เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1658 ความเปลี่ยนแปลงในเมืองหลันจี๋ซิง
ตอนที่ 1,658 ความเปลี่ยนแปลงในเมืองหลันจี๋ซิง
หลินเป่ยเฉินบิดคันเร่งมอเตอร์ไซค์พุ่งทะยานไปข้างหน้า
ตลอดเส้นทาง เด็กหนุ่มเห็นแต่ร่องรอยของการทำสงคราม
ไม่ใช่แต่เพียงกองทัพต้าเฟิงเท่านั้น แต่ธงรบของอีกสามทัพหลวงก็ถูกเผาไหม้ นายทหารตกตายจมอยู่ในกองเลือดเช่นกัน…
ในสายตาของหลินเป่ยเฉินเห็นได้ชัดว่าฝ่ายมนุษย์เป็นผู้พ่ายแพ้
เขากำลังวิตกกังวล
จึงเร่งความเร็วมอเตอร์ไซค์มากขึ้น
ผ่านไปอีกครึ่งค่อนวัน หลินเป่ยเฉินก็กลับมาถึงพื้นที่ชานเมืองของเมืองหลันจี๋ซิง ซึ่งถือเป็นเมืองหลวงแห่งอาณาจักรหลิวเยวียน
เมื่อเห็นตัวเมืองหลันจี๋ซิงอยู่ในสายตา หัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะของหลินเป่ยเฉินก็กลับมาเต้นเป็นปกติอีกครั้ง
ปลอดภัยดี
เมืองหลันจี๋ซิงยังคงปลอดภัยดี
ไม่มีร่องรอยการต่อสู้แม้แต่นิด
แม้มองจากระยะไกล แต่หลินเป่ยเฉินก็รู้ได้ทันทีว่าไม่มีการสู้รบเกิดขึ้นในตัวเมือง
“ดูเหมือนสถานการณ์จะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เราคิดแฮะ อย่างน้อยเมืองนี้ก็…”
หลินเป่ยเฉินถอนหายใจพร้อมกับยิ้มกว้างด้วยความโล่งอก
แต่หลังจากนั้น เมื่อจ้องมองไปยังส่วนลึกของตัวเมือง รอยยิ้มบนใบหน้าเด็กหนุ่มก็จางหายไป เขายกมือขยี้ตาตนเอง ก่อนที่สีหน้าจะแปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ผืนธงประจำเมืองที่เคยโบกสะบัดอยู่ตามอาคารบ้านเรือนผู้คน บัดนี้ได้เปลี่ยนจากผืนธงลายดอกไม้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำสภาขุนนาง… กลายเป็นผืนธงสีขาวดำของสำนักอัสนีมืดจากเผ่าพันธุ์ปีศาจ!
หรือว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจยึดครองเมืองหลันจี๋ซิงสำเร็จแล้ว?
หัวใจของหลินเป่ยเฉินสั่นไหว
นี่เพิ่งผ่านไปเพียงสามวันเท่านั้น
เมืองหลันจี๋ซิงซึ่งเป็นเมืองหลวงแห่งอาณาจักรหลิวเยวียน เมืองที่ใหญ่โตที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ กลับถูกตีแตกเสียแล้วหรือ?
หลินเป่ยเฉินนำกล้องส่องทางไกลออกมาสำรวจดูด้วยความระมัดระวัง
บรรดาทหารยามที่เดินตรวจตราอยู่บนกำแพงเมืองต่างก็เป็นสมาชิกเผ่าพันธุ์ปีศาจที่สวมใส่ชุดเครื่องแบบนักรบสีขาวดำ นอกจากนี้ ยังมีนายทหารที่เป็นมนุษย์ปะปนอยู่ด้วย…
นี่มัน…
เผ่าพันธุ์ปีศาจกับเผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข?
