เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1671 คำอธิบายแบบเข้าใจง่าย
ตอนที่ 1,671 คำอธิบายแบบเข้าใจง่าย
หลินเป่ยเฉินแสดงสีหน้าผิดหวัง
นักพรตหญิงชินจึงต้องปลอบใจเขาว่า “การเปิดประตูมิติไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถทำกันได้ในชั่วข้ามคืน ไม่เป็นไร หากเจ้าไม่หยุดพยายาม สักวันต้องสำเร็จแน่นอน...”
ทันใดนั้น หลินเป่ยเฉินก็ฉีกยิ้มออกมา “ฮ่า ๆๆ ข้าสามารถเปิดประตูมิติได้แล้วขอรับ และข้ายังกลับไปสำรวจแผ่นดินตงเต้า รวมถึงดินแดนใกล้เคียงมาอีกด้วย… สมแล้วที่ข้านี่เป็นอัจฉริยะจริง ๆ”
หัวคิ้วของนักพรตหญิงชินขมวดมุ่นโดยทันที
นางรู้ตัวแล้วว่าตนเองถูกเขาหลอก
หลินเป่ยเฉินยิ้มและอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ให้ฟังโดยละเอียด
“สิ่งที่เจ้าต้องทำทั้งหมดมีอยู่ด้วยกันห้าขั้นตอน ประกอบไปด้วยขั้นตอนของการตั้งสมาธิ ขั้นตอนของการเปิดประตูมิติ ขั้นตอนของการปรับรากฐานแผ่นดิน ขั้นตอนของการดูดซับ และขั้นตอนของการปลูกสร้าง…”
นักพรตหญิงชินอธิบายข้อมูลอย่างมีหลักการตามวิถีของคนที่เลือกฝึกวิชาตามสายเลือดผู้เยียวยา หรือหากเป็นในโลกยุคปัจจุบันของหลินเป่ยเฉิน นางก็คือนักศึกษาแพทย์ผู้หนึ่งนั่นเอง
“เจ้าเพิ่งทำแค่สองขั้นตอนแรกสำเร็จเท่านั้น ยังเหลืออีกสามขั้นตอนที่เจ้าต้องกระทำต่อไป ซึ่งก็คือการปรับรากฐานแผ่นดิน การดูดซับพลังพิเศษ และการปลูกสร้างทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นมาใหม่ เพื่อให้แผ่นดินตงเต้ามีความสวยงามเหมือนที่เคยเป็นมา”
“อะไรคือขั้นตอนของการปลูกสร้างขอรับ?”
หลินเป่ยเฉินถามในสิ่งที่ตนเองไม่เข้าใจ
นักพรตหญิงชินก็ยินดีอธิบายด้วยความอดทน “ขั้นตอนของการปลูกสร้างก็คือการที่เจ้าต้องถ่ายเทพลังที่รวบรวมมาได้ในเส้นทางดาราจักรนี้ลงไปสู่แผ่นดินตงเต้า แล้วก็ต้องมาลุ้นกันว่าพลังของเจ้านั้นเพียงพอที่จะชุบชีวิตแผ่นดินตงเต้าขึ้นมาใหม่ได้หรือไม่”
“แล้วสิ่งใดคือปัจจัยสำคัญที่สุดขอรับ?”
หลินเป่ยเฉินถามออกมาอีกครั้ง
“ขั้นตอนสุดท้ายคือสิ่งที่สำคัญที่สุด หากเปรียบแผ่นดินตงเต้าเป็นกระท่อมไม้หลังหนึ่งที่กำลังชำรุดทรุดโทรม หน้าที่ของเจ้าก็คือซ่อมแซมมันให้กลับไปสวยงามแข็งแรงทนทาน เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยต่อไปอีกครั้ง… เพราะฉะนั้น ปัจจัยที่สำคัญที่สุดก็คือตัวเจ้าเอง”
นักพรตหญิงชินตอบด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน
หลินเป่ยเฉินเกิดคำถามใหม่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง “ว่าแต่ทำไมไม่มีผู้ใดติดตามไปเล่นงานข้ายามที่เปิดประตูมิติกลับไปสู่แผ่นดินตงเต้าเลยขอรับ? ข้ารู้สึกว่าแปลกประหลาดพิกล”
นักพรตหญิงชินทำสีหน้าเหนื่อยอกเหนื่อยใจเล็กน้อย “เพราะว่าชื่อเสียงความน่ากลัวของเจ้ามันขึ้นไปถึงระดับจอมเทพจักรพรรดิแล้วน่ะสิ มีผู้ใดบ้างอยากทะเลาะวิวาทกับจอมเทพจักรพรรดิ? ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเจ้าสามารถเปิดประตูมิติได้รวดเร็วมากเกินไป ผู้คนส่วนใหญ่คงคิดไม่ถึงว่าเจ้าจะกลับไปที่นั่นได้เร็วขนาดนี้…”
หลินเป่ยเฉินพูดอะไรไม่ออก
ให้ตายสิ
นี่เขารุดหน้าแซงคนอื่นไปหลายก้าวอีกแล้ว
