เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1503 บุคคลปริศนาปรากฏตัว
ตอนที่ 1,503 บุคคลปริศนาปรากฏตัว
เอาอีกแล้วหรือ?
คำถามนี้เกิดขึ้นในใจเว่ยหมิงเฉิน
ทำไมเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีกแล้ว?
ทุกครั้งที่พลังอัคคีเทวะหายไปจากกระบี่เงินในมือหลินเป่ยเฉิน กระบี่เงินเล่มนั้นก็สามารถแทงทะลวงการป้องกันของเขาเข้ามาได้เสมอ
พรึ่บ!
ศีรษะของเว่ยหมิงเฉินระเบิดกระจาย
หลินเป่ยเฉินยิ่งลงมือด้วยความอำมหิตมากขึ้น กระบี่เงินในมือของเขาโจมตีใส่จุดตายทุกจุดบนร่างกายคู่ต่อสู้…
ร่างไร้ศีรษะของเว่ยหมิงเฉินล่าถอยอย่างต่อเนื่อง
พรวด! พรวด! พรวด!
โลหิตฉีดพุ่งออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
พลังปราณธาตุทั้งห้าชนิดไหลทะลักออกมา โดยเฉพาะพลังปราณธาตุไม้ซึ่งปกคลุมไปทั่วร่างกายของเว่ยหมิงเฉิน พยายามจะฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ…
แต่ทว่า…
การฟื้นฟูครั้งนี้มีผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ศีรษะของเว่ยหมิงเฉินค่อย ๆ งอกกลับขึ้นมาใหม่ได้ครึ่งหนึ่งแล้ว แต่กระบวนการฟื้นตัวกลับเชื่องช้ายิ่งนัก
“พลังปราณธาตุของเจ้า… สามารถปลดผนึก… ได้ครบ… ห้าชนิดแล้วหรือ?”
ศีรษะที่ไม่สมบูรณ์ของเว่ยหมิงเฉินพูดออกมาอย่างยากลำบาก
“รู้ตัวตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว”
เมื่อหลินเป่ยเฉินลงมือโจมตีเป็นผลสำเร็จ เขาก็รีบโจมตีต่อเนื่องอย่างไม่ลังเล
ก่อนหน้านี้ หลินเป่ยเฉินตั้งใจใช้เพียงพลังอัคคีเทวะเพื่อหลอกล่อให้เว่ยหมิงเฉินเข้าใจว่าตนเองสามารถปลดผนึกพลังปราณธาตุไฟได้เพียงชนิดเดียวเท่านั้น
อีกอย่าง สิ่งที่เกิดขึ้นในแดนสุขาวดี ไม่มีผู้ใดสามารถล่วงรู้ได้จริง ๆ
การลงมือครั้งนี้จึงสำเร็จผล
เมื่อโจมตีออกไปแล้ว หลินเป่ยเฉินก็ไม่เปิดโอกาสให้เว่ยหมิงเฉินมีเวลาพักหายใจ
พรวด! พรวด! พรวด!
โลหิตจำนวนมากฉีดพุ่งออกมาจากร่างของเว่ยหมิงเฉิน
ตัวคนยิ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสหนักกว่าเดิม
เมื่อจุดสำคัญของร่างกายถูกโจมตี พลังปราณธาตุไม้ก็ไม่สามารถรักษาได้ทันเวลา การฟื้นตัวของเว่ยหมิงเฉินจึงหยุดชะงักลง
การต่อสู้ควรจะยุติลงแต่เพียงเท่านี้
เว่ยหมิงเฉินพ่ายแพ้โดยสมบูรณ์
แต่เนื่องจากหลินเป่ยเฉินค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเว่ยหมิงเฉินมาเป็นอย่างดี เขาจึงรู้ว่าตนเองต้องโจมตีอีกฝ่ายด้วยความหนักหน่วงมากกว่าปกติถึงสองเท่า
ต่อให้สามารถตัดศีรษะเว่ยหมิงเฉินได้สำเร็จ หลินเป่ยเฉินก็ยังมีหน้าที่ไปทำลายแท่นบูชาบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ยังต้องค้นหาแกนพลังที่แท้จริงจากค่ายอาคมทั่วแผ่นดินตงเต้าอีกด้วย
หลินเป่ยเฉินต้องการยุติการต่อสู้โดยเร็วที่สุด ดังนั้นเขาจึงลงมือโดยไร้ความเมตตา
เพียงพริบตาเดียว ร่างกายของเว่ยหมิงเฉินก็อยู่ในสภาพอ่อนแอสุดขีด ลมหายใจรวยริน ไม่สามารถตอบโต้กลับได้อีกต่อไป
วูบ! วูบ! วูบ!