เมื่อมองจากระยะไกล หลินเป่ยเฉินก็แน่ใจว่าเมืองหลันจี๋ซิงไม่มีการต่อสู้เกิดขึ้นแน่นอน
ไม่ว่าจะเป็นภายนอกกำแพงเมืองหรือภายในกำแพงเมือง อาคารบ้านเรือนยังคงมีสภาพสมบูรณ์ดี ยืนยันว่าไม่มีการต่อสู้ใด ๆ เกิดขึ้นทั้งสิ้น
แต่หลินเป่ยเฉินก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างไม่ชอบมาพากล
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ต้องไม่ลืมว่าองค์ชายหลิงเยวียนหลงมีอาวุธเล่นแร่แปรธาตุระดับสูงอย่างค้อนคว่ำนภาอยู่ในมือ เผ่าพันธุ์ปีศาจเหล่านี้จึงไม่ใช่คู่ต่อกรของเขาแน่นอน
แล้วทำไมเผาพันธุ์มนุษย์ถึงสูญเสียเมืองหลันจี๋ซิงได้เล่า?
องค์ชายหลิงเยวียนหลง หลิงเฉิน เฟิงเสี่ยวไป๋และคนอื่น ๆ หายไปไหนกันหมด?
หลินเป่ยเฉินตกตะลึงและคิดด้วยความสงสัย
ในที่สุด เขาก็ตัดสินใจเข้าไปค้นหาคำตอบภายในตัวเมือง
สำหรับหลินเป่ยเฉินที่มีแอปเมจิก คาเมร่า การปลอมตัวไม่ใช่เรื่องลำบากอันใดอยู่แล้ว
…
ผ่านไปหนึ่งก้านธูป
ถนนลู่เยวียนเฉิง
หลินเป่ยเฉินสวมใส่คอนแท็กต์เลนส์สีม่วง ปรากฏตัวพร้อมกับเจ้าหุ่นประกอบแดง 1 และแดง 2 ส่วนหุ่นอีกเจ็ดตัวเขาทิ้งไว้นอกเมืองเป็นการชั่วคราว แต่ถึงกระนั้น พวกมันก็เตรียมพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งจากหลินเป่ยเฉินได้ตลอดเวลา
เมื่อมีองครักษ์ระดับจอมเทพจักรพรรดิอยู่ข้างกายถึงสองตัว หลินเป่ยเฉินก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว
บรรยากาศในตัวเมืองค่อนข้างแปลกประหลาด
ร้านค้า โรงเตี๊ยม ร้านน้ำชา แผงขายอาหารสองข้างทางยังคงเปิดกิจการเป็นปกติ หากมองดูผ่าน ๆ ก็จะเข้าใจว่าสถานการณ์ภายในตัวเมืองไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง
แต่ปรากฏว่าบนท้องถนนมีมนุษย์เดินอยู่ไม่มากนัก
มนุษย์ส่วนใหญ่ล้วนเก็บตัวอยู่ในบ้าน
ปิดประตูเงียบ
จึงไม่ต้องแปลกใจเลยที่ผู้ออกมาเดินเอ้อละเหยส่วนใหญ่บนท้องถนนในขณะนี้กลับเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจ
แต่ไม่ใช่พวกปีศาจโหดร้ายอำมหิตอย่างที่เป็นภาพจำของฝ่ายมนุษย์
ในเผ่าพันธุ์ปีศาจเองก็มีสายพันธุ์แยกย่อยอยู่หลายชนิดเช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นปีศาจที่มีร่างกายเป็นสัตว์ ปีศาจที่มีร่างกายเป็นอสูร ปีศาจที่มีร่างกายเป็นครึ่งสัตว์ครึ่งอสูร ไปจนถึงปีศาจที่มีลักษณะเหมือนมนุษย์
แต่ปีศาจที่มีลักษณะเหมือนมนุษย์นั้นจะมีสองสิ่งที่แตกต่างจากมนุษย์อย่างสิ้นเชิง
หนึ่งคือพลังปราณในร่างกาย
สองคือสีของดวงตา
ปราณปีศาจมีสีม่วงแตกต่างไปจากปราณมนุษย์ ทำให้แยกแยะได้ง่ายเวลาต่อสู้กันว่าผู้ใดเป็นมนุษย์ผู้ใดเป็นปีศาจ
