนี้จะมีระบบนิเวศเป็นของตนเอง
“สุดยอดเลยแฮะ”
หลินเป่ยเฉินอดชื่นชมออกมาไม่ได้
ทันใดนั้น เขาได้ยินเสียงต้นหญ้าไหวตัวดังสวบสาบที่เบื้องหน้า
หลินเป่ยเฉินเฝ้าดูอย่างระมัดระวัง
วูบ!
ลูกธนูสีเขียวดอกหนึ่งพุ่งเข้ามาหาเขา
หลินเป่ยเฉินยกกระบี่ขึ้นปัดป้อง
เคร้ง!
ปรากฏว่ามันเป็นงูเขียวตัวหนึ่งที่ถูกกระบี่ฟันกระเด็นกลับเข้าไปในพุ่มไม้ตามเดิม
“ทำไมฟันไม่ขาดวะ?”
หลินเป่ยเฉินอุทานออกมาด้วยความไม่อยากเชื่อ
กระบี่ในมือเขาย่อมมีความคม
สามารถตัดขาดได้แม้แต่ทองคำและเหล็กกล้า
แต่คิดไม่ถึงเลยว่างูเขียวตัวเล็กๆ ขนาดรอบลำตัวเท่ากับข้อนิ้วมือตัวนั้นกลับมีผิวหนังที่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้
“ดูเหมือนน่าจะเป็นงูพิษซะด้วยสิ เราต้องระวังตัวหน่อยแล้ว… เฮ้ย อย่าขี้โกงสิโว้ย!”
หลินเป่ยเฉินกำลังยืนใช้ความคิด ทันใดนั้น เจ้างูเขียวก็เลื้อยกลับมาอ้าปากและพ่นละอองพิษสีเขียวเข้มออกมาอย่างไม่มีสัญญาณเตือน
ละอองพิษพุ่งเข้ามารวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด
แต่โชคดีที่หลินเป่ยเฉินระวังตัวอยู่ก่อนแล้ว เขาจึงสามารถกระโดดหลบได้อย่างทันท่วงที
“ฟู่ ฟู่ ฟู่…”
เสียงของการกัดกร่อนดังขึ้น
พื้นดินบริเวณที่ถูกละอองพิษของเจ้างูเขียวสาดใส่เกิดหมอกควันสีเขียวลอยระเหยขึ้นมา กลิ่นกำมะถันเข้มข้นลอยขึ้นมาเตะจมูก วัชพืชที่อยู่โดยรอบหลอมละลาย แม้แต่พื้นดินก็กลายเป็นหลุมเว้าลึกลงไป…
วูบ!
หลินเป่ยเฉินถึงกับชะงัก
งูพิษในดินแดนเทพเจ้าช่างอำมหิตยิ่งนัก
มีหนทางใดที่จะจัดการพวกมันได้บ้างหรือไม่?
ประมาทไม่ได้เด็ดขาด
หลินเป่ยเฉินรีบเปิดคู่มือสำหรับนักผจญภัยฉบับเบื้องต้นและกำลังจะหาข้อมูลเกี่ยวกับงูเขียวตัวนี้…
แต่ทันใดนั้น…
วูบ! วูบ! วูบ!
เจ้างูเขียวตัวน้อยระรัวยิงละอองพิษของมันออกมาอย่างต่อเนื่อง
“เดี๋ยวก่อนสิเฮ้ย ให้เวลาตั้งตัวกันหน่อยไม่ได้หรือไง”
หลินเป่ยเฉินต้องกระโดดหลบพิษอย่างลนลาน “นี่งูหรือสายยางพ่นน้ำ จะพ่นพิษอะไรนักหนาวะ?”
เขาคำรามด้วยความร้อนรน
และสถานการณ์ก็ยิ่งแย่ลงเรื่อย ๆ เมื่อบังเกิดเสียงสวบสาบดังขึ้นในพงหญ้าจากรอบทิศทาง
พลัน งูเขียวตัวน้อย ๆ อีกจำนวนมากปรากฏตัวออกมาพ่นละอองพิษใส่หลินเป่ยเฉิน
ละอองพิษสีเขียวเข้มถาโถมเข้ามาปกคลุมไม่ต่างจากสายฝนสาดซัด
“เชี่ย เก่งจริงสู้กันตัวต่อตัวสิวะ แบบนี้มันหมาหมู่นี่หว่า”
หลินเป่ยเฉินตะโกนด้วยความเดือดดาล
พลางกระโดดหลบหลีกละอองพิษต่อเนื่อง
ฟู่! ฟู่!
