เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1863 หายตัวไปได้อย่างไร?
ตอนที่ 1,863 หายตัวไปได้อย่างไร?
บริเวณพื้นที่รอบนอกสถานีขนส่ง ผู้คนจำนวนมากรวมตัวกันจ้องมองสถานีขนส่งที่กำลังเริ่มพังทลายลงไปด้วยความตกตะลึง
การต่อสู้ที่มีพลังทำลายล้างสูงส่งถึงระดับนี้ ไม่เคยเกิดขึ้นในกลุ่มพันธมิตรโกลาหลมานานแล้ว
นี่คือการต่อสู้ที่ทำให้ผู้คนอกสั่นขวัญแขวนได้อย่างแท้จริง
“ตกลงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“เป็นผู้ใดกำลังต่อสู้กันอยู่? หากเรารู้ว่าเป็นผู้ใด วันหน้าวันหลังจะได้หลีกเลี่ยงไม่ไปมีเรื่องกับพวกเขาไงล่ะ”
“ให้ตายเถอะ เป็นผู้ที่อยู่ในขั้นจอมเทพจักราใช่หรือไม่?”
“ถึงจะอยู่ในขั้นจอมเทพจักราก็เถอะ แต่การระเบิดพลังในระดับนี้ แสดงว่าต้องการเอาชีวิตกันเป็นแน่แท้ ว่าแต่พวกเขาไปโกรธแค้นอะไรกันมานะ?”
บรรดาผู้คนที่อพยพหนีออกมาจากสถานีขนส่ง เช่นเดียวกับบรรดายอดฝีมือที่ล่าถอยออกมาก่อนหน้านี้ ทุกคนต่างก็มีสีหน้าตื่นกลัวเหมือนกันหมดสิ้น
สองขาของโจวต้าเฟิงถึงกับสั่นเทา
เขากำลังลังเลอยู่ว่าการที่ตนเองร่วมมือกับกู่โจวก่อนหน้านี้ เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดกันแน่?
หากเด็กหนุ่มผู้มีนามว่าหลินเป่ยเฉินสามารถหนีรอดเงื้อมมือกู่โจวได้สำเร็จ หลินเป่ยเฉินก็คงต้องมาคิดบัญชีแค้นกับเขาเป็นแน่แท้ และโจวต้าเฟิงก็รู้ตัวดีว่าตนเองคงสู้ไม่ได้ เขาอาจจะต้องตายอย่างน่าอนาถ
แต่เขาจะทำอย่างไรได้เล่า?
แม้แต่ประมุขของหอการค้าไท้กู่ก็ยังไม่กล้าดูหมิ่นกู่โจวเลยด้วยซ้ำ
หวังเฟิงหลิวนำตัวพวกของเยว่หงเซียงมาตั้งหลักที่เรือเหาะของผู้ติดตามลำหนึ่ง สายตาของเขาจ้องมองไปยังสถานีขนส่งที่บางส่วนเริ่มพังทลายลงไปจนจำหน้าตาเดิมแทบไม่ได้ หัวใจของหวังเฟิงหลิวกำลังรู้สึกตกตะลึงจนเกินจะอธิบายเป็นคำพูด
นี่นายน้อยมีความแข็งแกร่งถึงระดับนี้เชียวหรือ?
นี่หรือคือความแข็งแกร่งของผู้ที่มีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์?
หวังเฟิงหลิวนึกทบทวนเหตุการณ์ตั้งแต่แรก และเขาก็พบว่านี่คือเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย เป็นไปได้อย่างไรที่ผู้มีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์จะบรรลุขั้นจอมเทพจักราและมีฝีมือร้ายกาจถึงเพียงนี้
ความแข็งแกร่งระดับนี้ราวกับเป็นผู้คนที่อยู่กันคนละโลก
หวังเฟิงหลิวไม่กังวลเรื่องความปลอดภัยของหลินเป่ยเฉินแม้แต่น้อย
เพราะเขาทราบดีว่านายท่านหวังจงต้องลอบสังเกตการณ์อยู่แน่นอนและนายท่านก็จะไม่มีทางปล่อยให้นายน้อยได้รับอันตรายเด็ดขาด
ตู้ม!
