เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 119 ใครคือคนเลวกันแน่(ต้น)
บทที่ 119 ใครคือคนเลวกันแน่?(ต้น)
“ยังไงเจ้าก็ควรระวัง” เสวี่ยเอ๋อร์รู้สึกมั่นใจมากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น “เจ้าควรจะไปที่บ่อนเพื่อจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวของเจ้าเองมากกว่า”
“ไม่จำเป็นเลยสำหรับเรื่องนั้น” เหมยเชาฟง กรอกสุราเข้าปากอึกใหญ่ก่อนจะพูดต่อ “ดอกบ๊วยเจ็ดอาจจะอ่อนแอในด้านการบ่มเพาะ แต่ความสามารถที่แท้จริงของเขาคือในเรื่องการพนัน มากกว่าสิบปีที่ข้าให้เขาดูแลบ่อน มันยังไม่มีใครที่สามารถจัดการกับเขาได้เลยในเรื่องการวางเดิมพัน และยิ่งไปกว่านั้นบรรดาคนงานของข้าในบ่อนก็นับว่าไม่ธรรมดาเช่นกัน เอาเป็นว่าท่านไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ ท่านนั่งรออยู่เฉย ๆที่นี่เพื่อฟังข่าวดีอย่างเดียวก็พอ!”
…
ในขณะเดียวกันที่บ่อน ดอกบ๊วยเจ็ด ยืนอยู่ต่อหน้า ซูอัน ด้วยรอยยิ้มเบิกบาน “นายน้อยซู ข้าขอทราบได้ไหมว่าวันนี้ท่านต้องการเล่นอะไร”
พูดตามตรงแล้ว ดอกบ๊วยเจ็ด รู้สึกหงุดหงิดกับการที่เขาต้องมายืนแสดงสีหน้าเอาอกเอาใจไอ้คนขยะผู้นี้ แต่เขารู้ว่าการเสียสละของเขาจะได้การตอบแทนในไม่ช้า เขาจึงอดทนรออยางใจเย็นและเมื่อไหร่ที่ ซูอัน เสียจนหมดตัว ถึงเวลานั้นเขาค่อยหัวเราะที่หลังก็ยังไม่สาย!
“การเดิมพันไหนที่ขึ้นอยู่กับโชคมากที่สุด?” ซูอัน มองไปรอบ ๆ ขณะที่เขาถามกลับ เหตุผลที่เขากล้ามาที่บ่อนแห่งนี้เพื่อ ‘ถอนเงิน’ แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะเขาเป็นเทพเจ้าแห่งการพนัน แต่ทว่าเขามีเครื่องมือที่ไว้ใจได้ซึ่งเรียกว่าโอสถโชคลาภอยู่ในมือ!
ถึงแม้ว่าของบางชิ้นที่คีย์บอร์ดมอบให้นั้นมันจะดูไร้สาระ แต่ถ้าใช้พวกมันอย่างเหมาะสม มันก็สามารถสร้างส่งผลกระทบได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซูอัน รู้สิ่งนี้เพราะเขามีประสบการณ์นี้ด้วยตัวเองมาหลายครั้ง
ยกตัวอย่างเช่น โอสถโชคลาภ ตอนแรกเขาวางแผนที่จะใช้มันกับระบบสุ่มรางวัล แต่เมื่อเขาเห็นว่าระบบกำหนดแสดงเงื่อนไขว่าเขาใช้กับการสุ่มรางวัลของคีย์บอร์ดไม่ได้เขาก็ผิดหวังไปอยู่พักใหญ่ด้วยความที่ไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้ที่ไหนอีกดี
จนกระทั่งการปรากฏตัวของ ดอกบ๊วยสิบสาม เมื่อเย็นนี้ทำให้เขามีความคิดใหม่ผุดขึ้นในใจของเขา มันเป็นเรื่องจริงบางส่วนที่ทักษะก็มีอิทธิพลอย่างมากต่อผลลัพธ์ของการเดิมพัน แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดก็คือโชคช่วย หากมีโชคเข้าข้าง แม้แต่เจ้ามือที่มีทักษะเหนือล้ำก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้
แน่นอนว่าเรื่องนี้จะเกิดได้ขึ้นจากเงื่อนไขที่ว่าเจ้ามือต้องไม่โกง มิฉะนั้น แม้แต่คนที่โชคดีที่สุดในโลกก็คงจะต้องหมดตัวไปโดยปริยาย