คมกระบี่สาดประกาย
สองแขนของเว่ยหมิงเฉินถูกตัดขาด
สองเท้าระเบิดกระจาย
เพียงเท่านี้ เขาก็ไม่สามารถทำอันตรายผู้ใดได้อีก
“อ๊ากกก…”
ศีรษะที่งอกขึ้นมาเพียงครึ่งเดียวร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ดวงตาที่มีเพียงข้างเดียวแสดงออกถึงความหวาดกลัว
เว่ยหมิงเฉินไม่คิดไม่ฝันเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นในการต่อสู้ที่ตนเองเป็นผู้ควบคุม
เว่ยหมิงเฉินไม่อยากเชื่อเลยว่าเด็กหนุ่มหน้าขาวผู้ยืนอยู่เบื้องหน้าคนนี้จะสามารถทำลายแผนการที่เขาวางแผนมาตลอดหลายร้อยปีให้พังทลายลงอย่างไม่เหลือชิ้นดี มิหนำซ้ำ หลินเป่ยเฉินยังมีพลังปราณธาตุทั้งห้าชนิดเหนือล้ำมากกว่าตนเองอีกด้วย
โกรธแค้น!
เสียใจ!!
อาฆาต!!!
เดือดดาล!!!
ความรู้สึกเหล่านี้ปรากฏขึ้นมาบนสีหน้าของเว่ยหมิงเฉิน จิตใจของเขาบอบช้ำอย่างรุนแรง กล้ามเนื้อบนใบหน้าบิดเบี้ยวราวกับตกนรกทั้งเป็น
ในที่สุด เว่ยหมิงเฉินก็ระเบิดพลังปราณธาตุทั้งห้าชนิด เพื่อพยายามจะตอบโต้กลับ
เขาแสดงไพ่ตายทุกใบของตนเองออกมา
แต่ก็ไม่เป็นผล
พรวด! พรวด!
ทุกครั้งที่กระบี่เงินในมือหลินเป่ยเฉินทิ่มแทงเข้าหาเว่ยหมิงเฉิน โลหิตก็สาดกระจายและความหวังของเว่ยหมิงเฉินก็จะสลายหายไป
“เจ้าพอใจแล้วหรือยัง?”
ใบหน้าที่มีเพียงครึ่งเดียวของเว่ยหมิงเฉินดูหมดหวังเป็นอย่างยิ่ง
สุดท้าย เขาก็ได้รับรู้รสชาติแห่งความหมดหวังแล้ว
เว่ยหมิงเฉินไม่เข้าใจเลยสักนิด
แผนการอันยิ่งใหญ่ของเขากำลังจะสำเร็จลุล่วงแล้ว เหตุไฉนตนเองจึงต้องมาพลาดท่าเสียทีในขั้นตอนสุดท้ายนี้ด้วย?
