เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1698 การค้นพบครั้งใหม่
ตอนที่ 1,698 การค้นพบครั้งใหม่
แนวคิดบางอย่างในตัวของหลินเป่ยเฉินได้เปลี่ยนไปโดยที่เขาก็ไม่ทันรู้ตัว
นักพรตหญิงชินจ้องมองเด็กหนุ่มในความเงียบ
แต่ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ
หลินเป่ยเฉินกำลังเติบโตไปในทิศทางที่ทุกคนคาดหวังเอาไว้
บัดนี้ ความวุ่นวายโกลาหลได้เกิดขึ้นแล้ว
กลุ่มเด็กสาวที่ถูกช่วยชีวิตออกมาพากันมองหน้าหลินเป่ยเฉินด้วยความตกตะลึงและหลงใหล
ต่อให้เป็นคนที่โง่เขลาสักเพียงใด ก็ต้องมองออกว่าเขตหลานเหนี่ยวแห่งนี้กำลังจะเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้ว
เด็กหนุ่มผู้หล่อเหลาคนนี้นอกจากมีฝีมือแข็งแกร่ง ยังมีที่มาที่ไปไม่ธรรมดาอีกด้วย
ชีวิตของชาวเมืองผู้บริสุทธิ์คงกำลังจะมีความหวังบ้างแล้วกระมัง?
เมื่อเทียบกับการถูกปกครองโดยนายทหารฉีเจียงและพรรคพวก การถูกปกครองโดยเด็กหนุ่มรูปหล่อผู้นี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีงามมากกว่ากันหลายเท่า
เสียงการต่อสู้เกิดขึ้นรอบกาย
การรอคอยน่าเบื่อหน่าย
ดังนั้น หลินเป่ยเฉินจึงเดินเข้าไปรอในหอสุราเซียนเมามาย
“เสี่ยวเอ้อ จัดสุรา”
เด็กหนุ่มตะโกนสั่ง
รอไปด้วยทานอาหารไปด้วยดีกว่า
เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะในห้องอาหารพลันเงียบลง
บัดนี้ แขกในหอสุราทุกท่านต่างก็กำลังกินดื่มอยู่ในความเงียบงัน
เพราะทุกคนล้วนแต่อยากรู้ว่ากำลังจะเกิดสิ่งใดขึ้นต่อไป
เด็กรับใช้นำสุราและอาหารมาจัดวางบนโต๊ะให้แก่หลินเป่ยเฉินด้วยมือที่สั่นเทา
“นายท่าน... ต้องการรับชม… การเต้นระบำหรือไม่เจ้าคะ?”
เด็กสาวชุดขาวที่ถูกช่วยเหลือเป็นคนแรกสุดรวบรวมความกล้าถามออกมา
ประเสริฐ ประเสริฐมาก
มีผู้ใดบ้างไม่อยากรับชมสาวงามเต้นระบำ?