ต้องโทษว่าเป็นผู้อื่นอ่อนแอมากเกินไปต่างหาก
“หากเจ้าสามารถชุบชีวิตแผ่นดินตงเต้ากลับคืนมาได้สำเร็จ สถานที่แห่งนั้นก็จะกลายเป็นของเจ้าแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งนับดูผู้คนในอายุระดับเดียวกับเจ้า ยังไม่เคยมีผู้ใดทำได้สำเร็จมาก่อน แต่หากเจ้าทำได้สำเร็จ เจ้าก็จะกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลในเส้นทางดาราจักรอย่างไม่ต้องสงสัย และมันก็จะเป็นประโยชน์สำหรับเจ้ามากมายในหลาย ๆ ด้าน…”
“อย่างเช่น หากเจ้าพบเจออันตราย เจ้าก็สามารถเข้าไปหลบที่แผ่นดินตงเต้า ตราบใดที่เจ้าไม่ออกมา ไม่ว่าศัตรูจะแข็งแกร่งสักเพียงใด พวกเขาก็ไม่สามารถบุกเข้าไปลากตัวเจ้าออกมาได้ พวกเขาจะทำได้เพียงแค่รอคอยและเฝ้าดูเท่านั้น”
“หรือเจ้าจะใช้แผ่นดินตงเต้าเป็นสถานที่เก็บซ่อนกองทัพของตนเองเอาไว้ จากนั้นเจ้าก็ลากศัตรูของตนเองเข้าไปที่นั่น และเปลี่ยนการสู้ตัวต่อตัวให้กลายเป็นการรุมสังหารก็ย่อมได้…”
“และเจ้ายังมีผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์อีกมากมายเหล่านั้น ต่อให้กองทัพศัตรูขนกำลังพลทั้งหมดมาเพื่อบุกเข้าสู่แผ่นดินตงเต้า แต่ตราบใดที่เจ้ายังอยู่ ผู้ติดตามของเจ้ายังอยู่ ความศรัทธาที่ทุกคนมีต่อเจ้ายังคงอยู่ แผ่นดินตงเต้าก็จะเป็นสถานที่ซึ่งไม่มีผู้ใดสามารถบุกรุกเข้าไปได้เด็ดขาด”
นักพรตหญิงชินช่วยอธิบายข้อมูลให้หลินเป่ยเฉินเข้าใจได้ง่าย ๆ
หลินเป่ยเฉินเริ่มหอบหายใจด้วยความตื่นเต้น
เขารับฟังอย่างตั้งใจต่อไป
“แน่นอนว่าเจ้าสมควรบรรลุทั้งห้าขั้นตอนนี้ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด แต่จากการประเมินของข้า แค่เจ้าบรรลุสี่ขั้นตอนแรกได้สำเร็จก็น่าจะเพียงพอแล้ว เพียงเท่านั้นแผ่นดินตงเต้าก็จะกลับมามีสภาพสมบูรณ์ดังเดิม และเมื่อเวลานั้นมาถึง เจ้าก็ต้องรีบหาโอสถชุบชีวิต เพื่อคืนวิญญาณให้แก่ร่างกายของฉู่เหิน เฉียนเหมย เฉียนเจิน และเยว่เว่ยหยางให้ฟื้นคืนกลับมาดังเดิมอีกครั้ง”
นักพรตหญิงชินกล่าว ดวงตาเป็นประกายอย่างมีความหวัง
นางอธิบายต่อไปว่า “หน้าที่ของเจ้าก็ไม่ต่างจากคนงานก่อสร้าง แผ่นดินตงเต้าเปรียบเสมือนบ้านหลังหนึ่ง เจ้ามีหน้าที่ซ่อมแซมและต่อเติมบ้านให้ใหญ่โต มั่นคง แข็งแรง เหมาะสมที่คนจำนวนมากจะเข้ามาอยู่อาศัย เนื่องด้วยเจ้าต้องมีบ้านเป็นของตนเองเท่านั้น เจ้าจึงจะมีคุณสมบัติออกไปท่องเที่ยวในเส้นทางดาราจักรได้อย่างแท้จริง… โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในขั้นจอมเทพจักรพรรดิ พวกเขาสามารถเดินทางข้ามเขตแดนได้ เพราะตนเองมี ‘บ้าน’ ที่มั่นคงเพียงพอไงล่ะ”
หลินเป่ยเฉินตาโตด้วยความตื่นเต้น
นี่คือคำอธิบายที่มีแต่ข้อมูลล้วน ๆ ทว่ากลับสามารถทำความเข้าใจได้อย่างไม่ยากเย็นสักเท่าไหร่
ช่างน่ามหัศจรรย์เหลือเกิน
เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าโลกแห่งวรยุทธ์จะมีกฎเกณฑ์บังคับในเรื่องนี้ด้วย
หลินเป่ยเฉินอดคิดอย่างตลกร้ายไม่ได้ว่านี่ขนาดเขาทะลุมิติมาอยู่ในโลกแห่งวรยุทธ์ ก็ยังหนีไม่พ้นการดิ้นรนที่ต้องหาบ้านเป็นของตนเองอีก... แล้วผู้ฝึกยุทธ์เหล่านี้กับมนุษย์ในยุคสังคมนิยมจะมีความแตกต่างกันที่ตรงไหน?
