เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1731 วิชาสว่านมังกรสายฟ้าฟาด
ตอนที่ 1,731 วิชาสว่านมังกรสายฟ้าฟาด
หลินเป่ยเฉินหยุดชะงัก
เมื่อรู้แล้วว่าตนเองไม่สามารถสลายม่านพลังลงไปได้
แต่เขาก็ไม่ได้หงุดหงิด
หลินเป่ยเฉินจ้องมองม่านพลังจุมพิตโลหิตราตรีด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
และเขาก็พบกับแผ่นเหล็กสีแดงเข้มวางอยู่รอบกายหลินซิงเฉิงสี่ทิศทาง… นี่เป็นรูปแบบของการจัดวางค่ายอาคมชนิดหนึ่งใช่หรือไม่?
สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ทำให้หลินเป่ยเฉินรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์สักเรื่องหนึ่ง
ในหัวใจของหลินเป่ยเฉินอดนึกขึ้นมาไม่ได้ว่า…
“แผ่นเหล็กเหล่านั้นน่าจะมีราคาแพงน่าดูเลยสินะ?”
หลินเป่ยเฉินถามออกมาโดยไม่รู้ตัว
หลินซิงเฉิงถึงกับชะงักเล็กน้อย ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะด้วยความขบขัน “นี่คือครั้งที่สองแล้วที่เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจ… เจ้าไม่อยากรู้หรือว่าหลิงไท่ซือกับคนอื่น ๆ อยู่ที่ใด?”
“อยากรู้สิ”
หลินเป่ยเฉินตอบ ก่อนจะนำกระเป๋าพลาสติกสีแดงใบหนึ่งออกมาจากพื้นที่เก็บไฟล์ออนไลน์ของแอปสวิ่นเล่ย และบนกระเป๋าพลาสติกใบนั้นก็มีตัวอักษรจีนสลักเอาไว้ว่า…
[อุปกรณ์สว่านเจาะอเนกประสงค์]
เมื่อเปิดกระเป๋าเครื่องมือออก เด็กหนุ่มก็หยิบสว่านไฟฟ้าออกมาจัดการติดดอกสว่านอย่างรวดเร็ว
“อาจจะหนวกหูหน่อย ต้องขออภัยด้วยแล้วกัน”
หลินเป่ยเฉินยิงฟันยิ้ม
หลินซิงเฉิงขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ
เพราะเขามองไม่เห็นสิ่งที่หลินเป่ยเฉินซื้อมาจากในโทรศัพท์มือถือ
ดังนั้น การกระทำของหลินเป่ยเฉินจึงดูน่าตลกขบขันไม่ต่างจากตัวโง่งม
ทันใดนั้น…
ครืด! ครืด! ครืด!
ประกายไฟก็สาดกระจายออกมาจากฝ่ามือของหลินเป่ยเฉิน
ความทรมานจากคลื่นเสียงของสว่านไฟฟ้านั้นหนวกหูมากเพียงใด มีแต่เพียงเพื่อนบ้านที่ถูกปลุกเพราะเสียงสว่านเจาะผนังระหว่างนอนงีบกลางวันเท่านั้นถึงจะเข้าใจ
หลินซิงเฉิงพูดอะไรไม่ออก
และก็อดขมวดคิ้วนิ่วหน้าไม่ได้
นี่คือวิชาการต่อสู้ประเภทใดกัน?
ครืด! ครืด! ครืด!
ประกายไฟยังคงสาดกระจายอย่างบ้าคลั่ง
“ยอมแพ้เถอะ เจ้าทะลวงม่านพลังจุมพิตโลหิตราตรีไม่ได้หรอก”
หลินซิงเฉิงจ้องมองใบหน้าของหลินเป่ยเฉินที่ปกคลุมด้วยประกายไฟ ต้องยอมรับเลยว่าเด็กหนุ่มผู้นี้มีหน้าตาหล่อเหลาในชนิดที่บุรุษหนุ่มด้วยกันต้องอิจฉาและสตรีต้องลุ่มหลงไปจนตาย บางทีนี่อาจเป็นบุคลิกของผู้ที่มีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นได้ ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตัวของหลินเป่ยเฉินช่างสมบูรณ์แบบยิ่งนัก
“ข้าเคยพบเจอผู้ที่มีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์มาแล้วสี่คน เจ้าเป็นคนที่พิเศษที่สุด”
หลินซิงเฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นคง
เพราะภายในม่านพลังแห่งนี้ มันเปรียบเสมือนโลกที่สงบสุข ตัดขาดจากสิ่งแวดล้อมไปโดยปริยาย
หลินเป่ยเฉินสวมแว่นกันแดดขณะใช้สว่านเจาะต่อไป
เขาหันมาชำเลืองมองหลินซิงเฉิงด้วยความประหลาดใจและถามว่า “เจ้าเคยพบเจอพวกเขาอย่างนั้นหรือ?”
