เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1760 ความคาดหวังของหลินเป่ยเฟฉิน
ตอนที่ 1,760 ความคาดหวังของหลินเป่ยเฟฉิน
บรรยากาศในท้องพระโรงค่อนข้างแปลกประหลาด
ช่วยทำความเข้าใจวิชากระบี่อย่างนั้นหรือ?
ต่อให้เป็นคนโง่เขลาก็ยังต้องเดาออกว่านี่คือข้ออ้างในการช่วยเหลือปี๋อวิ่นเถาชัด ๆ
ยังไม่ต้องเอ่ยถึงว่ายอดฝีมือระดับเซียนกระบี่นักล่าหัวยังจะต้องให้ผู้อื่นช่วยทำความเข้าใจในวิชากระบี่อีกหรือ?
สีหน้าของสวีฉานหลี่แปรเปลี่ยนไปเล็กน้อยขณะจ้องมองหลินเป่ยเฉิน
ปี๋อวิ่นเถาก็ตะลึงงันไม่แพ้กัน
เขามองหน้าหลินเป่ยเฉินด้วยความพิศวง ไม่เข้าใจสิ่งใดอีกต่อไป
“แม่ทัพหลิน ชีวิตคนมีขึ้นมีลง แต่การบุกวังหลวงเช่นนี้ ถือเป็นความผิดขั้นร้ายแรง”
สวีหม่านเดินเข้ามาประสานมือด้วยความเคารพ ก่อนกล่าวต่อไปว่า “ท่านส่งมอบคัมภีร์กระบี่ให้แก่ผู้ร้ายเช่นนี้ เกรงว่าเขาคงจะต้องสร้างความเดือดร้อนให้แก่แม่ทัพหลินอย่างแน่นอน”
หลินเป่ยเฉินหันกลับไปชำเลืองมองสวีหม่านและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “นี่เจ้ากำลังสอนข้าอยู่หรือ?”
“มิกล้า มิกล้า”
สวีหม่านตกตะลึง และรีบก้มหน้าต่ำทันที
หลินเป่ยเฉินหันกลับไปมองที่ปี๋อวิ่นเถา “เจ้าหน้าที่ปี๋ ช่วยตอบข้าที ท่านยินดีช่วยเหลือข้าหรือไม่?”
ปี๋อวิ่นเถาไม่เข้าใจเลยว่าหลินเป่ยเฉินกำลังคิดอะไรอยู่
แต่เรื่องราวเช่นนี้ยังจะมีผู้คนปฏิเสธได้ลงคออีกหรือ?
ปี๋อวิ่นเถาพยักหน้าตอบตกลง
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอบคุณท่านมากแล้ว”
หลินเป่ยเฉินยิ้มกว้างด้วยความพอใจ “แต่ในเมื่อท่านจะช่วยทำความเข้าใจวิชากระบี่ให้กับข้า อาการบาดเจ็บอย่างนี้ ท่านคงทำสิ่งใดไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นรีบรักษาอาการบาดเจ็บก่อนเถอะ… หวังจง”
หลินเป่ยเฉินหันไปขยิบตาส่งสัญญาณให้แก่หวังจงที่ยืนอยู่ข้างขั้นบันไดทองคำ
“เข้าใจแล้วขอรับ นายน้อย”
หวังจงก้าวเดินออกมาข้างหน้าพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะกรอกโอสถใส่ปากปี๋อวิ่นเถา
ชายหนุ่มดูประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้ขัดขืน
ไม่กี่ลมหายใจต่อมา เขาก็รู้สึกได้ว่าพลังทำลายล้างของสวีฉานหลี่ที่ตกค้างอยู่ในร่างกายได้กระจายหายไปหมดสิ้น
อาการบาดเจ็บของเขาดีขึ้นถึงครึ่งหนึ่ง
ปี๋อวิ่นเถารีบลุกขึ้นนั่งและโคจรพลังปราณในร่างกาย สีหน้าดีขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่า
สติสัมปชัญญะกลับมาแจ่มใส
หลินเป่ยเฉินแสดงความช่วยเหลือต่อปี๋อวิ่นเถาอย่างชัดเจน
ไม่ว่าเด็กหนุ่มกำลังวางแผนอะไรอยู่ เรื่องราวทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าเขากำลังช่วยชีวิตปี๋อวิ่นเถา
หลังจากคิดเรื่องนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน บรรดาคนใหญ่คนโตก็หันหน้ามองไปที่ปี๋อวิ่นเถา อดีตมือกระบี่อัจฉริยะคนโปรดของจักรพรรดิองค์เก่า บัดนี้ ปี๋อวิ่นเถากำลังยากลำบาก หากมีผู้คนยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ชายหนุ่มย่อมซาบซึ้งในบุญคุณจนยอมติดตามทำงานรับใช้ด้วยความซื่อสัตย์เป็นแน่แท้… ยังจะมีสถานการณ์ใดเหมาะสมแก่การช่วยเหลือปี๋อวิ่นเถามากกว่านี้อีกหรือ?