เช่นเดียวกับดวงตา แม้มนุษย์บางคนอาจจะเกิดมาพร้อมกับดวงตาที่เป็นสีม่วง แต่นั่นก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากมาก ในขณะที่เผ่าพันธุ์ปีศาจเกิดมาพร้อมกับดวงตาสีม่วงโดยธรรมชาติ
สิ่งมีชีวิตแทบทั้งหมดที่เดินลอยชายอยู่บนท้องถนนในขณะนี้คือเผ่าพันธุ์ปีศาจ
พวกมันมีสีหน้าตื่นเต้นไม่ต่างจากผู้ที่ได้ตายแล้วเกิดใหม่
ปีศาจจำนวนมากนำลูกน้อยของพวกมันออกมาแต่งกายสะอาดสะอ้านเป็นครั้งแรกในชีวิต ปีศาจน้อยออกสำรวจร้านค้าสองข้างทางด้วยความซุกซน บรรยากาศคึกคักแจ่มใสเป็นอย่างยิ่ง
เหล่าปีศาจน้อยส่งเสียงพูดคุยกับบิดามารดาอย่างไร้เดียงสาว่า
“ท่านแม่ น้ำพุแห่งนั้นสวยงามจังเลย”
“ข้าอยากดื่มสิ่งนี้… อุ๊ย อร่อยจังเลย”
“แสงตะวันอบอุ่นจังเลยท่านแม่ ครั้งนี้พวกเราออกมาเดินเล่นได้หนึ่งชั่วยามแล้ว พวกเราไม่ต้องหลบซ่อนตัวอีกแล้วใช่หรือไม่?”
“คนเลวพวกนั้นจะมาจับตัวเราไหม ท่านพ่อ?”
“ท่านพ่อ พวกเราจะอาศัยอยู่ในเมืองที่สวยงามแห่งนี้ได้หรือไม่? พวกมนุษย์จะไม่จับตัวพวกเราไปขายอีกแล้วใช่ไหม?”
ในเวลาเดียวกันนี้ ก็ยังมีปีศาจน้อยอีกส่วนหนึ่งที่ยึดจับชายเสื้อของบิดามารดาแนบแน่น สองตากวาดมองสภาพแวดล้อมรอบกายด้วยความตื่นเต้นระคนหวาดกลัว
นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ปีศาจในชุดเครื่องแบบสีขาวดำออกเดินลาดตระเวนตามท้องถนนอีกด้วย
และที่น่าทึ่งก็คือ บนท้องฟ้ายังปรากฏเรือเหาะติดสัญลักษณ์เผ่าพันธุ์ปีศาจลอยลำลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง
แม้แต่ค่ายอาคมต่าง ๆ ที่เผ่าพันธุ์มนุษย์เคยสร้างเอาไว้เพื่อใช้ป้องกันปีศาจ บัดนี้ ค่ายอาคมเหล่านั้นก็ถูกเปิดใช้งานขึ้นมาเพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่เผ่าพันธุ์ปีศาจเช่นกัน
ยังคงมีมนุษย์ทำงานอยู่ตามร้านค้า พวกเขาจะยืนอยู่หลังหน้าต่างและบานประตู เฝ้ามองกลุ่มปีศาจเดินผ่านไปผ่านมาบนท้องถนนด้วยแววตาสงสัย เกลียดชัง หวาดกลัวและต่อต้าน
ผู้คนมีสีหน้าลำบากใจ
บางครั้ง ปีศาจบางตัวก็รวบรวมความกล้าเดินเข้าไปในร้านค้าของมนุษย์ และฝ่ายมนุษย์ก็ต้องรวบรวมความกล้าเข้าไปต้อนรับพร้อมกับเสแสร้งแกล้งหัวเราะอย่างเป็นมิตร
เมื่อการค้าขายสิ้นสุดลง ทั้งสองฝ่ายต่างก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
และต่างฝ่ายต่างก็อดคิดในใจไม่ได้ว่า… คนเหล่านี้ไม่เห็นน่ากลัวเหมือนในข่าวลือเลยนี่นา
หลินเป่ยเฉินมองเหตุการณ์ทุกอย่างด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด
ทันใดนั้น ได้ยินเสียงแตรเขาสัตว์ก็ดังขึ้น
ทั้งดังขึ้นทางเบื้องหน้า
และดังขึ้นมาจากทิศทางของลานประหาร
หลินเป่ยเฉินหัวใจกระตุกวูบ รีบสาวเท้าเร่งความเร็วเดินเข้าไปดู