เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1615 พลังของเจ้าจักจั่นทองคำ
ตอนที่ 1,615 พลังของเจ้าจักจั่นทองคำ
แต่ไม่ว่าเรือเหาะรุ่งอรุณพยายามจะเดินหน้าสักเท่าไหร่ เรือเหาะกลับลอยลำอยู่ที่เดิมเสียอย่างนั้น
มีพลังงานบางอย่างฉุดดึงเรือเหาะเอาไว้ให้อยู่กับที่
“ข้าบอกให้เจ้าไปได้”
เสียงของปีศาจหญิงเฉาคงดังกังวานไปทั่วดาดฟ้าเรือ “แต่คนอื่นบนเรือเหาะรุ่งอรุณจะต้องอยู่ที่นี่ไปตลอดกาล”
ว่าไงนะ?
เมื่อคำพูดนั้นดังขึ้นในหูผู้คน สีหน้าของหลิงไท่ซือและพรรคพวกก็แปรเปลี่ยนไปทันที
คำพูดของผู้ที่มีพลังอยู่ในขั้นจอมปีศาจจักรพรรดิคือสิ่งที่กำหนดความเป็นตายของพวกเขาโดยสมบูรณ์
หลินเป่ยเฉินก็ถึงกับตกตะลึงไม่แพ้ทุกคน
“หมายความว่า… เจ้าอนุญาตให้ข้าไปได้เพียงคนเดียวเท่านั้นหรือ?”
เด็กหนุ่มยกมือขึ้นมาทำท่าดันแว่นโดยไม่รู้ตัว
“ถูกต้อง”
ปีศาจหญิงเฉาคงตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“หากไม่มีเรือเหาะ ข้าคงต้องตายแน่ เจ้าช่วยปล่อยทุกคนไปพร้อมกันไม่ได้หรือ? เอาไว้เมื่อข้าได้พบกับเจ้านายของเจ้าเมื่อไหร่ เดี๋ยวข้าจะช่วยพูดให้เอง”
หลินเป่ยเฉินตัดสินใจเปิดฉากเจรจาอย่างมีเหตุผล
“ไม่จำเป็น”
น้ำเสียงของปีศาจหญิงเฉาคงเพิ่มความแข็งกร้าวขึ้นมาเล็กน้อย “ข้าจะให้เวลาเจ้าสิบลมหายใจ หากเจ้ายังไม่รีบหลบหนีไปอีก... เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่รักษาสัญญาก็แล้วกัน”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินเป่ยเฉินสลายหายวับไปทันที
ไม่ไว้หน้ากันเลยแฮะ
ช่างมันเถอะ
เดี๋ยวเขาคุยกับเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงเองก็ได้
เมื่อพิจารณาจากบทสนทนาก่อนหน้านี้ หลินเป่ยเฉินก็คิดว่าปีศาจหญิงเฉาคงน่าจะมีสถานะต่ำต้อยกว่าเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิง บางทีนางอาจจะเป็นผู้รับใช้ของเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงด้วยซ้ำ
หลินเป่ยเฉินนำโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดแอปวีแชตและกดถ่ายคลิปวิดีโอ
“ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!…”
ผ่านไปหลายลมหายใจ ไม่มีผู้ใดอ่านข้อความและกดดูคลิปวิดีโอเลย
เชี่ย!
ใบหน้าของหลินเป่ยเฉินกลายเป็นสีขาวซีดขึ้นมาทันที
พอถึงเวลาสำคัญทีไร เป็นต้องติดต่อเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงไม่ได้ทุกทีสิน่า
เด็กหนุ่มใช้ความคิดอีกเล็กน้อย ก็เก็บโทรศัพท์มือถือและกล่าวว่า “ท่านผู้อาวุโส ข้ามีของขวัญจะมอบให้… ได้โปรดรับเอาไว้เถอะ”
เขานำเครื่องยิงระเบิด Type 69 ขึ้นมาประทับบนหัวไหล่และเหนี่ยวไกยิงโดยไม่ลังเล
พลังปราณจอมอสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับ 7 ถูกดูดออกไปเป็นลูกกระสุนอีกครั้ง
ฟ้าว!
ลูกระเบิดถูกยิงออกไปพุ่งผ่านอากาศเหมือนดาวหางสว่างไสว
“ตายซะ!”
