เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1662 ร้องเล่นเต้นรำ
ตอนที่ 1,662 ร้องเล่นเต้นรำ
ปีศาจหญิงเฉาคงต้องการเบิกตัวนักโทษสาวผู้นี้ไปเพื่ออะไร?
นี่คือการหยามเกียรติกันอย่างซึ่ง ๆ หน้าไม่ใช่หรือ?
ตระกูลฮั่วจะยอมส่งมอบหรือไม่?
ทุกคนที่รู้เรื่องราววงในต่างก็รอคอยคำตอบจากฮั่วเซวียนเซิน
เขาจะยอมทำตามคำสั่งหรือไม่?
หรือว่าจะแสดงกิริยาแข็งกร้าว ปฏิเสธคำสั่งเบิกตัว
“ฮ่า ๆๆ ในเมื่อนี่เป็นคำสั่งจากท่านปีศาจเฉาคง พวกเราก็มีแต่ต้องปฏิบัติตามเท่านั้น…”
ฮั่วเซวียนเซินชูจอกสุราขึ้นสูง พลางยิ้มเล็กน้อยและกล่าวต่อ “แต่น่าเสียดายที่หญิงผู้นี้เป็นนักโทษทหารของกองทัพต้าเฟิง นางจึงถูกประหารชีวิตไปนานแล้ว แต่ช่างเถอะ… ถือเสียว่าได้ส่งมอบศพของอี้ซูหนานให้กลับบ้านก็แล้วกัน”
“รับทราบขอรับ”
องครักษ์รับคำสั่ง
“ช้าก่อน”
พลัน ฮั่วเซวียนเซินนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “จริงด้วยสิ ส่งศพของเจ้าหน้าที่ลู่เชากลับไปด้วยเลยก็แล้วกัน ฮ่า ๆๆ ข้ามั่นใจว่าท่านปีศาจเฉาคงคงต้องสนใจแน่นอน”
“รับทราบขอรับ”
องครักษ์แสดงความเคารพ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปจากงานเลี้ยง
ฮั่วเซวียนเซินยิ้มเล็กน้อย จากนั้นชูจอกสุราขึ้นสูงในอากาศและกล่าวว่า “แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน พวกเรามาฉลองกันต่อดีกว่า… ฮ่า ๆๆ ค่ำคืนวันนี้จะมีแต่การร้องเล่นเต้นรำเท่านั้น”
…
ใบหน้าของปีศาจหญิงเฉาคงแสดงออกถึงความโกรธแค้น
แต่ก็น้อยกว่าความโกรธแค้นบนใบหน้าของหลินเป่ยเฉิน
เจ้าหน้าที่ปีศาจเพิ่งกลับมาจากจวนตระกูลฮั่วพร้อมด้วยร่างไร้วิญญาณสองร่าง
เป็นร่างของลู่เชากับอี้ซูหนาน
สภาพศพของลู่เชาช่างน่าอนาถใจ
เจ้าหน้าที่หนุ่มแห่งกองทัพต้าเฟิงถูกแร่เนื้อถลกหนัง มองเห็นกระดูกสีขาวโพลน มีเพียงแต่ส่วนศีรษะเท่านั้นที่ยังสมบูรณ์ดี ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดทรมานก่อนเสียชีวิต
ดวงตาเบิกโต ไม่มีวี่แววของการมีชีวิต
เช่นเดียวกับอี้ซูหนาน...