และด้วยเหตุนั้น เขาจึงต้องพา ฉู่ชูเหยียน มาด้วย มันไม่ได้เป็นเพียงเพราะคำนึงถึงความปลอดภัยของเขาเอง แต่เขายังต้องแน่ใจว่าเจ้ามือในบ่อนจะไม่โกง
ถึงแม้ว่า ฉู่ชูเหยียน แทบไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการพนัน แต่ด้วยระดับการบ่มเพาะระดับ 5 ของนาง มันจึงน่าจะทำให้นางสามารถเห็นกลอุบายต่าง ๆที่เจ้ามือไม่ว่าคนไหนอาจก่อขึ้นได้
“การเดิมพันที่ต้องอาศัยโชคมากที่สุดก็คือการทอยลูกเต๋า!” ดอกบ๊วยเจ็ดตอบกลับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
อย่างไรก็ตาม ในความคิดของ ดอกบ๊วยเจ็ด นั้นกลับสวนทางกับคำพูดของเขา เพราะหากมองแบบคนทั่วไปการทอยลูกเต๋าดูเหมือนจะขึ้นอยู่กับโชค แต่จริง ๆ แล้วหากเจ้ามือมีความทักษะสักหน่อยเขาจะสามารถเปลี่ยนแต้มลูกเต๋าให้ออกอย่างไรก็ได้ตามที่ใจนึก!
“ทอยลูกเต๋างั้นเหรอ? มันเล่นยังไง?” ซูอัน ถามกลับ
“ง่ายมากนายน้อยซู ท่านก็แค่เดาว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจากลูกเต๋าสองลูกมันจะเป็นตัวเลข ‘สูง’ หรือ ‘ต่ำ’ ก็แค่นั้นเอง” ดอกบ๊วยเจ็ดตอบกลับทันที
“ในเมื่อมันง่ายแบบนี้ถ้างั้นทำไมเจ้าไม่เรียกมันว่า ‘สูงต่ำ’ ทำไมเจ้าต้องตั้งชื่อให้ผู้คนถามให้มันซ้ำซ้อนแบบนี้ด้วย?” ซูอัน เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าดูถูก ราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงลาโง่ตัวหนึ่ง
ถึงอย่างนั้น ดอกบ๊วยเจ็ด ไม่ได้แสดงท่าทีโกรธเคืองเมื่อแต่น้อยในครั้งนี้
ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่รู้จักการทอยลูกเต๋าเลยด้วยซ้ำ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าถึงเสียเงิน 1,000 ตำลึงเงินเมื่อครั้งล่าสุดที่มา ครั้งนี้ ข้าจะทำให้แน่ใจว่าเจ้าจะสูญเสียอย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่า 10,000 ตำลึงเงิน ไม่สิ หลายหมื่นตำลึงเงินแน่นอน!
“ฮ่าฮ่าฮ่า ซูอัน! เจ้านี่มันรนหาที่ตายจริง ๆ ที่มาถึงถิ่นของข้าแบบนี้!” จู่ ๆ เสียงหัวเราะเยาะเย้ยก็ดังขึ้นที่หน้าประตู
ซูอัน หันกลับมาทันทีซึ่งเขาก็ได้เห็นว่าคนที่พูดไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ดอกบ๊วยสิบสาม ซึ่งนั่งอยู่บนรถเข็น ดวงตาของดอกบ๊วยสิบสามตอนนี้แดงก่ำไปด้วยความเดือดดาลและบ้าคลั่ง
ดอกบ๊วยเจ็ด แสดงสีหน้าตื่นตระหนกกับการมาถึงของ ดอกบ๊วยสิบสาม ทันที! น้องสิบสามเจ้ามาทำบ้าอะไรตอนนี้! เจ้าอดทนรออีกสักหน่อยไม่ได้หรือไง? ขืนเจ้ามาขู่ให้มันกลัวแบบนี้ มันจะเป็นยังไงถ้า ซูอัน ลังเลใจที่จะเล่นแล้วหนีหางจุกตูดไป?
ในทางกลับกัน ซูอัน กลับทำหน้าดีใจที่ได้เห็นดอกบ๊วยสิบสามเขาพูดขึ้นทันทีด้วยสีหน้าเยาะเย้ย “ว้าว ๆ ดูสิว่าใครมา ฮ่าฮ่า ที่แท้ก็คนพิการเดินไม่ได้นี่เอง เฮ้ คนพิการอย่างเจ้าควรจะนอนอยู่บ้านไม่ใช่หรืออย่างไร เจ้าไม่กลัวเหรอว่าหากเจ้ายังคงเคลื่อนไหวไปทั่วแบบนี้ มันอาจจะเป็นไปได้ว่าแขนของเจ้าอาจจะหักเพิ่มขึ้นอีก?”
