เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 182 โชคชะตา
บทที่ 182 โชคชะตา
คำพูดของ ซูอัน ทำให้ ฉู่ชูเหยียน อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างขบขัน ส่วนทางด้านของ ฉู่ฮวนเจา ก็เริ่มอธิบายให้เขาฟัง “พี่เขยคนโง่! นี่ท่านไม่เคยได้ยินชื่อซือคุน ของตระกูลซือเลยหรือไง?”
“เขามีชื่อเสียงมากหรือ?” ซูอัน ถามกลับ “แต่เอ๊…ข้าเองก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ในเมืองจันทร์กระจ่างเช่นกัน แต่ทำไมกลับไม่มีใครเคยมารวมตัวกันเพื่อมอบดอกไม้และผลไม้ ให้ข้าบ้างเลย?”
แม้แต่ ฉู่ฮวนเจา ที่รู้สึกดีกับ ซูอัน ก็พบว่ามันยากที่จะทนฟังคำหลงตัวเองแบบนี้ นางกลอกตาแล้วพูดว่า “พี่เขยชื่อเสียงของท่านมันคือชื่อเสีย! แต่ส่วนของ ซือคุน นั้นเขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงอย่างแท้จริง! เป็นที่รู้จักกันอยู่แล้วว่ารูปลักษณ์และหน้าตาของเขาหล่อเหลาสมบูรณ์แบบ นี่ท่านไม่เคยได้ยินเรื่อง ‘ต้อนรับรถม้าด้วยผลไม้และดอกไม้’ เลยหรือไง?”
“ไม่…” ซูอัน รู้สึกสับสน นี่มันอะไรกันเนี่ย?
“ข้าว่าข้าออกไปดูชายผู้นั้นสักหน่อยดีกว่าว่าเขาหล่อเหลาสมคำร่ำลือจริงหรือเปล่า!” ฉู่ฮวนเจา ลุกขึ้นยืนและเตรียมที่จะกระโดดออกจากรถม้า แต่แล้วนางก็ถูกหยุดโดยพี่สาวของนาง
ฉู่ชูเหยียน พูดขึ้นอย่างใจเย็น “ตระกูลซือ อยู่ฝ่ายจักรพรรดินี มันเป็นการดีที่สุดสำหรับเจ้า ที่จะไม่ติดต่อกับเขา”
ซูอัน พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของ ฉู่ชูเหยียน เขาจ้องไปที่ ฉู่ฮวนเจา ที่กำลังแสดงสีหน้าตื่นเต้นด้วยสายตาหมั่นไส้เล็กน้อยและพูดว่า “ดูเหมือนว่าพ่อแม่ของเจ้าคิดถูกแล้วที่คอยจ้ำจี้จ้ำไชเจ้าตลอดเวลา เมื่อไหร่เจ้าจะเรียนรู้ที่จะโตเป็นผู้ใหญ่เหมือนพี่สาวของเจ้าบ้าง!”
ฉู่ฮวนเจา ทรุดตัวกลับไปยังที่นั่งของนาง นางทำหน้ามุ่ยพร้อมกับบ่นอุบว่า “พี่เขย ข้ารู้ว่าท่านแค่อิจฉา!”
ซูอัน เชิดหน้าของเขาและตอบกลับอย่างภาคภูมิใจ “ไม่ว่าเขาจะหล่อแค่ไหน แต่เขาก็ไม่มีทางหล่อมากไปกว่าข้าได้จริงไหม? ถ้าเจ้าอยากเห็นผู้ชายที่หล่อเหลาเจ้าแค่มองมาที่ข้าก็พอแล้ว!”
คำพูดนี้ทำให้แก้มของ ฉู่ฮวนเจา เปลี่ยนเป็นสีแดง นางเบือนหน้าหนีและบ่นเขาเบา ๆ ว่า “หน้าด้าน~”
ทันใดนั้นเสียงที่อ่อนโยนก็ดังขึ้นจากภายนอก “แม่นางฉู่ ท่านอยู่ข้างในหรือเปล่า? ซือคุนจากเมืองหลวงอยากจะพบเจ้าอีกสักครั้ง…”
เสียงอุทานชวนฝันดังขึ้นข้างนอกทันที
“ว้าว~ ข้าอยากให้นายน้อยซือเอ่ยปากชวนข้าแบบนี้บ้างจังเลย!”
“ ชิ เจ้าควรส่องกระจกมองดูหน้าของเจ้าเองก่อนว่าเจ้าคู่ควรหรือไม่!”