กองทัพเซียนกระบี่ขยายอำนาจของตัวเองเร็วเกินไป จึงทำให้ขาดแคลนกำลังพลฝีมือดี
และหากกองทัพเซียนกระบี่ได้ยอดฝีมืออย่างปี๋อวิ่นเถาเข้าไปเป็นพรรคพวก นี่ก็นับเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้แก่กองทัพเซียนกระบี่ได้อย่างยิ่ง
เป็นวิธีการที่ชาญฉลาดมาก!
คิดไม่ถึงเลยว่าเซียนกระบี่นักล่าหัวหลินเป่ยเฉินผู้ที่ภายนอกประพฤติตนเป็นบุคคลสมองเสื่อม กลับสามารถอ่านสถานการณ์ได้ทะลุปรุโปร่งยิ่งกว่าพวกขุนนางจอมเจ้าเล่ห์อย่างฮวาไป๋เสียอีก
ทันใดนั้น บรรดาคนใหญ่คนโตก็เริ่มคิดที่จะเปลี่ยนฝ่ายแล้ว
นี่เป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะเข้าร่วมกับกองทัพเซียนกระบี่ไม่ใช่หรือ?
หลินเป่ยเฉินเดินลงจากขั้นบันไดทองคำและตรงไปหาปี๋อวิ่นเถา
“ข้าได้รับคัมภีร์กระบี่สยบฟ้ามาจากมือกระบี่ผู้อาวุโสท่านหนึ่ง เขาทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อคิดค้นวิชานี้ขึ้นมา แต่น่าเสียดายที่ไม่ว่าข้าตั้งใจฝึกฝนเพียงใด ข้าก็ฝึกไม่สำเร็จสักที… ท่านลองรับไปดูเถอะ บางทีท่านอาจจะเข้าใจมันมากกว่าข้าก็เป็นได้”
หลินเป่ยเฉินกล่าว และยื่นส่งคัมภีร์กระบี่สยบฟ้าให้แก่ปี๋อวิ่นเถา
ทันใดนั้น หลินเป่ยเฉินก็อดนึกถึงรอยยิ้มของกระบี่กวาดสวรรค์ซวีเซี่ยเกอขึ้นมาไม่ได้
ใช่แล้ว
เขาคือมือกระบี่ในตำนานแห่งดินแดนทวยเทพ
มือกระบี่ผู้ที่ควรได้รับความเคารพอย่างแท้จริง
แม้ว่าซวีเซี่ยเกอจะไม่ได้มีตำแหน่งเทพเจ้า แต่เขาก็แข็งแกร่งมากพอที่จะสังหารเทพเจ้าได้อย่างง่ายดาย
ซวีเซี่ยเกอได้รับความเคารพบูชาจากเทพเจ้าเป็นจำนวนมากและเขาก็เป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่คนเท่านั้นที่ไม่ยอมก้มหัวให้แก่อำนาจของท่านมหาเทพ
บุคคลอันสูงส่งเช่นนี้สมควรมีผู้สืบทอดวิชาเป็นอัจฉริยะมือกระบี่ที่แท้จริง
นี่จึงเป็นเหตุผลที่หลินเป่ยเฉินฝึกวิชานี้ไม่สำเร็จสักที
และเขาก็ตัดสินใจให้ปี๋อวิ่นเถาเป็นผู้สืบทอดวิชากระบี่สยบฟ้า
น่าเสียดายที่ปี๋อวิ่นเถายึดมั่นในหลักการมากเกินไป ไม่ยอมเข้าร่วมเป็นพวกเดียวกับหลินเป่ยเฉิน ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงไม่มีโอกาสมอบคัมภีร์กระบี่สยบฟ้าให้สักที