ยิ่งคิดก็ยิ่งน่าสนใจ
หลินเป่ยเฉินอยากจะกลับไปเขียนนิยายสักเรื่องและตั้งชื่อว่า ‘เมื่อผมมาสร้างบ้านในต่างโลกและกลายเป็นสุดยอดผู้ฝึกยุทธ์…’
เด็กหนุ่มยกมือทำท่าดันแว่น
ทุกครั้งที่เปิดประตูมิติกลับไปสู่แผ่นดินตงเต้า ปรากฏว่าหลินเป่ยเฉินต้องใช้พลังปราณและพลังจิตเป็นจำนวนมหาศาล ครั้งต่อไปที่เขาจะกลับไปที่นั่นอีก อย่างน้อยก็คงต้องใช้เวลาฟื้นฟูพลังไม่ต่ำกว่าหนึ่งวันเต็ม ๆ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“นายท่านขอรับ จุดทิ้งสมอแห่งสุดท้ายในอาณาจักรหลิวเยวียนอยู่ข้างหน้านี้แล้ว ซึ่งหากเราผ่านจุดทิ้งสมอนี้ไป เราก็จะเข้าสู่เขตแดนของอาณาจักรซือเว่ยโดยทันที…”
เสียงของผู้ควบคุมการเดินเรือหมิงเซวี่ยเฟิงดังขึ้นด้วยความอ่อนน้อม
เร็วขนาดนี้เชียวหรือ?
หลินเป่ยเฉินกับนักพรตหญิงชินเดินออกมาจากห้องพักและเดินขึ้นไปที่ดาดฟ้าเรือเหาะ
จุดหมายปลายทางในการเดินทางครั้งนี้ของหลินเป่ยเฉินก็คืออาณาจักรซือเว่ย
อาณาจักรซือเว่ยก็คือดินแดนที่กว้างใหญ่ เมืองต่าง ๆ แยกย้ายกระจายตัวอยู่ตามเขตแดนของตนเองไม่ต่างไปจากอาณาจักรหลิวเยวียน
ปลายทางของหลินเป่ยเฉินคือเมืองที่ชื่อว่าเทียนหลางซิง
มันเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรซือเว่ย
นักพรตหญิงชินไปได้รับทราบข้อมูลที่น่าสนใจมาบางอย่าง
ข้อมูลนั้นก็คือในเมืองเทียนหลางซิง มีสมุนไพรวิเศษชนิดหนึ่งชื่อว่า ‘ไผ่สามกษัตริย์’ สรรพคุณของมันโดดเด่นในด้านการชุบชีวิตวิญญาณคนตาย เหมาะสมสำหรับการนำมาทำยารักษาพวกของฉู่เหินและคนอื่น ๆ เป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่าในราชวงศ์เทียนหลางเซินเคยเปิดสำนักแพทย์และเผยแพร่คัมภีร์การศึกษาทางสายเลือดผู้เยียวยา โดยมุ่งเน้นไปที่วิชาการรักษาวิญญาณคนตายอีกด้วย
ผู้ที่เป็นเจ้าสำนักแพทย์มีนามแปลกประหลาดว่าเฉินปี้หยาง
และบัดนี้ เฉินปี้หยางก็ยังมีชีวิตอยู่
เพราะฉะนั้น หากพวกเขาหาไผ่สามกษัตริย์และตัวเฉินปี้หยางพบ บางที การชุบชีวิตผู้คนที่ถูกจองจำอยู่ในแผ่นดินตงเต้าอาจสำเร็จเร็วกว่าที่พวกเขาคาดคิดก็เป็นได้!