“เจ้าเองสวยตายนักแหละ!”
“หยุดเถียงกันได้แล้ว พวกเจ้าไม่มีใครสามารถแข่งกับ คุณหนูใหญ่ฉู่ ได้ในแง่ของหน้าตา!”
“ชิ ต่อให้สวยแค่ไหนก็ไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่านางแต่งงานแล้ว ดังนั้นหญิงสาวบริสุทธิ์อย่างข้าย่อมเหมาะสมกับนายน้อยซือมากกว่าเป็นไหน ๆ !”
…
เสียงของเหล่าสาว ๆ ด้านนอกที่กำลังเถียงกันกระตุ้นความอยากรู้ของ ซูอัน จนอดไม่ได้ที่จะแหวกม่านของรถม้าออกเล็กน้อยเพื่อดูสถานการณ์ด้านนอก ซึ่งเขาก็ได้เห็นว่ามีผู้หญิงสองสามคนเป็นลมหมดสติไปแล้ว
ถุย! ข้าก็คิดว่าข้าจะได้เห็นผู้หญิงสวยๆ ข้างนอกนั่น ที่แท้พวกนางก็เป็นแค่พวกยายแก่ ๆ เทียบไม่ได้กับหญิงรับใช้ในคฤหาสน์ตระกูลฉู่ด้วยซ้ำ บ้าเอ๊ย!
ดูเหมือนว่านายน้อยซือ อาจจะไม่หล่อเหลาเหมือนกับข่าวลือก็ได้ล่ะมั้ง?
ด้วยความคิดดังกล่าว ซูอันจึงกวาดสายตาไปรอบ ๆ ซึ่งอึดใจถัดมาเขาก็ได้เห็นบางสิ่งที่เกือบจะทำให้ตาของเขาพร่ามัว มันเป็นผู้ชายที่ดูดีมีเสน่ห์มากจนสามารถร้องเพลงสรรเสริญให้ได้เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงติดต่อกัน!
หล่อเกินห้ามใจ!
แม้แต่ซูอันก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับเรื่องนี้ ในแง่ของรูปลักษณ์อีกฝ่ายเกือบจะเทียบเทียมเขาได้อย่างไม่ยากเย็น! เมื่อเห็นเช่นนี้เขารีบหันกลับมามอง ฉู่ชูเหยียน อย่างกังวลใจ
โดยไม่คาดคิด ฉู่ชูเหยียน กลับดูสงบอย่างสมบูรณ์แบบแทบไม่ตอบสนองเลยแม้สักนิด หญิงสาวตอบอย่างใจเย็นว่า “ข้าคงต้องขออภัยที่ข้าจำเป็นต้องปฏิเสธนายน้อยซือ มันไม่สะดวก จริง ๆ สำหรับผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอย่างข้าที่จะพบกับชายอื่นเป็นการส่วนตัว”
หลังจากพูดจบนางก็สั่งให้คนขับรถม้าออกเดินทางต่อ
ซูอัน รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขารู้สึกอยากจะโถมตัวไปข้างหน้าเพื่อกอดภรรยาของเขาให้แน่น ๆ ที่ผ่านมาเขาคิดว่าภรรยาของเขาปฏิบัติต่อเขาอย่างเย็นชาเพราะนางรังเกียจเขา แต่กลับกลายเป็นว่าจริง ๆ แล้วปฏิบัติตัวแบบนี้กับผู้ชายทุกคนโดยไม่ลำเอียง!
เมื่อคิดถึงความจริงในข้อนี้ มันอาจกล่าวได้ว่านางปฏิบัติต่อเขาค่อนข้างดีกว่าผู้ชายคนอื่นซะด้วยซ้ำ
…
ในขณะเดียวกัน บนถนน ซือคุนมองไปที่รถม้าที่ค่อย ๆ ออกตัวไปข้างหน้าต่อไปด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด มือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของเขากำหมัดแน่น
ฉู่ชูเหยียน รอก่อนเถอะ เจ้าจะเป็นของข้าในไม่ช้า!
แน่นอนว่าสายตาที่หงุดหงิดของ ซือคุน ไม่สามารถหลบเลี่ยงการสังเกตของบรรดาสาวแก่แม่ม่ายรอบ ๆ ตัวเขาได้ บรรดาผู้หญิงเหล่านั้นยังคงซุบซิบกันในหมู่พวกนางต่อไป
“ชิ ฉู่ชูเหยียน อวดดีอะไรเช่นนี้? นางกล้าดียังไงถึงปฏิเสธน้ำใจนายน้อยซือของเรา!”