หลินเป่ยเฉินพยายามสะกดกลั้นความโกรธแค้นในจิตใจ เขานำผ้าไหมสีขาวออกมาค่อย ๆ คลี่คลุมศพที่เปลือยเปล่าทั้งสอง
อี้ซูหนานต้องพบกับความทรมานอย่างแสนสาหัสก่อนเสียชีวิต
เครื่องเพศสตรีถูกทำลายและเฉือนทิ้งไป
นางเพิ่งจะเสียชีวิตเมื่อวันก่อนนี่เอง
“หากข้ารู้ว่าพวกมันจะทำกับนางเช่นนี้…”
ปีศาจหญิงเฉาคงถอนหายใจด้วยความเศร้าสลด
หลินเป่ยเฉินไม่พูดอะไร
สีหน้าเย็นชาและอำมหิต
เป็นความเงียบก่อนที่พายุใหญ่จะโหมกระหน่ำ
การเคลื่อนไหวของหลินเป่ยเฉินค่อนข้างเชื่องช้า
เขาทำความสะอาดศพของ ‘สหาย’ ทั้งสองคน ก่อนจะนำเสื้อผ้าออกมาให้ซากศพทั้งสองสวมใส่
หลังจากนั้น เด็กหนุ่มก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน
“พวกเราไปกันเถอะ”
หลินเป่ยเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “พาพวกเขาไปด้วย”
อากวงสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงความโกรธแค้นของนายท่าน มันรีบก้าวเดินออกมาจัดการเก็บศพทั้งสอง จากนั้นนำไปวางพาดไว้บนแผ่นหลังของเจ้าเสือกลายพันธุ์เสี่ยวหู
ในส่วนลึกของดวงตานักพรตหญิงชินปรากฏความห่วงใยขึ้นมาเล็กน้อย
แต่นางก็ไม่ได้ห้าม
หลินเป่ยเฉินก้าวเดินออกไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็หันมองกลับมาที่ปีศาจหญิงเฉาคงพลางกล่าวว่า “เจ้าอย่ามาขัดขวางข้าจะดีกว่า”
กล่าวจบ เด็กหนุ่มก็นำตัวหวังจง นักพรตหญิงชิน อากวง เสี่ยวหู และเจ้าจักจั่นทองคำออกมาจากฐานบัญชาการของปีศาจหญิงเฉาคง
ปีศาจหญิงเฉาคงไม่ได้ขัดขวาง
หญิงงามผู้มีร่างกายบึกบึนจ้องมองไปที่แผ่นหลังของหลินเป่ยเฉิน ดวงตาของนางเป็นประกายระยิบระยับฉายชัดถึงความอันตราย ราวกับว่าปีศาจหญิงเฉาคงกำลังชั่งใจอะไรบางอย่าง…
…
บนท้องถนน
หลินเป่ยเฉินนำโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดแอปวีแชตและส่งข้อความไปว่า
‘ข้าต้องการทำลายตระกูลฮั่ว’
นี่คือข้อความเพียงประโยคเดียวที่เขาส่งไปหาเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิง
หลังจากนั้น หลินเป่ยเฉินก็เก็บโทรศัพท์มือถือ ไม่รอคอยการตอบรับแม้แต่ลมหายใจเดียว
“เจ้าแดง 2 เจ้ารีบไปพาเจ้าแดง 3 กับตัวอื่น ๆ ที่เหลืออยู่เข้ามาในเมืองให้เร็วที่สุด”
หลินเป่ยเฉินออกคำสั่งต่อหุ่นประกอบสีแดงหมายเลข 2
วูบ!
เมื่อหุ่นยนต์ออปติมัส ไพรม์ในแบบฉบับหนังจีนโบราณโคจรพลังปราณ มันก็พุ่งตัวเป็นลำแสงหายวับไปทางนอกเขตกำแพงเมืองทันที
…
ฐานบัญชาการชิงเหยียน
งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไป
ฮั่วเซวียนเซินไม่สนใจเหตุการณ์แทรกแซงเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนหน้านี้
เพราะเขาเป็น ‘คนโปรด’ ของหัวหน้าภูตอเวจี ภายใต้ผืนฟ้าผืนนี้ ฮั่วเซวียนเซินจึงไม่ต้องหวาดกลัวผู้ใดทั้งสิ้น แม้แต่ปีศาจหญิงเฉาคงก็ไม่อยู่ในสายตาของเขา มิเช่นนั้น ฮั่วเซวียนเซินจะกล้าส่งศพคนตายกลับไปได้อย่างไร
อีกอย่าง ด้วยความที่คิดว่าตนเองเป็นคนโปรดของหัวหน้าภูตอเวจี ฮั่วเซวียนเซินจึงไม่ต้องถนอมความสัมพันธ์กับผู้อาวุโสปีศาจตนอื่น ๆ มิหนำซ้ำ ฮั่วเซวียนเซินยังเจตนาเว้นระยะห่าง เพื่อเน้นย้ำให้ผู้อาวุโสปีศาจเหล่านั้นสำเหนียกว่า ตนเองอยู่ห่างชั้นจากเขามากเพียงใด
ทุกคนเข้าใจว่าฮั่วเซวียนเซินกระทำการทั้งหมดนี้โดยไม่ยั้งคิด
แต่ในความเป็นจริงนั้น ฮั่วเซวียนเซินคิดมาเป็นอย่างดีแล้ว
ตราบใดที่เขายังทำงานรับใช้ภูตอเวจีและเป็นคนโปรดของท่านต่อไป ก็ไม่มีสิ่งใดจะมาสั่นคลอนตำแหน่งของฮั่วเซวียนเซินได้อีกแล้ว
“แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน...”