ดอกบ๊วยสิบสาม กัดกรามเสียงดังกรอด ไม่กังวลเลยว่าเหงือกของเขาจะพัง “ไอ้เวรซูอัน! ตอนนี้อาจารย์ของสถาบันไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ เพื่อปกป้องเจ้าแล้ว มาดูกันว่ารอบนี้เจ้าจะรอดตัวไปได้ยังไง! เด็ก ๆ หักแขนหักขาของไอ้เวรนั่นให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
ท่านยั่วยุ ดอกบ๊วยสิบสาม สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +798!
“รับทราบ!”
ด้วยตำแหน่งในสำนักของ ดอกบ๊วยสิบสาม ที่อยู่ในระดับสูง มันจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะมีผู้ใต้บังคับบัญชามากมายภายใต้เขา
เมื่อได้ยินคำสั่ง คนของสำนักดอกบ๊วยก็พุ่งตัวเข้าใส่ ซูอัน ทันที
แน่นอนว่า ซูอัน รอให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นอยู่แล้ว เขารีบไปซ่อนตัวอยู่ข้างหลังฉู่ชูเหยียนทันที และอุทานด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
“ที่รัก เจ้าเห็นไหม! ขนาดอยู่ต่อหน้าเจ้าไอ้คนพวกนี้มันยังกล้าแสดงท่าทีกำแหงขนาดนี้เลย! นี่น่าจะเพียงพอที่จะพิสูจน์ได้แล้วใช่ไหมว่าข้าไม่ได้โกหกเจ้า?”
ฉู่ชูเหยียน ไม่พอใจกับการที่ ซูอัน เรียกนางว่า ‘ที่รัก’ แต่เนื่องจากตอนนี้พวกเขาอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย มันคงไม่เหมาะสมหากจะดุด่าเขาในตอนนี้ ดังนั้นนางจึงเลือกที่จะระบายความโกรธไปที่ดอกบ๊วยสิบสามแทน “เมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”
พร้อมกันกับที่ ฉู่ชูเหยียนเอ่ยขึ้น จู่ ๆ อุณหภูมิทั่วบริเวณก็ลดลงอย่างกระทันหัน ทำให้บ่อนที่พลุกพล่านพลันเงียบลงอย่างน่าขนลุก นักพนันหลายคนพบว่าร่ายกายของตนสั่นเทาอย่างอธิบายไม่ถูก
ดอกบ๊วยสิบสามก็ประหลาดใจเช่นกัน เขารีบมาที่นี่ทันทีที่ได้ยินว่า ซูอัน เข้ามาในบ่อน แต่เขาไม่คาดคิดว่า ฉู่ชูเหยียน จะอยู่ที่นี่ด้วย หากเขารู้เช่นนี้มาก่อนเขาคงไม่กล้าย่างกรายเข้ามาที่นี่แน่นอน
นางเป็นถึงผู้บ่มเพาะระดับ 5 เชียวนะ! มีแต่เจ้าสำนักคนเดียวเท่านั้นที่ต่อกรกับนางได้ ไม่ใช่แค่นั้นให้คนของสำนักดอกบ๊วยรวมกันทั้งหมดก็ไม่สามารถทำอะไรนางได้แม้แต่เส้นผมของนาง!
ดอกบ๊วยเจ็ดก้าว ออกมาข้างหน้าทันทีเพื่อไกล่เกลี่ยในช่วงเวลาตึงเครียดนี้ “คุณหนูใหญ่ฉู่ โปรดใจเย็นลงก่อนนี่มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็เท่านั้น! น้องสิบสามของข้าตอนนี้กำลังบาดเจ็บ สมองของเขาเลยเลอะเลือนไปสักหน่อย ข้าเชื่อว่าเขาน่าจะทักคนผิดแน่นอน”
“ทักคนผิดงั้นเหรอ?” ฉู่ชูเหยียน เย้ยหยันกับคำพูดของดอกบ๊วยเจ็ด จากนั้นนางหันไปหา ซูอัน และถามว่า “เจ้าต้องการให้ข้าจัดการกับเขาอย่างไร?”