หลินเป่ยเฉินคิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะต้องพบเจอกับชะตากรรมที่น่าอนาถเช่นนี้
นี่คือการต่อสู้กับโชคชะตาอย่างแท้จริง
ปี๋อวิ่นเถารับแผ่นศิลาที่แกะสลักลวดลายกระบวนท่าต่าง ๆ ของวิชากระบี่สยบฟ้าไปดูด้วยความสนใจ หลังจากนั้น สีหน้าของเขาก็ตกตะลึงสุดขีด
ยิ่งเวลาผ่านไป ปี๋อวิ่นเถาก็ตกอยู่ในห้วงภวังค์แห่งการศึกษาวิชากระบี่สยบฟ้า
กาลเวลาผ่านไป
ในตำหนักไม้ไผ่ปกคลุมด้วยความเงียบ
บรรยากาศแปลกประหลาด
กลุ่มขุนนางและแม่ทัพใหญ่มองหน้ากันและทำความเข้าใจในความเงียบ
ความเงียบมีความกดดันที่น่าหวาดกลัว
สายตาของหลินเป่ยเฉินยังคงจ้องมองอยู่ที่ปี๋อวิ่นเถา
เหตุผลหลักที่มนุษย์ในแผ่นดินตงเต้าและเทพเจ้าในดินแดนทวยเทพมีความแข็งแกร่งไม่เท่ากับผู้คนในเส้นทางดาราจักรนั้น เป็นเพราะว่าดินแดนเหล่านั้นมีพลังปราณต่ำต้อยมากเกินไป
แตกต่างไปจากพลังปราณในเส้นทางดาราจักร
แม้จะฝึกวิชาเดียวกัน แต่ผลลัพธ์ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
และถึงกับมีวิชากระบี่ของมนุษย์ในแผ่นดินตงเต้าหลายวิชาที่ไม่สามารถนำมาฝึกฝนได้ในดินแดนแห่งเส้นทางดาราจักร
เพราะว่าวิชาในเส้นทางดาราจักรมีความแข็งแกร่งมากเกินไป
เช่นเดียวกับอาวุธของพวกเขา
แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับล่างก็ยังสามารถเอาชนะยอดฝีมือชั้นสูงของแผ่นดินตงเต้าได้ง่าย ๆ
นี่คือสิ่งที่หลินเป่ยเฉินสังเกตเห็นมาได้พักใหญ่แล้ว
สำหรับเขา นี่อาจไม่ใช่เรื่องสำคัญ
แต่สำหรับผู้อื่น นี่จึงเป็นเรื่องสำคัญที่แท้จริง
คัมภีร์กระบี่สยบฟ้าเมื่อไปอยู่ในมือของปี๋อวิ่นเถา มันจะมีความเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างไรบ้าง?
เมื่อปี๋อวิ่นเถาได้ครอบครองคัมภีร์กระบี่สยบฟ้า เขาจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ของตนเองได้หรือไม่?
สายตาของหลินเป่ยเฉินยังคงจับจ้องไปที่ปี๋อวิ่นเถา
หากคนผู้นี้ทำความเข้าใจคัมภีร์กระบี่สยบฟ้าได้สำเร็จ ไม่ว่าปี๋อวิ่นเถาจะสามารถแก้ไขปัญหาของตนเองได้หรือไม่ แต่อย่างน้อย เขาก็จะรอดชีวิตและได้สืบทอดวิชากระบี่สยบฟ้าต่อไป
เวลาผ่านไปอีกหนึ่งก้านธูป
เมื่อหลินเป่ยเฉินไม่พูดคำใดออกมา มันก็ทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าเคลื่อนไหว