หลินเป่ยเฉินระเบิดเสียงคำราม
คิดไม่ถึงเลยว่าเครื่องยิงระเบิด Type 69 จะกลายมาเป็นความหวังเดียวที่จะสามารถทำให้เรือเหาะรุ่งอรุณสามารถกลับมาเคลื่อนที่หลบหนีได้อีกครั้ง
ตู้ม!
ลูกระเบิดกระทบถูกอะไรบางอย่าง
การระเบิดเกิดขึ้น
หลินเป่ยเฉินยิ้มด้วยความดีใจ
เพราะสิ่งที่เขากลัวมากที่สุดก็คือปีศาจหญิงเฉาคงจะสามารถปัดป้องลูกระเบิดของเครื่องยิงระเบิด Type 69 ได้เหมือนที่นางปัดป้องลูกกระสุนจากปืน AK47
บัดนี้ เมื่อเกิดการระเบิดขึ้น ก็แสดงว่าไม่มีปัญหาใด ๆ อีกแล้ว
แต่ในลมหายใจต่อมา หลินเป่ยเฉินก็ได้พบเห็นภาพที่น่าตกตะลึงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ชีวิตของเขา
ลูกระเบิดที่สามารถถล่มโลกได้ทั้งใบ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับปีศาจหญิงที่มีความสูงมากกว่ามนุษย์ทั่วไปสองเท่า นางเพียงยกมือขึ้นมาป้องกันข้างเดียวเท่านั้น… พลังงานจากลูกระเบิดทั้งหมดก็แผ่กระจายไปรอบทิศทาง โดยที่ตัวนางไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย
หลินเป่ยเฉินเบิกตาโตด้วยความเหลือเชื่อ
ให้ตายเถอะ
นี่หรือคือความน่ากลัวของผู้ที่อยู่ในขั้นจอมปีศาจจักรพรรดิ?
หลินเป่ยเฉินรู้สึกหนาวเย็นไปทั่วกาย แน่ใจแล้วว่าตนเองพบเจอปัญหาใหญ่เข้าให้เสียแล้ว
“ในเมื่อเจ้าเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีข้าก่อน เพราะฉะนั้น…”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของปีศาจหญิงเฉาคง
ใช่แล้ว
นั่นคือรอยยิ้ม
ดูเหมือนนางจะรอคอยให้หลินเป่ยเฉินเปิดฉากโจมตีตนเองมานานแล้ว
ลูกระเบิดที่ถูกยิงออกไปตกไปอยู่ในมือของนาง แล้วพลังที่กระจัดกระจายไปรอบตัวก็ถูกดูดซับเข้าสู่ร่างกาย ก่อนที่ปีศาจหญิงจะยกมือขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็ปลดปล่อยคลื่นพลังทั้งหมดใส่เรือเหาะรุ่งอรุณที่อยู่ห่างไกลออกไป!
ภาพอันน่าตื่นตระหนกปรากฏขึ้น
ทุกคนมองเห็นฝ่ามือเปลวเพลิงขนาดใหญ่ยักษ์ปรากฏขึ้นในอากาศ และฝ่ามือเปลวเพลิงนั้นก็กำลังพุ่งเข้ามาหาเรือเหาะรุ่งอรุณเพื่อบดขยี้ให้แตกสลาย
และเรือเหาะรุ่งอรุณก็ยังไม่สามารถเคลื่อนที่ได้แม้แต่น้อย
หลินเป่ยเฉินล้มเลิกความคิดทั้งหมดที่กำลังอยู่ในหัวสมอง เพราะเขามั่นใจว่าตนเองคงไม่สามารถหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ในขณะนี้ได้แน่ ๆ
เด็กหนุ่มไม่เคยพบเจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้มาก่อน
ความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามอยู่นอกเหนือความเข้าใจของเขา
ตอนที่อยู่ในแผ่นดินตงเต้า หรือตอนที่อยู่ในดินแดนทวยเทพ ไม่ใช่ว่าหลินเป่ยเฉินจะไม่เคยถูกโจมตีด้วยพลังฝ่ามือในรูปแบบนี้มาก่อน แต่สิ่งที่แตกต่างไปก็คือไม่มีผู้ใดมีพลังทำลายล้างสูงส่งเท่าปีศาจหญิงเฉาคง