ละอองพิษส่วนหนึ่งกระเด็นมาโดนคัมภีร์ในมือเขา
และแล้ว คัมภีร์คู่มือสำหรับนักผจญภัยในหุบผาอเวจีฉบับเบื้องต้น ก็ละลายกลายเป็นเพียงหมอกควันสายหนึ่ง
หมอกควันพิษมีกลิ่นหอมแปลกประหลาด
หลินเป่ยเฉินรู้สึกเวียนหัวตาลายขึ้นมาทันที
“ควันของมันก็มีพิษเหมือนกัน”
บริเวณหลังมือของเด็กหนุ่มที่ถูกละอองพิษกระเด็นใส่เริ่มรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาในทันใด
“ขนาดความแข็งแกร่งของร่างกายเราก็ยังต้านทานฤทธิ์การกัดกร่อนจากงูพิษชนิดนี้ไม่ได้อีกเหรอเนี่ย”
หลินเป่ยเฉินคิดด้วยความตกตะลึง
งูอสูรในหุบผาอเวจีชนิดนี้ยากต่อการรับมือจริง ๆ
ไม่ต้องสงสัยอีกแล้วว่าเพราะเหตุใดคำเตือนในคัมภีร์สำหรับนักผจญภัยฉบับเบื้องต้นถึงกล่าวว่า… ในอดีต แม้แต่เทพเจ้าระดับสูงก็เคยเข้ามาเสียชีวิตที่นี่มาแล้วเช่นกัน
หลินเป่ยเฉินถอยหลังอย่างต่อเนื่อง
เขาไม่สามารถหลบหนีได้ตามใจหวัง
นอกจากพวกมันจะพ่นพิษได้แล้ว งูเขียวตัวน้อยเหล่านี้ยังแข็งแรงมากอีกด้วย
กระบี่ในมือหลินเป่ยเฉินฟันพวกมันหลายครั้งหลายครา แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรพวกมันได้เลย
แม้แต่กระบี่เงินที่สามารถตัดได้ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกมนุษย์ ก็ยังไม่สามารถจัดการกับงูเขียวเหล่านี้
เมื่อเห็นว่าหลินเป่ยเฉินทำท่าจะหลบหนี ฝูงงูเขียวก็ดูเหมือนจะมีสติปัญญาขึ้นมาทันที พวกมันรวมตัวเป็นค่ายกลและเลื้อยไล่ตามหลินเป่ยเฉินมาอย่างกระชั้นชิด
“ทำไมไม่เหมือนที่คิดเลยวะ”
หลินเป่ยเฉินวิ่งไปด้วยร้องตะโกนไปด้วย “หรือว่าเราถูกส่งมาผิดแดน? อย่าบอกนะว่าเราจะต้องมาตายอยู่ในนี้จริง ๆ?”
เด็กหนุ่มไม่อยากเชื่อว่าตนเองจะโชคร้ายถึงเพียงนั้น
เขาวิ่งหนีการไล่ล่าจากฝูงงูพิษเลือดเย็นสุดชีวิต
“งูเขียวพวกนี้มันต้องมีจุดอ่อนบ้างสิ…”
“แต่คู่มือนักผจญภัยก็ถูกทำลายไปแล้ว…”
“เอ๊ะ? เดี๋ยวก่อน เรายังมีวิธี”
หลินเป่ยเฉินนึกถึงแอปความรู้คู่ปัญญาที่เพิ่งดาวน์โหลดใส่โทรศัพท์เอาไว้ก่อนหน้านี้
บางทีแอปความรู้คู่ปัญญาอาจจะมีข้อมูลของงูเขียวพวกนี้บ้างก็เป็นได้
หลินเป่ยเฉินรีบนำโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดแอปความรู้คู่ปัญญา เขาหันไปใช้กล้องถ่ายรูปฝูงงูเขียวเหล่านั้นระหว่างหลบหนีไปด้วย
ลมหายใจต่อมา กล่องข้อความปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
หลินเป่ยเฉินวิ่งไปด้วยพลางอ่านไปด้วย
