เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1811 หัวหน้ากลุ่มองครักษ์
ตอนที่ 1,811 หัวหน้ากลุ่มองครักษ์
“สหาย รู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังเล่นกับไฟ?”
หลี่อี้สวิ่นหัวเราะในลำคอและกล่าวว่า “เจ้าเป็นคนฉลาด คิดหาวิธีอื่นที่จะเอาชนะใจข้า คนเช่นนี้ข้าเคยพบเห็นมามากมายแล้ว เจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกเขาต้องพบกับชะตากรรมเช่นใด? หากเจ้ารู้ เจ้าก็คงต้องร้องไห้แล้ว”
หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นทำท่าดันแว่นและหัวเราะในลำคอตอบกลับมา “จริงหรือ? ท่านคิดว่าตนเองเป็นคนสำคัญนักหรือไง? คิดว่าทุกคนต้องพยายามเอาชนะใจท่านให้ได้หรือ?”
ให้ตายเถอะ
เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้สติคงเลอะเลือนแล้วแน่ ๆ
หากเป็นสุนัข เขาก็เป็นสุนัขที่ไม่รู้จักการประจบเอาใจเจ้าของเอาเสียเลย
อีกไม่นานคงถูกฆ่าทิ้งอย่างแน่นอน
หลินเป่ยเฉินแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น
บรรยากาศในห้องโถงใหญ่ตึงเครียดขึ้นมาโดยพลัน
ฉู่ซิน เหลียงอี้กวนและคนอื่น ๆ ที่คุกเข่าแสดงความเคารพอยู่บนพื้นต่างก็เกือบจะหลุดหัวเราะออกมา
พวกเขาเคยพบเจอตัวโง่งมมามากมาย แต่ไม่เคยพบเจอผู้ใดโง่งมถึงเพียงนี้มาก่อน
นี่คือตัวอย่างที่ดีของคนที่รนหาที่ตายด้วยตนเองโดยแท้
ทว่า…
“หึ ๆ”
หลี่อี้สวิ่นเพียงหัวเราะในลำคอ รอยยิ้มแจ่มใสปรากฏขึ้นบนใบหน้า “แหม ข้าก็แค่ล้อเล่นเท่านั้น ไยเจ้าต้องคิดจริงจังด้วย น้องชาย เจ้าเป็นคนตลกดี ข้าชอบ เอาเป็นว่านับจากนี้ไป เจ้ามาเป็นหัวหน้าหน่วยองครักษ์ประจำตัวข้าก็แล้วกัน”
เยว่ชิงอานชะงักกึก
ฉู่ซิน เหลียงอี้กวนและคนอื่น ๆ ที่กำลังก้มหน้าอมยิ้มพลันสีหน้าแปรเปลี่ยนไปทันที
นี่มัน…
วิธีนี้ใช้ได้ผลด้วยหรือ?
ผู้ที่มีหน้าตาหล่อเหลามักจะได้ทุกสิ่งที่ต้องการเสมออย่างนั้นหรือ?
หลินเป่ยเฉินขมวดคิ้วตอบรับว่า “ด้วยความแข็งแกร่งและพรสวรรค์ของข้า ข้าเป็นได้เพียงหัวหน้าหน่วยองครักษ์ของท่านเท่านั้นหรือ? ข้ามาที่นี่เพื่อสร้างตำนานเป็นวีรบุรุษในกองทัพ ไม่ได้มาเป็นองครักษ์ประจำตัวท่านสักหน่อย”
เด็กหนุ่มแสดงสีหน้าไม่พอใจ
หลี่อี้สวิ่นเดินเข้ามาคล้องแขนหลินเป่ยเฉินและยิ้มแย้มอย่างอ่อนหวาน “รับใช้ข้าก็เหมือนรับใช้กองทัพนั่นแหละ บัดนี้ เจ้ายังไม่เคยสร้างความดีความชอบอันใด จึงเป็นเรื่องยากที่จะบรรจุเข้าสู่กองทัพ… อิอิ เจ้าไม่พอใจหรือ? เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ข้าขอสัญญากับเจ้า ในการรบครั้งต่อไป เจ้าจะได้รับโอกาสให้เข้าร่วมสงครามเพื่อแสดงฝีมือ ตราบใดที่เจ้ามีผลงานอันยอดเยี่ยม ข้าก็จะบรรจุเจ้าเข้าสู่กองทัพโดยทันที ไม่ทราบว่าข้อเสนอนี้ดีหรือไม่?”