“ย่อมต้องเคยพบ”
หลินซิงเฉิงยิ้มกว้าง “เจ้าอยากรู้สถานการณ์ของพวกเขาหรือไม่?”
“ย่อมอยากรู้”
หลินเป่ยเฉินพยักหน้าตอบรับ
แน่นอนว่าเสียงสว่านไม่เคยขาดหายไป
“คนหนึ่งตายแล้ว อีกคนหลบหนีได้สำเร็จ ส่วนอีกสองคนถูกจับกุมตัวเพื่อทำการศึกษาบางอย่าง”
หลินซิงเฉิงกล่าว
“เจ้าจับตัวพวกเขาไปทำการทดลองสินะ?”
หลินเป่ยเฉินถามด้วยความสงสัย
“อย่าเรียกว่าทำการทดลองเลย เรียกว่าทำการศึกษาดีกว่า”
หลินซิงเฉิงยิ้มแย้มอย่างอำมหิตน่าขนลุก “ผู้ที่มีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ ร่างกายย่อมมีพื้นฐานไม่ธรรมดา ควรค่าให้ผู้คนศึกษาไม่ใช่หรือ? นี่แหละคือสิ่งที่น่าสนใจอย่างแท้จริง”
ทันใดนั้น หลินเป่ยเฉินก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ
ปรากฏว่าในปัจจุบันยังคงมีผู้ที่มีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์คนอื่น ๆ อยู่ด้วย
แม้สายเลือดศักดิ์สิทธิ์จะหายาก แต่ก็ไม่ได้มีเขาเพียงผู้เดียว
“ผู้ใดทำการศึกษา?”
เด็กหนุ่มถามอีกครั้ง
เขาสัมผัสได้ถึงความลึกลับดำมืดบางอย่าง
เป็นความลับอันใหญ่หลวง
“เจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ?”
หลินซิงเฉิงเห็นว่าม่านพลังยังคงไม่เสื่อมสลาย รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจึงเพิ่มความสะใจมากขึ้น “โลกนี้ไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เจ้าเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นราชวงศ์เทียนหลางเซิน ราชวงศ์เกิงจิน เผ่าพันธุ์ปีศาจ เผ่าพันธุ์อสูร หรือผู้ใดก็ตาม… ฮ่า ๆๆ ไม่มีผู้ใดที่ได้ครอบครองความยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง”
“พูดมากน่ารำคาญ”
หลินเป่ยเฉินพ่นลมผ่านทางจมูกและกล่าวต่อ “ไม่ทราบว่าเจ้าอ่านนิยายในอินเทอร์เน็ตมากไปหรือไม่? ถ้าเพ้อเจ้อถึงขนาดนี้ ไม่บอกมาเลยล่ะว่าผู้ควบคุมอำนาจที่แท้จริงในเส้นทางดาราจักรก็คือตระกูลรอธส์ไชลด์*[1]”
“ข้าไม่รู้จักตระกูลรอธส์ไชลด์อันใด”
หลินซิงเฉิงหัวเราะเยาะด้วยความเหยียดหยาม “ก็เหมือนกับสุนัขข้างถนนโดดเดี่ยวอย่างเจ้า คงไม่เคยได้ยินชื่อนักรบโบราณอันใดเช่นกัน”
หลินเป่ยเฉินใบหน้ากระตุกเล็กน้อย
นี่หลินซิงเฉิงรู้จักยอกย้อนด้วยหรือ?
เป็นอีกหนึ่งความสามารถพิเศษหรือไง?
หลินเป่ยเฉินไม่พูดอะไรต่อไป
จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาเจาะสว่าน
“ฮ่า ๆๆ ยอมแพ้เถอะ ชะตากรรมของเจ้าจบสิ้นแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะมีฝีมือต่อสู้สูงส่งเพียงใด หรือร่างกายของเจ้าแข็งแกร่งแค่ไหน มันก็ไม่พอหรอก เจ้าไม่สามารถสลายม่านพลังจุมพิตโลหิตราตรีได้เด็ด…”
หลินซิงเฉิงพูดยังไม่ทันจบประโยค
ทันใดนั้น…
วูบ!