ทันใดนั้น เว่ยหมิงเฉินพลันเห็นภาพนิมิตของหมู่บ้านเล็ก ๆ กลางหุบเขาในภพภูมิที่อยู่ห่างไกลออกไป กระท่อมน้อยหลังหนึ่งตั้งอยู่กลางป่า ภรรยาผู้อ่อนแอกำลังจูงมือบุตรสาวตัวน้อยรอคอยการกลับมาของผู้เป็นสามี แล้วกาลเวลาก็ผ่านไป จากเส้นผมสีเขียวมรกตงดงาม ก็กลับกลายเป็นเส้นผมสีขาวโพลนด้วยวัยชรา…
นี่คือภาพที่คอยหลอกหลอนจิตใจเว่ยหมิงเฉินอยู่เสมอ
ในตอนนั้น เขาเป็นเพียงคนหาปลาผู้ต่ำต้อย
เพื่อรักษาอาการป่วยไข้ของภรรยา คนหาปลาผู้นั้นจึงตัดสินใจออกหากินข้ามเขตแดน เขาถึงกับยอมลงไปหาปลาในแม่น้ำหมิงเหอ และสุดท้ายก็ถูกปลาอสูรยักษ์กลืนกินลงท้อง…
คนหาปลาผู้นั้นไม่สามารถกลับไปหาภรรยาและบุตรสาวได้อีกแล้ว
เว่ยหมิงเฉินมองเห็นแต่เลือดที่เปียกชุ่ม
“ที่รักจ๋า…”
หลินเป่ยเฉินยิ้มออกมาด้วยความพอใจ ก่อนจะหันหน้าไปตะโกนเรียกนักพรตหญิงชิน “พวกเรามาเปลี่ยนตำแหน่งกันเถอะ”
เขาตวัดฟันกระบี่อย่างบ้าคลั่ง ปล่อยพลังกดดันคุกคามจนเว่ยหมิงเฉินต้องล่าถอยไปยังทิศทางที่นักพรตหญิงชินกำลังสกัดกั้นบรรดาเทพอสูรอยู่พอดี
นักพรตหญิงชินหันหน้ามองมาที่หลินเป่ยเฉิน
ดวงตาที่สวยงามเป็นประกายวาวโรจน์
วูบ!
พริบตานั้น ร่างของนางก็พุ่งเป็นลำแสงมายืนแทนที่ตำแหน่งของหลินเป่ยเฉิน กระบี่ลำแสงในมือของนางแทงเข้าใส่เว่ยหมิงเฉินด้วยความดุร้าย
สวบ! สวบ! สวบ!
คมกระบี่แทงเข้าใส่ร่างเว่ยหมิงเฉินอย่างต่อเนื่อง
นางระเบิดพลังออกมาด้วยความเกลียดชัง
เนื้อหนังจากร่างกายของเว่ยหมิงเฉินสาดกระเซ็นราวกับเส้นบะหมี่
สวบ! สวบ! สวบ!
กระบี่ลำแสงยังคงแทงใส่ร่างกายเว่ยหมิงเฉินด้วยความดุดันต่อไป
ในที่สุด ความโกรธแค้นตลอดหลายร้อยปีก็ได้รับการระบายออกมา
บัดนี้ หลินเป่ยเฉินสลับเปลี่ยนตำแหน่งกับนักพรตหญิงชิน หน้าที่ของเขาจึงเป็นการรับมือเหล่าเทพอสูรซึ่งเป็นกำลังเสริมของเว่ยหมิงเฉิน
และด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของหลินเป่ยเฉิน เพียงเขาตวัดกระบี่ออกไปกระบวนท่าเดียว ลำแสงกระบี่ของเขาก็พุ่งกระจายออกไปกินพื้นที่กว้างไกลหลายลี้ในอากาศ
เมื่อกลุ่มเทพอสูรสัมผัสกับลำแสงกระบี่ของหลินเป่ยเฉิน ร่างกายของพวกเขาก็ระเบิดกระจาย…
นี่เป็นการสับเปลี่ยนตำแหน่งที่แท้จริง
หลินเป่ยเฉินลงมือด้วยความอำมหิตยิ่งนัก
สถานการณ์โดยรวมอยู่ในการควบคุมของเขาแล้ว
ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงยินดีสลับตำแหน่งให้นักพรตหญิงชินได้มีโอกาสแก้แค้นให้แก่เทพเจ้าหวง
มิเช่นนั้น ความโกรธแค้นที่คอยกัดกินจิตใจนักพรตหญิงชินอยู่ตลอดเวลานี้ ไม่ทราบเลยว่ามันจะทำให้นางเสียสติไปในวันใดวันหนึ่งข้างหน้าหรือไม่
บัดนี้ การโจมตีของหลินเป่ยเฉินสามารถสังหารกลุ่มเทพอสูรได้ในกระบวนท่าเดียว
แม้แต่เทพเจ้าระดับสูงที่มีขั้นพลังแข็งแกร่ง แต่เมื่อมาเผชิญหน้ากับลำแสงกระบี่ของหลินเป่ยเฉิน ก็ไม่อาจต้านทานได้อีก
ดวงตาของเด็กหนุ่มจ้องมองไปยังแท่นบูชาเก้าชั้น ไม่ทราบเลยว่าแกนพลังที่แท้จริงนั้นได้ถูกซ่อนอยู่ในนี้หรือไม่?