“เจ้าก็ทำได้ ถ้าเจ้าสวยพอ!”
“ฮึ่ม! ข้าไม่มีทางปฏิเสธนายน้อยซือแน่นอนไม่ว่าข้าจะสวยแค่ไหนก็ตาม!”
“ถูกต้อง! นางกล้าดียังไงถึงได้ทำตัวอวดดีขนาดนี้? นางลืมตัวไปแล้วหรือไงว่าสามีของนางมันไร้ค่ายิ่งกว่าขยะซะอีก ถึงแม้ว่าข้าไม่สามารถเอาชนะนางได้ในด้านอื่น ๆ แต่อย่างน้อยที่สุด ข้าก็จะได้มีสามีที่เหนือกว่านาง!”
…
ในรถม้า ฉู่ชูเหยียน เริ่มรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเห็นว่า ซูอัน จ้องนางแบบไม่วางตาเลยจนทันทำให้นางอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “เจ้ามองอะไรนักหนา?”
ซูอัน ยิ้มหวานและตอบกลับว่า “ข้ากำลังดูเจ้าอยู่ไงที่รักของข้า! ข้าคิดว่าข้ากำลังตกหลุมรักเจ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ซะแล้ว”
ฉู่ฮวนเจา ไม่สามารถทนต่อคำพูดน้ำเน่าแบบนี้ได้ นางตะโกนรีบขึ้นแทรกทันที “เฮ้ เฮ้ เฮ้ ข้ายังอยู่ตรงนี้ด้วยนะ ท่านช่วยควบคุมตัวเองสักหน่อยจะได้ไหม?”
“อย่าเข้าใจผิด ข้าไม่ได้ปฏิเสธนายน้อยของตระกูลซือ เพื่อเจ้า ข้าแค่ไม่อยากเกี่ยวข้องกับตระกูลซือก็แค่นั้น” ฉู่ชูเหยียน ตอบกลับ
แต่คำพูดของนางไม่ได้ทำให้ความสุขของ ซูอัน ลดลงเลย “ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ข้าดีใจมากที่เจ้าปฏิเสธเขา”
ฉู่ชูเหยียน รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย นางรู้สึกว่าสิ่งที่นางจะสื่อนั้นไปไม่ถึงหัวสมองของ ซูอัน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางตัดสินใจพูดให้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า “ถึงแม้ว่าข้าจะบอกใครต่อใครว่าเป็นภรรยาของเจ้าในเวลาที่อยู่ข้างนอก แต่เราทั้งคู่ต่างก็รู้ดีว่าชีวิตแต่งงานของเรามันเป็นยังไง มันเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะทำหน้าที่ในฐานะภรรยาของเจ้าได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้น ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ จมปลักกับความสัมพันธ์ของเรานี้มากเกินไป ไม่เช่นนั้นตัวเจ้าเองจะต้องทุกข์ทนในอนาคต”
ฉู่ฮวนเจา รู้สึกสงสาร ซูอัน อย่างสุดซึ้งเมื่อนางได้ยินคำพูดนี้ของพี่สาวนาง แม้ว่าจะมี ข่าวลือมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ในคฤหาสน์ แต่มันก็แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเมื่อนางได้ยินความจริงจากปากพี่สาวของนางเอง พี่เขยของข้าคงรู้สึกหดหู่จริง ๆ ที่ได้ยินคำพูดตัดรอนแบบนี้
แต่โดยไม่คาดคิด สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้ความสุขของ ซูอัน ลดลงเลย “ข้ารู้ แต่เจ้าเองก็ควรจะ จำเอาไว้ว่า ไม่ว่าข้าจะชอบเจ้าหรือไม่มันเป็นเรื่องของข้าเอง มันไม่เกี่ยวว่าเจ้าจะชอบข้าหรือเปล่า นอกจากนี้ใครจะรู้? บางทีเจ้าอาจจะตกหลุมรักข้าในอนาคตก็ได้”
ฉู่ชูเหยียน ส่ายหัวโดยไม่ลังเล “นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้”
ซูอัน ยักไหล่และพูดต่อ “เอาล่ะในเมื่อเจ้าพูดออกมาแบบนี้ งั้นข้าคิดว่าข้าควรจะต้องถามเจ้าอีกเรื่องที่สำคัญให้ชัดเจนกันไปเลย ถ้าเจ้าไม่ได้ตั้งใจจะทำหน้าที่รับผิดชอบในฐานะภรรยา ของข้า เจ้าจะรังเกียจไหมถ้าข้ามองหาผู้หญิงคนอื่นมาทำหน้าที่แทนเจ้า?”