‘งูพิษลูกศรเขียว หรือที่รู้จักกันในนามอสรพิษศรเขียว เป็นอสูรระดับ 4 สายพันธุ์สัตว์เลื้อยคลาน บริเวณสองข้างลำตัวของช่วงล่างจะมีขาและกรงเล็บงอกยาวออกมาทั้งสองฝั่ง ลำตัวมีผิวหนังเป็นเกล็ด หัวมีขนาดใหญ่ รูจมูกอยู่ด้านหน้าสุด ดวงตาได้รับการปกป้องโดยผิวหนังโปร่งแสง ดวงตามีลักษณะทรงกลมสามารถหมุนได้รอบทิศทาง จุดเด่นอยู่ที่ความปราดเปรียว ส่วนหางจะสั้นกว่าส่วนหัวและลำตัวอย่างชัดเจน…’
เชี่ย
ไม่เห็นจะมีประโยชน์สักนิด
หลินเป่ยเฉินไถหน้าจอลงไปด้านล่าง
‘ผิวหนังมีความหนาแข็งแรงทนทานต่อคมกระบี่…’
เรื่องนี้เขารู้แล้ว
เด็กหนุ่มไถหน้าจอต่อไป
‘ละอองพิษของพวกมันมีฤทธิ์กัดกร่อนสูง…’
เรื่องนี้เขาก็รู้แล้วเช่นกัน
หลินเป่ยเฉินกำลังจะเสียสติ
ทันใดนั้น สายตาของเขาก็สะดุดเข้ากับข้อความต่อจากนั้น…
‘งูพิษลูกศรเขียวกลัวไฟ…’
กลัวไฟ?
หลินเป่ยเฉินยิ้มกว้างด้วยความดีใจ
แต่ทันใดนั้น เขาก็เกิดอีกคำถามขึ้นมาในใจ
เขาจะสามารถจุดไฟได้อย่างไร?
หลังจากที่มาถึงดินแดนทวยเทพ เขาก็ไม่เคยใช้งานพลังปราณธาตุทั้งห้าชนิดเลยสักครั้ง แต่ดูเหมือนบัดนี้ มันจะเป็นวิธีเดียวในการจุดไฟเสียแล้ว
แต่มันจะไม่มีวิธีอื่นจริงหรือ?
ยังคงมีวิธีอยู่
หลินเป่ยเฉินหยุดเท้าและนำกระบี่เพลิงโลกันตร์ออกมา
นี่คือกระบี่ที่เขาเก็บขึ้นมาจากก้นบ่อลาวาในสุสานกระบี่ของเมืองไป๋หยุน มันเป็นกระบี่ที่เก็บพลังธาตุไฟเอาไว้มากมาย
เด็กหนุ่มได้แต่หวังว่ากระบี่เล่มนี้จะยังคงมีอิทธิฤทธิ์ของมันอยู่เมื่อขึ้นมาถึงดินแดนทวยเทพ
ทันทีที่หลินเป่ยเฉินชักกระบี่เพลิงโลกันตร์ออกมา อุณหภูมิรอบกายก็สูงขึ้น
เปลวไฟพวยพุ่งออกมาจากปลายกระบี่
ใช้ได้แฮะ
กระบี่เล่มนี้ยังคงมีพลังธาตุไฟของมันอยู่เต็มเปี่ยม
เมื่อฝูงงูเขียวสัมผัสถึงมวลความร้อนที่พุ่งเข้าไปในอากาศ พวกมันก็หยุดชะงักการไล่ล่าทันที
ดวงตาสีแดงสดของพวกมันหลายร้อยคู่จ้องมองมาที่หลินเป่ยเฉินเป็นจุดเดียว… หรือถ้าจะอธิบายให้ถูกต้องก็คือ พวกมันกำลังจ้องมองกระบี่ที่อยู่ในมือของหลินเป่ยเฉิน และหลังจากนั้น ฝูงงูพิษก็เริ่มถอยตัวกลับไป
“ฮ่า ๆๆ ทีนี้ละถึงคราวข้าไล่ล่าพวกเจ้าบ้าง”
หลินเป่ยเฉินโบกสะบัดกระบี่เพลิงโลกันตร์และวิ่งไล่กวดฝูงงูเหล่านั้นตามไปติด ๆ
ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งก้านธูป
งูพิษลูกศรเขียวนับร้อยตัวก็ถูกสังหารหมดสิ้น
วิธีการจัดการพวกมันง่ายมาก ขอแค่เพิ่มอุณหภูมิในอากาศให้สูงมากขึ้น ผิวหนังของพวกมันก็จะเกิดการอ่อนตัวลงและไม่สามารถต้านทานคมกระบี่ได้อีก…