หลินเป่ยเฉินยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ก่อนจะหันไปมองนักพรตหญิงชินผู้นั่งทำหน้านิ่งอยู่ด้านข้าง เด็กหนุ่มจึงล้มเลิกความคิดนั้นไปพร้อมกับโบกมือกล่าวว่า “ไม่ต้องหรอก ใครเป็นนายท่านของเจ้า? พวกเจ้าเองก็ทานอาหารเถอะ… ไม่ต้องเกรงใจ”
กลุ่มเด็กสาวไม่กล้าขัดคำสั่งของหลินเป่ยเฉิน พวกนางจึงนั่งลงด้วยเนื้อตัวที่สั่นระริก
ก่อนที่ความสนใจทั้งหมดจะจดจ่ออยู่กับอาหารเบื้องหน้า
เห็นแล้วก็อดน้ำลายไหลไม่ได้
ในไม่ช้า กลุ่มเด็กสาวก็ได้ค้นพบว่าเด็กหนุ่มผู้มีฝีมือการต่อสู้ดุร้าย สามารถจัดการพวกของนายทหารฉีเจียงได้อย่างง่ายดายนั้น เมื่อมาอยู่ต่อหน้าหญิงสาวผมเงิน เขาก็ไม่ต่างไปจากเด็กน้อยผู้หนึ่งเท่านั้นเอง
เมื่อบรรยากาศผ่อนคลายลง เสียงหัวเราะก็เริ่มกลับคืนมา บางครั้งหลินเป่ยเฉินก็ร่วมวงหัวเราะด้วยเช่นกัน
ผ่านไปชั่วชงน้ำชาหนึ่งถ้วย
เสียงของการต่อสู้เงียบหายไปแล้ว
หลินเป่ยเฉินวางตะเกียบลงทันที
“ทุกอย่างจบลงแล้ว”
หลินเป่ยเฉินและนักพรตหญิงชินลุกขึ้นพร้อมกันก่อนจะเดินออกไปนอกหอสุรา
ถนนนอกหอสุราเซียนเมามาย
นายทหารจากกองทัพเจี๋ยซิงจำนวนหลายพันคนกำลังยืนโก้งโค้งมองลอดหว่างขาด้วยท่วงท่าที่แปลกประหลาดยิ่งนัก
ทุกคนล้วนยังไม่อยากตาย
เจ้าหุ่นแดง 1 ยืนรอคอยอยู่ด้านนอกพร้อมด้วยกลุ่มของนายทหารระดับสูงประจำกองทัพเจี๋ยซิง
ในกลุ่มนี้ย่อมต้องมีหลงเซวียน แม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพเจี๋ยซิงรวมอยู่ด้วย
ใบหน้าของเขาแดงก่ำ แขนขวาหักงอผิดรูป บัดนี้กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นดินด้วยความขมขื่น จนกระทั่งถึงบัดนี้ แม่ทัพใหญ่หลงเซวียนก็ยังไม่ทราบเลยว่าตนเองไปล่วงเกินยอดฝีมือปริศนาผู้นี้ตั้งแต่เมื่อใด
ก่อนหน้านี้ หลงเซวียนกำลังเลี้ยงรับรองแขกระดับสูงอยู่ในกองทัพ เมื่อได้รับทราบว่าเกิดเหตุทะเลาะวิวาทขึ้นที่หอสุราเซียนเมามาย หลงเซวียนก็ตั้งใจจะยกกำลังพลมาเพื่อทำการปิดประตูตีแมว แต่ทันใดนั้น อสูรยักษ์สีแดงก็ปรากฏกายขึ้นและสถานการณ์ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป…
ระหว่างถูกพาตัวมาที่หอสุราเซียนเมามาย หลงเซวียนก็ได้รับทราบแล้วว่าเขตหลานเหนี่ยวได้หลุดออกไปจากการควบคุมของตนเองโดยสมบูรณ์
นายทหารในกองทัพเจี๋ยซิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอสูรแดงเหล่านี้เลย
บัดนี้ เมื่อพบหน้ากับเด็กหนุ่มผู้หล่อเหลาในชุดสีขาวที่เดินออกมาจากหอสุราเซียนเมามาย หลงเซวียนก็รู้แล้วว่าเด็กหนุ่มผู้นี้คงต้องเป็นเจ้านายของอสูรแดงเหล่านั้นนั่นเอง
แต่ปัญหาก็คือหลงเซวียนไม่ทราบว่าเด็กหนุ่มผู้นี้เป็นใคร
เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าอาณาจักรซือเว่ยมียอดฝีมือระดับนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
นอกจากหลงเซวียนแล้ว กลุ่มคนระดับสูงที่ถูกจับตัวมาก็ยังมีบุรุษอายุสี่สิบปีอีกผู้หนึ่งที่สวมใส่ชุดบัณฑิต ผูกผ้าคาดหัว ข้างเอวสะพายกระบี่มังกร ฝักกระบี่แกะสลักลวดลายสวยงาม…
พลังปราณที่แผ่ออกมาจากร่างกายคนผู้นี้บอกให้รู้ว่าเขามีความแข็งแกร่งไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่าหลงเซวียน
นอกจากนั้น ผู้ที่สะดุดสายตาของหลินเป่ยเฉินก็เป็นสตรีชุดดำรูปร่างผอมเพรียวผู้หนึ่ง นางสวมหน้ากากวิหคปิดบังใบหน้า พลังปราณที่คุ้นเคยแผ่ออกมาจากร่างกาย
“นายท่าน โปรดอย่าเพิ่งทำอะไรรุนแรงเลย…”
หลงเซวียนผ่านลมผ่านฝนมาไม่น้อย จึงทราบว่าในสถานการณ์เช่นนี้ตนเองควรเป็นฝ่ายเอ่ยคำขอโทษขึ้นก่อนโดยไม่มีข้อแม้ “ผู้ต่ำต้อยไม่ทราบว่าตนเองทำสิ่งใดผิดไป วิงวอนนายท่านได้โปรดให้อภัยผู้ต่ำต้อยด้วย ผู้ต่ำต้อยรับรองว่าจะแก้ไขให้เป็นอย่างดี…”
ดวงตาของหลินเป่ยเฉินเป็นประกายวาวโรจน์ด้วยความเหยียดหยาม
หลงเซวียนลุ่มหลงในสุราและอำนาจ ใช้ตำแหน่งของตนเองกดขี่ข่มเหงชาวเมืองผู้บริสุทธิ์ ทำเสมือนผู้คนเป็นสัตว์เลี้ยงในคอกปศุสัตว์…
ให้อภัยไม่ได้!!
องค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อุตส่าห์ออกแบบระบบการปกครองที่ช่วยทำให้มนุษย์กลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่ยิ่งใหญ่ในเส้นทางดาราจักร แต่บัดนี้ ระบบการปกครองนั้นกำลังมีปัญหา
มีปัญหาเพราะผู้คนเช่นหลงเซวียน
จนกระทั่งตอนนี้ระบบการปกครองในอาณาจักรซือเว่ยก็เน่าเฟะหมดสิ้นแล้ว
สำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในเส้นทางดาราจักร ความโกลาหลในอาณาจักรซือเว่ยอาจเป็นเสมือนเรื่องไกลตัวสำหรับตนเอง แต่มีผู้ใดสามารถคาดเดาได้บ้างว่าแผ่นดินที่ตนเองอาศัยอยู่นั้น จะไม่ล่มสลายลงไปในวันใดวันหนึ่งข้างหน้า?
“ฆ่าทิ้งให้หมด”
หลินเป่ยเฉินยกมือออกคำสั่ง
เจ้าหุ่นแดง 1 ยกมือขึ้น
หลงเซวียนและพรรคพวกใบหน้าซีดเผือดทันที
“ช้าก่อน”
นักพรตหญิงชินพลันส่งเสียงแทรกขึ้นมา “ไว้ชีวิตพวกของแม่ทัพหลงเซวียนไว้ก่อน ข้าอยากจะสอบสวนพวกเขา มีคำถามบางอย่างที่ข้าต้องการคำตอบ”
ในเมื่อนี่เป็นคำขอของนักพรตหญิงชิน หลินเป่ยเฉินก็ไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว
ดังนั้นเจ้าหุ่นแดง 1 และหุ่นแดง 2 จึงนำตัวพวกของแม่ทัพหลงเซวียนติดตามนักพรตหญิงชินเข้าไปสู่ด้านในหอสุราเซียนเมามายเพื่อสอบปากคำทีละคน
หลินเป่ยเฉินนิ่งเงียบใช้ความคิดอยู่เล็กน้อย ก็พาเจ้าหุ่นแดง 3 เจ้าหุ่นน้ำเงิน 2 และหุ่นน้ำเงิน 3 ออกไปลาดตระเวนรอบ ๆ เขตหลานเหนี่ยวโดยไม่รอช้า