หลินเป่ยเฉินนิ่งเงียบใช้ความคิดอยู่พักใหญ่ สุดท้ายก็ให้คำตอบว่า “เอาตามนั้นก็ได้ พวกเรามาเกี่ยวก้อยกันเถอะ”
หลี่อี้สวิ่นหยุดชะงักด้วยความพิศวง
“เป็นสัญลักษณ์ของการทำสัญญาขอรับ”
หลินเป่ยเฉินชูนิ้วก้อยของมือข้างหนึ่งขึ้นมาพร้อมกับอธิบายว่า “ในบ้านเกิดของข้า หากบุรุษและสตรีสัญญาอะไรกันไว้ พวกเขาก็จะนำนิ้วก้อยมาเกี่ยวกัน เพื่อเป็นการยืนยันว่าต่อให้ผ่านไปเป็นหมื่นปี คำสัญญาก็จะไม่เปลี่ยนแปลงไป”
หลี่อี้สวิ่นยิ้มกว้างมากกว่าเดิมขณะที่ยื่นนิ้วก้อยออกมาเกี่ยวก้อยกับหลินเป่ยเฉิน “นับเป็นประเพณีที่น่าสนใจ”
“ยังมีที่น่าสนใจกว่านี้อีก”
หลินเป่ยเฉินยิ้มกว้างอย่างถือดีในตนเอง
บทสรุปของเรื่องราวในครั้งนี้ทำให้พวกของฉู่ซิน เหลียงอี้กวนและคนอื่น ๆ ถึงกับตั้งตัวไม่ทัน
นี่ช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย!
ความประพฤติของฮ่าวไต๋ในวันนี้ ตรงตามกฎข้อห้ามของแม่ทัพหลี่อี้สวิ่นทุกประการ แล้วเหตุไฉนนางจึงแต่งตั้งเขาเป็นหัวหน้ากลุ่มองครักษ์ได้เล่า?
หรือว่าตัวจริงของแม่ทัพหญิงร่านสวาทคนนี้จะเป็นคนโง่งม?
เหลียงอี้กวนรู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมาโดยทันที ปรากฏว่าหลี่อี้สวิ่นชื่นชอบบุรุษลักษณะนี้เองสินะ
เหลียงอี้กวนเชื่อว่าตนเองมีความสามารถในการใช้ถ้อยคำที่ดุดันและสีหน้าที่อวดดีไม่แพ้ฮ่าวไต๋เช่นกัน
…
หลินเป่ยเฉินผู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยองครักษ์รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง
เขาไม่คิดเลยว่าหลี่อี้สวิ่นหญิงร่านสวาทในตำนานจะโง่เขลาถึงเพียงนี้
หลอกตบตาได้ง่ายมาก
แต่แล้วเด็กหนุ่มก็เริ่มสำนึกเสียใจ
จะทำอย่างไรดีนะ?
คืนนี้ เขาจะเอาตัวรอดอย่างไรดี?
อย่าบอกนะว่าจะต้องเสียตัวตั้งแต่คืนแรกที่แฝงตัวเข้ามาอยู่ในกองทัพศัตรู?