คลื่นพลังปะทุขึ้นอีกครั้ง
ในที่สุด สถานีขนส่งก็พังทลายลงไปโดยสมบูรณ์
ก้อนหินแตกร้าว โครงเหล็กแตกหัก เรือเหาะถูกเผาไหม้ เศษซากทุกอย่างลอยกระจายอยู่ในห้วงอวกาศ
แต่คลื่นพลังทำลายล้างยังคงแผ่กระจายต่อไป
ร่างกายขนาดใหญ่ยักษ์ของหลินเป่ยเฉินกับกู่โจวปรากฏขึ้นใจกลางสิ่งที่เคยเป็นสถานีขนส่ง
ตู้ม!
พื้นหินเกิดรอยแตกร้าวเป็นวงกว้าง
การระเบิดเกิดขึ้นอีกครั้ง
แล้วร่างของยักษ์ใหญ่ทั้งสองคนก็แยกออกจากกัน
พวกเขาลอยตัวขึ้นมาในห้วงอวกาศอันเวิ้งว้าง
ด้วยขั้นพลังในปัจจุบันของหลินเป่ยเฉิน การลอยตัวอยู่ในห้วงอวกาศไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด
“เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจได้จริง ๆ”
กู่โจวมีสีหน้าตื่นเต้นยิ่งนัก “นับเป็นวัตถุดิบที่สมบูรณ์แบบ ฮ่า ๆๆ …แต่นี่คือความพยายามที่ไร้ประโยชน์ วิชาการต่อสู้ของเจ้าน่าเหลือเชื่อก็จริง แต่น่าเสียดายที่ร่างกายของเจ้าอ่อนแอมากเกินไป”
หลินเป่ยเฉินกำลังหอบหายใจ
บัดนี้ ผิวของเขาเป็นสีแดงก่ำ ไม่ต่างจากเหล็กที่เพิ่งออกมาจากเตาหลอม ลมหายใจร้อนผ่าว เปลวไฟลุกโชนขึ้นจากศีรษะ คลื่นพลังความร้อนแผ่กระจายออกมาจากลำตัว
พลังการทำลายล้างของวิชาแปดชั้นฟ้านั้นเหนือจินตนาการ
แต่ถ้าต้องการใช้กระบวนท่าเหล่านั้นให้ได้เต็มประสิทธิภาพจริง ๆ หลินเป่ยเฉินก็ต้องมีขั้นพลังและร่างกายที่แข็งแกร่งมากกว่านี้
บัดนี้ เด็กหนุ่มใช้ร่างกายจนถึงขีดจำกัดแล้ว
แม้จะอยู่ในขั้นจอมเทพจักรา แต่น่าเสียดายที่อีกฝ่ายเป็นจอมเทพจักราตอนปลาย
อีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้น เขาก็จะสามารถเอาชนะกู่โจวได้แล้วแท้ ๆ
“กระบวนท่าพลิกภูผาคว่ำทะเล!”
กู่โจวใช้กระบวนท่าอันตรายของตนเองออกมาอีกครั้ง แล้วร่างกายของเขาก็ขยายใหญ่ขึ้นจนมีความสูงเกินสามสิบจั้ง เขายกเท้าขนาดใหญ่ยักษ์ขึ้นหมายเหยียบหลินเป่ยเฉินให้บี้แบน “มดปลวกต่ำต้อยอย่างเจ้า จงรับรู้รสชาติของความอ่อนแอซะ”
“กระบวนท่าภูผาชมดาว!”
หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นด้านบนเพื่อรับการเหยียบย่ำของฝ่าเท้า
นี่คือกระบวนท่าจากวิชาแปดชั้นฟ้าที่มีขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีจากคู่ต่อสู้
ตู้ม!
หลังจากนั้น ร่างของหลินเป่ยเฉินก็ต้องรับน้ำหนักฝ่าเท้าของกู่โจว
สีหน้าของเด็กหนุ่มแปรเปลี่ยนไป
พลังในร่างกายของเขาลดน้อยลงไม่ต่างจากลูกโป่งที่มีรูรั่ว
เชี่ย!
ถึงขีดจำกัดแล้วสินะ
ไม่สามารถยื้อไปได้นานกว่านี้อีกแล้ว
และกู่โจวก็ทราบดีเช่นกัน
“ฮ่า ๆๆ มดปลวกต่ำต้อย เจ้ามีดีเพียงเท่านี้เองหรือ? ช่างน่าผิดหวังเหลือเกิน”
กู่โจวเพิ่มน้ำหนักฝ่าเท้ากดทับลงไปที่ศีรษะของหลินเป่ยเฉินมากขึ้น
หลินเป่ยเฉินยังคงต้านทานด้วยกระบวนท่า ‘ภูผาชมดาว’
กร๊อบ!
