เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 15 น้ำยาศรัทธาพี่น้อง (ต้น)
บทที่ 15 น้ำยาศรัทธาพี่น้อง (ต้น)
สีหน้าแปลกประหลาดบนใบหน้าของผู้เฒ่ามี่หายไปในที่สุดเมื่อเขาเห็นความเจ็บปวดที่บังเกิดขึ้นกับซูอันตอนนี้ “ข้าก็สงสัยอยู่ว่าเจ้าสามารถอดทนต่อความทรมานที่เกิดจากแส้คร่ำครวญได้อย่างไร ที่แท้เจ้ากลับทนมันได้ด้วยพลังใจที่แข็งแกร่งล้วน ๆ จิตใจของเจ้านั้นช่างน่าชื่นชมจริง ๆ ”
ทว่าซูอัน ในยามนี้กำลังก่นด่าในใจอย่างไม่หยุดหย่อน นี่เราได้เส้นใยสุขสันต์ของปลอมหรือเปล่า? ไม่ใช่ว่ามันจะทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานต่อความเจ็บปวดหรือไง? แล้วนี่มันเกิดบ้าอะไรวะเนี่ย? !
แต่ไม่นานเขาก็ตระหนักได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เส้นใยสุขสันต์มีผลอยู่แค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น และระยะเวลาหนึ่งชั่วโมงนั้นก็หมดลงแล้ว แม้ว่ามันจะทำให้เขาสามารถทนต่อความเจ็บปวดสิบเท่าของแส้คร่ำครวญได้ในช่วงเวลานั้น แต่บาดแผลที่เกิดจากแส้ยังคงอยู่ และตอนนี้ผลของภูมิคุ้มกันความเจ็บปวดได้สิ้นสุดลงแล้ว
ผู้เฒ่ามี่เดินเข้าไปตรวจดูบาดแผลของ ซูอัน “นับว่าเจ้ายังพอจะมีโชคอยู่บ้าง เพราะหากนางฟาดเจ้าเพิ่มอีกเพียงแค่ครั้งเดียว เจ้าคงได้ตายตายจริง ๆ แน่” ชายสูงวัยเอ่ยอย่างประหลาดใจ “แต่ร่างกายของเจ้านั้นช่างอ่อนแอจริง ๆ ข้าไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าเจ้าสามารถทนรับแส้ได้ยังไงตั้งหลายครั้ง”
วินาทีนั้น ซูอันก็นึกถึงผลลัพธ์อีกข้อหนึ่งของเส้นใยสุขสันต์ขึ้นมาได้ ‘ความเสียหายร้ายแรง’ ใด ๆ ที่เกิดจากหญิงสาวที่มีเงินมากกว่าเราจะไม่ลดพลังชีวิตของเราจนเหลือศูนย์ ถูกหรือเปล่า?
เฮ้ย นั้นไม่ใช่หมายความว่าตอนนี้…เราจะมีข้อได้เปรียบเป็นอย่างมากเวลาที่สู้กับผู้หญิงที่รวยกว่าเราหรอกเหรอ?
เขาตบหน้าตัวเองในใจ นี่แกคิดบ้าอะไรอยู่! จะมีผู้ชายแบบไหนที่สู้กับผู้หญิงบ้าง? ปัญหาก็คือข้อกำหนดมากมายในการใช้เส้นใยสุขสันต์ทำให้มันไม่สามารถใช้งานได้โดยง่าย
ผู้เฒ่ามี่หยิบขวดยาออกมา เพียงการสะบัดมือเพียงเล็กน้อย ผงยาในขวดก็ตกลงบนบาดแผลของชายหนุ่ม “เอายาสองขวดนี้ไป ขวดหนึ่งใช้ภายนอก ส่วนอีกขวดหนึ่งใช้กิน ใช้เวลาพักฟื้นสักสองสามวัน แล้วอย่าปล่อยให้ตัวเองถูกฆ่าตายไปเสียก่อนล่ะ”
ซูอันรู้สึกถึงความเย็นและสดชื่นที่บริเวณบาดแผลของตนเอง เขารู้สึกดีขึ้นมากและเอ่ยด้วยความขอบคุณจากใจจริง “ผู้อาวุโส ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าข้าควรจะขอบคุณท่านอย่างไรดี”
ผู้เฒ่ามี่หัวเราะเล็กน้อย “ไม่ต้องห่วง อีกไม่นาน เดี๋ยวเจ้าก็รู้เอง” เขายิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
ซูอันเองก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก ตอนนี้เขากำลังจดจ่ออยู่กับการคำนวนแต้มทั้งหมดที่ตนได้รับมา โดยรวมแล้ว เขาได้คะแนนความโกรธแค้นจากฉู่ฮวนเจามาทั้งสิ้น 1,444 แต้ม นั่นหมายความว่าเขาสามารถเล่นระบบสุ่มได้ 14 ครั้ง!