ฮั่วเซวียนเซินชูจอกสุราทองคำในมือขึ้นสูง พร้อมกับยกมือส่งสัญญาณให้ยุติการเล่นดนตรีและเต้นรำ ก่อนที่ตัวเขาเองจะเดินออกมาหยุดยืนอยู่บนเวทีกลางงานเลี้ยง และป่าวประกาศว่า “ข้ามีข่าวดีจะแจ้งให้ทุกท่านได้รับทราบ”
บรรยากาศพลันตกอยู่ในความเงียบ
คงซืออวี้ยิ้มแย้มและกล่าวว่า “พี่ฮั่ว ได้โปรดกล่าวออกมา”
เซินซือเฉินหัวใจกระตุกวูบ ก่อนจะรีบถาม “หรือจะเกี่ยวข้องกับการวางสรรพกำลังชุดใหม่ของกองทัพต้าเฟิง?”
ฮั่วเซวียนเซินพยักหน้า ก่อนตอบว่า “ใช่แล้ว นับจากวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ตระกูลฮั่วจะกลายเป็นผู้ดูแลสรรพกำลังทั้งหมด และภายในสามสิบวันต่อจากนี้ ข้าก็มีหน้าที่ปรับระบบโครงสร้างกองทัพ ปรับเปลี่ยนอาวุธยุทโธปกรณ์ บริหารงบประมาณสำหรับทัพหลวง… อนาคตของพวกเราย่อมสดใสแล้ว”
เกิดเสียงอุทานดังขึ้นในงานเลี้ยงด้วยความฮือฮา
การได้รับสิทธิ์จัดการสรรพกำลังของกองทัพต้าเฟิง หมายความว่าตระกูลฮั่วจะมีตำแหน่งอยู่ในมือมากมาย
เปรียบเสมือนเนื้อก้อนใหญ่ที่ตระกูลฮั่วสามารถรับประทานได้อย่างเต็มปากเต็มคำ
คงซืออวี้กับเซินซือเฉินหัวใจกระตุกวูบ เลือดลมสูบฉีดด้วยความตื่นเต้น
ฮั่วเซวียนเซินเป็นถึงผู้อาวุโสใหญ่ประจำเผ่าพันธุ์ปีศาจ บัดนี้มีอำนาจอยู่ในมือล้นฟ้า ตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ประจำกองทัพต้าเฟิง น่าจะหลงเหลือตกมาถึงมือพวกเขาคนใดคนหนึ่งแล้วกระมัง
แต่หลังจากนั้น พวกเขาก็ได้ยินฮั่วเซวียนเซินกล่าวต่อไปว่า “และข้าก็ได้ตัดสินใจแล้ว ผู้ที่ดำรงตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ประจำกองทัพต้าเฟิง ก็คือฮั่วเจี้ยนหลิน บุตรชายคนที่สองของข้าเอง…”
ความตื่นเต้นดีใจในหัวใจของคงซืออวี้กับเซินซือเฉินพลันสลายหายไป ก่อนที่พวกมันจะถูกแทนที่ด้วยความโกรธแค้นเดือดดาลสุดขีด!!