น้ำหนักของฝ่าเท้าเพิ่มขึ้น
แขนสองข้างของเด็กหนุ่มสั่นเทา ได้ยินเสียงกระดูกแตกหักดังอย่างชัดเจน
ร่างกายของหลินเป่ยเฉินลดขนาดเล็กลงอย่างรวดเร็ว
ความเหนื่อยล้าถาโถม
ร่างกายถึงขีดจำกัดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“มดปลวกต่ำต้อย เจ้ายังคิดเล่นลูกไม้อันใดอีก? ตัดใจเสียเถอะ อย่างไรก็ไม่ได้ผลหรอก”
“เจ้ามันก็เป็นเพียงผู้อ่อนแอเท่านั้น”
เสียงของกู่โจวดังกังวานไปทั่วในลักษณะของคลื่นพลัง
นี่คือการพยายามบั่นทอนจิตใจหลินเป่ยเฉิน
หลินเป่ยเฉินกลับมาอยู่ในขนาดร่างกายปกติ และนำรถมอเตอร์ไซค์ Zongshen 250 เรโทรออกมาขี่ และเมื่อโคจรพลังปราณใส่ลงไป เปลวไฟก็พุ่งจากท่อไอเสีย แล้วเจ้าสองล้อคู่ใจก็พาหลินเป่ยเฉินพุ่งทะยานไปข้างหน้า
เด็กหนุ่มอยู่ในท่วงท่าที่แปลกประหลาดยิ่งนัก
เขาโน้มตัวมาด้านหน้าและโก่งก้นไปทางด้านหลัง
เมื่อหวังเฟิงหลิวและพรรคพวกเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมาโดยพลัน
นายน้อยยังคิดโจมตีอยู่อีกหรือ?
“พวกเราไปช่วยเขากันเถอะ”
ฉู่เหินทนอยู่เฉย ๆ ไม่ได้อีกแล้ว
เซียวปิงโยนไส้กรอกในมือทิ้งไปและพับแขนเสื้อ เตรียมตัวระเบิดพลังต่อสู้…
เยว่หงเซียงก็กำลังจะสร้างค่ายอาคมขึ้นมาแล้วเช่นกัน
แต่ทันใดนั้น…
“พวกเราไปกันเถอะ!”
หลินเป่ยเฉินก็มาปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้าหวังเฟิงหลิวและทุก ๆ คน
“ฮ่า ๆๆ เจ้าหนีไม่รอดหรอก วันนี้ข้าจะฆ่าสหายของเจ้าก่อน จากนั้นค่อยจับตัวเจ้ามา… หลินเป่ยเฉิน เจ้ามดปลวกต่ำต้อย วันนี้เจ้าต้องทิ้งชีวิตเอาไว้ที่นี่”
กู่โจวถูนิ้วมือของตนเองอีกครั้ง แล้วลูกไฟขนาดใหญ่ยักษ์หลายร้อยดวง ก็ปรากฏขึ้นมาล้อมรอบพวกของหลินเป่ยเฉินอยู่ตรงกลาง…
นี่คือกรงขังแห่งไฟอย่างแท้จริง
“ตัวบัดซบ ฝากไว้ก่อนเถอะ”
เสียงคำรามของหลินเป่ยเฉินดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ก่อนที่ร่างของเขาพร้อมด้วยหวังเฟิงหลิว เยว่หงเซียงและคนอื่น ๆ จะหายวับไปกลางอากาศโดยไม่มีสัญญาณเตือน
“นี่มันอะไรกัน?”
สีหน้าของกู่โจวแปรเปลี่ยนไป
เกิดอะไรขึ้น?
กรงขังไฟจากวิชาวายุอัคคีสลาตันนั้นสร้างขึ้นอย่างแน่นหนา ไม่ว่าวัตถุเล่นแร่แปรธาตุชนิดใดก็ไม่สามารถใช้งานได้ แล้วหลินเป่ยเฉินกับพรรคพวกหายตัวไปได้อย่างไร?
แท้ที่จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่?