แค่คิดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้ความประทับใจของเขาที่มีต่อเด็กสาวดีขึ้น นางมีศักยภาพมากพอที่จะเป็นตู้ ATM ให้กับเขาในอนาคต!
เขาไม่มีอะไรให้ทำนอกจากนอนอยู่บนเตียงเฉย ๆ ดังนั้นซูอันจึงตัดสินใจที่จะเริ่มเล่นระบบสุ่ม โชคดีที่แป้นคีย์บอร์ดสามารถควบคุมด้วยความนึกคิดของเขาได้ ไม่เช่นนั้น ร่างกายเขาที่กำลังอ่อนแรงถึงขีดสุดคงไม่มีแรงแม้แต่จะกดแป้นพิมพ์ด้วยซ้ำ
เขาใช้ความคิดของตัวเองเพื่อเลื่อนให้ลูกศรไปตกลงที่ปุ่มสุ่ม จากนั้นก็มองดูแสงที่สว่างวาบขึ้นไปตามจุดต่าง ๆ ของแป้นคีย์บอร์ดอย่างใจจดใจจ่อ ครั้งนี้เราจะได้รางวัลแบบไหนกันนะ?
แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ ครั้งนี้ แสงสว่างดังกล่าวกลับกะพริบแค่บนแป้นตัวเลขและสเปซบาร์เท่านั้น มันไม่กะพริบไปที่ส่วนของตัวอักษรเลยสักนิด และทันใดนั้นเอง เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าก่อนหน้านี้มันมีบันทึกเกี่ยวกับข้อจำกัดของจำนวนของรางวัลเพียงส่วนหนึ่งที่เขาสามารถได้รับจากการสุ่มนี้ ซึ่งสาเหตุที่การสุ่มสามครั้งแรกไม่มีข้อจำกัดก็เพราะว่าพวกมันคือรางวัลสำหรับมือใหม่ เขาคงจะต้องหาทางปลดล็อกตัวอักษรพวกนี้ในอนาคต
เดี๋ยวนะ เรายังจำได้ว่ามันบอกว่า ‘เพิ่มอัตราการดรอปอย่างมหาศาล’ สำหรับการสุ่มสามครั้งแรก…แต่มันกลับยังมีคำว่า ‘ขอบคุณที่ร่วมสนุก’ ขึ้นมา…ถ้าอย่างนั้นคงไม่ได้หมายความว่าอัตราการดรอปปกติจะ…
ขอบคุณที่ร่วมสนุก!
ซูอันขมวดคิ้ว แต่เขาก็พอจะคาดการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้อยู่แล้วและไม่ได้คิดอะไรมาก จากนั้นจึงใช้คะแนนความโกรธแค้นอีก 100 แต้มในการสุ่มอีกครั้งทันที
ขอบคุณที่ร่วมสนุก!
ขอบคุณที่ร่วมสนุก!
ขอบคุณที่ร่วมสนุก!
……
สุ่มไปแปดครั้ง! และทั้งหมดก็ขึ้นแค่ว่า ‘ขอบคุณที่ร่วมสนุก’!
โอ๊ยยยย ไม่ไหวแล้วนะเว้ย!….ซูอันโมโหจนอยากจะพังแป้นคีย์บอร์ดตรงหน้าให้เป็นเสี่ยง ๆ เสียดายที่เขาไม่สามารถเพิ่มคะแนนความโกรธแค้นจากตัวเองได้ ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะได้คะแนนเต็มไปแล้ว
ชายหนุ่มอยากจะไปอาบน้ำก่อนและกลับมาสุ่มใหม่อีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่เขาบาดเจ็บหนักจนไม่สามารถขยับตัวได้ แล้วจะให้เอาแรงที่ไหนมาลุกไปอาบน้ำ?
ซูอันไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาเย็นยะเยือกคู่หนึ่งกำลังมองมาที่ตนจากนอกหน้าต่าง
หากเขารู้ เขาจะต้องจดจำเจ้าของร่างเพรียวผู้เป็นสาวใช้ส่วนตัวของฉู่ชูเหยียน เสวี่ยเอ๋อร์คนนั้นได้แน่
ผู้ชายคนนี้บ้าไปแล้วหรือไร? ประกายแห่งความสับสนฉายออกมาจากดวงตาคู่ง่ามของเสวี่ยเอ๋อร์ขณะที่นางมองใบหน้าบูดเบี้ยวของซูอัน อีกฝ่ายกำลังสะบัดมือและกระทืบเท้าอย่างบ้าคลั่ง ทว่าเมื่อนางสังเกตดี ๆ นางก็เห็นบาดแผลที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดบนร่างกายของชายหนุ่มแล้วจึงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ “แส้คร่ำครวญอย่างนั้นหรือ?”
นางจำร่องรอยที่เกิดจากอาวุธของคุณหนูสองได้ดี สีหน้าแปลกประหลาดขึ้นบนใบหน้า “มันคงจะดีกว่าหากเจ้าจะตายด้วยน้ำมือของนาง เพราะหากข้าลงมือด้วยตัวเอง มันก็จะเสี่ยงต่อการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของข้า…” นางรู้ดีว่าเจ้าลูกเขยไร้ประโยชน์ผู้นี้อ่อนแอเพียงใด มันไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะสามารถมีชีวิตรอดได้แน่หลังจากที่รับการโจมตีจากแส้คร่ำครวญไปมากขนาดนั้น ซูอันจะต้องตายอยู่บนเตียงอย่างแน่นอน
นางจึงหมุนตัวและเดินกลับไปที่ห้องของตนเอง หลังจากตรวจดูจนแน่ในแล้วว่าไม่มีผู้ใดอยู่รอบ ๆ นางก็เริ่มแทะเมล็ดแตงโมขณะที่เขียนข้อความลงบนแผ่นกระดาษอย่างรวดเร็ว
“นายน้อยที่เคารพ โปรดวางใจ คุณหนูฉู่ยังคงบริสุทธิ์และไร้มลทิน ทั้งสองไม่ได้นอนร่วมห้องกันแต่อย่างใด นอกจากนี้ โปรดเชื่อใจว่าข้าจะสามารถกำจัดซูอันได้โดยเร็วที่สุด หวังว่าท่านจะได้รับข่าวดีในเร็ววัน”
ในตอนแรก นางได้เขียนถึงเหตุการณ์ที่ซูอันทำให้นางจมน้ำด้วย แต่นางก็ลังเลและลบส่วนนั้นทิ้งไป นางไม่แน่ใจว่าว่าตัวเองจะต้องอธิบายว่าอะไร และนางก็ไม่ต้องการให้นายน้อยรู้ว่ามีผู้ชายอีกคนได้สัมผัสกับเรือนร่างของนาง
นางกัดฟันแน่นอย่างโกรธแค้นเมื่อนึกถึงตอนที่ไอ้ชั่วซูอันสัมผัสกับร่างกายแทบทุกส่วนของนางที่สระน้ำ และยังเกือบจะเตลิดไปมากกว่านั้นที่ห้องของคุณหนูฉู่ ฟันเรียงสวยกัดเมล็ดแตงโมอย่างเกลียดชัง นางหวังว่าชายหนุ่มจะได้รับความทรมานอย่างสาสมก่อนที่เขาจะตายในค่ำคืนนี้
ความทรงจำที่ฉู่ชูเหยียนสั่งให้นางร่วมเตียงกับซูอันก่อนหน้านี้ผุดขึ้นมาในหัว เสวี่ยเอ๋อร์กัดริมฝีปากของนาง จากนั้นจึงเขียนข้อความเพิ่มอีกนิด “นอกจากนี้…ข้าอาจจะคิดมากเกินไป แต่ข้ารู้สึกว่าคุณหนูฉู่เริ่มสงสัยในตัวข้าอยู่หน่อย ๆ แล้วดังนั้นหลังจากนี้ข้าอาจส่งข่าวให้ท่านได้ไม่ถี่เหมือนเดิม”
หลังจากเขียนจดหมายจบ นางก็ปิดผนึกมันและเรียกเหยี่ยวตัวหนึ่งที่บินอยู่บนท้องฟ้าให้ลงมาจากนั้นนางผูกจดหมายของตนไว้ที่เท้าของมันและพูดว่า “รีบส่งจดหมายนี้ให้กับนายน้อยโดยเร็ว”
เจ้าเหยี่ยวเองก็ดูคล้ายกับจะเข้าใจภาษามนุษย์ มันกางปีกออกและบินไปในท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างรวดเร็ว