ม่านพลังจุมพิตโลหิตราตรีก็เกิดการสั่นไหวอย่างผิดปกติ
เปรี๊ยะ!
ได้ยินเหมือนเสียงแก้วแตก
สีหน้าของหลินซิงเฉิงแปรเปลี่ยนไป และรีบลุกขึ้นยืนโดยทันที
ม่านพลังที่คุ้มครองรอบกายของเขาเกิดรูโหว่ขนาดเท่านิ้วมือขึ้นมารูหนึ่ง
รูนี้เป็นจุดศูนย์กลางของรอยแตกร้าวรูปทรงใยแมงมุมสีขาว
แล้วม่านพลังก็แตกสลายลงไป
“นี่เจ้าใช้วิชาประเภทใดกัน?”
หลินซิงเฉิงตกตะลึงยิ่งนัก
“ฮ่า ๆๆ เจ้าคงคิดไม่ถึงเลยล่ะสิ”
หลินเป่ยเฉินมองสว่านไฟฟ้าในมือด้วยแววตาของผู้ชนะ “นี่เรียกว่าวิชาสว่านมังกรสายฟ้าฟาด”
สว่านไฟฟ้าคือสิ่งที่ใช้งานได้ง่ายดายมาก
ในชาติภพที่แล้วของหลินเป่ยเฉิน ต่อให้เป็นกำแพงปูนแข็งแกร่งในชนิดที่อาวุธสงครามเจาะทะลวงไม่เข้า แต่สุดท้ายกำแพงปูนนั้นก็ถูกเจาะได้โดยสว่านไฟฟ้าอยู่ดี… หลักการนี้ก็สามารถนำมาใช้งานได้ในโลกแห่งวรยุทธ์เช่นกัน
วิทยาศาสตร์จงเจริญ!!
“เจ้ามีอันใดจะพูดอีกหรือไม่?”
หลินเป่ยเฉินเก็บสว่านลงกระเป๋าเครื่องมือและเดินเข้าไปหาหลินซิงเฉิง เขามองหน้าโต๊ะทองเหลืองและกล่าวต่อ “บอกมาซะ พวกของหลิงไท่ซืออยู่ที่ใด แล้วข้าจะทำให้ศพของเจ้าอยู่ในสภาพสมบูรณ์”
ความประหลาดใจบนสีหน้าหลินซิงเฉิงสลายหายไปอย่างรวดเร็ว
“เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจเหลือเกิน”
เขาเงยหน้ามองมาที่หลินเป่ยเฉิน “อยากรู้จริงเชียวว่าเจ้าจะทำให้ข้าประหลาดใจได้อีกสักเพียงใด…”
ตู้ม!
มือขนาดใหญ่ยักษ์ของหลินเป่ยเฉินฟาดลงมาอย่างแรง
มวลอากาศปั่นป่วน
โต๊ะทองเหลืองพังทลายลงไป
“ประเสริฐ”
หลินซิงเฉิงร้องตะโกน
ผิวหนังและกระดูกทั่วร่างของหลินซิงเฉิงเกิดการสั่นไหวอย่างแปลกประหลาด แล้วคลื่นพลังก็ระเบิดออกมาจนสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า เส้นเลือดปูดโปนขึ้นมาบนผิวหนังอย่างหนาแน่น ร่างกายของหลินซิงเฉิงพลันห่อหุ้มด้วยชั้นพลังบางเบา
“หมัดมังกรเหล็กไหล!”
หลินซิงเฉิงเหวี่ยงหมัดออกมาข้างหน้า
ตู้ม!
หมัดของเขาปะทะกับฝามือยักษ์ของหลินเป่ยเฉิน
เคร้ง!
ได้ยินเหมือนเสียงโลหะกระทบกัน
หลินซิงเฉิงลอยกระเด็นออกไปกระแทกกับบานหน้าต่างที่เป็นกระจกสีเงินทันที
ก่อนที่ตัวคนจะค่อย ๆ ไถลลงมา
กระจกหน้าต่างยังคงตั้งอยู่ที่เดิมอย่างมั่นคง
[1] ตระกูลรอธส์ไชลด์ อดีตตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกประจำศตวรรษที่ 17