แน่นอนว่าหลินเป่ยเฉินย่อมต้องเห็นร่างของใครบางคนที่ยืนอยู่ด้านบนสุดของแท่นบูชาเก้าชั้น แล้วเจ้าของร่างสูงเพรียวนั้นก็กำลังดูดซับพลังที่ไหลทะลักออกมาจากแท่นบูชาอยู่ตลอดเวลา
คลื่นพลังจากแท่นบูชานั้น แม้แต่หลินเป่ยเฉินก็ยังรู้สึกได้ถึงความกดดันมหาศาล
นี่คงเป็นแท่นบูชาหลักแน่ ๆ
หัวใจของหลินเป่ยเฉินกระตุกวูบ ยกกระบี่ในมือขึ้นตวัดฟันออกไป
ลำแสงกระบี่พุ่งทะยานในอากาศ
ทันใดนั้น ม่านพลังเหนือแท่นบูชาเก้าชั้นเกิดการสั่นไหว
ลำแสงกระบี่ของหลินเป่ยเฉินปะทะเข้ากับการป้องกันจากม่านพลัง
หลินเป่ยเฉินเห็นดังนี้ก็รีบโจมตีใส่ม่านพลังอย่างต่อเนื่อง
แต่ทันใดนั้น เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
ร่างกำยำปรากฏตัวขึ้นหน้าม่านพลัง ก่อนจะยกมือขึ้นโบกสะบัดอย่างแรง หมายจะสลายลำแสงกระบี่ของหลินเป่ยเฉิน
พรึ่บ!
มือของเขาระเบิดหายไป
เช่นเดียวกับลำแสงกระบี่
“หืม?”
เจ้าของร่างกำยำก้มมองข้อมือที่ขาดสะบั้นของตนเองด้วยความประหลาดใจ ก่อนพูดว่า “วิชาห้าธาตุหลอมวิญญาณ? ในรูหนูโสโครกเช่นนี้ มีผู้ฝึกฝนวิชานี้สำเร็จด้วยหรือ?”
หลินเป่ยเฉินหรี่ตาลงโดยทันที
ฝ่ายตรงข้ามไม่เป็นไรเลยหรือ?
บุคคลร่างกำยำผู้นี้สวมใส่ชุดเสื้อคลุมสีดำ เป็นคนแปลกหน้าที่หลินเป่ยเฉินไม่เคยพบเจอมาก่อน แต่ถึงกระนั้น อีกฝ่ายกลับสามารถสลายพลังกระบี่ของเขาได้ แม้ข้อมือจะขาดไป แต่พลังชีวิตกลับไม่ได้ลดน้อยลงเลย
เป็นไปได้อย่างไรกัน?
นี่หมายความว่าคนผู้นี้มีความแข็งแกร่งยิ่งกว่าเว่ยหมิงเฉิน ซึ่งเป็นร่างกำเนิดใหม่ของท่านมหาเทพอีกหรือ?
บุคคลผู้นี้เป็นใครกันแน่?