แม้ว่าหลี่อี้สวิ่นจะนับเป็นยอดหญิงงามผู้หนึ่ง แต่ปัญหาก็คือ… ภาพลักษณ์ของนางเลวร้ายมากเกินไป
หลินเป่ยเฉินเป็นคนที่หมกมุ่นอยู่กับความสะอาดไร้ตำหนิ
เขาชื่นชอบรถยนต์ส่วนบุคคล ไม่ชื่นชอบรถสาธารณะ
เมื่อความคิดดำเนินมาถึงตรงนี้ เด็กหนุ่มก็รู้สึกแค้นเคืองหวังจงขึ้นมาทันที
ใช่แล้ว ทุกอย่างเป็นเพราะหวังจงแท้ ๆ
แต่ในคืนนั้น ข่าวที่ไม่คาดฝันก็ถูกส่งต่อมา
ปรากฏว่าสถานการณ์ในแนวรบด่านหน้าเกิดความเปลี่ยนแปลง หลี่อี้สวิ่นจึงต้องออกไปจัดการศัตรูวุ่นวายตลอดทั้งคืน ดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามายุ่งกับหัวหน้าหน่วยองครักษ์คนใหม่ของตนเอง
เมื่อได้รับทราบข่าวนี้ หลินเป่ยเฉินก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
อย่างน้อย คืนนี้เขาก็ยังไม่ต้องเสียตัว
องครักษ์คนอื่น ๆ ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเช่นกัน
พวกเขาคงทนไม่ได้แน่หากฮ่าวไต๋สามารถเผด็จศึกท่านแม่ทัพหลี่อี้สวิ่นได้ตั้งแต่คืนแรก
คืนแรกของทุกคนผ่านไปอย่างเงียบสงบ
แต่พวกเขาก็ยังคงไม่ทราบอยู่ดีว่าฮ่าวไต๋สามารถเอาชนะใจท่านแม่ทัพหลี่ได้อย่างไร?
สุดท้าย ทุกคนก็ลงความเห็นเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า…
ท่านแม่ทัพหลี่ชื่นชอบบุรุษที่ประพฤติตนหยาบคายไร้มารยาท
ในหน่วยองครักษ์ส่วนตัวมีผู้คนมากมายหลายรูปแบบ แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะเหยียบหัวกันและกันเพื่อให้ตนเองกลายเป็นคนโปรดของท่านแม่ทัพหลี่เสมอ
โดยเฉพาะองครักษ์หน้าใหม่ผู้ทะเยอทะยานทั้งสองคนอย่างฉู่ซินกับเหลียงอี้กวน พวกเขาดีใจยิ่งกว่าผู้ใดเมื่อได้รับทราบว่าท่านแม่ทัพหลี่ต้องวุ่นวายอยู่ในสนามรบตลอดทั้งคืน
ทั้งสองคนรู้สึกว่าฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ
สถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด
…
เมื่อตรวจสอบความเรียบร้อยในห้องนอนของหลี่อี้สวิ่นตามหน้าที่เสร็จสิ้น หลินเป่ยเฉินก็เดินกลับเข้ามาที่ห้องพักประจำตำแหน่งหัวหน้าหน่วยองครักษ์ของตนเอง ห้องพักของเขาตกแต่งอย่างหรูหรา ภายในห้องพักมีห้องฝึกวิชาแยกเอาไว้หนึ่งห้อง เช่นเดียวกับห้องอาบน้ำและห้องเก็บเสื้อผ้า แต่ที่พิเศษสุดก็คือห้องนอนอันกว้างขวางใหญ่โตและสวยงามตระการตา
เมื่อเข้าสู่ห้องฝึกวิชา เด็กหนุ่มก็นำโทรศัพท์มือถือออกมากดส่งข้อความไปหาพวกของเฉียนเหมยและพบว่าการทำภารกิจ ‘ความรุ่งเรืองของกองทัพเซียนกระบี่’ จากแอปพลิเคชัน Keep ยังดำเนินไปอย่างราบรื่น
“นายท่าน ดูแลตนเองดี ๆ ด้วยนะเจ้าคะ ห้ามพลาดท่าเสียตัวให้แก่ผู้ใดเด็ดขาด”
เฉียนเหมยถ่ายคลิปวิดีโอชูกำปั้นให้กำลังใจส่งมาให้แก่หลินเป่ยเฉิน
เด็กหนุ่มพูดอะไรไม่ออก
เขาจะพยายามให้ดีที่สุดก็แล้วกัน
หลินเป่ยเฉินไม่สนใจเลยว่าในห้องฝึกวิชาแห่งนี้จะมีการสอดแนมจากพวกของหลี่อี้สวิ่นบ้างหรือไม่
เพราะไม่มีใครสามารถมองเห็นโทรศัพท์มือถือของเขาได้อยู่แล้ว
หากมีคนแอบดูอยู่จริง พวกเขาก็จะเข้าใจว่าหลินเป่ยเฉินกำลังฝึกฝนวิชาอยู่เท่านั้น