พลังทำลายล้างของมันแทบจะเปลี่ยนผู้คนให้กลายเป็นเต้าหู้ก้อนหนึ่ง
เต้าหู้ที่พร้อมจะถูกบดขยี้ได้เสมอ
มิหนำซ้ำ ปีศาจหญิงเฉาคงยังมีพลังคอยฉุดรั้งเรือเหาะไม่ให้ไปไหนอีกด้วย
บัดนี้ หลินเป่ยเฉินรู้สึกได้ถึงความหมดหวังอย่างแท้จริง
กาลเวลาคล้ายกับเคลื่อนผ่านไปอย่างเชื่องช้า
หลินเป่ยเฉินมองเห็นสีหน้าของผู้คนรอบตัวได้อย่างชัดเจน
สีหน้าของหลิงไท่ซือ หลิงหลิงและคนอื่น ๆ แปรเปลี่ยนไปอย่างช้า ๆ กล้ามเนื้อบนใบหน้าค่อย ๆ แสดงความหวาดกลัวจากก้นบึ้งในหัวใจออกมา ดวงตาเบิกโตขึ้นมาทีละนิดทีละนิด…
และปฏิกิริยาแรกของนักพรตหญิงชินก็คือนางเข้ามายืนหยัดอยู่เบื้องหน้าหลินเป่ยเฉินพยายามจะปกป้องคุ้มครองเขา
ทางด้านของอากวง แม้มันจะมีสีหน้าหวาดกลัว แต่อดีตราชันย์หนูอสูรก็ทำในลักษณะเดียวกับนักพรตหญิงชิน คือกระโดดเข้ามาขวางหน้าหลินเป่ยเฉินเพื่อปกป้องคุ้มครองเด็กหนุ่ม
เจ้าเสืออสูรเสี่ยวหูยืนสี่ขาระเบิดพลัง ขนสีทองของมันชี้ชันไม่ต่างไปจากตัวเม่น
“ย้ากกกก...”
หลินเป่ยเฉินระเบิดเสียงคำรามด้วยความบ้าคลั่ง
เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพลังภายในร่างกายกำลังไหลเวียนอย่างรุนแรง
หลังจากนั้น คลื่นพลังที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนก็ปะทุออกมาจากร่างกายของเขา
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
หลินเป่ยเฉินได้ยินเสียงอะไรบางอย่างแตกหักอยู่ในร่างกายของตนเอง
เลื่อนขั้นพลังได้สำเร็จแล้ว!!
หลินเป่ยเฉินเลื่อนขั้นพลังได้แล้ว
เขาสามารถเลื่อนขึ้นมาได้ถึงสี่ขั้นในครั้งเดียว
พลังปราณแท้จริงในร่างกายเคลื่อนไหวด้วยความปั่นป่วน
หลินเป่ยเฉินเลื่อนขั้นพลังอย่างก้าวกระโดด
จากจอมเทพระดับ 5 กลายเป็นจอมเทพระดับ 9
อีกเพียงก้าวเดียวก็จะขึ้นสู่ขั้นจอมเทพระดับ 10
หลังจากนั้นก็จะเลื่อนขั้นขึ้นสู่ขอบเขตจอมเทพศักดิ์สิทธิ์
การดูดซับพลังปราณจากชั้นบรรยากาศด้านนอกช่วยทำให้การเลื่อนขั้นพลังรุดหน้าได้อย่างรวดเร็วจริง ๆ
รอยยิ้มด้วยความดีใจปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของหลินเป่ยเฉิน
ในเวลาเดียวกันนี้ คำถามใหญ่ก็ผุดขึ้นมาในหัวใจของเขาเช่นกัน
เหตุไฉนเขาจึงรู้สึกว่ากาลเวลาเคลื่อนผ่านไปอย่างเชื่องช้ามากกว่าปกติ? ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของผู้คนรอบตัว หรือแม้แต่การเคลื่อนที่ของฝ่ามือเปลวเพลิงจากปีศาจหญิงเฉาคง?
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ทันใดนั้น…
แว่วเสียงจักจั่นกรีดร้องก็ดังขึ้นมา
เป็นเจ้าจักจั่นทองคำ
หลินเป่ยเฉินแทบจะลืมเสียงนี้ไปแล้ว
เขาหันหน้ามองไปทางต้นเสียงโดยไม่รู้ตัว จากนั้นจึงได้เห็นเจ้าจักจั่นทองคำเกาะอยู่บนหัวไหล่ของหวังจง และมันก็กำลังปลดปล่อยคลื่นพลังสีทองคำออกมาจากร่างกาย ปีกของมันกระพือพัด พร้อมกับส่งเสียงร้องแปลกประหลาดออกมาตลอดเวลา