ฉู่ฮวนเจา ที่กำลังสงสาร ซูอัน อยู่เมื่อนางได้ยินคำถามนี้ ดวงตาของนางเบิกกว้างด้วยความตกใจทันที ไอ้พี่เขยคนเลว! พี่ใหญ่ของข้าจะสอนบทเรียนเจ้าแน่นอนหากเจ้ากล้านอกใจนาง!
ฉู่ชูเหยียน ประหลาดใจเช่นกัน นางไม่คิดว่าจะได้ยินคำถามเช่นนี้จากปากของ ซูอัน แต่นางก็ยังคงตอบอย่างใจเย็นว่า “ข้าไม่รังเกียจ แต่ว่าเจ้า…”
สายตาของนางค่อยๆ ไล่ตามลงไปที่เป้าของ ซูอัน แต่ตอนนี้น้องสาวของนางอยู่ในรถม้าด้วยดังนั้นนางจึงเลือกที่จะไม่พูดออกมา
“เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น หลังจากนี้ไม่นานข้าจะเป็นปกติแน่นอน!” ซูอัน ตบหน้าอกของเขาอย่างมั่นใจ มันไม่ใช่ว่าเขามั่นใจอะไรนักหนาสำหรับการค้นหาดอกบัวเร้นลักษณ์ แต่เขาแค่รู้สึกว่าเขาจะทำตัวไม่มีความมั่นใจต่อหน้า ฉู่ชูเหยียน ไม่ได้
ฉู่ชูเหยียน เลือกที่จะไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไปอีก นางคิดว่าเขากำลังพยายามปลอบใจตัวเองจากความเป็นจริงที่โหดร้าย
ในทางกลับกัน ขณะนี้ ฉู่ฮวนเจา ตกตะลึงจนอ้าปากค้าง นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นที่นี่? พี่เขย ของข้าเพิ่งจะถามพี่สาวของข้าว่าเขาสามารถนอกใจนางได้หรือไม่ แต่พี่สาวของข้ากลับไม่โกรธเลยแถมยังตอบตกลงไปอีกต่างหาก?
พี่สาว! ท่านคงไม่รู้หรอกว่าพี่เขยของข้าเก่งกว่าที่ท่านรู้มาก! หากท่านอนุญาตเขาแบบนี้ พวกนางจิ้งจอกทั้งหลายจะต้องเข้ามาชิงตัวเขาไปจากมือของท่านอย่างแน่นอน!
ไม่ได้ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ ข้าต้องช่วยพี่ของข้าควบคุมเขาเอาไว้!
ด้วยความคิดที่แตกต่างกันในจิตใจของทั้งสามคนในรถม้า ไม่นานพวกเขาก็ไปถึงสถาบัน สถาบันจันทร์กระจ่างมีกฎที่นักศึกษาไม่สามารถนั่งรถม้าเข้าโรงเรียนได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องลงจากรถม้าที่ทางเข้า
การปรากฏตัวของ ฉู่ชูเหยียน ทำให้เกิดความโกลาหลที่หน้าทางเข้าสถาบันทันที เพราะความงามที่อยู่ในอันดับ 1 ของการจัดอันดับสาวงาม
อย่างไรก็ตาม เมื่อฝูงชนเห็น ซูอัน ลงจากรถม้าเช่นกัน พวกเขาก็รู้สึกอิจฉาอย่างมาก พวกเขาอดไม่ได้ที่จะโกรธแค้นเมื่อคิดถึงเรื่องที่ว่าเทพธิดาของพวกเขาแต่งงานกับคนไร้ค่าผู้นี้ ซึ่งมันทำให้อารมณ์ของพวกเขาดำดิ่งลงไปในทันที
“ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ ข้าไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับ แม่นางฉู่ ที่นี่ด้วย” จู่ ๆ เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
ซูอัน หันกลับไปมองทันทีซึ่งเขาก็ได้เห็นว่าผู้พูดคือ ซือคุน ซึ่งกำลังยิ้มอย่างร่าเริง แต่ในความเห็นของ ซูอัน ไอ้คนผู้นี้มันดูน่ารำคาญสุด ๆ ไปเลย!